ภัคกร เอื้อโภโคย THE BOSS Of ENCORE
นักเขียน : ธรรมนูญ ประทีปจินดา :
ปัจจุบันวงการเครื่องเสียงกำลังขยับตัวถึงยุคเปลี่ยนผ่านจากรุ่นพ่อ ซึ่งเดิมเป็นพ่อค้าขายเครื่องเสียงมาสู่รุ่นลูก นั่นอาจไม่แปลก แต่ที่เห็นเพิ่มขึ้นมากหน้าหลายตาก็จากนักเล่นพากันโดดเข้าสู่วงการค้าเครื่องเสียงเต็มตัว หลายท่านล้วนแต่เป็นคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น
วันนี้ ผมได้รับคำชวนให้ไปเยี่ยมโชว์รูมของร้าน Encore ซึ่งเพิ่งเปิดตัวสู่วงการเครื่องเสียงได้ไม่นาน และผู้บริหารของร้านก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณภัคกร เอื้อโภไคย หรือ “เจีย” เด็กหนุ่มที่เรียกผมว่า “น้าหมู” ทุกครั้งที่ได้พบกัน เนื่องจากรู้จักกันดีในโซเชียลมีเดียนั่นเอง วันนี้เราบุกถึง Encoreร้านเครื่องเสียงในแบบ Home Lifestyle ที่มีห้องฟังสำหรับสาธิตคุณภาพเสียงถึงสามแบบชุดเครื่องเสียงมีทั้งอะนาล็อกและดิจิทัล
เราจะมาฟังไอเดียในการดำเนินธุรกิจของ “เจีย” กันครับ
จากไม่กี่แผ่นเป็นกล่องเริ่มเป็นลังกลายเป็นตู้
ตัวตน
ผมเริ่มทำธุรกิจจากงานไดเร็กเซลล์ตั้งแต่อายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้นถือเป็นการเรียนรู้ในวงการธุรกิจขายตรง อยู่ตรงนั้นประมาณสามปี จากนั้นก็มีธุรกิจออนไลน์ ขายสินค้าประเภทความสวยความงามที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ ผมชอบเพลงมาตั้งแต่เด็ก เล่นดนตรีด้วย เล่นไวโอลินเป็น 2nd Violin เคยเล่นอยู่ใน วง String Quartet มาแล้ว ฟังเพลงคลาสสิกบ้าง ชอบฟังเพลงยุคบาโรกก็ถือว่าจูนหูมาบ้าง
เครื่องเสียง
เริ่มเล่นเครื่องเสียงจากหูฟัง ใช้หูฟังอินเอียร์เป็นตัวแรก ที่เล่นหูฟังเพราะเราไม่มีสถานที่ ไม่ สะดวกถ้าเป็นชุดเครื่องเสียงเล่นหู ฟังเป็นก๊วนเมื่อห้าปีที่แล้วเล่นยี่ห้อ Ultimate Ears ฟังจากสมาร์ทโฟน จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนสาย ซื้อเพลเยอร์ ใช้ DAC/ Amp เคยมีหูฟังมากที่สุดร่วมๆ สิบตัว มีทุกประเภทเลย ตอนนี้เหลือชุด Desktop กับ Audeze: LCD-3 เพราะตอนนี้มาเล่นเครื่องเสียงบ้าน ช่วงที่เล่นหูฟังพบกับอาจารย์ หลายคนในวงการ เช่น ลุงณัฐ ถือว่าเป็น mentor ของผมในทุกเรื่องเลย พอรู้จักกัน ลุงณัฐก็พาผมไปรู้จักคนนั้นคนนี้ จนต่อมาหลายคนกลายเป็นอาจารย์ เป็นพี่ เป็นเพื่อน หรือพาร์ตเนอร์ไปเลยก็มี
