เรื่องเล่าจากห้องฟังเมืองนนท์
นักเขียน : ธรรมนูญ ประทีปจินดา :
แว่วเสียงร้องหวานฉ่ำของ ถงลี่ นักร้องสาวจีนเสียงสวย หนึ่งในศิลปิน คนโปรด ผ่านซิสเต็มแอมป์หลอด คลาส A ในห้องฟังที่เน้นการจัดวาง อย่างงดงาม โดยในห้องฟังนี้จัดวางทั้งชุดเครื่องเสียง และโฮมเธียเตอร์อย่างกลมกลืน โดยการเลือกสรร อย่างพิถีพิถันของเจ้าของห้องฟัง คุณโร่ หรือ คุณกิติพงษ์ กุลไพศาลธรรม กรรมการผู้จัดการ เปี่ยมสุข ดีเวลลอปเม้นท์ เจ้าของธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งเป็นคนเมืองนนท์โดยกำเนิด และในโอกาสนี้ ก็ต้องขอขอบคุณที่ให้เกียรติกับคอลัมน์ WE ARE AN AUDIOPHILE
ตัวตน
เป็นคนเมืองนนท์ เพื่อนๆ เรียกผมว่า… โร่ แต่ส่วนใหญ่ จะเรียก… โล่ห์ แบบโล่ห์เกียรติยศ เป็นนิกเนมที่เพื่อนๆ เรียกกัน ความจริงเพี้ยนมาจาก “โร่” หรือ ซันชิโร่ ซึ่งเป็น ชื่อตัวละครหนังญี่ปุ่น ส่วนน้องชายชื่อ… อ๋อง ก็มาจาก หนังจีน ซึ่งดังมากในยุคนั้นเช่นกัน
ชอบฟังเพลงแนว Oldies อย่าง Nat King Cole, Louis Armstrong, Frank Sinatra แต่ก็ไม่ถึงกับ แฟนพันธุ์แท้หรอก ส่วนศิลปินไทยก็มี คุณอรวี เยื่อไม้, ชรินทร์, สุเทพ, คุณศรีไศล หรือ สุนทราภรณ์ นอกจาก เครื่องเสียง ดนตรีสดนอกบ้าน คอนเสิร์ตไทย เร็วๆ นี้ ก็ได้ไปดูนะ ส่วนคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศก็ดูบ้าง
สื่อเสียง
ผมเกิดมาจากยุคเทปคาสเซ็ตต์และซีดี แผ่นเสียงไม่รู้จัก ไม่เคยฟัง รู้สึกว่าเป็นของโบราณ ไม่เคยคิดว่าจะดีไปกว่าซีดี สมัยนี้ได้ยังไง คือมองข้ามมันไปเลย ผมเริ่มเล่นเครื่องเสียง จริงๆ สมัยผมไปเรียนที่ Seattle ราวปี 1994 – 1996
เวลาไปตามห้าง เดินผ่านแผนกเครื่องเสียง เขาเปิดให้ฟังมีเพลงฮิตอย่าง Hotel California (Unplugged) เสียงกลอง เบสต่ำๆ เสียงร้องของ Don Henley ที่ต่างจากเดิม อีกเพลงก็ Spanish Harem ของแม่นาง RebeccaPidgeon มันยอดมาก ทำให้เรารู้จักเพลงที่บันทึกดีๆ แต่เมื่อเริ่มเล่นก็เล่น Home Theater ด้วย ซึ่งขณะนั้น Technics เปิดตัว THXReceiver ตัวแรก ใช้ลำโพง Kefในอพาร์ตเมนต์ แต่เปิดดังไม่ได้ขณะเดียวกันก็ซื้อชุด Audio มาด้วย ซึ่งชอบมากกว่า ต้องบอกก่อนว่าชอบการดีไซน์ คือต้องสวยออกแนวไลฟ์สไตล์ ก็เลยไปเลือกเครื่องเล่นซีดีกับปรีแอมป์ของMeridian แอมป์ของ Classe’ ส่วนลำโพง Passive เป็น Linn เมื่อเรียนจบก็ขนกลับมาบ้านเรา อ้อ! มีทีวีจอใหญ่ๆ ด้วย กลับมาต้องหาหม้อแปลงไฟ 110V เป็น 220V ต่อมาขายไปให้เพื่อน ปัจจุบันชุดนั้นยังทำงานได้ดีอยู่เลย จากนั้นก็กลับมาเล่นใหม่ โฮมเธียเตอร์จับทีเดียวก็จบ ใช้ยาวเลย ชุดหนึ่งใช้เป็นสิบปี นี่เพิ่งมาขยับอีกครั้ง ต่างจาก Audio เสียเวลา เสียเงินไปกับ Audio เยอะมาก
