Voo Doo Cable Silver Nova Ethernet Cable
“Where precision meets perfection – redefining connectivity
for those who demand more than just a cable.”
ในโลกของอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ทุกบิตของข้อมูล ทุกพิกเซลของภาพ ทุกตัวโน้ตของเสียงดนตรีล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่ออารมณ์ความรู้สึกที่โสตประสาทของมนุษย์จะรับรู้ได้
การเลือกสาย Ethernet cable ที่เหมาะสมอาจเป็นตัวตัดสิน ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์ที่แสนจะธรรมดา ไปสู่ความสมบูรณ์แบบระดับออดิโอไฟล์ สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียง ผลจากการถ่ายโอนข้อมูลที่แม่นยำ เพราะสาย Ethernet (LAN) ไม่ใช่แค่สายเชื่อมต่อ — แต่มันคือสะพานสู่ประสิทธิภาพขั้นสุดยอดทีเดียว
และนี่คือจุดที่ VooDoo Cable: Silver Nova Ethernet Cable เข้ามาเปลี่ยนเกม ด้วยการออกแบบที่พิถีพิถัน ด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ สายเคเบิลนี้ไม่ได้มาเพียงเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณ แต่มาเพื่อยกระดับประสบการณ์ของคุณอย่างเหนือชั้น ตั้งแต่รายละเอียดการผลิตที่พรีเมี่ยม หรูหราไปจนถึงคุณสมบัติที่ช่วยลดสัญญาณรบกวน Silver Nova ให้สัญญาว่าจะนำพาประสบการณ์ดิจิทัลของคุณไปสู่ความสมบูรณ์แบบอย่างที่ไม่เคยมาก่อน
ในรีวิวนี้ เราจะเจาะลึกทุกมิติของ VooDoo Silver Nova Ethernet Cable ทั้งการออกแบบ วัสดุ ฟังก์ชันการใช้งาน และที่สำคัญที่สุด — ผลลัพธ์ที่จะได้รับจากการใช้งานสายเคเบิลระดับพรีเมียมนี้ พร้อมหรือยังที่จะค้นพบความแตกต่างที่แท้จริง?
สวัสดีครับ ทุกคน
พบกันอีกแล้วกับ audiophile go digital… อรรถคดีว่าด้วยเรื่องของ Digital audio ซึ่งจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้เล่าขานบนสื่อออนไลน์อยู่ตลอดเวลา
และนี่เป็นบทความทดสอบเพื่ออ้งอิง บนเว็บไซต์ www.audiophile-videophile.com
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม
Intro…
Audio Grade LAN cable จำเป็นจริงหรือแค่ขายฝัน?
ทั้งๆ ที่พวกเรานักเล่นสายออดิโอไฟล์ เล่นกันมาเป็น 10 ปีมาแล้ว ยังปั่นกันไม่เลิก
งั้นขอเมาท์มอยกันนิด…
ในวงการเครื่องเสียงและไฮไฟ ในยุคโซเชียล มักจะมีกระทู้ สร้างคอนเทนต์ หาแสง ขึ้นเสมอๆ
หนึ่งในประเด็นที่มักเกิดดราม่าร้อนแรงในโซเชียลขึ้นมาอีก
“สาย LAN Audio Grade จำเป็นจริงเหรอ?”
หลายคน (นอกวงการ) อาจมองว่าสาย LAN ก็คือสาย LAN จะมีผลกับเสียงได้ยังไง?
แต่ในอีกมุมหนึ่ง กลุ่มออดิโอไฟล์ (AUDIO-Fi) กลับยืนยันว่า “มันมีผล!”
…ใจเย็นๆ แล้วลองเปิดใจดูว่า ทำไมสายประเภทนี้ถึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันข้ามปี?
