อาจเคยได้ยินมาบ้างว่า ผู้ที่รักเครื่องเสียงล้วนต้อง มีความชอบเทคโนโลยี ดูหนัง ฟังเพลง อย่างใดอย่างหนึ่ง ยิ่งถูกหล่อหลอมมาด้วยสภาพแวดล้อม จากคุณพ่อด้วยแล้ว ก่อเกิดให้มีพื้นฐานอันดีงาม ที่รักในเสียงดนตรี มีความฝังใจชอบเสียงเพลง มาตั้งแต่ในวัยเด็กทั้งสิ้น แม้ผ่านมหาวิทยาลัย เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่สู่วัยทำงาน ก็มิได้ขาดเสียงดนตรี บางครั้งอาจมีสิ่งอื่นให้สนใจทำจนหลงลืมที่ จะเล่นเครื่องเสียงอย่างจริงจัง จึงไม่มีโอกาส ได้สัมผัสเครื่องเสียงไฮเอ็นด์ ทั้งๆ ที่พร้อมที่จะเล่น แต่เมื่อมีคนมาสะกิดชวนให้หวนกลับไปเล่น เครื่องเสียงอย่างจริงจัง ทำให้การก้าวเข้าสู่วิถี ไฮเอ็นด์นั้นมิได้ยาก และพัฒนาได้เร็วไปไกลกว่าคนอื่นๆ เสียอีก ที่กล่าวมานั้นเป็นคำโปรยก่อนที่จะ นำเข้าเรื่องห้องฟังในฉบับนี้ 

ตัวตน 

ก่อนอื่นขอทำความรู้จักกับ คุณวิกิจ หอรุ่งเรือง (เอก) สถาปนิก นักธุรกิจหนุ่ม มีไลฟ์สไตล์ ชอบเทคโนโลยี รักในเสียงดนตรีมาตั้งแต่เด็ก… เวลาที่คุณพ่อไปซื้อแผ่นซีดี เราก็ขอไปด้วย พ่อได้สิบแผ่น เราก็ได้ซักห้าแผ่น พ่อจ่าย ให้ด้วย เคยเล่นดนตรี เป็นมือกีตาร์ของวง เด็กๆ อยากมีกีตาร์ แต่ไม่มีตังค์ ทุกวันนี้มีตังค์ซื้อกีตาร์ แต่มีเวลาเล่นน้อยลง ก็พอเล่นได้ ไม่ถึงกับเก่ง ที่เห็นนี่เป็นส่วนหนึ่ง ที่เริ่มกลับมาสะสม หลังจากทำบ้านใหม่ โดยที่กีตาร์ แต่ละตัวก็มีแนวเสียงต่างกัน แม้เป็นแบรนด์เดียวกันก็ตาม ก็เริ่มศึกษาหาข้อมูล 

ผมเป็นเด็กกิจกรรม ชอบครีเอตไอเดียมาตั้งแต่เด็ก สมัยเรียนที่อัสสัมชัญบางรัก ครูให้ทำกิจกรรม โดยทำดิสเพลย์ เป็นร้านขายแผ่นเสียง เอาแผ่นที่บ้านมาโชว์ เล่นแผ่นเสียง ฟัง Single Hits จากวิทยุรายการ Nite Spot เขาชอบเปิด Brit Pop ตามซื้อจากร้านใกล้โรงเรียน ประมาณว่ามีตังค์ก็ไป ซื้อแผ่นเสียงหมด แล้วก็อัดเทปไปฝากร้าน Do Re Me ขาย ทำมาตั้งแต่เรียนอัสสัมชัญ จนถึงเรียนสถาปัตย์ มีอยู่ถึง Vol. 20 ต้องยอมรับว่าสมัยนั้นหาฟังยาก ต่างจากสมัยนี้ เพลงฮิตใหม่ๆ ฟังได้จากสตรีมมิ่ง ทันทีที่วางขายเลย ซึ่งก็ถือว่ามีส่วนดีตรงนี้ ทุกวันนี้แผ่นเสียงที่ซื้อมาก็ยังเก็บไว้ เป็นลังๆ แต่ก็ไม่ได้เอามาฟัง เมื่อเราชอบเสียงเพลง เราก็ฟังเพลงมาเรื่อยๆ ตามสื่อที่เปลี่ยนแปลงไป แผ่นซีดีออกมาก็ตาม ซื้อมาเต็มบ้านไปหมด เอามาริปเก็บจนขี้เกียจ ไฟล์ Hi-Res มาก็ซื้อมาฟังอีก 

