“คุณภาพไม่ได้เป็นเพียงคุณสมบัติที่เครื่องเสียงชั้นดีพึงต้องมี
แต่คือหลักการที่ Accuphase ยึดมั่นเสมอมาตลอด 5 ทศวรรษ”

ในโลกของเครื่องเสียง หาใช่เพียงแค่กำลังวัตต์ที่สร้างความแตกต่าง
แต่คือคุณภาพเสียง ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์และความพึงพอใจของผู้ฟัง
ที่เป็นหัวใจสำคัญของ Accuphase ตำนานเครื่องเสียงไฮเอนด์สัญชาติญี่ปุ่น

Accuphase ขับเคลื่อนด้วยความหลงใหลในเสียงดนตรี ไม่ใช่ด้วยแรงกดดันของตลาด จึงไม่แสวงหาการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เลือกสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ไร้กาลเวลา เพื่อให้ทุกโน้ต ทุกท่วงทำนอง ถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

บทความนี้จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ แนวคิด ปรัชญา และความทุ่มเท ที่อยู่เบื้องหลังทุกจังหวะของเสียงดนตรีที่ Accuphase ออกแบบ เพื่อความพึงพอใจต่อลูกค้าผู้เป็นเจ้าของ

#New Products Introduce

เช่นทุกปีในช่วงเวลานี้ คุณมนูญ ฉัตรเพชรา เจ้าสำนักเป็นเจ้าภาพเชิญสื่อและผู้เกี่ยวข้องในวงการเครื่องเสียงเพื่อร่วมพูดคุยกับทีมงาน Accuphase ตำนานเครื่องเสียงไฮเอนด์จากประเทศญี่ปุ่น ที่บินมาเยี่ยมเยือน

ครั้งนี้ก็เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์แอมป์ใหม่ 3 ตัวคือ E-700, E-800S และ A-48S โดยมีไฮไลต์เน้นที่ ภาคจ่ายไฟ วงจร “Ultra-Low Noise” ค่า Damping Factor ที่สูงขึ้น วงจร MOS-FET ในภาคขยาย รวมถึงวอลลุ่มแบบ AAVA พร้อมเซ็นเซอร์ เป็นต้น

Accuphase แบรนด์เครื่องเสียงไฮเอนด์ระดับตำนานจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับพรีเมียมที่ให้คุณภาพเสียงอันเป็นเอกลักษณ์และความพิถีพิถันในการออกแบบ ได้เปิดตัว E-700, E-800S และ A-48S อย่างเป็นทางการที่ Hi-End Audio สำนักงานใหญ่ ถนนราชพฤกษ์

การเปิดตัวครั้งนี้นำโดยผู้บริหารสูงสุด เดินทางมานำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผ่านการพัฒนาทางวิศวกรรมอย่างเข้มข้น

ซึ่งแน่นอนว่าอุตส่าห์มาถึงที่แล้วเราต้องปิดห้องพูดคุยแบบ Exclusive เปิดข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กำลังการผลิต ความท้าทายทางวิศวกรรม กลยุทธ์ทางการตลาด และความสัมพันธ์ระยะยาวของแบรนด์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ Accuphase ต่อคุณมนูญ แห่ง Hi-End Audio

ก่อนเข้าเรื่องต้องโปรยถึงผลิตภัณฑ์ใหม่เสียก่อน ส่วนข้อมูลทางเทคนิคที่ทีมงาน Accuphase นำเสนอต่อสื่อจะอยู่ตรงท้ายบทสนทนา งั้นเข้าเรื่องกันเลยนะ

การแบ่งกลุ่มลูกค้าและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์

สินค้าที่เปิดตัววันนี้ ผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงแต่ละรุ่นของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน โดยพิจารณาจากความชอบส่วนตัว งบประมาณ และข้อจำกัดด้านพื้นที่ เราจะไม่กำหนดกลุ่มลูกค้าแบบตายตัว แต่เสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อให้ลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการของตนเองเช่น

🔹 E-800S (รุ่นเรือธง / Flagship Model Class A Integrated Amplifier)

• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ โซลูชันที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
• สู้ได้เมื่อเทียบกับระบบแยกชิ้นขนาดใหญ่ทุกตัวในระดับเดียวกัน

      E-800S ให้ความสะดวกและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมในรูปแบบที่ดูแลง่ายกว่า

🔹 E-700 (แอมพลิฟายเออร์ Class A Integrated Amplifier)

• ออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด ระบบเสียงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องมีชุดอุปกรณ์ขนาดใหญ่
• เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการแอมป์ขนาด ไม่ใหญ่เกินไป และยังคงไว้ซึ่งคุณภาพเสียงระดับสูง
• ต่างจาก E-800S ตรงที่ E-700 ซึ่งเป็นแอมป์แบบ Integrated Amplifier ทำให้เป็นโซลูชันที่ครบในตัวเองเช่นกัน

🔹 A-48S เพาเวอร์แอมป์ Class A (สำหรับ Audiophile Enthusiasts)