ฟังซ้ำๆ
ฟังเครื่องเสียงก็จะฟังแทร็กที่เราชอบ ผมมีนิสัยชอบฟังเพลงซ้ำๆ จะว่าชอบจับผิดก็ใช่ จนแฟนบ่นว่าจะอ้วกอยู่แล้ว อย่างเพลงนกขมิ้น, What A Wonderful World, เพลงจีนของ เติ้ง ลี่จวิน ก็เข้าใจได้อยู่ว่าเพลงไทยส่วนใหญ่บันทึกไม่ดี เคยเอาแผ่นเยื่อไม้ราคา 199 บาท ไปเปิดกับเครื่องเสียงที่ร้านแถว Siam Discovery เผลอตัวไปติเขาว่าทำไมเสียงก้องๆ โดนร้านว่ากลับมาว่า เราเอาแผ่นห่วยๆ ไปเปิด มันก็ไม่ดีสิ เลยไม่ฟังมันเลย ไม่ได้อุดหนุนเขามาคิดดูก็เป็นไปได้ว่า แผ่นไม่ดีพอเอาไปเปิดกับเครื่องเสียงดีๆ จะทำให้ขยายแผลใหญ่ขึ้น เลยฟังไม่ดี จริงๆ แล้วเราแค่ต้องการฟังเพลงที่คุ้นหูเท่านั้น ยิ่งจับความต่างของสายเอซีนี่ฟังยาก เราไม่ได้หูดีขนาดฟังปั๊บจับได้เลยนี่ครับ อย่างบางร้านจะมาพร้อมกองเชียร์ เสียงดี โน่นนี่นั่น เรายังฟังไม่ถึงไหน เราก็เลยบอกว่าวางไว้ก่อน เดี๋ยวผมฟังเอง…
ฟังแล้วจดบันทึกไว้
ผมชอบจดบันทึก เมื่อเปลี่ยนเครื่องเสียง หรือแม้แต่สาย ฟังไปกี่เส้นจะบันทึกไว้ว่ามีบุคลิกลักษณะอย่างไร ฟังแป๊บเดียว เราจะฟังไม่ขาด ต้องฟังหลายๆ ครั้ง ฟังแล้วฟังอีก สองวันสามคืน แล้วจดบันทึกไว้ มีกระดาษใกล้มือก็หยิบมาจดบันทึกไว้นี่ผมยังไปหามาให้ดูเลย มันมีหลายปี ดูสิ ใครจะจำได้ แต่ผมเช็คย้อนได้ เช่น ProAc, Nola เสียงเป็นแบบไหน แม็ตช์กับแอมป์อะไร สายไฟ หรือปรีหลอด ไม่อยากเจ็บตัวก็เล่นมือสอง เอามาแม็ตช์แอมป์โซลิดสเตท ก็มี audio research, Balanced Audio Technologies บ้าง เราฟังแล้วไม่ชอบก็ขายไป ชอบก็อยู่นานๆ นิ่งสักพักก็เริ่มใหม่
เล่นเครื่องเสียงไปทำไม
ถามถึงเสน่ห์ของเครื่องเสียงน่ะเหรอ ผมว่าเป็นความท้าทาย พวกเรา(ผู้ชาย)ชอบมันตรงนี้ ของที่ว่าดีเลิศ เอารวมๆ กัน บางทีก็ไม่ใช่ว่าดี ผู้ชายสนใจในเทคโนโลยี ความอยากรู้มากกว่าผู้หญิง ซึ่งเขาชอบเพลง ชื่นชอบศิลปิน ก็แค่นั้น แต่เรามีความอยากรู้มากกว่านั้น ที่เขาว่าเครื่องเสียงหลอดเสียงดีกว่าโซลิดสเตทจริงหรือไม่ เสน่ห์ของเครื่องเสียงมันอยู่ที่เมื่อเราแม็ตชิ่งเครื่องเล่น หรือเปลี่ยนสายเข้าไปแล้ว เราได้ยินรายละเอียด รวมถึงลีลาของดนตรีที่ศิลปินเขาตั้งใจทำไว้ อารมณ์เพลงมันอาจต่างจากที่เราดูดนตรีสดที่เราสัมผัสได้ง่ายกว่า เพราะเราอยู่ในบรรยากาศที่เอื้ออำนวยกว่าก็จริง แต่เราจะมีโอกาสได้ฟังในคอนเสิร์ตจริงๆ ในตำแหน่งนั่งดีๆ บ่อยๆ เหรอ ที่ว่าเราเจอสิ่งที่เราค้นพบ แหม… ก็เพราะเจอหลายรอบ มันเลยไม่จบ ฮา