จริงอยู่ที่แต่ไหนแต่ไรไม่ได้ให้ความสนใจกับเครื่องเสียง อย่างจริงจังสักที ส่วนใหญ่เป็นแนว Smart Speaker ฟังผ่าน Bluetooth/AirPlay เป็นส่วนใหญ่ เห็นไหมว่าผมมี Devialet Phanthom หลายตัว วางไว้ทั้งบ้าน ทีวีใช้ Soundbar ทุกตัว จะเรียกว่าจริงจังหน่อยก็มีชุดโฮมฯ ไว้ดูหนังเป็นเรื่องเป็นราวหน่อยเท่านั้น ต้องขอบใจคุณท็อปที่มาสะกิดให้หวนกลับมาฟังเพลงจากแผ่นเสียงจริงจังเสียที 

ห้องฟัง 

บ้านหลังนี้ถูก renovate ทั้งหลัง ใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะผมอยู่ที่นี่ด้วย ปรับปรุงไปด้วย ปัญหาอุปสรรค สารพัด ทั้งเสียงและฝุ่น ทำๆ หยุดๆ กั้นตรงโน้น ปิดตรงนี้ ใช้เวลา2 – 3 ปีนั่นแหละ ห้องทุกห้องบ้านในบ้านทั้งหลังรับผิดชอบ โดยมัณฑนากรคนเดียวกันทั้งหมด ห้องโฮมฯ จากเดิมซึ่งเล็กกว่านี้และอยู่ชั้นบน ถูกย้ายฟังก์ชั่นโฮมเธียเตอร์ลงมาแทนที่ห้องปาร์ตี้ที่มี อยู่สมัยก่อนแต่งงาน มีทั้งบาร์เหล้าบูธดีเจ …ประมาณว่าหนักหน่วงพอควร พอห้องเสร็จก็ย้ายซิสเต็มเดิมลงมาปรากฏว่าเหลือแต่ลำโพงอย่างเดียวที่ใช้ได้ เปลี่ยนปรีโปรเซสเซอร์ ขยับเพาเวอร์แอมป์ ต่อมาเปลี่ยนลำโพง ทั้งชุดอย่างที่เห็นอยู่นี่ ส่วนแผ่นเสียง คุณท็อปบอกอย่าทิ้งนะ มันกำลังกลับมาก็ขนลงมาปัดฝุ่น ลามปามกลายเป็นซิสเต็มอย่างที่เห็นนี่แหละ เดี๋ยวมีรายละเอียด 

…เพราะ Phase Correctors ชิ้นเดียว 

เดิมทีพบว่ามีปัญหาเสียงฟุ้งๆ มั่วไปหมด ห้องเราทำไปแล้วจะเปลี่ยนแปลงก็คงไม่ทำแล้ว ไม่ชอบเอาแผงอะคูสติกส์มาแปะๆ คุณท็อปลอง เอาAcoustic System: Phase Correctors ราคา6 พันบาท มาลองวางไว้ในห้อง จริงๆ ก็ไม่เชื่อว่าไม้ชิ้นเดียวจะทำอะไรได้ แต่เมื่อลองฟังจริงๆ สังเกตพบว่าเสียงสงัดขึ้น ที่เคยฟุ้งกลับหายไป แม้เป็นไม้ชิ้นเดียวก็ดูว่ามี แนวโน้มที่ดี มันเป็นฟิสิกส์นะ 

จากไม้ชิ้นนั้น คุณท็อป แห่ง TSV จึงเรียกอาจารย์ใหญ่ คือ คุณโจ้ Sound Box มาช่วยจูน ฟังได้เพราะ มีอรรถรสขึ้น อาการล้าหายไป ฟังได้ นานขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้ฟังเพลง ซึ่งตอนนั้นก็ใช้ชุดโฮมฯ ฟังเพลงอยู่ดี ทุกครั้งที่มาปรับจูน เราจะลองด้วยเพลง 80 – 90% จากนั้นจะจบด้วยดูหนัง นิดหน่อยทุกครั้งไป ตรงนี้ล่ะมั้งที่เรารู้สึกว่าเสียงดนตรีมันเรียกหาเราควร มาฟังเพลงจากซิสเต็มไฮเอ็นด์แบบจริงจังได้เสียที ไปๆ มาๆ เต็มชุด มีไม้หลายสิบชิ้นจนได้ แต่ก็ดีกว่าที่จะต้องรื้อห้องทั้งห้อง คงหมดหลายตังค์ แถมไม่สวยสมใจ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นจริงหรือไม่ด้วย 