• ออกแบบสำหรับนักเล่นเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ ที่ต้องการระบบเสียงแยกชิ้นคุณภาพสูง
• เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในเสียงของ แอมป์ Class A ที่ทรงพลัง

จากแนวคิดสู่การผลิต

กว่าจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลาหลายปี ตั้งแต่การวางแผนแนวคิดจนถึงการผลิตจริง โดยปกติแล้ว ขั้นตอนการพัฒนาจะเป็นไปตามลำดับดังนี้:

• ระยะเริ่มต้นของการวางแผนผลิตภัณฑ์: ใช้เวลา 1 – 2 ปี
• กระบวนการออกแบบ: ใช้เวลา 1 – 2 ปี
• กระบวนการเตรียมการผลิต: ใช้เวลา 6 เดือน – 1 ปี
• รวมระยะเวลาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการผลิต: โดยเฉลี่ย 3 – 4 ปี และในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้น

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ E-800 ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 และได้รับการพัฒนามาเป็น E-800S ในปัจจุบัน โดยอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์รุ่นหลักจะอยู่ที่ขั้นต่ำ 5 ปี ก่อนที่รุ่นใหม่จะถูกเปิดตัวออกมาในวันนี้

นวัตกรรมในอนาคต

แม้ว่า E-800S จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนี้ แต่เรายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัย เทคโนโลยีใหม่ ข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ และแนวโน้มการฟังเพลง เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น

การพัฒนารุ่นต่อไปจะใช้เวลา อย่างน้อย 5 ปี เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาตาม แนวโน้มตลาดและประสบการณ์ของเรา

ความท้าทายในเชิงวิศวกรรมและนวัตกรรมเทคโนโลยี

การออกแบบเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ต้องเผชิญกับ ความท้าทายเชิงวิศวกรรม หลายด้าน ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มกำลังวัตต์หรือขยายช่วงความถี่เสียง แต่ยังต้องคงคุณภาพเสียงให้บริสุทธิ์และเป็นธรรมชาติที่สุด และความท้าทายทางวิศวกรรมก็คือ การลดสัญญาณรบกวนและความเสถียรของเสียง ข้อสำคัญอีกข้อคือรองรับการอัปเกรดในอนาคตนั่นเอง

🔧 1. การลดสัญญาณรบกวน (Noise Reduction)

หนึ่งในความท้าทายหลักคือ การลดสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าและทางกล เนื่องจากอุปกรณ์แอมพลิฟายเออร์ มีวงจรที่ละเอียดอ่อนต่อคลื่นรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า

• เราออกแบบ แหล่งจ่ายไฟแบบแยกส่วน (Independent Power Supply) เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนข้ามวงจร
• ใช้วัสดุพิเศษ เช่น ทองแดงบริสุทธิ์และตัวเก็บประจุคุณภาพสูง เพื่อลด EMI (Electromagnetic Interference)

🎛 2. ความเสถียรและความแม่นยำของเสียง (Sound Stability & Precision)

การควบคุมคุณภาพของเสียงให้ คงที่ทุกระดับความดัง เป็นสิ่งที่สำคัญมากในแอมพลิฟายเออร์ระดับไฮเอนด์

• การใช้ Class A Circuitry ทำให้ได้เสียงที่มีความเสถียรสูงแม้จะใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
• ออกแบบ วงจรขยายแบบ Linear ที่ให้สัญญาณเสียงมีความเที่ยงตรงและไม่มีความผิดเพี้ยน

🚀 3. ความสามารถในการรองรับการอัปเกรด (Future-Proof Design)

เนื่องจากเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การออกแบบให้สามารถอัปเกรดได้ เป็นสิ่งสำคัญ

• DAC และAD Module เป็นออปชันที่สามารถเพิ่ม ถอดเปลี่ยนอัปเกรดได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแอมป์ทั้งเครื่อง

กำลังการผลิต

การควบคุมคุณภาพและการปรับตัวตามความต้องการของตลาด Accuphase ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์มากกว่าปริมาณการผลิต โดยการผลิตของเราส่วนใหญ่เป็นงานฝีมือ (Handmade) เพื่อให้มั่นใจว่า อุปกรณ์ทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบคุณภาพสูงสุด จะผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นในทุกขั้นตอนและด้วย Vibration test ระดับ 9G กันเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อครั้งที่คุณธรรมนูญไปเยี่ยมเราที่โรงงานก็เห็นแล้วใช่ไหม จากวันนั้นถึงปัจจุบัน Production line ไม่ได้แตกต่างอะไรเลย มีเพียงปรับปรุงส่วนของ Warehouse และฝ่ายตรวจสอบเท่านั้น

• กำลังการผลิตปกติยังคงอยู่ที่ 25 เครื่องต่อวัน หรือประมาณ 400 เครื่องต่อเดือน โดยผลิตเป็น Batch
• คิดเป็น ประมาณ 4,800 – 5,000 เครื่องต่อปี
• ในช่วงที่ความต้องการสูงสุด (เช่น ช่วงโควิด-19) เราเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 30 เครื่องต่อวัน โดยเพิ่มชั่วโมงการทำงาน (OT) ทำให้สามารถผลิตได้สูงสุด 6,000 เครื่องต่อปี

