ปัจจุบัน… เมื่อมาตรฐานระบบเสียงเซอร์ราวด์พัฒนา มาสู่ Immersive Audio มีจัดวางลำโพงรอบทิศทาง รายล้อมตัวผู้ฟังอย่างแท้จริง อันรวมไปถึงการถ่ายทอดมิติด้านสูง หรือ Vertical Sound การติดตั้งลำโพงจึงเพิ่มความซับซ้อนขึ้น การดัดแปลงนำลำโพง ทั่วไปที่มิได้ออกแบบให้ติดตั้งบนผนังหรือฝ้าเพดาน แม้ทำได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก… จะดีกว่าไหม? หากมีลำโพงที่เอื้อต่อการติดตั้งทุกรูปแบบ ไม่จำกัดว่า ตั้งบนโต๊ะ, ชั้นวาง, ขาตั้ง หรือจะแขวนผนัง, ฝ้าเพดาน ไปจนถึงใช้งานภายนอกอาคาร (ในร่ม) ก็ปรับเปลี่ยน ได้อย่างยืดหยุ่น 

ในบรรดาแบรนด์ลำโพงเก่าแก่ที่อยู่คู่วงการเครื่องเสียง ย่อมต้อง มีชื่อ “Celestion” รวมอยู่ด้วย หากนับตั้งแต่วันก่อตั้งในปี 1924 ปัจจุบันอายุอานามของผู้ผลิตลำโพงสัญชาติอังกฤษยี่ห้อนี้ “หย่อน หนึ่งศตวรรษ” มาไม่กี่ปีเท่านั้น ในแง่ความเก๋าจึงไม่แพ้ใคร ปัจจุบัน แม้จะเอาดีทางด้าน Pro Audio เป็นหลัก แต่ Celestion ก็ฝากชื่อ ลำโพงไฮไฟเป็นตำนานเอาไว้ไม่น้อยเช่นกัน 

MP1 และ Centre2 เป็นลำโพงในตระกูล SoundStyle and CinemaStyle Series ทำในอังกฤษแท้ๆ 100% ตัวตู้ และ วัสดุทุกอย่างรวมทั้ง Driver ทุกชิ้น ประณีตสุดยอด ทำในอังกฤษ ด้วยมือทุกชิ้น กล่าวคือ… สามารถใช้งานหลากหลายทั้งฟังเพลง โฮมเธียเตอร์ หรือติดตั้งภายนอกอาคาร (ในร่ม) แต่ที่จะกล่าวถึงคราวนี้ มาเป็นเซ็ต 7 ชิ้น เมื่อนำไปจัดชุดกับลำโพงแอ็คทีฟซับวูฟเฟอร์ก็จะ ได้ซิสเต็มโฮมเธียเตอร์แบบ 7.1 หรือ 5.1.2 แชนเนล นั่นเอง 

MP1 เป็นลำโพงในเซ็ตนี้ที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงเป็นอันดับแรก เพราะศักยภาพอันโดดเด่นกับการออกแบบที่รองรับการติดตั้งใช้งาน ได้อย่างยืดหยุ่น ลักษณะดูเป็นลำโพงแซทเทลไลต์กึ่งลำโพงวางหิ้ง กล่าวคือ ขนาดตัวตู้ที่ดูกะทัดรัดแบบลำโพงแซทเทลไลต์ แต่ยัง คงศักยภาพด้านการถ่ายทอดย่านเสียงได้ครอบคลุมเช่นเดียวกับ ลำโพงไฮไฟแบบวางหิ้ง อันเป็นผลจากการผสานตัวขับเสียง Bass/ Midrange ขนาด 4.5 นิ้ว และ Polymer Dome Tweeter ขนาด 1 นิ้ว ภายใต้ตัวตู้ปริมาตร 3 ลิตร พร้อมจูนเสียงด้วยท่อ Bass-reflex ขนาดเล็กทางด้านหลัง จึงสามารถถ่ายทอดย่านความถี่ต่ำโดยลำพัง ไม่จำเป็นต้องพึ่งลำโพงซับวูฟเฟอร์ก็ได้ การตอบสนองความถี่เสียง ของ MP1 หากอิงจากสเป็ก อยู่ที่ 70Hz – 20kHz (+/-3dB) พร้อม ชีลด์ป้องกันสนามแม่เหล็กรบกวนจอภาพ 