ข้อเท็จจริงคือ สาย LAN แบบ Audio Grade ไม่ได้แค่ส่งข้อมูลหรอก แต่มีการออกแบบมาเพื่อลดสัญญาณรบกวน ป้องกัน jitter และปรับปรุงการส่งผ่านข้อมูลในระบบที่ละเอียดอ่อน เช่น การสตรีมเพลง Hi-Res หรือไฟล์เสียง Lossless
“แล้วมันเวอร์ไปไหม?”
สำหรับคนนอกวงการไฮเอนด์ที่ใช้ระบบไฮไฟทั่วๆ ไป อาจไม่ได้รับรู้หรือรู้สึกถึงความแตกต่างชัดเจนนัก แต่สำหรับคนที่ลงทุนกับชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์ ราคาเป็นหลักแสนหลักล้าน ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ อย่างคุณภาพในทุกสิ่งที่เกี่ยวข้อง สาย LAN ก็เป็นสิ่งที่ช่วยดึงศักยภาพของระบบออกมาให้ไดนามิกส์ รายละเอียดยิบย่อยได้เต็มที่ ซึ่งซิสเต็มจะให้ได้
ดังนั้น คำถามสำคัญไม่ได้อยู่ที่ “มันเวอร์หรือไม่?” แต่อยู่ที่ “คุณให้ความสำคัญกับประสบการณ์การฟังขนาดไหน เพียงใด?” สำหรับบางคน มันคือการลงทุนเพื่อความสุขในแบบของตัวเอง แค่นั้นเอง
โปรดอย่าดราม่ากันนักเลย ถ้าไม่จำเป็นสำหรับคุณ ก็ไม่มีใครบังคับให้ซื้อนะ 😉
แต่ถ้าอยากรู้ว่ามันต่างยังไง ลองเปิดใจ หาโอกาสมาเทสต์ด้วยตัวเอง อาจจะได้คำตอบที่ไม่ต้องวิวาทะกับใครเลย!
>> “Where precision meets perfection—redefining connectivity”
แนวคิดของออดิโอไฟล์: ทุกส่วนมีผลต่อระบบ
ออดิโอไฟล์ส่วนใหญ่เชื่อและรับรู้ว่า ทุกองค์ประกอบในระบบเสียงมีผลต่อคุณภาพเสียง ไม่ว่าจะเป็นสายสัญญาณ สายไฟ อุปกรณ์ต่อพ่วง หรือแม้แต่ชั้นวาง แม้ว่าความแตกต่างอาจไม่ได้ใหญ่มาก แต่ในระบบที่ออกแบบมาเพื่อเสียงระดับสุดยอด การเก็บรายละเอียด เพิ่มคุณภาพในทุกจุด เช่นเน็ตเวิร์กสวิตช์ สาย LAN ก็ช่วยยกระดับประสบการณ์โดยรวมได้
ในเชิงเทคนิค Audio Grade LAN cable มีบทบาทสำคัญในการลด jitter, noise และเพิ่มเสถียรภาพของการถ่ายโอนข้อมูล แม้ว่าข้อมูลดิจิทัลจะเป็น 0 และ 1 แต่การส่งข้อมูลดิจิทัลให้สมบูรณ์แบบนั้น ต้องพึ่งพาการออกแบบสายและวัสดุที่สามารถลดความผิดเพี้ยนในกระบวนการถ่ายโอน หากคุณเป็นผู้ที่ใส่ใจในรายละเอียดของเสียงและแสวงหาประสบการณ์ฟังขั้นสูง Audio Grade LAN cable จึงเป็นหนึ่งในตัวแปรที่ควรลงทุนเพื่อคุณภาพที่ดีกว่าเดิม ดังนั้นขอโปรดอย่าท้าทายกับระบบ… เชื่อผม
What If!
การเปลี่ยนมาใช้ Audio Grade LAN cable อาจเปิดโลกใหม่ในการฟังเพลง โดยเฉพาะถ้าคุณมีชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์ที่สามารถแสดงความละเอียดได้ครบถ้วนจริง
แต่สุดท้าย ความแตกต่างนี้คุณต้องสัมผัสด้วยตัวเอง เพราะบางคนอาจรู้สึกว่ามันคุ้มค่า ในขณะที่บางคนอาจมองว่าไม่ต่างจนต้องลงทุน ซึ่งก็ต้องลองเองล่ะ!