แม้ว่าความต้องการของตลาดจะเพิ่มขึ้น แต่เราเลือกที่จะรักษาคุณภาพการผลิต มากกว่าการขยายกำลังการผลิตแบบก้าวกระโดด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกผลิตภัณฑ์ที่ออกจากโรงงานอยู่ในมาตรฐานที่ดีที่สุด

เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องเสียงที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้รับคุณภาพเสียงระดับโลก คงทนใช้กันยาวๆ จึงทำให้กล้ารับประกันคุณภาพนานถึง 5 ปี และถึงแม้จะหมดประกัน ก็จะดูแลกันจนกว่าจะไม่มีอะไหล่เปลี่ยนให้กัน

เป้าหมายสูงสุด

คือมอบประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุดแก่ทั้งนักเล่นเครื่องเสียงและผู้รักเสียงเพลง โดยยังคงรักษามาตรฐาน คุณภาพสูงสุด และมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า

ปรัชญาของบริษัทและความมุ่งมั่นต่อคุณภาพ

หากต้องอธิบายบริษัทของเราในประโยคเดียว คำตอบก็คือ:

“ACCUPHASE เป็นบริษัทอิสระที่เชื่อถือได้ ซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงสูงสุด

ความพึงพอใจของลูกค้า และอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์”

เราภูมิใจที่ได้เป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยความหลงใหลในเสียงดนตรี โดยที่พนักงานทุกคน ตั้งแต่ ผู้บริหาร วิศวกร ไปจนถึงทีมงานฝ่ายผลิต ต่างให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เราออกแบบและผลิตขึ้น เป้าหมายของเรา ไม่ใช่การขยายตลาดอย่างพุ่งพรวด แต่เป็นการรักษามาตรฐานคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ และการปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า

ค่านิยมหลักของเรา ได้แก่:

✅ ความเป็นอิสระ (Independence) – เราตัดสินใจโดยคำนึงถึงคุณภาพไม่ใช่จากแรงกดดันทางการตลาด
✅ ความน่าเชื่อถือ (Reliability) – ทุกผลิตภัณฑ์ได้รับการสร้างขึ้นภายใต้มาตรฐานสูงสุด
✅ ลูกค้ามาเป็นอันดับแรก (Customer First) – การปกป้องและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

การรักษาความเป็นผู้นำในตลาดแอมพลิฟายเออร์จากประเทศญี่ปุ่น

ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของเราในตลาดแอมพลิฟายเออร์ระดับโลกเกิดจาก

“ชื่อเสียงของแบรนด์ ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ และความไว้วางใจจากลูกค้า“

โดยพื้นฐานของความแข็งแกร่งของแบรนด์เราประกอบไปด้วย:

ความมุ่งมั่นในคุณภาพ (Commitment to Quality)

– เราออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความทนทานสูงและอายุการใช้งานยาวนาน

บริการหลังการขาย (After-Sales Support)

– Accuphase ต่างจากผู้ผลิตรายอื่นที่มักละเลยบริการหลังการขาย เราให้ความสำคัญกับ การสนับสนุนลูกค้าและความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่าย เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง

ความภักดีต่อแบรนด์และการยอมรับในแบรนด์ (Brand Loyalty and Recognition)

– นักเล่นเครื่องเสียงและผู้รักดนตรี ให้คุณค่าแก่ผลิตภัณฑ์ของ Accuphase เพราะคุณภาพระดับพรีเมียมและประสิทธิภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม

เพื่อคำที่ว่า Unbreakable

ในท้ายที่สุด พันธกิจของเราคือการสร้างผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงที่ทนทานและไร้กาลเวลา เพื่อให้ผู้รักดนตรีได้เพลิดเพลินกับ ประสบการณ์เสียงที่บริสุทธิ์ที่สุดอย่างยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาคุณภาพหรือการเปลี่ยนสินค้าอยู่บ่อยครั้ง

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา บริษัทของเราได้ยึดแนวทางที่จะ “ไม่ประนีประนอมกับคุณภาพ” (Zero-Compromise Approach to Quality) โดยมีมาตรการสำคัญดังต่อไปนี้:

– ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้รองรับการบริการหลังการขายได้ง่ายและรวดเร็ว – ในกรณีที่มีปัญหา การซ่อมแซมและดูแลรักษาสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ปกติที่ Hi-End Audio ก็มีสต๊อกอยู่บ้างแล้ว แต่ถ้าไม่มีก็สามารถส่งตรงทาง Air flight ได้ภายใน 7 วัน

– การผลิตที่มีคุณภาพสมบูรณ์ตั้งแต่ครั้งแรก (First-Pass Quality Perfection) – ลดความจำเป็นในการตรวจสอบคุณภาพเพิ่มเติมหลังการจัดส่ง เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่ต้น

– การทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดก่อนการจัดส่ง – รวมถึงการทดสอบแรงสั่นสะเทือน การกระแทก และการทำงานของระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีความทนทานสูงสุด

และนั่นคือปรัชญาของบริษัทและความมุ่งมั่นต่อคุณภาพของ Accuphase

แนวทางในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดโลก

กลยุทธ์ของเราในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในระดับสากล เน้นการโปรโมตที่แยบยลแต่ได้ผลจริง เราไม่ได้ใช้การตลาดเชิงรุกแบบทั่วไป แต่เลือกใช้แนวทางที่ขับเคลื่อนโดยวิจัยและพัฒนา ซึ่งประกอบไปด้วย:

คุณสมบัติทางเทคนิคและการวางจำหน่าย (Technical Features & Availability)

• เราเปิดตัวผลิตภัณฑ์โดยเน้นที่ คุณค่าทางเทคนิค และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ตัวแทนจำหน่าย เช่น รายละเอียดสินค้า ราคา ความคุ้มค่า และคุณสมบัติ
• อย่างไรก็ตามเราจะไม่บังคับหรือกำหนดกลยุทธ์การตลาด ว่าควรจะขายหรือโฆษณาอย่างไร

อิสระของตัวแทนจำหน่าย (Distributor Independence)

• เราให้ตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้ตัดสินใจ ว่าแนวทางใดเหมาะสมกับตลาดของพวกเขามากที่สุด
• เราจะไม่บังคับให้ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบรวมศูนย์ แต่เปิดโอกาสให้ตัวแทนจำหน่ายปรับตัวให้เหมาะสมกับตลาดของตนเองในประเทศใดที่อาจมีบุคลิกแตกต่างกัน

การสนับสนุนตลาดและการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม (Market Support & Industry Presence)

เราเข้าร่วมงาน Hi-Fi Shows ทั่วโลก ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการโปรโมตผลิตภัณฑ์โดยตรงผ่านการสาธิตและกิจกรรมต่างๆ เช่น:

✅ การสาธิตผลิตภัณฑ์แบบสด (Live Demo) เพื่อแสดงประสิทธิภาพของสินค้า
✅ การให้การสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายโดยตรง
✅ การพูดคุยกับลูกค้าและนักเล่นเครื่องเสียง (Audiophiles)
✅ การให้สัมภาษณ์กับสื่อ (Media Interviews) เพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีและปรัชญาของแบรนด์เช่นวันนี้

ด้วยแนวทางนี้ เราปล่อยให้ผลิตภัณฑ์ของเราพิสูจน์ตัวเอง โดยให้คุณภาพและความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จของ Accuphase แทนที่จะใช้กลยุทธ์การขายเชิงรุก

ความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่าง Hi-End Audio

ร่วม 50 ปีแห่งความไว้วางใจกับคุณมนูญ หรือ Manoon-san และ Hi-End Audio ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญของเราในประเทศไทยคือ เป็นตัวแทนจำหน่ายที่ Accuphase ให้ความไว้วางใจมาเกือบ 50 ปี เรามาที่กรุงเทพฯ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 45 แล้ว

สิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเรายืนยาวคือ “ความไว้วางใจและความมุ่งมั่นร่วมกัน” ไม่ใช่แค่ตัวเลขทางธุรกิจ แต่เป็นความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นจากความเข้าใจในตลาดและการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง

Manoon-san ได้สร้างห้องฟังชั้นยอด โชว์รูมที่ทันสมัยและมีบรรยากาศอบอุ่น ร้านค้าที่ออกแบบอย่างมืออาชีพ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบ และมีบทบาทสำคัญในการผลักดันผลิตภัณฑ์ของ Accuphase ในตลาดเมืองไทย

ถึงลูกค้าชาวไทย

🎵 ถึงผู้รักเสียงเพลงและเครื่องเสียงไฮเอนด์ทุกท่านในประเทศไทย 🎵
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมดนตรีที่แข็งแกร่ง
และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การฟังเพลงของคุณ
เมื่อคุณเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Accuphase
เราต้องการให้คุณได้รับประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมและใช้งานได้อย่างยาวนาน
เราและทีมงาน Hi-End Audio พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและดูแลคุณอย่างดีที่สุด
ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับเสียงเพลงและประสบการณ์การฟังที่เหนือระดับ 💎

🙏 ขอบคุณมากครับ. ADP

ACCUPHASE รุ่น E-800S    ราคา 490,000 บาท
ACCUPHASE รุ่น A-48S      ราคา 350,000 บาท
ACCUPHASE รุ่น E-700       ราคา 390,000 บาท

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ (1979) จำกัด
(Hi-End Audio (1979) Co., Ltd)
Contact 062-551-2410