การออกแบบตัวตู้ลำโพงของ MP1 นั้นน่าสนใจ ทรงโค้งมนสอบเข้า เป็นรูปลิ่มที่ส่วนท้ายนั้น นัยว่าเพื่อสลายเสียงก้องสะท้อนภายใน ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ผิวด้าน ในแง่ความทนทานนั้นหายห่วง ทนต่อสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงร้อน-หนาว ทนต่อความชื้น ไม่มีผุหรือเปื่อยแบบตู้ลำโพงไม้ ในระยะยาวจึงดูแลรักษาง่าย อีกทั้งยังทนทานต่อรอยขีดข่วน หรือแม้แต่การตกกระทบ กระแทก ในส่วนของหน้ากากผ้าสามารถถอดออกได้ 

ในแง่ที่ส่งเสริมด้านคุณภาพเสียงนั้น พบว่าภายในตัวตู้น่าจะเสริมโครงสร้างมาเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการกระพือจากเรโซแนนซ์ ลองเคาะดูแล้วเสียงแน่นดีทีเดียว น้ำหนักรวมฐานตั้งอยู่ที่ราว 2.6 กก. ถือว่ากำลังดี ไม่โหลดโครงสร้างรับน้ำหนักมากเกินไป หากทำการแขวนผนังหรือฝ้าเพดาน 

ศักยภาพด้านการติดตั้งอันยืดหยุ่นของ MP1 นั้น ส่วนหนึ่ง ต้องยกอานิสงส์ให้กับฐานตั้งที่ติดตั้งมาพร้อมจากโรงงานนั่นเอง นอกจากใช้รองรับลำโพงเมื่อวางบนชั้น และใช้แขวนผนัง-ฝ้าเพดาน แล้ว ยังใช้ในการปรับมุมก้มเงยและเอียงหน้าลำโพงได้อย่างสะดวก อีกด้วย 

ฐานตั้งบิลต์อินของ MP1 สามารถถอดประกอบเพื่อรองรับการ ติดตั้งหลากหลาย ทั้งตั้งวางบนโต๊ะ ชั้นวาง และขาตั้ง หรือปรับ เปลี่ยนไปเป็นรูปแบบแขวนผนังหรือฝ้าเพดาน โดยในชุดมีแผ่น กระดาษสำหรับทาบจุดเจาะยึดสกรูมาให้พร้อม 

การปรับมุมก้มเงยลำโพงสำหรับ Centre2 ทำได้โดยอาศัยขายางปรับ ระดับ 3 ขนาด ซึ่งมีความสูงต่างกัน ไล่จาก A (เตี้ยสุด) ไปจนถึง C (สูงสุด) โดยติดที่ส่วนล่างตัวตู้ลำโพง 4 จุด 

สำหรับ Centre2 นั้น วัตถุประสงค์เพื่อให้ใช้งานร่วมกับ MP1 ได้อย่าง กลมกลืน อันเป็นผลจากตัวขับเสียงที่เหมือนกันทั้งขนาดและเทคนิคในการ ออกแบบ ทว่าเอื้อต่อการติดตั้งเป็นลำโพงเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ จากลักษณะ การจัดวางวูฟเฟอร์คู่ขนาบทวีตเตอร์ พร้อมท่อ Bass-reflex ขนาดเล็ก ที่ด้านหน้า (ต่างจาก MP1 ที่อยู่ทางด้านหลัง) ทรงตู้โค้งมนปริมาตร 5 ลิตร ยาวออกทางด้านข้าง เพิ่มมุมกระจายเสียงให้ครอบคลุมในแนวระนาบ กว้างขึ้น ขณะที่ความสูงของลำโพงไม่บดบังจอภาพ น้ำหนักอยู่ที่ราว 3.6 กก. การตอบสนองความถี่เสียงหากอิงจากสเป็กอยู่ที่ 100Hz – 20kHz (+/-3dB) พร้อมชีลด์ป้องกันสนามแม่เหล็กรบกวนจอภาพ 