“ถ้ามิวสิกเซิร์ฟเวอร์ / สตรีมเมอร์ไฮเอนด์เปลี่ยนมาใช้ Audio Grade LAN cable แทนสาย LAN ตลาดๆ”
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? ลองมาดูความเป็นไปได้และผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น:
1. คุณภาพเสียงจะพัฒนาไปอีกขั้น
• ลดสัญญาณรบกวน (Noise Reduction): Audio Grade LAN cable มักต้องมีการป้องกัน EMI/RFI ที่ดีกว่า ทำให้เสียงที่ได้สะอาดขึ้น รายละเอียดเล็กๆ เช่น texture ของเครื่องดนตรี หรือ reverb ในเพลงอาจชัดเจนขึ้น
• ลด jitter: สาย Audio Grade LAN ออกแบบมาเพื่อลด jitter หรือความคลาดเคลื่อนของ timing ในสัญญาณดิจิทัล ซึ่งส่งผลต่อความแม่นยำของ time alignment ในเสียง ทำให้เสียงสมูธและลื่นไหลกว่าเดิม
• เวทีเสียงกว้างขึ้น (Soundstage): หากระบบของคุณละเอียดพอ (เช่น มี Transport / DAC และแอมป์ที่ดี) การเปลี่ยนมาใช้ Audio Grade LAN จะช่วยเปิดเวทีเสียง ทำให้ตำแหน่งเครื่องดนตรีและเสียงร้องชัดเจนยิ่งขึ้น
2. ประสบการณ์การฟังที่เปลี่ยนไปจากสิ่งต่อไปนี้
• เสียงดนตรีมีชีวิตชีวา (Dynamic)
• ความละเอียดของเสียง (Resolution)
• ความสมูทของเสียงสูง (Smooth Highs)
3. ข้อดีทางเทคนิค
• วัสดุคุณภาพสูง: วัสดุศาสตร์ถูกนำมาใช้ Audio Grade LAN cable ใช้วัสดุอย่างทองแดงบริสุทธิ์ (OFC) หรือเงินบริสุทธิ์ ซึ่งนำสัญญาณได้ดีกว่า ยังชีลด์อย่างดี รวมถึงหัวต่อ RJ45 คุณภาพสูง ส่งผลต่อคุณภาพเสียง คิดดูซิว่าก็แค่ฟิวส์แท่งเล็กๆ เสียงยังเปลี่ยนเลยนี่นา
• ออกแบบเพื่อการฟังเพลงโดยเฉพาะ: สายเหล่านี้ถูกพัฒนามาเพื่อใช้งานในระบบเสียง ทำให้เหมาะสมกับการสตรีมเพลง hi-res audio เหนือกว่าสายทั่วไป
4. ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับระบบ
• High End System Benefit: ถ้าสตรีมเมอร์, DAC และระบบโดยรวมของคุณเป็นระดับไฮเอนด์ สาย Audio Grade LAN จะช่วยดึงศักยภาพออกมาได้เต็มพิกัด
• ระบบเสียงที่ธรรมดา เช่นพวก PC Audio: ถ้าระบบไม่มีความละเอียดพอ เช่น DAC, SoundCard หรือแอมป์ ลำโพงไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับความละเอียดสูง ก็อาจไม่รู้สึกถึงความแตกต่างมากนัก ยิ่งคนฟังขาดประสบการณ์ด้วยแล้ว ก็จะไม่สามารถรับรู้ความแตกต่างเลย ซึ่งว่ากันไปแล้ว ก็อาจไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย
5. What If! ลองพิสูจน์เอง
ซึ่งถ้าซิสเต็มถึงแล้วล่ะก็ ลองเปลี่ยนมาใช้สาย Audio Grade LAN cable ลองฟังเพลงที่คุณคุ้นเคยดี เช่น:
• เพลงที่มีรายละเอียดสูง (เช่น แนวอะคูสติกส์)
• เพลงไดนามิกสูง (เช่น คลาสสิก ร็อก หรือแจ๊ส)
แล้วเปรียบเทียบว่าคุณสัมผัสได้ถึงความแตกต่างในความใส ความลึก และความสมดุลของเสียงหรือไม่ ถ้าไม่ถึงกับ Bias จนเกินไป เชื่อว่าจะถอดไม่ออก…. มา มา ไปต่อกัน