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ

———————————————————

Appendix: ข้อมูลทางเทคนิคที่ทีมงาน Accuphase นำเสนอ

Accuphase E-800S:
ที่สุดของอินทิเกรตแอมป์คลาส A เรือธงกับการพัฒนาไปอีกขั้น

Accuphase ได้รับการยอมรับจากนักเล่นเครื่องเสียงทั่วโลก ด้วยปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นคุณภาพเสียงและความแม่นยำทางวิศวกรรม รุ่น E-800S คืออินทิเกรตแอมป์คลาส A ที่สืบทอด DNA จาก E-800 ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ พร้อมยกระดับประสิทธิภาพขึ้นไปอีกขั้น โดยมีจุดเด่นสำคัญอยู่ที่การลดสัญญาณรบกวนเป็นพิเศษ (Ultra-Low Noise) และกำลังขับที่สูงขึ้น รองรับลำโพงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การออกแบบและโครงสร้างภายใน

โครงสร้างดูอัลโมโนและภาคจ่ายไฟทรงพลัง

Accuphase E-800S ออกแบบภายในแบบ ดูอัลโมโน แยกอิสระระหว่างช่องสัญญาณซ้ายและขวา เพื่อลดการรบกวนข้ามช่องสัญญาณ (Crosstalk) ขับเคลื่อนด้วยหม้อแปลง Toroidal ขนาดใหญ่ และคาปาซิเตอร์ 63,000μF x 2 ซึ่งให้พลังงานสำรองที่เสถียรและเพียงพอแม้ในสภาวะโหลดที่สุดโหด

ระบบวอลลุ่มแบบ Balanced AAVA + ANCC

หัวใจของการควบคุมระดับเสียงใน E-800S คือ Balanced AAVA (Accuphase Analog Vari-gain Amplifier) ซึ่งตัดตัวต้านทานแปรผันออกจากเส้นทางสัญญาณ ทำให้ระดับเสียงเปลี่ยนไปโดยไม่มีการลดทอนรายละเอียดเสียง เสริมด้วยเทคโนโลยี ANCC (Accuphase Noise Cancelling Circuit) ที่ช่วยลดสัญญาณรบกวนให้ต่ำลงอย่างมาก

อีกจุดหนึ่งที่ Accuphase ให้ความสำคัญคือ กลไกวอลลุ่มแบบพิเศษ ที่ออกแบบให้ตัวเซ็นเซอร์อยู่บนฐานลอยด้วย ซิลิโคนพิเศษ ลดแรงสั่นสะเทือน พร้อม มอเตอร์และชุดเกียร์ที่เงียบสนิท ให้สัมผัสที่ลื่นไหลและแม่นยำ

พลังขับสูง รองรับลำโพงทุกประเภท

E-800S มาพร้อมภาคขยายคลาส A ที่ให้ กำลังขับเต็มกำลัง โดยไม่ลดทอนคุณภาพเสียง

• 50W / 8Ω, 100W / 4Ω, 200W / 2Ω, และ 300W / 1Ω
• รองรับโหลดต่ำถึง 1Ω ได้อย่างเสถียร

นี่คือหนึ่งในอินทิเกรตแอมป์ที่สามารถขับลำโพงได้เต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นลำโพงที่ต้องการพลังขับสูงหรือมีอิมพีแดนซ์ซับซ้อน

Ultra-Low Noise และ S/N Ratio ที่เหนือชั้น

Accuphase ได้ปรับปรุง อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวน (S/N Ratio) ของ E-800S ให้สูงขึ้นถึง 105dB ซึ่งสูงกว่า E-800 (104dB) ถึง 12% การออกแบบวงจรแบบ Fully Balanced ตั้งแต่ขาเข้าไปจนถึงขาออกช่วยลดการรบกวนจากแหล่งภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ

Damping Factor ระดับเรือธง

E-800S มีค่า Damping Factor สูงถึง 1000 เทียบเท่าแอมป์เพาเวอร์ระดับไฮเอนด์อย่าง Accuphase A-80 ช่วยให้ลำโพงตอบสนองอย่างแม่นยำ ลดอาการเบลอของเสียงเบส และให้ไดนามิกส์ที่คมชัด ฉับไว

ปัจจัยที่ทำให้ค่า Damping Factor สูงขึ้น ได้แก่

• MOS-FET 6 ตัว ในภาคขยายแบบพุช-พูล
• เทคโนโลยี Balanced Remote Sensing ที่ลดค่าความต้านทานขาออก
• ใช้ MOS-FET Switch แทนรีเลย์กลไก ลดการสูญเสียพลังงาน

ระบบป้องกันที่ล้ำสมัย

E-800S มาพร้อม ระบบป้องกันอัจฉริยะ ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความทนทาน

• ใช้ Photo-coupler แยกวงจรป้องกันออกจากสัญญาณเสียง
• ติดตั้ง Temperature Sensor บนฮีทซิงค์ เพื่อตรวจจับอุณหภูมิสูง
• วงจรลดกระแสไบแอสอัตโนมัติเมื่อพบความร้อนสูงเกินไป

หากเกิดความผิดปกติ ระบบจะตัดการทำงานของลำโพงอัตโนมัติ และแสดงไฟเตือนที่มิเตอร์ด้านหน้า