เมื่อต้องซื้อ และเปลี่ยนเครื่องเสียง
สมัยก่อนต้องตามอ่านหนังสือเครื่องเสียง แล้วก็ไปตามร้านเครื่องเสียง ก็รู้จักหลายร้าน มีโอกาสรู้จักกับคนในวงการหลายคน รวมถึงโจ้ด้วย
จากนั้นเอาเครื่องเล่นซีดีของ Cary มาอีกก็ไม่ประทับใจจนเอา Moon Supernova ซึ่งเป็นรุ่นรองท็อปมา ใส่แผ่นเยื่อไม้ แค่เพลงแรก เพลงนกขมิ้น เพลงเดียว บอกวางไว้เลยโดนเลย ไม่เชื่อว่าตัวต้นทางจะมีผลขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ให้ความสำคัญกับลำโพงและแอมป์เป็นชิ้นเป็นอันใหญ่ๆ มากกว่าตัวต้นทาง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็มักให้ความสำคัญกับลำโพงเหมือนผมนั่นแหละ ก็เพราะ Moon Andromeda CD เป็นตัวเรือธงที่ให้เสียงสเกลใหญ่่อลังการมาก แต่ปลายหวานกลับหายไปนิดหนึ่ง ต่อมาเจ้า Andromeda เข้ามาแทนเจ้า Supernova ที่เราชอบ ไปๆ มาๆ Andromeda มันดันเสียก็เลยเอา A-ARTS มาแทนระยะหลังซีดีเล่นน้อย เพราะ…
“เสน่ห์ของเครื่องเสียงมันอยู่ที่เมื่อเราแม็ตชิ่งเครื่องเล่น หรือเปลี่ยนสายเข้าไปแล้ว
เราได้ยินรายละเอียด รวมถึงลีลาของดนตรีที่ศิลปินเขาตั้งใจทำไว้”
แรกๆ ที่เล่นเครื่องเสียงจะติดรีวิวส์ อ่าน Stereophile ตั้งแต่อยู่ที่อเมริกา กลับมายังติดอยู่ มีแอมป์ตัวหนึ่งที่ติด Stereophile Class A เป็น Creek ราคาไม่กี่หมื่น ราคาจับต้องได้ สงสัยว่าติดได้ยังไง ก็ตามหาในหนังสือว่าบ้านเรามีใครทำตลาด ก็พบว่าโจ้นี่แหละที่ขาย ก็เลยซื้อมาฟัง ตอนนี้หลุดไปไหนแล้วก็ไม่ทราบ ก็เลยรู้จัก โจ้ Creek ตั้งแต่นั้นมา เพราะจะเมมเบอร์ แล้วตามด้วยสินค้าที่เขาขาย ตอนนี้เปลี่ยนเป็น โจ้ Sound Box จะดีกว่า นี่เป็นข้อแนะนำของผู้เขียน เนื่องจากสินค้าเปลี่ยนมือกันได้ ฮา
เล่นเครื่องเสียงพอเรารู้แนวแล้วก็จะตามหาตัวที่เราชอบต่อไป รู้จักคุณโจ้มาสิบสี่ปี ก็เจอๆ หายๆ เคยซื้อสาย Audience ซึ่งชอบมาก อีกตัวก็ Acoustic System ก็ชอบ ซื้อลำโพง Nola กับคุณโจ้ หลังๆ ก็คบกับปิยะนัส คุณชัยวัฒน์ก็ให้บริการดี