About VooDoo Cable…
เกี่ยวกับเสียงดนตรี – เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกและสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบาค (Bach), เบโธเฟน (Beethoven), โคลเทรน (Coltrane) หรือเฮนดริกซ์ (Hendrix) เสียงเพลงของพวกเขาต่างผ่านสายเคเบิลของเรา และนั่นคือความรับผิดชอบที่เราให้ความสำคัญอย่างจริงจังที่สุด งานของเราคือการออกแบบและสร้างสายเคเบิลที่มอบประสิทธิภาพการได้ยินสูงสุดให้กับระบบเสียงระดับไฮเอนด์ของลูกค้า
เทคโนโลยีพื้นฐานของการสร้างสายเคเบิลเพื่อสัญญาณเสียงมีมานานกว่า 100 ปี แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีที่วัสดุนำไฟฟ้า, วัสดุไดอิเล็กทริกส์ และสนามแม่เหล็กมีผลต่อสัญญาณเสียงและกระแสไฟฟ้าเพิ่งเริ่มพัฒนาอย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงและนักฟังเพลงที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของวิธีและเหตุผลที่สัญญาณและกระแสไฟเคลื่อนที่ผ่านโลหะผสมชนิดต่างๆ รวมถึงผลกระทบของวัสดุไดอิเล็กทริกส์ที่มีต่อสัญญาณและกระแสไฟ ความท้าทายในตอนนี้คือการควบคุมอิเล็กตรอนของสัญญาณและพลังงานที่ไม่เป็นระเบียบให้เดินทางไปยังอุปกรณ์แต่ละชิ้นอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยความเป็นเชิงเส้นที่สอดคล้องกันมากที่สุดและระดับเสียงรบกวนที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
Made in USA
VooDoo Cable ไม่ได้ผลิตจากสายเคเบิลที่ผลิตเป็นจำนวนมากซึ่งผ่านการอัด รีด ม้วน และพิมพ์ในโรงงานผลิตสายเคเบิลแห่งใดแห่งหนึ่งในเอเชีย
แต่สายเคเบิล VooDoo ผลิตด้วยมือโดยเฉพาะตามความยาวและขั้วต่อที่ลูกค้าต้องการ โดยใช้วัสดุที่มาจากโรงงานของเราในเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย วัสดุที่เราใช้คือโลหะนำไฟฟ้าคุณภาพสูงที่สุด ได้แก่ ทองแดงและเงิน รวมถึง Cryo-Alloy™ ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเรา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของสาย VooDoo
สายเคเบิลทั้งหมดของเราผลิตจากสายตัวนำไฟฟ้า,วัสดุป้องกัน และขั้วต่อที่ผ่านกระบวนการ Cryogenic Cold Fusion™ ซึ่งปรับเทียบด้วยคอมพิวเตอร์ กระบวนการนี้ใช้การจุ่มลึกในไนโตรเจนเหลวและกระบวนการระเหย หลังจากนั้นตัวนำจะถูกถัก และพันในโรงงานของเราด้วยความยาวที่กำหนดอย่างแม่นยำ โดยใช้ฝีมือประณีตและวัสดุที่ทันสมัยที่สุด สายเคเบิลแต่ละเส้นประกอบด้วยลวดตัวนำไฟฟ้าทองแดงและเงินที่มีความบริสุทธิ์สูง, วัสดุป้องกันถักทองแดงชุบเงิน, Teflon® เกรด ISO และวัสดุไดอิเล็กทริกส์ชนิดอื่นที่มีคุณสมบัติความเร็วสูงสุดที่เข้ากันได้ สายเคเบิลของเราติดตั้งขั้วต่อคุณภาพสูงสุด อีกทั้งสายเคเบิลของเรายังใช้เวลาปรับตัวน้อยมาก เนื่องจากผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมของกระบวนการ Cryogenic Cold Fusion™