รองรับการ์ด DAC-60 และ AD-60 สำหรับอัปเกรดเพื่อความคล่องตัวต่อการใช้งานสูงสุด

E-800S รองรับการ์ดเสริม

• DAC-60 สำหรับอินพุตดิจิทัล รองรับไฟล์ Hi-Res จาก Streamer Music Server ได้
• AD-60 สำหรับภาคโฟโน MM/MC รองรับการเล่นแผ่นเสียง

สามารถตั้งค่าและเลือกอินพุตผ่าน หน้าจอแสดงผลแบบ Multi-function บนแผงด้านหน้า

ดีไซน์และความสวยงาม

• ขนาดตัวเครื่อง: 465mm x 239mm x 502mm
• น้ำหนัก: 35.7kg (เบากว่า E-800 เล็กน้อย)
• มิเตอร์ LED Bar Graph ที่ออกแบบให้เด่นชัดขึ้น

E-800S คือก้าวใหม่ของ Accuphase

Accuphase E-800S คือสุดยอดอินทิเกรตแอมป์คลาส A ที่พัฒนาขึ้นจาก E-800 โดยมุ่งเน้น ลดสัญญาณรบกวน เพิ่มกำลังขับ และยกระดับการควบคุมลำโพง พร้อมระบบป้องกันที่ล้ำสมัย

หากกำลังมองหาอินทิเกรตแอมป์ที่ให้ พลังเสียงระดับแอมป์เพาเวอร์แยก พร้อม ความนิ่ง ความละเอียด และเสียงเบสที่แม่นยำ Accuphase E-800S คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ

Accuphase A-48S:

ความงามของเสียงในรูปแบบเพาเวอร์แอมป์ Class-A
Class-A: ศิลปะแห่งเสียงที่บริสุทธิ์

ในโลกของเครื่องเสียงไฮเอนด์ การแสวงหา “เสียงที่สมบูรณ์แบบ” ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของตัวเลขสเปกหรือพลังขับ แต่เป็นเรื่องของศิลปะในการถ่ายทอดอารมณ์และความลึกซึ้งของดนตรีให้สัมผัสได้อย่างแท้จริง หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับว่าให้เสียงที่บริสุทธิ์ที่สุดก็คือ Class-A Amplification

Accuphase เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ยืนหยัดพัฒนาแอมป์ Class-A มาโดยตลอด โดยให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของสัญญาณเสียงและคุณภาพของการขยายเสียง จนกลายเป็นชื่อที่ได้รับความเคารพจากนักเล่นเครื่องเสียงทั่วโลก และ A-48S คือหนึ่งในแอมป์ที่สะท้อนปรัชญานี้ได้อย่างลึกซึ้ง

Accuphase A-48S:
สะพานเชื่อมระหว่างเทคโนโลยีและอารมณ์ เพียงแมตชิ่งกับปรีดีๆ ซักตัว

A-48S ไม่ใช่เพียงแค่แอมปลิฟายเออร์ทรงพลังที่สามารถขับลำโพงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมโยง “เสียง” กับ “อารมณ์” ของผู้ฟังด้วยความประณีตของวิศวกรรมและเทคโนโลยี

หัวใจสำคัญของ A-48S คือ ภาคขยายสัญญาณแบบบริสุทธิ์ 100% ในโหมด Class-A ไม่มีการเปลี่ยนสถานะการทำงานของทรานซิสเตอร์ระหว่างช่วงสัญญาณ ทำให้เสียงที่ได้มีความต่อเนื่องและราบรื่น ปราศจากความผิดเพี้ยนของฮาร์โมนิกที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนโหมดขยาย

เสียงของ A-48S จึงเต็มไปด้วยความอิ่มตัวของโทนเสียงกลางที่เป็นธรรมชาติ รายละเอียดเสียงที่เผยออกมาได้อย่างครบถ้วน และการถ่ายทอดเสียงที่มีชีวิตชีวาราวกับได้ฟังนักดนตรีบรรเลงอยู่ตรงหน้า

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง “เสียงที่มีชีวิต”

เสียงของ A-48S ไม่ได้เกิดขึ้นจากโชคหรือความบังเอิญ แต่มาจากการออกแบบอย่างพิถีพิถันของ Accuphase ที่นำเทคโนโลยีต่างๆ มาผสานกันเพื่อสร้างแอมป์ที่ให้เสียงเป็นธรรมชาติและมีพลังขับอันเหนือชั้น

• Balanced Remote Sensing

เทคโนโลยีนี้ช่วยลดอิมพีแดนซ์ขาออกของแอมป์โดยใช้ระบบป้อนกลับแบบสมดุล (Negative Feedback) ที่ขั้วต่อลำโพง ทำให้การตอบสนองของแอมป์แม่นยำขึ้น ลดการเพี้ยนและช่วยให้เสียงเบสมีความกระชับ

• MOS-FET Switch Protection

แทนที่จะใช้รีเลย์กลไกที่อาจมีปัญหาความต้านทานที่ไม่แน่นอน Accuphase ใช้ MOS-FET เป็นวงจรป้องกันลำโพงทำให้แอมป์มีความเสถียรสูงขึ้น ลดความสูญเสียของพลังงานและรักษาคุณภาพเสียงให้คงที่