Centre2 ไม่มีฐานตั้งที่สามารถปรับมุมเอียงหน้าลำโพงและใช้ยึดผนัง แบบ MP1 แต่สามารถปรับมุมก้มเงยได้ถึง 4 ระดับ ด้วยการใช้งานร่วมกับ ฐานยางรองรับตู้ลำโพง 3 ขนาดที่ให้มา 

ทั้ง MP1 และ Centre2 ติดตั้งจุดเชื่อมต่อสายลำโพงแบบไบดิ้งโพสต์ รับสายลำโพงได้ทั้งสายเปลือย หัวบานาน่า และหางปลา 

คุณภาพการใช้งาน 

เพื่อทดสอบศักยภาพของ MP1 จึงเริ่มด้วยการใช้งานเป็นลโพง ตั้งโต๊ะ (Desktop Speaker) แบบเพียวๆ ไม่เชื่อมต่อลโพงซับวูฟเฟอร์ พบว่า MP1 สามารถถ่ายทอดย่านเสียงได้ครอบคลุมเพียงพอต่อการใช้งานเพื่อความ บันเทิงประจวันทั่วๆ ไป ทั้งฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม ที่อะเมซิ่งเห็นจะเป็น เสียงย่านต่ำได้เกินตัว วูฟเฟอร์ขนาดเพียง 4.5 นิ้ว แต่ยังคงรับรู้ย่านความถี่ ช่วง 60Hz และต่ำกว่าได้ ก่อนที่จะค่อยๆ จางหายไป จึงไม่ถือว่าขาดแคลน เบสแบบลโพงแซทเทลไลต์ขนาดเล็ก ตรงกันข้าม… ศักยภาพในจุดนี้น่าจะ พอๆ กับลโพงไฮไฟวางหิ้งขนาดย่อมๆ เลย 

ขนาดตัวตู้หน้ากว้างเพียง 15 ซม. และความสูงรวมฐานเพียงหนึ่ง ไม้บรรทัดเท่านั้น จึงประหยัดพื้นที่ตั้งวางบนโต๊ะได้ดี ถึงแม้การใช้งานแบบ Desktop Speaker นั้น ระดับความสูงของทวีตเตอร์จะต่ำกว่าระดับหูของ ผู้ฟังอยู่บ้าง แต่ก็ชดเชยแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยการปรับมุมเงยหน้าลโพงขึ้น ซึ่งเมื่อดเนินการแล้วพบว่า การถ่ายทอดรายละเอียดเสียงเป็นที่น่าพอใจ มากทีเดียว ปลายเสียงไม่ห้วน เสียงกลางชัดและมีน้ำหนัก ไม่กลวง หรือมี เสียงก้องกระพือรบกวนแบบลโพงแซทเทลไลต์ขนาดเล็กบางรุ่นที่ใช้วัสดุ สังเคราะห์ในการผลิตตัวตู้ 

เมื่อทราบถึงศักยภาพพื้นฐานของ MP1 แบบเพียวๆ ไปแล้ว มาลอง ของจริงในระบบโฮมเธียเตอร์กันบ้าง โดยนMP1 ทั้ง 6 ตัว ใช้งานร่วมกับ Centre2 และ Subwoofer Scandyna Bass Station ซึ่งรูปทรงอันเป็น เอกลักษณ์ แข็งแรง สวยงาม และประณีตจริงๆ ร่วมใช้ในระบบ 7.1 ร่วมกับ Onkyo TX-NR676E 

ความกลมกลืนในแง่ของดุลเสียงนั้นไร้ที่ติ เพราะลโพงหลักเป็นรุ่น เดียวกันทั้งหมด เดิมทีการตอบสนองเสียงย่านต่ำของ Centre2 อาจลงได้ ไม่ลึกเท่า MP1 แต่ก็ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเนื่องจากการใช้งาน ในระบบโฮมเธียเตอร์เรามีลโพงแอ็คทีฟซับวูฟเฟอร์รับภาระในย่านความถี่ ต่ำลึกในส่วนที่ขาดหาย จึงเติมเต็มการรับชมภาพยนตร์ให้มีอรรถรสได้อย่าง เต็มที่ จุดสำคัญที่ควรคำนึงถึงในการจับคู่ใช้งานร่วมกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ คือ เรื่องของการกหนดจุดตัดความถี่ (Bass Management Crossover) อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพของ MP1 และ Centre2 ซึ่งเบื้องต้นสามารถอ้างอิง จากระบบ Auto Calibration ของ AVR ได้ครับ 

