MR. JOHN MCDONALD PRESIDENT/CEO; AUDIENCE AUDIO
ในโอกาสที่ Mr. John McDonald บอสใหญ่แห่ง Audience Audio เดินทางมาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง นิตยสาร AUDIOPHILE/VIDEOPHILE ได้รับเกียรติพบปะพูดคุยเป็นกรณีพิเศษเกี่ยวกับการพัฒนาวิจัยของ Audience Audio โดยมีสาระสำคัญที่จะขอนำเสนอดังนี้ครับ
“ดีใจที่ได้มาเมืองไทยอีกครั้ง เกือบไม่ได้มาแล้วนะ กำลังจะออกเดินทางอยู่แล้ว บังเอิญภรรยาผมเกิดอุบัติเหตุกะทันหัน แต่ไหนๆ ก็นัดหมายไว้แล้ว ผมรักษาคำพูดที่ให้ไว้ว่าจะมาก็ต้องมาให้ได้ เอาล่ะยังไงก็มาแล้วนะ ขอสวัสดีอีกครั้งครับ
ผมเป็นคนรักเสียงดนตรีจากชุดไฮไฟเสียงดีๆ ปัจจุบันผมอายุหกสิบเจ็ดแล้ว สุขภาพแข็งแรงดี ความจริงผมไม่ได้เล่นกีฬาด้วยนะ แต่ชอบเล่นโยคะ พวกอาหารการกินสำคัญมาก ทานผัก ผลไม้เยอะๆ ทำให้ดีต่อสุขภาพของเราเอง และผมเป็นเจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วย” Mr. John McDonald ทักทายตั้งแต่พบหน้ากัน เขาหนุ่มกว่าที่เห็นในรูปตั้งเยอะเลยครับ
BEGINNING
ผมเกิดในเท็กซัส ตั้งแต่อายุราวหกขวบก็เล่นวิทยุแร่ที่ต่อด้วย Crystal แล้วนะ ผมสนใจในการต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์มาเรื่อยๆ สำหรับชุดไฮไฟ จริงๆ ที่ภูมิใจน่าจะราวปี 1970ก็มีเครื่องเสียงชุดแรกอย่าง McIntosh และBose 901 รวมถึงเทิร์นเทเบิล Dual หัวเข็ม Shure V15 ต่อมาในปี 1972 ได้ย้ายมาอยู่ในแคลิฟอร์เนีย เปิดร้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ก็เซ็ตระบบเสียงไฮไฟซึ่งเป็นชุดที่ดีมากไว้ในร้านด้วย ได้พบกับลูกค้าคนหนึ่ง เขาเป็นนักออกแบบลำโพง ได้ฟังลำโพงของเขา โอ้ว… มันยอดมาก Musical, Dynamic, Details, Transparent, Natural มีครบ มันโค-ตรดี บอกเลยว่าผมจะทำมันขึ้นมาบ้าง และเพราะลำโพงคู่นั้นก็เลยทำให้ผมเข้าสู่วงการไฮไฟ
ระหว่างในปี 1979-1985 ผมตั้งบริษัทกับเขา ชื่อว่า Sidereal Acoustics Audio System ซึ่งก็ยังมิได้ผลิตลำโพงออกมาหรอก เราทำการตลาดคาพาซิเตอร์ที่ทุกคนรู้จักดีว่า มันเป็นคอมโพเนนต์ที่อยู่ในเครื่องอิเล็กทรอนิกส์แทบทุกเครื่อง เรียกมันว่า Sidereal CAP เราประสบความสำเร็จดีมาก แม้แต่ Jeff Rowland ก็ยังใช้ของเรา ด้วย knowhow ทางด้านคาพาซิเตอร์ที่ติดตัวผมมา จึงนำมาสู่ผลิตภัณฑ์ Power Conditioner ของเราในทุกวันนี้ จริงๆ แล้วเป็นความบังเอิญที่มันกลายเป็นธุรกิจไปได้
AUDIENCE