• High-Efficiency Toroidal Transformer

หม้อแปลงทรานส์ฟอร์เมอร์แบบ Toroidal ขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใน A-48S มีบทบาทสำคัญในการส่งพลังงานให้กับวงจรขยายเสียง ด้วยโครงสร้างที่ช่วยลดการรบกวนจากสนามแม่เหล็กและให้พลังงานอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เสียงที่ได้มีความสะอาดและให้ไดนามิกส์ที่กว้างขึ้น

เสียงที่สะกดอารมณ์และความเงียบสงัดที่ทรงพลัง

หนึ่งในคุณสมบัติที่ทำให้ A-48S แตกต่างจากแอมป์ทั่วไปคือ “ความเงียบสงัดที่มีพลัง”

A-48S มีอัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวน (S/N Ratio) ที่ 118dB ซึ่งหมายความว่าแม้ในช่วงที่ดนตรีเงียบที่สุดก็ยังให้ความรู้สึกของ “พื้นที่เสียง” (Soundstage) อันกว้างขวาง มีความลึกของเวทีเสียงชัดเจน

นี่คือสิ่งที่ทำให้ A-48S ไม่ใช่เพียงเครื่องขยายเสียง แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ฟังสามารถ “ดื่มด่ำ” ไปกับดนตรีได้อย่างแท้จริง

Class-A ในโลกยุคใหม่: ความท้าทายและคุณค่า

แม้ว่า Class-A จะขึ้นชื่อว่าเป็นระบบขยายเสียงที่ให้คุณภาพเสียงดีที่สุด แต่ก็มีข้อเสียที่มาพร้อมกัน นั่นคือ การใช้พลังงานที่สูงและความร้อนที่เกิดขึ้นจากการทำงานตลอดเวลา

Accuphase รับรู้ถึงปัญหานี้และได้ออกแบบระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้วงจรภายในที่ช่วยให้แอมป์ทำงานได้อย่างเสถียรโดยไม่เกิดความร้อนสะสมมากเกินไป นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้ A-48S ยังคงรักษาสมดุลระหว่าง คุณภาพเสียง และประสิทธิภาพในการใช้งาน

ในยุคที่แอมป์ดิจิทัลและ Class-D กำลังได้รับความนิยมเพราะให้พลังขับสูงและประหยัดพลังงาน A-48S ยังคงยืนหยัดเป็นตัวแทนของแนวคิดที่ว่า “คุณภาพเสียงที่แท้จริงต้องมาก่อน”

Accuphase A-48S: อุดมคติของเสียงดนตรี

เสียงของ Accuphase A-48S ไม่ใช่เพียงแค่ “ดี” ในเชิงเทคนิค แต่เป็นเสียงที่สามารถสร้าง ความรู้สึก และอารมณ์ร่วมให้กับผู้ฟัง

มันเป็นเสียงที่พาผู้ฟังย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาที่ดนตรีเป็นมากกว่าแค่คลื่นเสียง แต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราว เป็นการสะท้อนอารมณ์และเป็นพลังงานที่สามารถสัมผัสได้

สำหรับผู้ที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบของเสียง A-48S คือหนึ่งในเครื่องมือที่จะนำพาคุณไปสู่โลกแห่งดนตรีที่แท้จริง และเป็นการยืนยันว่า

“เสียงที่ดีคือเสียงที่ทำให้คุณลืมเวลา และปล่อยให้หัวใจเป็นผู้นำทาง”

Accuphase E-700:
เสน่ห์แห่งอินทิเกรตแอมป์คลาส A ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด

หากพูดถึง Accuphase สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้น ความประณีตในการออกแบบ, คุณภาพเสียงระดับอ้างอิงให้ขนาดกะทัดรัด และความใส่ใจในทุกรายละเอียด และสำหรับอินทิเกรตแอมป์รุ่นใหม่อย่าง Accuphase E-700 ก็นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของแบรนด์ที่สานต่อความสำเร็จจากรุ่นก่อนหน้า E-650 ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

พลังขับที่สูงขึ้น เสียงที่สะอาดขึ้น

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของ E-700 คือ กำลังขับที่เพิ่มขึ้น 16% โดยสามารถให้กำลังขับ 35 วัตต์ที่โหลด 8Ω ซึ่งเป็น Class-A ล้วน ซึ่งหมายความว่าแม้จะเป็นตัวเลขที่ดูเหมือนไม่มากนัก แต่ในแง่ของคุณภาพพลังงานที่ส่งไปยังลำโพงนั้นเต็มเปี่ยมด้วยไดนามิกส์และรายละเอียดที่สมจริง

สิ่งที่น่าสนใจคือ กำลังขับสูงสุด (clipping power) มากกว่า 70 วัตต์ที่โหลด 8Ω ทำให้สามารถขับลำโพงที่มีความไวต่ำได้โดยไม่รู้สึกว่าพละกำลังตกลงไปเลย