Cold Fusion™ Cryogenic processing
ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับการบำบัด ปรับสภาพ (Treatment) สายตัวนำไฟฟ้า วัสดุป้องกัน ขั้วต่อ และส่วนประกอบอื่นๆ ที่ใช้ในการผลิตสาย VooDoo ทั้งหมด ตัวนำไฟฟ้าทั้งหมดของเราได้รับการบำบัดผ่านกระบวนการ Cryogenic ในไนโตรเจนเหลวที่ปรับเทียบด้วยคอมพิวเตอร์ที่อุณหภูมิ -315°F (-192°C) เพื่อปรับโครงสร้างโมเลกุลของโลหะนำไฟฟ้าและโลหะผสมใหม่
ในระดับโมเลกุล อิเล็กตรอนที่สร้างคลื่นไฟฟ้าจะกระโดดจากโมเลกุลหนึ่งไปยังอีกโมเลกุล ยิ่งเส้นทางการส่งผ่านสัญญาณหรือกระแสไฟตรงมากเท่าไร เสียงรบกวนทางไฟฟ้าจะน้อยลงเท่านั้น กระบวนการ Cryogenic ช่วยจัดเรียงและรัดโครงสร้างโมเลกุลของโลหะนำไฟฟ้าและโลหะผสมในระดับโมเลกุล ผลลัพธ์ที่ได้คือความต้านทานในสายสัญญาณลดลงอย่างมาก ซึ่งช่วยลดความผิดเพี้ยนของฮาร์โมนิกได้อย่างมาก ผลลัพธ์ที่เด่นชัดของกระบวนการ Cryogenic ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเราคือ ความละเอียดของฮาร์โมนิกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน รายละเอียดและความโปร่งใสในเวทีเสียงที่มากขึ้น และการตอบสนองเชิงไดนามิกส์ที่แม่นยำยิ่งขึ้นตลอดช่วงเสียงที่ได้ยิน
สำหรับสายเคเบิลวิดีโอ กระบวนการนี้ช่วยลดเสียงรบกวนในเส้นทางสัญญาณวิดีโออย่างมีนัยสำคัญ ให้ภาพที่สว่างคมชัดขึ้น การแสดงสีที่แม่นยำขึ้น เฉดดำที่ลึกขึ้น และความละเอียดในการสแกนที่เงียบขึ้น
หลังจากหลายปีของการถกเถียงและข้อสงสัยจากผู้ที่ไม่เชื่อเทคโนโลยี Cryogenic ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน และถูกใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสียงและวิดีโอระดับไฮเอนด์ VooDoo Cable ได้ใช้เทคโนโลยี Cryogenic ในการผลิตตั้งแต่ปี 1999
Silver Nova Ethernet Cable
เป็นหนึ่งในสองของโปรดักต์ไลน์ Ethernet Cable (LAN) จาก VooDoo Cable เป็นสาย Ethernet CAT8 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการถ่ายโอนข้อมูลในระดับสูงสุด รองรับความเร็วสูงสุดถึง 40 Gbps พร้อมแบนด์วิธที่กว้างถึง 2000 MHz เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบเสียงระดับไฮไฟ (Hi-Fi Audio) และโฮมเธียเตอร์ที่ต้องการความแม่นยำ ความเร็ว และการป้องกันสัญญาณรบกวนที่สมบูรณ์แบบ
การออกแบบและโครงสร้าง
สาย Silver Nova Ethernet Cable โดดเด่นด้วยวัสดุและโครงสร้างทางวิศวกรรมขั้นสูง:
• ตัวนำสัญญาณ (Conductor): ใช้ 6N solid core pure silver conductors (เงินบริสุทธิ์ 99.9999%) ขนาด 24 AWG ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สมดุลระหว่างขนาดและความทนทานของสาย ทำให้สามารถส่งผ่านสัญญาณได้อย่างคมชัดและลดความสูญเสียและเสื่อมคุณภาพในระยะยาว