ผมตั้งบริษัทขึ้นใหม่กับเพื่อนคนเดิม บริษัทใหม่นี้ชื่อ audienceในปี 1997 ก็ราวสิบเก้าปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อผลิตลำโพง ซึ่งผมมี Emotion กับลำโพงมาจนถึงทุกวันนี้
ผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทคือ Auric Illuminator เป็นเจลที่ทำให้แผ่นซีดีให้ประสิทธิภาพของเสียงดีที่สุด จากนั้นเราก็ทำคาพาซิเตอร์ออกมาขายเอง ซึ่งเราชำนาญมาจากบริษัทแรก จากนั้นเราก็ทำพวกสาย รวมถึงเพาเวอร์คอนดิชั่นเนอร์ เราทำตั้งหลายอย่าง แต่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่เราอยากทำจริงๆ เราตั้งใจจะทำลำโพงในอุดมคติ ซึ่งเป็นไอเดียของเรา ในสิบปีแรกยังทำไม่ได้เลย หมดเงินไปเยอะ แต่เราก็ไม่ทิ้งความฝัน ยังคงมุ่งมั่นต่อไป ลำโพงในอุดมคติเป็นลำโพงที่ปราศจากคาพาซิเตอร์ หมายถึงไม่มีครอสโอเวอร์นั่นเอง บ้าไหม
“The best crossover is no crossover” แปลว่าไม่ต้องไปถูกดร็อปคุณภาพด้วยครอสโอเวอร์ใดๆ เลย
ลองจินตนาการสิว่า ถ้าแก้วใบนี้ถูกทิ้งลง จะแตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้ ในทำนองเดียวกัน ลำโพงประกอบด้วย… ทวีตเตอร์ มิดเรนจ์ วูฟเฟอร์ และ ครอสโอเวอร์ และก็มาตายตรงครอสโอเวอร์นี่ล่ะที่แยกมัน แล้วจะให้รวมเหมือนเดิม เป็นไปไม่ได้เลย เสียงดนตรีไม่มีวันเหมือนต้นฉบับแน่ๆ เราใช้เวลาสิบปี หมดเงินไปนับล้านเหรียญเพื่อออกแบบลำโพงฟูลเรนจ์ เวลาสิบปีกับเงินลงทุน ถ้าไม่บ้าพอจะทำไหม
ระยะเวลากับเงินทุนที่เสียไป แต่ก็ถือว่าล้มเหลว เพราะเรามัวแต่ไปพึ่งของคนอื่น ไดรเวอร์ในตลาดที่ว่าดีที่สุดแล้วก็ยังไม่ใช่ เราจึงกลับมาออกแบบเองใหม่ทั้งหมด ถึงจะดีที่สุด ซึ่งมันไม่ง่ายเลย จนทำสำเร็จ ไดรเวอร์ไม่ว่าจะ Motor magnet, Voice coil, Cone มีความสำคัญมากเท่าๆ กัน มีรายละเอียดเยอะมากที่ต้องคำนึงถึง และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้สำเร็จ ในที่สุดเราก็ทำได้ โดยลำโพงเป็นส่วนหนึ่งของโพรดักต์ของเรา ที่นอกเมนหลักของ audience กลายเป็น Power Conditioner,สาย Power Cord, สายลำโพง รวมถึงสายสัญญาณ ที่ทำเงินมาเลี้ยงลำโพงที่เป็นส่วนเล็กๆ ซึ่งก็มีผลิตภัณฑ์ออกมาขายแล้ว และยังมีการพัฒนารุ่นใหม่ๆ อยู่
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในเรื่องคาพาซิเตอร์ทำให้เราใช้ knowhow มาพัฒนา Power Conditioner ปัจจุบัน Core Business ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำก็มี Power Conditioner, สาย Power Cord, สายลำโพง รวมถึงสายสัญญาณ ลำโพงเป็นความฝัน ความตั้งใจที่จะบรรลุ ซึ่งก็ยังมิได้เลิกที่จะฝัน