ก่อนหน้านี้เล่น B&W 804 จากนั้นก็ได้ 802D มาจากปิยะนัส B&W 802D มันสวยเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ แถมซื้อง่ายขายคล่อง ออกตัวเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ความคิดก็อาจเปลี่ยนไปก็ได้ ใครจะรู้
เครื่องเสียงที่เป็นไฮเอ็นด์ตัวแรก ความจริงผมเล่น audioresearch, BAT มาก็เฉยๆ นะ สำหรับคำถามนี้ต้องนึกถึงเครื่องเล่นซีดีของ Moon ผมเป็นลูกค้าคุณสมมาตร ความจริงก่อนหน้านี้เล่นโซลิดสเตทมาเยอะ ทีหลังเจอ Moon แต่ก็ไม่ประทับใจ จนสุดท้ายก็มี Cary 300 SEI ที่เป็นเครื่องเดโม ก็ชอบมาก
จนฟังแอมป์หลอดจนถึงวันนี้ แต่ 300 SEI มันเล่นลำโพงใหญ่ๆ ไม่ได้ เลยหลุดไปเป็นตัวอื่น แต่ก็ยังจดจำเสียงได้ดี ยังถวิลหามันอยู่ จนในที่สุดก็เอา Cary 805 มาเล่นจนได้
เทิร์นเทเบิ้ล …ไม่กล้าลอง กลัวว่าจะชอบ
ไม่เคยเล่นแผ่นเสียง เทิร์นเทเบิ้ลมายังไง มีคนชวนผมเยอะมาก เคยไปบ้านหมอโจ ศูนย์ธนบุรีการแพทย์ ด้วยนะ แกก็เคยมาที่นี่ ชวนผม ผมก็ใจแข็ง แอบตะขิดตะขวงใจว่าจะดีกว่าซีดีได้ยังไง เทคโนโลยีก็เก่า แต่ก็นะ… อย่าเพิ่งเลย เพราะถ้าเอามารู้ว่างานเข้าแน่ กลัวว่าจะชอบ
มาคิดดูว่ากล้องดิจิทัลเข้ามา คนก็บอกว่าสู้ฟิล์มไม่ได้ แต่มาวันนี้ไปถึงไหนแล้ว ฟิล์มล้มหายตายจากไป แต่มาวันนี้บอกว่าเทิร์นเทเบิ้ลดีกว่าซีดี และมันกำลังกลับมา เราก็ไม่คิดว่าต้องรีบเล่นจนเมื่อคุณกล้า เพื่อนผมคนหนึ่ง เขาเล่นวินเทจก็คุยกับเขา เขาซื้อจากอีเบย์ มาเป็นร้อยๆ ชิ้นมาเสียหายจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ก็เยอะ เล่าให้เขาฟังว่ามีคนชวนเล่นเทิร์นฯ เขาบอก งั้นเอาไปลองเล่นดูก่อน เทิร์น Technics กับแอมป์Luxman เป็นของรักของหวงของเขา ปรากฎว่า Luxman ขับ B&W ไม่ไหว ฟังไม่ประทับใจเลยแต่จุดนั้นคือจุดเริ่มต้นว่าแนวเสียงมันใช่ และน่าติดตามว่า ที่ว่าเทิร์นรุ่นใหม่ๆ ที่พัฒนามาดีๆ แพงๆ น่ะ จะเป็นยังไง มาเข้าทางตรงบังเอิญว่าที่คุณโจ้มาบริการนั่นแหละ ไปที่ร้าน Sound Box ที่ Fortune Town ชั้นสาม จำได้ว่าเห็นเทิร์นฯ Bergmann ของเดนมาร์ค เป็นครั้งแรก มันสวย ถูกใจจัง แพล็ตเตอร์ลม อาร์ม Linear ลมด้วยนะ ยังไม่ได้ฟังเลยด้วยซ้ำออกแบบดูดี ฟังก์ชั่นการทำงานตามวิศวกรรมที่จะปิดจุดบกพร่องของเทิร์นเทเบิ้ลออกไป ให้เขาเปิดให้ฟัง ครั้งแรกไม่ได้โฟกัสหรอก ก็ไม่ได้ติดใจอะไร จนออกไปธุระแป๊บ ย้อนกลับมาใหม่รอบสองเจอคุณธง เหมือนรู้ใจ เปิดเพลงของถงลี่ ได้บรรยากาศมาก เหมือนไปตามล็อบบี้โรงแรมที่มีนักร้องมาร้องเพลงจีนให้ฟัง บังเอิญเพลงจีนเป็นเพลงที่ผมชอบก็เลยประทับใจมาก บรรยากาศมีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้เราฟังเพลงด้วยความผ่อนคลาย ฟังได้นาน หลุดออกจากกรอบเดิมๆ ไปเลย