จุดพลิกผัน
ลุงณัฐ พาไปให้รู้จักพี่ที่บริษัท 5dB ก็เลยมีโอกาสได้สัมผัสเครื่องเสียงบ้าน ตัวแรกคือ Naim Muso ซึ่งเป็นลำโพงแอ็กทีฟประเภท All in One Smart Speaker ตอนนั้นยังอยู่คอนโดฯ ก็ลองเอามาเล่น ก็ทึ่งมากว่า เฮ้ย! มันมีเครื่องเสียงแบบนี้ ด้วยเหรอ เริ่มจากตรงนั้นเลย เราเปลี่ยนพฤติกรรมการฟังเพลงไปเลย
ย้อนไปเมื่อครั้งเล่นหูฟัง ก็พยายามหาตัวต้นทางดีๆ ใครเขาเจ๋งต้องรู้ให้ได้ว่า ดีตรงไหน ก็อยากเล่น โดยเฉพาะคนเล่นหูฟังยังไงก็ต้องเล่นไฟล์เพลงเป็น source อยู่แล้ว เพราะซีดีเดี๋ยวนี้เขาไม่เล่นกันแล้ว ตอนนั้นคิดว่าจะไปซื้อ DAC ตัวใหม่ราคาสักแสนสองแสนกว่าบาท เผอิญ “ไม่ทราบว่าโชคดีหรือเปล่า” ที่พี่ๆ แนะนำ หนึ่งในนั้นก็ “น้องกาย” เขาบอกว่า เจียฟังเพลงแนวนี้ “เพลงเก่าๆ” ต้องแผ่นเสียงสิ น่าจะไปลองหาฟังดู แค่นี้เอง ไม่รู้ว่า think แว้บหรือเปล่า ก็ไปหาฟังที่บ้านเพื่อนคนหนึ่งที่มีทั้งสองระบบ พอได้ฟังเลยไม่ซื้อ DAC ปักใจมาที่แผ่นเสียง ก็มาได้ Rega RP40 รุ่นฉลองสี่สิบปี เมื่อได้เทิร์นฯ แล้ว ทีนี้เริ่มสะสมแผ่น เก็บไปเรื่อยๆ จากไม่กี่แผ่น เป็นกล่อง เริ่มเป็นลัง กลายเป็นตู้ พอหันหัวมาอะนาล็อกแบบซีเรียส พวกซีดีหรือไฟล์เพลงก็ไม่เอาแล้ว ถ้าเน้นความสะดวกสบายไลฟ์สไตล์ก็เล่น Tidal Streaming Service เต็มรูปแบบไปเลย
Hi-Fi Business
เริ่มติดลมไปกับชุดเครื่องเสียงบ้าน ลำโพงไฮเอ็นด์ขึ้น แอมป์ใหญ่ขึ้น เทิร์นฯ รุ่นสูงขึ้น จากสาวก Naim Muso ก็มีอินทิเกรต ปรี-เพาเวอร์ ก็ Naim ทั้งหมด ตอนที่เราเล่น Muso ชวนเพื่อนมาฟัง ทุกคนชอบยุบอกว่า เจีย น่าจะ “เอามาขายเลย” คำนี้เองที่ทำให้คิดว่า ทำอย่างไรถึงจะเอามาขายได้
Encore เป็นชื่อร้าน มาจากคำที่คนดูตะโกนส่งสัญญาณบอกศิลปินขณะที่คอนเสิร์ตกำลังจะจบ และอยากให้ศิลปินเล่นต่ออีก แสดงว่าเราชอบ เราอยากสนุกอีก เอาอีก อย่าเพิ่งจบ มันบ่งบอกถึงความเป็นดนตรี ที่เราได้ฟังเพลง ถ้าเพลงเพราะก็อยากฟังซ้ำอีกนั่นเอง
Home Office