• ฉนวนกันสัญญาณ (Dielectric): ใช้ Teflon dielectric ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นฉนวนที่ยอดเยี่ยม ลดการสูญเสียสัญญาณและเพิ่มความคงตัวของการถ่ายโอนข้อมูล
• ชั้นป้องกันสัญญาณรบกวน (Shielding): ห่อหุ้มด้วยชั้น Mylar film สองชั้น ที่ช่วยป้องกันการรบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) เสริมด้วยสายถักแบบ silver-plated copper braid เพื่อป้องกันสัญญาณ RF และการรบกวนจากคลื่นไมโครเวฟ (Microwave RF) และทำให้สายแข็งแรงแต่อ่อนให้ตัว
• หัวต่อ (Connectors): ใช้ Telegärtner RJ-45 connectors ระดับออดิโอเกรด ที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำและเสถียรภาพในการเชื่อมต่อ
• รองรับความเร็วสูงสุด 40 Gbps: รองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงในทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมเสียง / วิดีโอความละเอียดสูง หรือการเชื่อมต่อในระบบเครือข่ายองค์กร
• แบนด์วิธ 2000 MHz: เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการถ่ายโอนข้อมูลปริมาณมากและความเสถียรสูงสุด
Audio Grade Telegärtner RJ-45 ไม่ใช่เพียงตัวเชื่อมต่อข้อมูลตลาด ๆ แต่หัวต่อคือส่วนสำคัญที่ช่วยให้สัญญาณถูกส่งผ่านอย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับออดิโอไฟล์และวิดีโอไฟล์ที่ต้องการประสบการณ์เสียงและภาพที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าหัวต่อ RJ-45 ทั่วไปในทุกด้าน หัวต่อชนิดนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ยกระดับ Silver Nova Ethernet Cable ให้เป็นสายเชื่อมต่อระดับไฮเอนด์อย่างแท้จริง
Telegärtner คือบริษัทชั้นนำจากประเทศเยอรมนีที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตอุปกรณ์การเชื่อมต่อ (connectivity solutions) คุณภาพสูงที่ทั่วโลกยอมรับถึงคุณภาพ ส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมในการส่งผ่านข้อมูล โดยเฉพาะในกลุ่มของ RJ-45 connectors, coaxial connectors และโซลูชันระบบเครือข่ายที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งในภาคสื่อสาร ระบบเสียง (audio systems) และอุปกรณ์เชื่อมต่อในงานวิศวกรรม IT รวมถึงในยุคตรีมมิ่งนี้ด้วย
HOOK UP
คุณคริส แห่ง IAV จัดส่ง Voo Doo Silver Nova Ethernet Cable เป็นสายขนาดความยาว 3 m ซึ่งช่วยให้คล่องตัวในการทดสอบกับหลายๆ อุปกรณ์ โดยผ่านเน็ตเวิร์กสวิตช์ SOtM เพื่อยกระดับประสบการณ์เสียงด้วย Bladelius ASK Integrated, Rockna WaveLlight DAC และ Pachanko Constellation Mini (CAT) ในกล่องระบุชัดว่ารับประกันตลอดชีพ (Life Time Warranty) เสียด้วย