เอาล่ะวา ตัวแรกก็ตัวนี้เลย ความจริงไม่อยากจะเล่นค่าตัวแพงนัก ตัวของเพื่อนเราแค่สี่พันห้า Bergmann ของคุณโจ้นี่ต่างกันกี่เท่าล่ะเนี่ย พูดกันไปแล้วผมคงทนกับเทิร์นฯ วินเทจเก่าๆ ไม่ได้ เราไม่ใช่คนที่จะฟังไปซ่อมไปหรอก ยังไงซะก็ต้องซื้อใหม่แน่นอน เพื่อให้แน่ใจก็แอบไปเดินดูที่ร้านสวนเสียง ตั้งแต่ราคาหลักหมื่นจนถึงหลักแสนก็มี แต่มันก็ยังไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เมื่อเทียบกับตัวนี้ แนวคิดการออกแบบที่ถูกต้องที่สุด อาร์ม Linear คือเล่นเหมือนกับที่เขาตัดแผ่นนั่นเอง ถึงตรงนี้ใจมันไปซะแล้ว เหมือนกับจะรู้ คุณโจ้ไม่ค่อยปล่อยเวลาให้ผมคิดนานนักเสียด้วยสิ ก็เลยเรียบร้อยโรงเรียน Bergmann นี่ยังไม่รวมหัวเข็มนะ อาร์มประเภทนี้มีข้อจำกัดตรงที่ต้องแม็ตช์กับหัวเข็มที่มีแมสน้อย เพราะมันเป็นอาร์มลม ที่ติดอยู่เป็นหัวเข็ม van den Hul หัวเบา ให้เสียงเป็นสามมิติด้วย จริงๆ แล้วเริ่มเล่นเทิร์นฯ ค่าตัวสองสามหมื่นก็มี แต่เดี๋ยวก็คงต้องเปลี่ยนอีก ต้องบอกว่าที่กล้าเลือกเทิร์นฯ ตัวแรกเป็นตัวนี้ เพราะมันจะไปได้อีกยาวไกล อีกอย่างผมชอบที่งาน Scan ที่ประณีต ดูดีมีราคา ดูได้นานไม่เบื่อ จะอยู่กับเราได้นาน ก็ถือว่าคุ้มค่ามากที่สุด คุณสมบัติครบแบบนี้ ถ้าเป็นตัวอื่นต้องจ่ายเป็นล้านครับ
ถึงคราวเปิดใจกับ โจ้ Sound Box
อย่างที่บอกว่ารู้จัก คุณโจ้ Creek มาตั้งนานแล้ว เริ่มจากได้ลองสาย Tellurium Graphite XLR เป็นเส้นแรก มันดีมาก เลยกลายเป็นเรื่องยาวกับคุณโจ้ เพราะสายเส้นนี้แท้ๆ เลย จากนั้นก็ “เข้าทาง” วิญญาณนักขายเข้าสิง สายลำโพง ปรีแอมป์ จนล่าสุดเพาเวอร์แอมป์ NAT เข้ามาในห้องนี้จนครบชุดอย่างที่เห็น…
เดิมเล่นจาก “อ่านจากรีวิวส์ ชอบความสวยงาม ซื้อง่ายขายคล่อง” แต่มาถึงวันนี้ประสบการณ์ในการฟังมากขึ้น จึงอาจ “เปลี่ยนแนวคิดไปได้ ไม่ใช่แบรนด์ตลาด” อย่าง NAT, Tellurium Q หรืออย่าง Acoustic System อุปกรณ์ปรับแอคูสติกส์ในห้องฟัง บอกได้เลยว่าไม่ตั้งใจที่จะฟัง ตอนนี้เริ่มเปิดใจมากขึ้น ผมเห็นแกก็ทำตลาด Acoustic System มาเป็นสิบปีจนมีความชำนาญ เชี่ยวชาญเรื่องนี้เป็นพิเศษ ผมเจอแกในงานเครื่องเสียงกี่ครั้งก็ยังทำอยู่ ถ้ามันไม่ดีจริง