Sugden Multi-Channels 

ตัวตนเราเป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้ว คุณท็อปเสนอว่าให้ลองเอาSugden ซึ่งเป็นแอมป์ Class A มาฟังเพลงจะดีกว่าแต่ไหนๆ แล้ว ก็ใช้ Sugden นี่ล่ะทำเป็นแอมป์ Multi-Channels ทั้ง 7 Channels เสียเลย เออ… มันฟังเพลงดีนะ แต่จะดูหนังสนุกเหรอ เอาเข้าจริงๆ ดูหนังดีเลย นี่ครับ คู่หน้าใช้เพาเวอร์แอมป์ Sugden รุ่น Grande Mono Block ซึ่งเพิ่ง ได้มาคู่เดียว ตัวมันโตพิลึก ระบบเลยโตเป็นอย่างที่เห็น 

หวนกลับมาเทิร์นเทเบิ้ล 

เริ่มจาก Pear Audio ก็ชอบนะ ติที่ว่ามันเป็นแมนวลเกินไป ขี้เกียจใช้ มือปั่นเมื่อออกตัว ก็เอาอีกตัวมามันสะดวกกว่าก็เลยเอาBergmann เสียงก็เข้าหูกว่าด้วย ใช้ๆ ไปราวปีหนึ่ง ต้องขยับ เพราะไปชอบหัวเข็ม London แต่ Magne มีปัญหากับหัวเข็มนี้ เลยต้องขยับเป็น Bergmann รุ่น Galder ซึ่งเหมาะกับสไตล์เพลงที่ผมชอบ คือกระฉับกระเฉงดี ตอบโจทย์กว่าอีกตัวก็ดีนะ แต่มันไม่มัน จึงเลือกตัวนี้ ไหนๆ แล้วก็เลยใส่อ็อปชั่น Vacuum hold down ด้วยเลย ถือว่าเป็นประชากรตัวที่หนึ่งในสองตัวของ เมืองไทย พร้อมกับน้องชาย (คุณอ็อฟ) ที่เราใช้เหมือนกัน 

ใช้สายช่วยปรับจูนลดอาการก้าวร้าวของวัยรุ่นลงมานิดหนึ่ง วันนี้เอาสายลำโพง Tellurium Q รุ่น Statement + Jumper คู่แรกของเมืองไทย มาใส่ เดิมทีใช้ Silver Diamond ซึ่งก็ท็อปอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มี Statement ที่เหนือขึ้นไปอีก คงต้องใช้เวลาเบิร์นอีกสักระยะหนึ่ง เมื่อก่อนปรับเปลี่ยน อะไรไปก็เห็นความแตกต่างขึ้นไปเป็น 10 – 20% เล่นๆ ไป พัฒนาขึ้น ถึงขั้นจูนถ้วย ตรงนี้ 2 – 3% ยังเอา…555 ไม่รู้หูหาเรื่องหรือเปล่าจริงๆ แล้ว หูเรามีการพัฒนาการตลอดเวลาสนุกตรงนี้ล่ะ 

มุมกีตาร์ทั้งไฟฟ้าและอะคูสติก 

ใช้ปรีของ Nat Audio ซึ่งแม็ตช์กับ Sugden ส่วน เพาเวอร์แอมป์หลอดก็ดีนะ แต่อาจไม่เหมาะ ถ้าจะใช้ดูหนัง เพราะเหมือนเอาตะเกียงไปไว้ในห้อง แสงมันคงกวนตาชะมัด 

“ซิสเต็มของเราต้องฟังเพลงที่เราชอบได้เพราะขึ้นสิ” แล้วแผ่นแรกที่จรดหัวเข็มลงต้อง Oasis มั้งครับ ก็ผมโตมากับ Brit Pop นี่ครับ บันทึกดี ถ้าเพลงไม่เพราะก็อาจไม่ใช่ 

เมื่อได้ชุดฟังเพลงแล้ว ฟังเพลงราว 80% จริงๆ กลับถึง บ้านก็เหนื่อย ดูจาก Apple TV บนห้องข้างบน บางครั้ง ดูหนังไม่จบเรื่อง ก็หลับไปก่อน จะดูเฉพาะเสาร์อาทิตย์ กับครอบครัว วันธรรมดาเข้าห้องคนเดียว ฟังเพลงตลอด ไฟล์แทบไม่ได้แตะแบบจริงจังเลย เว้นเปิดเป็นบรรยากาศ ซึ่งผมชอบให้บ้านมีเสียงดนตรีในทุกห้องอยู่แล้ว 