“ลืมไปได้เลย… ที่จะหันเข้าสู่ Hi-Fi Business มันไม่ใช่ธุรกิจที่จะทำให้ร่ำรวยขึ้นหรอก อย่าเข้ามาเลย ถ้าจะเข้ามาต้องมี Passion มาก ถ้าคุณไม่บ้าพอ… 555 เท่านั้น”
ADEPT RESPONSE CONDITIONER
“มิเพียงเพื่อป้องกัน กำจัดน้อยส์ได้ความสงัด เพิ่มพลัง ให้ความเป็นดนตรีกับเครื่องเสียงของคุณ” Power Conditionerถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายมาตลอด มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
RF noise คือตัวที่ Power Conditioner ต้องจัดการกับมัน โดยเรามิได้ทำให้คุณภาพเสียงเสียไปเหมือนเช่นคนอื่นเขาทำพวกเขากำจัด RF ในขณะที่ดันไปจำกัดไดนามิกส์ไปด้วย (Suppress Dynamic) ตรงนี้เลยทำให้ Power Conditionerกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของออดิโอไฟล์ ซึ่ง audience – Adept Response Conditioner เป็นแบรนด์เดียวที่ทำได้ มันมี key point ที่ต่างจากแบรนด์อื่นดังนี้ คือ Limiting DynamicFlow เราจะไม่ไปกด Dynamic ซึ่งรู้มั้ยพวกเขาล้วนใช้ Isolate Transformer เพื่อตัดน้อยส์จากภายนอก ซึ่งดูเหมือนดี แต่รู้ไหมว่า Transformer คือตัวต้านทานตัวเบิ้มที่กั้น Dynamic สำหรับ audience เราใช้ Low Impedance Filter แทนที่จะใช้ Transformer ไง ตรงนี้ชัดเจน
อีกข้อที่พวกเขามักใช้ Electromagnetic Circuit Breakerซึ่งมันกินกระแสไฟมาก และทำให้ได้ผลตรงกันข้ามในแง่ของ Dynamic สำหรับเราตั้งแต่รุ่นแรกในปี 2005 เราไม่เคยใช้มันเลย เราใช้ Magnetic Breaker เป็นบริษัทแรกที่คำนึงถึงปัญหานี้ จน Shunyata เองก็เปลี่ยนมาใช้แบบเดียวกับเราในภายหลัง นี่เป็นแค่ตัวอย่างที่ Power Conditioner ถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายมาตลอด ก็เพราะใส่ไปแล้วดนตรีมันไม่มีชีวิต audience: Adept Response Conditioner ที่มาพร้อมกับสาย Power Cord ถ้าคุณวัด DC Resistance ตั้งแต่ปลีกไฟเข้าเครื่อง ผ่านสาย ผ่านตัวเครื่อง ไปจนออกที่ Receptacle จะได้ค่าเพียง 40 มิลลิโอห์มเท่านั้น มันน้อยมากจนแทบไม่มีความต้านทาน ซึ่งก็แทบจะเหมือนกับเสียบปลั๊กกับผนังตรงๆ โดยไม่ได้ผ่านเครื่องกรองไฟใดๆ เลย มิได้ทำง่ายๆ นั่นเพราะความใส่ใจในการออกแบบตั้งแต่แรกในทุกรายละเอียด นั่นคือเรื่องของ Dynamicซึ่งจริงๆ แล้วจะทำให้ดนตรีสดขึ้น ซึ่งมีผลจากการที่เราใช้คาพาซิเตอร์ ส่งผลให้ Power Factor ดีขึ้น อย่างที่ทราบดีในเชิงวิศวกรรมว่า การสูญเสียยิ่งน้อยก็ยิ่งทำให้ Dynamic ดีขึ้นไปด้วย ในความเป็นจริง แอมป์เองก็มีคาพาซิเตอร์ของตัวมันที่จะช่วยอยู่แล้ว แต่เรามีส่วนช่วยให้มันไม่ลดทอนลง ดังนั้นก็จะได้ Dynamic เต็มๆ เหมือนกับใส่ High Octane Gasoline ในรถสปอร์ตที่เครื่องแรงอยู่แล้ว แน่นอนว่าจะรู้ว่าดีขึ้นอย่างไร