ไลฟ์สไตล์ของผมชอบทำงานที่บ้าน เน้นการประชาสัมพันธ์ทางมีเดียทุกแขนง ตั้งแต่ Facebook, Line, นิตยสาร หรืออื่นๆ และอนาคตอาจจะมีเว็บไซต์เพื่ออ้างอิงด้วย น่าจะดีกว่าการที่ผมเปิดโชว์รูมตามห้าง แถมผมยังดูแลธุรกิจหลักของผมได้เหมือนเดิม
เปิดร้านเป็นทางการประมาณกลางปี 59 ช่วงงาน BAV HI-END SHOW 2016 ผมก็ไปร่วมออกงาน ตอนนั้นเอา Whatmough ไปออกเพื่อเป็นการเปิดตัวร้าน เครื่องเสียงที่จำหน่ายเลือกจากความชอบของตัวเองเป็นหลัก ฟังแล้วชอบ ถ้าเรายอมจ่ายก็เชื่อว่าลูกค้าจะคิดเหมือนเรา ถึงจะเอามาทำตลาด
Partners
เริ่มจากสินค้าตัวกลางๆ จะทำกับบริษัท Central Marketing Group (CMG) มี Teac, Pioneer, Onkyo, Cambridge ส่วนบริษัท CH Media มี Focal, Naim, Micromega กับทาง Sound Box มี Nat Audio, Sugden, Tellurium Q, Symphonic Line, Bergmann, Acoustic System
กับพี่โจ้
มีคนแนะนำให้รู้จัก พี่โจ้ ร้าน Sound Box ครั้งแรกที่เจอ เขาสอนให้ผมเซ็ตอัพลำโพง ขยับโน่นนี่นั่น ก็ลองทำตาม เออ! มันได้ผลแฮะ เสียงมันดีขึ้น คุยกันสนิทได้เร็ว เรียกว่าเคมีตรงกัน ฟังเพลงแนวเดียวกัน คือเพลงเก่า ชอบอะไรเหมือนกัน พี่โจ้จะใช้คำว่า “อารมณ์เพลง” โพรดักต์ตัวแรกก็ Sugden เป็นแอมป์คลาส A ขับกับ Focal Sopra No 2 ที่ถ้ามองตัวเลขก็คงไม่ใช่ แต่บอกเลยว่าอย่าไปมองสเป็ก ขับฉลุยเลยครับ
Showroom Concept
ทำร้านโดยใช้ห้องโชว์ในบ้าน เห็นจากฝั่งอังกฤษ คนที่สนใจก็จะนัดหมายมา เรารู้จักกันก่อน จะด้วยทางใดก็ได้ เขาไม่มาหาเรา เราก็ต้องไปหาเขา ร้านเราอยู่ในซอย จะมีลูกค้าเดินหลงมาเป็นไปไม่ได้เลย นัดมานี่มีโอกาสซื้อสูงมากกว่าอยู่แล้ว มั่นใจ 80 – 90 เปอร์เซ็นต์ว่าเขาต้องซื้อ ถ้าเขามาถึงที่นี่ แล้วผมปิดการขายไม่ได้ ผมต้องทำอะไรผิดพลาดแล้วล่ะครับ คงต้องปรับปรุง
ห้องฟัง
ต้องบอกว่า รื้อมาทั้งหมดสามรอบ ยอมรับว่าเราไม่มีความรู้ ครั้งแรกก็ซื้อมาทำเอง ครั้งที่สองจ้างเขามาทำ ครั้งที่สามให้พี่โจ้ช่วยทำให้ สอนให้รู้ว่า เอามือเซียนมาทำตั้งแต่แรกน่าจะดีที่สุด …ฮา ก็ไม่รู้สึกเสียดายเงินนะ เป็นการเรียนรู้ ถือว่าจ่ายค่าเทอมแล้วกัน กว่าจะถึงวันนี้เปลี่ยนเครื่องเยอะมาก เน้นว่าเราต้องชอบก่อน ตอนนี้มีห้องฟังอยู่สามซิสเต็ม แบบไลฟ์สไตล์ ฟังเพลงซีเรียส รวมถึงชุดดูหนังที่อยู่ข้างบน
Service