การเสริมลำโพงซับวูฟเฟอร์ช่วยให้ได้เสียงที่มีความหนักแน่น และดุดัน มากยิ่งขึ้น เสียงไดอะล็อกจากภาพยนตร์ผ่าน Centre2 ยังคงฟังได้ลื่นหู แต่เสริมฐานเบสลึกด้วย Bass Station ให้มีน้ำหนักดุดันลงได้ลึกสมจริงมากๆ 

บรรยากาศเสียงโอบล้ อมรอบทิศทางทำได้ดีไม่แพ้ลำโพงไฮไฟขนาดย่อม ในขณะที่ขนาดเป็นมิตรต่อการติดตั้งมาก ขนาดที่กะทัดรัดทำให้กลมกลืน ล่องหนเป็นส่วนหนึ่งของห้องได้ไม่ยาก การแจกแจงตำแหน่งทิศทางเสียง ก็ทำได้ชัด ซึ่งข้อดีของฐานตั้งเมื่อปรับเปลี่ยนไปใช้งานเป็นขาแขวนผนังยังคง สามารถปรับเอียงหน้าลำโพงและปรับมุมก้มเงยได้อย่างยืดหยุ่น อานิสงส์ตรงนี้เองช่วยให้การไฟน์จูนทิศทางเสียงของลำโพงเซอร์ราวด์แต่ละแชนเนล แบบละเอียดทำได้สะดวกแม่นยำขึ้น 

การทดสอบครั้งนี้ ผมมิได้ลองติดตั้งใช้งาน MP1 ในแบบลำโพง Top Surround โดยแขวนห้อยบนฝ้าเพดานเพราะไม่สะดวกที่จะเจาะฝ้าเพื่อยึด ลำโพง แต่เชื่อว่าด้วยความยืดหยุ่นของฐานตั้ง (ที่ทำหน้าที่เป็นขาแขวนด้วย) จะตอบสนองในจุดนี้ได้ดี กรณีที่ยึดแขวนเพดานแล้ว เรายังสามารถหันลำโพง เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางของตัวขับเสียง (หันทวีตเตอร์เข้าด้านใน หรือหันออก) และปรับมุมเอียงเพื่อกำหนดทิศทางได้ ที่สำคัญคือ… ศักยภาพในการถ่ายทอด ย่านเสียงที่ครอบคลุม โอกาสที่จะได้คุณภาพเสียงด้านสูงจากการนำลำโพง ชุดนี้ไปใช้งานเป็นลำโพง Top Surround จึงเป็นไปได้สูง 

ท่านใดที่กำลังมองหาลำโพงขนาดกะทัดรัด รองรับการใช้งานหลากหลาย จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการติดตั้งได้อย่างยืดหยุ่น จะใช้เป็นลำโพงตั้งโต๊ะ วางบนขาตั้ง แขวนผนัง หรือแม้แต่แขวนเพดานก็ได้ หากได้ลอง MP1 ของ Celestion แล้วน่าจะติดใจ เมื่อจับคู่ใช้งานร่วมกับ Centre2 ก็จะได้ชุดลำโพง โฮมเธียเตอร์ศักยภาพสูงในงบประมาณที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะรองรับ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการติดตั้งเพื่อขยับขยายซิสเต็มต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย 

ราคาพิเศษ 69,800 บาท 
จัดจำหน่ายโดย 
HIFI STUDIO -CDC SHOPING CENTER Tel. 087-070-1685 
HIGH END GALLERY – THE NINE CENTER Tel. 0-2056-7934 

นิตยสาร AUDIOPHILE - VIDEOPHILE ฉบับที่ 258