อีกเรื่องเป็นเรื่อง Coloration ซึ่ง Conditioner มักต้องติดตั้ง Surge Suppressorซึ่งล้วนใช้ MOV มีสองปัญหา คือ ถ้ามันทำงานไปแล้วจะกลับมาใช้ใหม่ได้อีก ตรงนั้นก็ยังไม่ใช่ปัญหา ปัญหาใหญ่อยู่ที่ทำให้เสียง Colorationมาก สำหรับเราจะเหมือนไม่มี แต่มันทำงานคล้ายหัวเทียนจุดระเบิดสั่งเบรกเกอร์ทริปได้รวดเร็วและหลายครั้งไม่มีปัญหาเลย ข้อสำคัญมันเหมือนไม่มีตัวตน จนกว่าจะเกิดเหตุขัดข้องถึงจะทำงาน จึงจะรู้ว่ามีมันอยู่ และมันจะไม่มีการเจือสีในดนตรีให้คุณได้ยินเลย
เต้ารับทุกตัวแยกอิสระจากกัน ไม่ใช่ Duplex นะครับแต่ละตัวติดตั้ง Filter สองชั้นระหว่างกัน เพราะเราเชื่อว่ามันอาจกวนกัน ซึ่งไม่มีใครทำหรอก คุณสามารถเสียบเครื่องทุกเครื่อง เราใช้ขั้วต่อสำหรับ Military Spec ที่ทำให้จับยึดแน่น และมี Impedance ต่ำซึ่งมาพร้อมสายนี้เลย
PRODUCT UPDATE
ถ้าจะถามหารุ่นใหม่ ต้องตอบว่าสินค้าที่อยู่ในแคตตาล็อกนั้นถูกดีเวลล็อปมาอย่างดี คงมิได้เปลี่ยนรุ่นกันง่ายๆ ก็มีบ้างอาจจะอัพเกรดเต้ารับ (Receptacle) Hospital grade ให้มาเป็น Rhodium Plated Copper ซึ่งจะดีขึ้น เกี่ยวกับสาย Au 24SE เราใช้ OCC 99.9999% กับฉนวนพิเศษกับโครงสร้างสายที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ เราท้าให้ลอง เราได้รับรางวัลมากมากมาย
COMPETITOR IN THE SAME LEAGUE
สำหรับสินค้าประเภท Power Conditioner, Cable, Power Cord หรือแม้กระทั่งลำโพง ตลอดระยะเวลา 12 ปี เราได้รับคำชื่นชมมากมายจากทุก Reviewer เขาพูดเหมือนกันหมด ไม่คิดว่าจะมีคู่แข่งที่ทำได้เหมือนเรานะ ไม่มีเลยจริงๆ ผมมั่นใจ …Absolutely
EXCITEMENT FUTURE
แม้ว่าสินค้าที่อยู่ในแคตตาล็อกเป็นสิ่งใหม่อยู่แล้ว หาได้ตกรุ่นง่ายๆ เพราะเพิ่งอัพเกรดไปไม่นานนี่เอง แต่ผมก็ยังตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ตลอดเวลา เรามีทั้ง Prototype หรือแม้แต่Paper รอที่มีโอกาสผลิตขึ้นจริงอีก
HI-FI BUSINESS TODAY
ไฮเอ็นด์แพงนะ แต่คนรวยก็ชอบจ่ายเงินให้มันนะ ไฮเอ็นด์มีเรื่องให้ตื่นเต้นได้ตลอด ผมก็ยังรักมันนะ มันน่าตื่นเต้นแค่ไหน ผมไม่ค่อยแคร์กับการตลาดนัก แต่ผมภูมิใจที่เราทำมันสำเร็จ Production Life Cycle ยาวๆ