เน้นการนำเสนอ โดยผมจะดูซิสเต็มที่เขามีก่อน จากนั้นจะถามถึงความต้องการ ก็มีเยอะว่า เอาเข้าจริงๆ สิ่งที่หาไม่ตรงกับที่ต้องการจริงๆ หรอกครับ อยากให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของเขาจริงๆ มากที่สุด มีบริการเซ็ตอัพให้ด้วย ผมกับพี่โจ้นี่แหละ พี่โจ้จะเป็นฝั่งอะนาล็อก ระยะนี้ดิจิทัลจะมาหาผมค่อนข้างเยอะนะครับ อย่างเครื่องพวกนี้ต้องสะดวกสบายมากที่สุด ต้องไม่ยุ่งยาก ต้องใช้ง่ายถึงน่าเล่น
Make a Difference
สินค้าดีแน่ เพราะคัดสรรอย่างดีแล้ว มั่นใจมากว่าต้องถูกใจ ได้ความรวดเร็ว มีบริการถึงบ้านเลย ผมอาจมีสต๊อกอยู่แล้ว หรือมีช่องทางที่จัดการให้ได้ของเร็วทันใจ สินค้าต้องตอบโจทย์ทุกความต้องการ
สุดท้าย
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เป็นลูกค้า ผมเป็นคนรุ่นใหม่ที่มาทำธุรกิจเครื่องเสียง เพราะรักในเสียงดนตรี อยากให้แวะมาคุยกัน ไม่ซื้อไม่เป็นไร ผมอาจให้การบริการได้ โดยสามารถตอบโจทย์พี่ได้ ได้ของถูกใจ พี่จะรักมัน ใช้มันนานๆ เปิดฟังบ่อยๆ เหมือนกับคำว่า Encore ไงครับ ถ้าจะหาเครื่องเสียงถูกใจ นึกถึง “เจีย” นะครับ ขอบคุณ “น้าหมู” ที่มาเยี่ยมครับ. ADP
ร้าน Encore ลาดพร้าวซอย 26 แยก 1-2
โทร. 086-999-2474
Line: @encore45
โจ้ Sound Box said…
ผมมีผลิตภัณฑ์ที่ทำมานาน เน้นอะนาล็อกเป็นหลัก แอมป์ไม่ว่าจะหลอดหรือทรานซิสเตอร์ต้องเป็นแอมป์ Single Ended Class A เท่านั้น เพราะนั่นคือที่สุด “เจีย” ได้พบกับผม ให้ผมเซ็ตอัพลำโพงให้ดู แล้วรู้สึกถูกใจ จูนเข้ากันได้ ฟังเพลงหลายแนว ข้อสำคัญต้องมีจังหวะ อารมณ์เพลงดี มีบรรยากาศดี ก็จะฟังได้นาน อย่าง เจีย ไม่ได้ฟังเครื่องหรือฟังเสียง แต่เขาฟังตัวเพลงซึ่งได้อารมณ์กว่า อีกอย่างที่เราเหมือนกันคือ เลือกสินค้ามิใช่เพราะให้เครดิตนาน กำไรเยอะถึงจะขาย แต่เกิดจากความชอบและรักมันก่อนเป็นสิ่งแรก ของดีไม่จำเป็นต้องสเป็กสูงๆ หรอกครับ และก็ไม่ได้มองที่รีวิวส์ดี หรือได้รับรางวัลมาเยอะ โฆษณาเต็มไปหมดถึงจะดี ซึ่งไม่น่าใช่ ควรฟังที่เนื้อเสียง รวมถึงได้อารมณ์เพลง ฟังได้เพลิน ฟังได้บ่อย มีอะไรให้ค้นหาตลอด เล่นเครื่องเสียงมันสนุกตรงนี้
นิตยสาร Audiophile Videophile ฉบับที่ 243
No Comments