ชานนท์ จุทัยรัศม์

“Size” still matters!? 

REL เปิดตัว Serie HT Subwoofer สดๆ ร้อนๆ ไปเมื่อปีที่แล้ว (2018) โดยมีเป้าหมายเน้นศักยภาพการใช้งานร่วมกับระบบโฮมเธียเตอร์ โดยเฉพาะในงบประมาณไม่สูง ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดี กระนั้นด้วยจำนวนรุ่นที่จำกัดเพียง 2 ขนาด คือ 10 นิ้ว (HT/1003) และ 12 นิ้ว (HT/1205) อาจยังไม่สะใจ Bass Lover ทุกกลุ่ม ปีนี้ REL จึงเสริมรุ่นซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่พร้อมติดตั้งตัวขับเสียง 15 นิ้ว มาเสริมทัพ และตั้งฉายาให้ด้วยว่า Predator! 

HT/1508 คือ ลำโพงซับวูฟเฟอร์ในตระกูล Serie HT รุ่นล่าสุด ซึ่งด้วย ขนาดภายนอกที่ดูมหึมาและสเป็กภายในที่เหนือกว่ารุ่นน้องในซีรีส์เดียวกัน อย่าง HT/1003 และ HT/1205 มันจึงกลายเป็นรุ่นท็อปสุดไปโดยปริยาย 

หัวใจสำคัญของ Serie HT คือ วัสดุตัวขับเสียง CarbonGlasTM เช่นเดียว กับ Serie HT Subwoofer 2 รุ่น ซึ่งความพิเศษเกิดจากการผสมผสานวัสดุ 2 ชนิด คือ Carbon fiber และเส้นใย Glasfiber เพื่อผลด้านความแกร่ง แต่น้ำหนัก เบามาก พร้อม Natural Butyl Surrounds ให้ความยืดหยุ่นทนทาน มีช่วงชัก ที่ยาวถึง 3 นิ้ว จึงให้การตอบสนองฉับไว เบสลงได้ลึก ทนกำลังขับได้สูง 

โครงเหล็กกล้าและการดามเสริมโครงสร้างคานไม้ประคองตัวขับเสียง ด้านในตัวตู้ ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ทำงานได้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกัน คานนี้ก็ช่วยป้องกันการกระพือจากการเปลี่ยนแปลงแรงดันที่อัดแน่นอยู่ ภายในตู้ปิดได้ดี 

ภาคขยาย Class D อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ Serie HT โดยในรุ่น HT/1508 มีกำลังขับสูงถึง 800 วัตต์ สูงกว่ารุ่นน้อง HT/1205 (500 วัตต์) และ HT/1003 (300 วัตต์) อันเป็นผลส่งเสริมจากภาคจ่ายไฟที่ให้กำลังสำรอง ได้สูงถึง 1200 วัตต์ พลังในการผลักดันควบคุมตัวขับเสียงขนาดใหญ่จึงทำได้ อย่างเต็มที่ แม้ในระดับความดังสูง 

จุดเชื่อมต่อด้านหลัง HT/1508 เป็นดังเช่น Serie HT รุ่นอื่น คือ เน้นเชื่อมต่อสัญญาณแบบ Low-level Input เท่านั้น ไม่มี High-level (Speaker-level) Input แบบลำโพงซับวูฟเฟอร์รุ่นสูงของ REL จึงไม่สามารถติดตั้งใช้งาน แบบ 3D (Multi-subwoofer) ได้ แต่ประเด็นนี้มิได้สำคัญนักหากเน้น ติดตั้งใช้งาน Serie HT ร่วมกับซิสเต็มโฮมเธียเตอร์ที่มาพร้อมกับระบบ Bass Management ที่ดีครับ 

จุดหนึ่งที่พิสูจน์ว่า REL ยกระดับ Serie HT Subwoofer รุ่นนี้ขึ้นมาอีกขั้น คือ การเพิ่มเติมช่องต่อรับสัญญาณรูปแบบ Balanced XLR ซึ่งแต่เดิมจะสงวนไว้เฉพาะรุ่นสูง 

Tower of Bass! 