SPEAKER FOCUS
แม้ว่าเราประสบความสำเร็จด้วยPower Conditioner รวมถึงสาย PowerCord ถ้าจะพูดกันในวงของไฮไฟ ถ้าต้องโฟกัสกันจริงๆ ผู้ซื้อทั่วไปก็คงต้องมุ่งมาที่ลำโพงนี่แหละเป็นสิ่งแรก เมื่อแรกที่ได้ฟัง และอย่าตื่นเต้นไปกับเสียงเบส หรือเสียงแหลม จากลำโพงที่ได้ฟัง สิ่งแรกที่คุณต้องฟังก็คือ โทนัลบาลานซ์ หาใช่ซาวด์สเตจไม่ ซึ่งลำโพงฟูลเรนจ์ แน่นอนว่าโทนัลบาลานส์ต้องดี แต่ซาวด์สเตจก็สำคัญนะ เราควรฟังเสียงธรรมชาติดีที่สุด เราต้องมีความสุขกับมันทุกวัน
ULTIMATE GOAL
audience ต้องการเป็นบริษัทผู้ผลิตลำโพง ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรารถนาสูงสุด เพราะผมรักมัน ในความเป็นจริง สินค้าของเราขายดีทุกตัว สายสัญญาณของเราให้เสียงเป็นธรรมชาติ เราออกแบบให้มันมี Low Mass และมี Geometry ที่เหมาะสม ซึ่งสินค้าของเราถูกออกแบบในอเมริกาทุกตัว อย่างสาย Power Cord และ Power Conditioner ของเราขายดีมาก แม้ว่าเหมือนราคาจะสูง แต่คุ้มค่ามาก เพราะคุณจะไม่เคยได้ยินจากชุดเครื่องเสียงเดิมของคุณเช่นนี้มาก่อนเลย และสินค้า Power Conditionerรับประกันสิบปี ส่วนสายนั้น Lifetime Warrantee นะครับ
WHICH PART IN ENTIRE WORLD ARE THE MOST SUCCESS?
ปัจจุบันเรามีดิสทริบิวเตอร์มากกว่าสี่สิบแห่งทั่วโลก นอกอเมริกา ในอเมริกาก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จดีมาก และเริ่มกลับมา ยุโรปช่วงนี้ไม่ดี เอเชียน่าจะดีที่สุด ก็มีจีน ฮ่องกง สิงค์โปร์ รวมถึงเมืองไทยด้วย
WITH NEW DEALER : AUDIO FORCE
ผมให้ความสำคัญกับตลาดในเมืองไทย กับงานโชว์ ซึ่งต้องมาอยู่แล้ว ผมถึงต้องมาที่นี่ไง มาฟัง Feedback จากเขา แนะนำว่าลูกค้าต้องหาโอกาสทดลองใช้ให้ได้ ผมมีหน้าที่ช่วยเทรนทีมงานให้เข้าใจผลิตภัณฑ์ของเรา เราต่างจากคนอื่นอย่างไร เทคนิคการนำเสนอ เชื่อว่าพวกเขาช่ำชองอยู่แล้ว
LAST WORD…
ขอบคุณในการต้อนรับ ขอให้ผู้อ่านมีโอกาสได้มาฟัง และทดลองฟังสินค้าของเราที่ Audio Force ทุกสาขา สินค้าของเราถูกออกแบบขึ้นมาด้วยเอ็นจิเนียริ่ง ไม่มีผงวิเศษใดๆ มันขายตัวมันเอง โปรดอย่าเชื่อบทรีวิวส์ ไม่มีเครื่องมือใดๆ ที่จะบอกค่าว่ามันเริดแค่ไหน ถ้าไม่ได้ฟังกับหูคุณเอง ต้องเชื่อหูตัวเองสิ เพราะเงินของคุณนี่ Happy Listening ขอบคุณอีกครั้งครับ. ADP
นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 247
No Comments