สัญญาณรบกวนต่ำลง เพิ่มความเงียบสงัดในดนตรี

Accuphase ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับ “ความสงัด” พอๆ กับเสียงดนตรี และ E-700 ก็ได้รับการปรับปรุงให้มีสัญญาณรบกวนต่ำกว่าเดิม ลดลงถึง 11% เมื่อเทียบกับรุ่น E-650 ค่า S/N Ratio เพิ่มขึ้นเป็น 103dB ซึ่งช่วยให้เสียงมีความสงัดขึ้น ทำให้รายละเอียดเล็กๆ ในเพลงถ่ายทอดออกมาได้ครบถ้วน

สิ่งที่ทำให้เป็นไปได้ก็คือเทคโนโลยี Balanced AAVA (Accuphase Analog Vari-gain Amplifier) ซึ่งเป็นระบบควบคุมโวลุ่มที่ช่วยลดการสูญเสียของสัญญาณเสียง อีกทั้งยังมี ANCC (Accuphase Noise and Distortion Canceling Circuit) ที่ช่วยตัดสัญญาณรบกวนและความเพี้ยนออกจากเสียงดนตรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Damping Factor สูงขึ้น ขับลำโพงได้ดีขึ้น

Damping Factor (DF) หรือค่าควบคุมลำโพง เป็นอีกหนึ่งจุดที่ E-700 ก้าวล้ำไปอีกขั้น โดยค่า DF พุ่งขึ้นไปถึง 1000 ซึ่งเพิ่มขึ้น 25% จากรุ่นก่อน และเทียบเท่ากับแอมป์เพาเวอร์คลาส A รุ่นสูงของ Accuphase อย่าง A-80

สิ่งนี้ทำให้ E-700 สามารถควบคุมไดรเวอร์ของลำโพงได้ดีขึ้น ลดอาการ “เบลอ” ในเบส ทำให้เสียงมีความกระชับและควบคุมไดนามิกส์ของดนตรีได้ดีขึ้น ไม่ว่าลำโพงที่นำมาใช้งานจะเป็นรุ่นใดก็ตาม

เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้เสียงดีขึ้น

นอกจากภาคจ่ายไฟที่ใช้ หม้อแปลง Toroidal ขนาดใหญ่ และ ตัวเก็บประจุ 56,000μF แล้ว Accuphase ยังเลือกใช้ MOS-FET Switch แทนรีเลย์กลไกทั่วไป เพื่อลดค่าความต้านทานและเพิ่มความทนทานในการใช้งานระยะยาว ซึ่งช่วยให้ E-700 มีความเงียบและถ่ายทอดเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

อีกจุดหนึ่งที่โดดเด่นคือ Balanced Remote Sensing ที่ช่วยให้แอมป์สามารถ “รับรู้” การตอบสนองของลำโพงและทำให้ Negative Feedback มีความแม่นยำขึ้น ลดการผิดเพี้ยนของสัญญาณเสียง

รองรับการอัปเกรดด้วยบอร์ด DAC-60 และ AD-60

Accuphase เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการปรับแต่งเสียงตามความต้องการของผู้ใช้ E-700 จึงมาพร้อมกับช่องสำหรับติดตั้งบอร์ดเสริม ได้แก่

• DAC-60 สำหรับการเชื่อมต่อแหล่งสัญญาณดิจิทัลจาก Streamer/Music server ได้
• DAD-60 สำหรับการเล่นแผ่นเสียง ซึ่งรองรับหัวเข็ม MC และ MM

สิ่งนี้ทำให้ E-700 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับระบบเสียงของแต่ละคนได้ง่าย

รูปลักษณ์และการออกแบบที่สวยงาม

Accuphase ไม่เคยทำให้ผิดหวังในเรื่องของงานออกแบบ E-700 ยังคงความหรูหราแบบคลาสสิก ด้วยตัวถังอะลูมิเนียมสีทองอ่อน พร้อมปุ่มควบคุมที่ตอบสนองอย่างสมูทและแม่นยำ

ขนาดของตัวเครื่องเท่ากับรุ่นก่อนหน้า (กว้าง 465 มม., สูง 191 มม., ลึก 428 มม.) แต่ มีน้ำหนักเบาลงเล็กน้อยที่ 24.9 กก. เมื่อเทียบกับ E-650 ที่หนัก 25.3 กก.

ความสมบูรณ์แบบที่ก้าวไปอีกขั้น

Accuphase E-700 ไม่ใช่แค่ “รุ่นต่อยอด” จาก E-650 แต่เป็น ก้าวสำคัญของแอมป์อินทิเกรตคลาส A ที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น พลังขับที่มากขึ้น สัญญาณรบกวนที่ลดลง Damping Factor ที่สูงขึ้น และรองรับการอัปเกรด

หากคุณเป็นนักฟังที่มองหาอินทิเกรตแอมป์คลาส A ที่ ให้เสียงสะอาด สมจริง ถ่ายทอดไดนามิกส์ได้ดีเยี่ยม และยังสามารถขับลำโพงได้อย่างไร้ข้อจำกัด E-700 คือตัวเลือกที่ไม่ทำให้ผิดหวัง