ใครจะถือสินค้าตัวนี้ได้นานขนาดนี้ ได้มีโอกาสไปนั่งฟังเทิร์นที่ร้านแก พบกับลูกค้าพูดถึงเรื่องไม้นี่แหละ ผมถึงยอมเปิดใจ บอกคุณโจ้ว่ามาติดตั้งให้หน่อย พอมาติดตั้งรู้เลยว่าแกชำนาญจริง ห้องผมมีปัญหา แกก็มาช่วยแก้ แกติดโน่นนี่ก็น่าตื่นเต้นดี พอแกกลับไป ผมก็ลองถอดออก แต่… มันเป็นยังไง ทำไมมันถอดไม่ออกซะแล้ว จริงของแกที่ว่า แอคูสติกส์ห้องฟังส?ำคัญมาก
แอคูสติกส์ห้องฟังกับไฟน์จูน
จริงอยู่ การเล่นเครื่องเสียงต้องมีห้องฟัง แอคูสติกส์ห้องฟัง การแม็ตชิ่ง เซ็ตอัพ รวมถึงการไฟน์จูน สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าหาปัญหาไม่เจอก็จะเปลี่ยนเครื่องหรือสาย ท่าเดียว เปลี่ยนอยู่นั่นแหละ เดิมเราก็เซ็ตอัพของเราเองนี่นา เดิมก็เชื่อว่าลำโพงดี แค่ตั้งให้ถูก เสียงก็ดีได้ ปรับโฟกัสนิดๆ หน่อยๆ ก็น่าจะใช้ได้ อีกอย่างเพราะเราดูหนังด้วย เกรงจะบังจอหนังก็เลยเขยิบออกทีละครึ่งฟุต แล้วโทอินเอา พอคุณโจ้มาเซ็ตอัพให้ แกก็เซ็ตหน้าลำโพงตรง ไม่มีโทอินเลยด้วย น่าแปลกที่ฟังดีกว่าเดิม
โจ้ ศิลปินในวงการเครื่องเสียงไฮเอ็นด์
คุณโจ้ กล่าวเสริมว่า… “ปัญหาของห้องนี้คือ ห้องไม่สมมาตร และมีวัสดุซับเสียงเยอะ ยืนตรงนี้อีกเสียง ย้ายไปอีกด้านก็อีกเสียง เพราะคนทำห้องเน้นที่โฮมเธียเตอร์ ซึ่งมัน Dead เกินไป มันมีจุดที่เสียงดร็อปวูบลงไป ต้องบอกว่า สำหรับฟังเพลงแล้วต่างกัน ห้องที่ดูหนัง-ฟังเพลง ไปกันได้ยาก” ก็แก้นิดเดียว เอาไม้มาแปะก็จบ จากนั้น ผมก็เอาอุปกรณ์ไม้ Acoustics System ราคาชุดละหกหมื่นเท่านั้น ติดตั้งเข้าไปช่วยปรับแก้ ทำให้ดนตรีมีบรรยากาศ ฟังเพลงได้สนุก ฟังได้นาน
น่าแปลกใจที่เล่นเครื่องเสียงมาเกือบยี่สิบปี ปรากฏว่าแผ่นน้อยมาก ฟังเพลงไม่กี่เพลง ฟังเพลงเดิมๆ แต่เมื่อผมได้มีโอกาสมาช่วย เมื่อเริ่มเล่นเแผ่นเสียงก็เก็บแผ่นเสียง ฟังเพลงเยอะ แถมกว้างขึ้นมาก ต้องถามคุณโร่ว่า เพราะอะไร ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ขอบอกว่า “ที่ประทับใจคุณโร่ ตรงที่วันนี้เล่นเครื่องเสียงไม่ได้แคร์รีวิวส์ หรือต้องซื้อง่าย ขายคล่องอีกต่อไปแล้ว” ขอบคุณที่ไว้วางใจให้ผมดูแล
เปลี่ยนเครื่องเสียงเพราะ…
ปกติเล่นเครื่องเสียงนี่ ถ้าถูกใจแล้วจะหยุดไปนานเลย ถ้าต้องเปลี่ยน อย่างแรก… ซื้อมาปั๊บไม่ถูกใจก็เปลี่ยนเลย ถือหลักอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ชอบปล่อยไปเถอะ ยอมเจ็บตัว แต่แรก อย่าไปถือไว้นาน ได้ตัวใหม่ที่ดีกว่า มันเริ่มมีปัญหา กวนใจ ไม่สบายใจ ก็เลยต้องเปลี่ยน ท้าทายกับสิ่งใหม่ ซึ่งข้อนี้มักเกิดขึ้นบ่อยๆ