ไม่เพียงเท่านั้น ความสามารถพิเศษของ HT/1508 ที่ทำได้เทียบชั้น ตัวท็อปๆ ของ REL คือ รองรับการติดตั้งใช้งานแบบซ้อน (stack) เพิ่มจำนวน ในแนวตั้งสูงสุด 3 ตัว ต่อ 1 ชุด รองรับได้ 2 ชุด (หรือเท่ากับ 6 ตัว) ในหนึ่ง ซิสเต็ม โดยจะให้อุปกรณ์ที่เรียกว่า REL Coupler ใช้ยึดตู้ลำโพงเข้าด้วยกัน ซึ่งให้ทั้งความแข็งแรงและมั่นคง เทคนิคนี้ส่งผลให้แทบไม่มีข้อจำกัดในการใช้งานลำโพงซับวูฟเฟอร์ภายในห้องโฮมซีเนม่าเลย ต่อให้กว้างขวาง ต้องการกำลังขับสูงมากเพื่อเติมเต็มพื้นที่ก็เอาอยู่ อย่างไรก็ดีสำหรับการ ทดสอบในครั้งนี้จะรายงานผล HT/1508 ตัวเดียวครับ ซึ่งเพียงพอสำหรับ ระบบโฮมเธียเตอร์ภายในบ้านทั่วไป 

ผลการทดสอบ 

ด้วยขนาดตัวตู้ HT/1508 ที่ใหญ่และน้ำหนักที่มากถึง 36 กก. แม้จะ ดูปกติถ้าเทียบกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ขนาด 15 นิ้ว แต่ยอมรับว่ามันไม่ได้ กะทัดรัดเหมือนรุ่น HT/1003 หรือ HT/1205 การยกเคลื่อนย้ายดำเนินการ ได้ลำบากกว่ามาก

ในช่วงเซ็ตอัพหากต้องทำการไฟน์จูนโดยการเคลื่อนย้ายหาตำแหน่งที่เหมาะสมภายในห้อง กรณีที่วัสดุพื้นมีความเรียบลื่นอย่างไม้หรือกระเบื้อง แนะนำให้รองผ้าไว้ด้านล่างแล้วทำการไถหรือลาก HT/1508 ไปกับพื้นจะ สะดวกกว่าเมื่อได้ตำแหน่งที่ลงตัวแล้วจึงค่อยนำผ้าที่รองไว้ออก 

การเชื่อมต่อไม่มีอะไรซับซ้อน สามารถเชื่อมต่อสายสัญญาณ LFE จาก ช่อง SW Pre out ของ AVR มายัง HT/1508 ได้เลย ซึ่งถ้าหากตำแหน่งของ ซับวูฟเฟอร์อยู่ห่างจาก AVR มากๆ การเลือกใช้สายสัญญาณแบบ Balanced XLR จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าUnbalanced RCA อย่างไรก็ดีรูปแบบ Balanced XLR Pre out จะจำกัดเฉพาะการใช้งานร่วมกับ AV Pre Processor ระดับ สูงเท่านั้น 

อีกทางเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่สะดวกมากกว่าคือ การใช้งานอุปกรณ์เสริม HT AirTM เพื่อให้ Serie HT Subwoofer รับสัญญาณเสียงแบบ “ไร้สาย” ได้ ซึ่ง REL เคลมว่าหลักการ Zero compression จะไม่ลดทอนคุณภาพเสียง ไดนามิกที่ได้ยังเต็มที่ไม่ต่างกับการ ใช้ “สายสัญญาณ” เชื่อมต่อ แต่เหนือกว่าตรงที่ผู้ใช้งานไม่ต้องพะวงกับความ ยาวสายระโยงระยางรอบห้อง เทคนิคนี้ช่วยให้ดูเรียบร้อยสวยงามมากกว่า

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ย่อมจะให้ปริมาณและน้ำหนักเสียงที่โดดเด่น กว่ารุ่นขนาดเล็ก แต่มักจะต้องแลกกับความฉับไว การผสานความต่อเนื่อง เข้ากับลำโพงหลัก โดยเฉพาะกับลำโพงวางหิ้งหรือลำโพงตั้งพื้นขนาดเล็ก จะทำได้ยาก แต่ประเด็นนี้ใช่จะเป็นไปไม่ได้กับ HT/1508 