เมื่อกลับสู่โหมดแผ่นดำเต็มตัว 

แรกๆ ก็เอาแผ่นเก่าๆ มาฟัง แม้ว่าสภาพแผ่นไม่ได้ดี มากนักก็ตาม มันได้ความรู้สึกที่ดีมากๆ จากแผ่นเดิมสมัยเรียน ยิ่งได้แผ่น Press แรกๆ ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก เพราะเครื่องเสียง ที่เล่นจากนั้นต่างจากเดิมเยอะมาก 

เสียดายเวลาเหมือนกันนะ ไปเสียเวลากับโฮมเธียเตอร์ เพิ่งกลับมาฟังเพลงจากชุดเครื่องเสียงดีๆ อย่างจริงจัง ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนมีเวลาฟังเพลงมากกว่านี้ แต่จริงๆ แล้ว เป็น Timing ที่เหมาะสมครับ ที่กลับมาเล่นเทิร์นเทเบิ้ลในช่วงนี้ พวกอุปกรณ์ก็ดีขึ้น มันกลับมาบูมอีกครั้ง แผ่นหาง่ายขึ้น โลกแคบขึ้น สั่งแผ่นออนไลน์ง่าย เร็วกว่าสั่งในนี้ สั่งมาเยอะ จนฟังไม่ทัน ต้องไปจัดอีกชุดไว้ที่ห้องทำงาน เพราะใช้เวลาอยู่ ที่ทำงานมากกว่าที่บ้าน 

เมื่อก่อนแผ่น Round Up ปกที่มี คาวบอยขี่ม้าผมโคตรจะไม่เข้าใจคุณ พ่อเลยว่าซื้อมาฟังอะไร เขาฟังอะไร ของเขาแต่มาวันนี้ ผมเองก็เพิ่งไป ซื้อมามันบันทึกดี มีมิติเสมือนจริง ก็เพิ่งเข้าใจตรงนี้เอง เราเล่นเครื่องเสียง พอถึงตรงนี้ เราก็อยากได้แผ่นที่บันทึก มาดีๆ ช่วงที่เล่นไฟล์ เราก็อยากฟัง ไฟล์ Hi-Res, DSD บันทึกมาดีๆ เลย ผมไม่แอนตี้ หรือว่าต้องไข่วคว้าเสมอ ไปหรอก อัลบั้มที่ชอบ บางครั้งบันทึก มาไม่ดียังไงก็ฟัง แต่ถ้ามีดีกว่าถ้ามี โอกาสก็ต้องหามาเหมือนกัน ทำไมจะ ไม่เอาต้องรีบคว้าเลยใช่ไหม 

ยอมรับว่าเพื่อนที่เล่นเครื่องเสียงมีน้อย ก็ดีใจที่น้องชายมาเล่น มีเวลามากกว่าผม ตอนนี้พัฒนาไปไวมาก หลังจากโดนผมป้ายยาไป ตอนนี้เขาเล่นเพลิน แผ่นเพลงไทยก็ฟัง แผ่นเก่าผมมีอยู่แล้ว ซื้อตั้งแต่สมัยสะพานเหล็ก ราคาร้อยกว่าบาทเอง ตกใจว่า… ทำไมสมัยนี้ แผ่นเพลงไทยถึงได้แพงขนาดนี้ ดีที่เก็บไว้ ก็มีซื้อแผ่นใหม่ที่เพิ่งออกมาส่วนแผ่น re-issue คงไม่ เพราะส่วนใหญ่มีอยู่แล้ว 

ฝากถึงผู้อ่าน 

เชื่อว่าคนเรามีดนตรีในหัวใจอยู่แล้ว เริ่มจากแค่เปลี่ยนหูฟังที่แถมมากับสมาร์ทโฟน ก็ฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนเพราะขึ้นแล้ว ถ้าปัจจัยพร้อมที่จะเล่น มีเท่าไหร่ก็ค่อยๆ จ่ายเท่าที่เราจะซื้อได้ เครื่องเสียงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแลกกับความสุขที่เราได้รับสุดคุ้ม ขอให้มีความสุขกับเสียงเพลงนะครับ. ADP 

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 254