ฟังตอนไหน
สิบปีที่ผ่านมา ฟังเพลงน้อย เพราะลูกเล็ก ต้องช่วย เขาดู ไม่อยากเอาเปรียบแฟน ฟังที่บ้านน้อยมาก ด้วยความที่เราฝังใจกับ Cary 300 SEI เล่นกับ ProAc ก็เลยไปหามาไว้ในห้องทำงานอีกตัวหนึ่ง มีเวลาได้ฟัง มากกว่า สำหรับเพื่อนๆ ใครๆ เขาก็รู้ว่าเราชอบ เครื่องเสียง แต่อาจไม่ทราบว่าเราชอบมันมากแค่ไหน มีความสุขกับมัน ระยะหลังฟังเพลงได้มากขึ้นเยอะ มีที่มาคือ หนึ่ง… ลูกเริ่มโตขึ้นก็มีเวลาเข้าไปฟังเป็นเรื่อง เป็นราวมากขึ้น อีกอย่างเป็นเพราะกำลังตื่นเต้นและเห่อ เทิร์นฯ ตัวใหม่ด้วยมั้ง เริ่มสะสมแผ่นเสียงมากขึ้น สนุกกับมัน ตอนนี้เอาเครื่องเสียงชุดเล็กไปฟังที่ห้อง ทำงานด้วย ดีไม่ดีจะใช้เวลากับชุดเล็กมากกว่าชุดใหญ่ ด้วยซ้ำชีวิตผมอบอวลด้วยเสียงดนตรีอีกครั้งแล้วครับ
ส่งผ่านสู่ลูก
ต้องบอกว่า ดีใจมาก ลูกชายคนโตเป็นคนสนใจ แต่ของใหม่ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เห็นผมเล่นซีดี ก็ไม่เคยสนใจ จู่ๆ ถามผมว่า ทำไมแผ่นไวนิลถึงทำได้ ถึงขนาดนี้ แล้วมันแพงไหม เขาขอได้ไหม เมื่อได้ยิน โห! ดีใจจริงๆ ผมบอกว่า เอาไปเลย พ่อยกให้เทิร์นฯ ตัวละสี่พันห้า แลกกับความรู้สึกดีๆ อย่างน้อยก็มี คนเล่นเครื่องเสียงต่อจากเราล่ะ เล่นเครื่องเสียงเป็น ฮ็อบบี้ที่จะทำให้เด็กมีสมาธิ อยู่ติดบ้าน อีกอย่าง ผมไม่ได้เล่นเครื่องเสียงคนเดียวในบ้าน ถือว่าเรามี Successor แล้ว
เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน กว่าชั่วโมงของ การพูดคุยอย่างออกรส ตามประสาคนคอเดียวกัน ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นเรื่องเล่าขานผ่านตัวอักษรใน หน้ากระดาษนี้ เกิดขึ้นหลังอาหารมื้อเที่ยงอันแสน อร่อยตามลายแทงคุณโจ้ อาหารญี่ปุ่นที่อร่อยที่สุด บนถนนราชพฤกษ์ เมืองนนท์ถิ่นเดิมของผมนี่เอง ขอบคุณ คุณโร่ เจ้าบ้านอย่างยิ่ง เสียดายที่เวลา มีน้อย ขออนุญาตว่าจะกลับไปเยี่ยมใหม่อีกครั้ง และที่ท่านผู้อ่านได้ทราบเรื่องราวดีๆ เช่นนี้ก็เพราะ…
“WE ARE AN AUDIOPHILE”
ขอขอบคุณ คุณโจ้ Sound Box ที่เป็นผู้ประสานงาน ในการจัดทำบทความครั้งนี้
“ผมชอบจดบันทึก เมื่อเปลี่ยนเครื่องเสียง หรือแม้แต่ สายฟังไปกี่เส้นจะบันทึกไว้ว่ามี บุคลิกลักษณะอย่างไร”
นิตยสาร Audiophile Videophile ฉบับที่ 238
No Comments