ทดลองเปิดเพลงรับฟังในระบบ 2.1 ร่วมกับ HT/1508 เสียงที่ได้ยิน ครั้งแรกพูดได้ว่าน่าทึ่งทีเดียว เบสกระชับฉับไวเรียกว่าแทบไม่ต่างจากรุ่น HT/1003 และ HT/1205 ที่ถือว่าทำได้โดดเด่นอยู่ก่อน เข้าใจว่าน่าจะเป็น เพราะการปรับในส่วนของวัสดุตัวขับเสียง CarbonGlasTM ในรุ่น 15 นิ้ว ส่งผลให้อัตราส่วนขนาดต่อน้ำหนักสูงขึ้นมาก แม้จะใหญ่กว่าแต่สามารถขยับ เคลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว 

แน่นอนว่าด้วยจุดเด่นของซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ก็ยังสัมผัสได้ชัดกับ HT/1508 ไดนามิก แรงปะทะเหนือกว่าซับวูฟเฟอร์รุ่นน้องแบบชัดเจน ต้องยกอานิสงส์ให้ภาคขยายที่มีกำลังสำรองสูงกว่าถึงแม้จะเปิดระดับวอลลุ่มเท่ากัน เมื่อส่งเสริมกับระยะช่วงชักที่ยาวทำให้ปั๊มปริมาณเบสออกมาได้อย่าง หนักแน่นมีพลัง อาจกล่าวได้ว่าเป็นซับวูฟเฟอร์ใหญ่ที่ใช้เสริมการฟังเพลง รวมไปถึงคอนเสิร์ตในระบบ 5.1, 7.1 และ Atmos ได้สนุกเลยทีเดียว 

• 

• 

• 

ด้านผลการรับชมภาพยนตร์ การตอบสนองย่านความถี่ต่ำลึกขยาย ขอบเขตเพิ่มเติมจากรุ่น HT/1205 เล็กน้อย การรับฟังในห้องทดสอบที่จำกัด ขนาดห้องไม่ใหญ่มากนักราว 20 ตร.ม. ในประเด็นนี้อาจจะให้ความต่างไม่มาก กระนั้นด้วยศักยภาพของ HT/1508 ที่เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะ “มวลความถี่ต่ำ” ที่ปลดปล่อยออกมาได้หนักแน่นมากกว่าส่งให้การรับรู้ ย่านความถี่ต่ำลึกทำได้ชัดเจนกว่าผ่านแรงสะเทือน 

มาตรฐานระบบเสียง Immersive Audio ในปัจจุบันนอกจากเพิ่มเติม ศักยภาพการถ่ายทอดทิศทางเสียงได้ครอบคลุมโอบล้อมยิ่งขึ้นแล้ว ด้านการ บันทึกเสียงเอฟเฟกต์ย่านความถี่ต่ำเองก็ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยเช่นกัน การทดสอบกับ Demo Disc ไปจนถึงแผ่นภาพยนตร์ Dolby Atmos, DTS:X หลายๆ เรื่อง พบว่าHT/1508 สามารถตอบสนองต่อสัญญาณเสียงย่านต่ำ ที่ทั้งรุนแรงและหนักหน่วงขึ้นได้อย่างแข็งขัน ฉากที่มีเสียงความถี่ต่ำลากยาว ต่อเนื่องก็ยังคงปั๊มเบสลึกออกมาได้ ไม่พบอาการว่าอ่อนเปลี้ยใดๆ ให้เห็น 

ไม่บ่อยนักที่ REL จะตั้งฉายาให้กับลำโพงซับวูฟเฟอร์ ไม่บอกก็พอ เดาได้ว่าเป็นเพราะความพิเศษที่เหนือกว่าซับวูฟเฟอร์ปกตินั่นเอง และผล การทดสอบก็สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดแจ้งว่าเป็นความจริง ทั้งนี้ HT/1508 Predator ไม่ใช่ลำโพงซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ที่เน้นลึกและดังแต่เพียงเท่านั้น ในแง่การถ่ายทอดแรงปะทะ และการตอบสนองที่กระชับฉับไวก็ทำได้ดี ไม่แพ้กัน มันจึงให้ความสมบูรณ์แบบที่หาได้ยากกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ขนาด 15 นิ้ว ในงบประมาณไม่เกิน 1 แสนบาทครับ. VDP 

ราคา 79,900 บาท 

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท โซนิค วิชั่น จำกัด
โทร. 0-2681-7500 

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 269