ระบบเสียงที่สมบูรณ์แบบ Bladelius ASK Integrated ซึ่งเป็น Streaming DAC Amp อเนกประสงค์ สามารถรองรับการใช้งานทั้งอะนาล็อกและดิจิทัล ง่ายสุดก็ TIDAL Connect และ JPLAY ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อจับคู่กับ Rockna WaveLight DAC และลำโพง Pachanko Constellation Mini ที่ Run Audirvana Studio จะได้สัมผัสกับเสียงที่เหนือระดับ ทั้งความแม่นยำและพลังเสียงที่ถ่ายทอดทุกอารมณ์ดนตรีได้อย่างลงตัว
ด้วยการเชื่อม Bladelius ASK กับเครือข่ายผ่าน Ethernet โดยใช้ Silver Nova Ethernet Cable เพื่อใช้ฟีเจอร์สตรีมมิง เช่น TIDAL Connect ฟังเพลง Lossless และ Hi-Res ที่สะดวกและลื่นไหล หรือแอป JPLAY สำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับสุดยอดผ่านไฟล์เพลง กับ Pachanko Constellation mini เมื่อ Run Audirvana Studio จากนั้นส่งสัญญาณเสียงผ่านสาย USB ไปยัง Rockna WaveLight DAC เพื่อแปลงสัญญาณเสียงด้วยความละเอียดสูงสุด โดยต่อจาก DAC ให้เชื่อมต่อกับ Bladelius ASK ผ่านสาย XLR เพื่อถ่ายทอดเสียงที่บริสุทธิ์และเต็มมิติ ก่อนที่จะส่งพลังเสียงไปยังลำโพงด้วยสายลำโพงคุณภาพสูง ควรวางตำแหน่งลำโพงเจ้าถิ่นให้ได้ความลึกและสมจริงของมิติเสียง
ด้วยฟังก์ชันครบครันของ Bladelius ASK Integrated ที่รวม Streaming DAC และ Phono stage จับเป็น Integrated ไว้ในเครื่องเดียว ผสานศักยภาพของ Rockna WaveLight DAC และ Pachanko Constellation Mini จะได้เพลิดเพลินกับเสียงที่อบอุ่น โปร่งใส เวทีกว้างและมีมิติลึกในทุกแนวดนตรี ตั้งแต่สตรีมเพลงผ่าน Tidal, Qobuz ไปจนถึงการเล่นไฟล์ Hi-Res ที่พร้อมพาคุณไปสัมผัสกับคุณภาพเสียงที่แท้จริงในทุกโน้ต!
ShowTime
ดนตรีหลายแนวทั้งอะคูสติกส์ เมโลดิกเมทัล ออร์เครตร้า รวมถึงดูหนังและ YouTube จาก Apple TV
ผลลัพธ์ในการใช้งานระบบเสียง เมื่อใช้งานในระบบเสียง Silver Nova Ethernet Cable แสดงประสิทธิภาพได้อย่างโดดเด่น:
1. รายละเอียดเสียงที่โปร่งใส: นี่คือข้อเด่นจากตัวนำสัญญาณเงินบริสุทธิ์ ช่วยขับรายละเอียดเสียงออกมาอย่างครบถ้วน โดยไม่มีการบิดเบือน
2. เวทีเสียงที่สมจริง มีชีวิตชีวา: เสียงมีมิติและความลึก เป็นธรรมชาติ ทำให้ได้ประสบการณ์การฟังที่สมจริงและเต็มอิ่ม
3. การถ่ายโอนข้อมูลไหลลื่นไร้รอยต่อ: ไม่มีความล่าช้า หน่วงหรือจากสัญญาณรบกวน เหมาะสำหรับการฟังเพลงความละเอียดสูง (Hi-Res Audio) รวมถึงสตรีมภาพ 4K จะให้สีสันที่อิ่มฉ่ำมีชีวิตชีวา
WRAPPED: for those who demand more than just a cable.
VooDoo Silver Nova Ethernet Cable เป็นสาย Audio Grade Ethernet cable ระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการคุณภาพสูงสุด ทั้งในด้าน Speed ความเร็ว ความเสถียร และคุณภาพเสียง ด้วยตัวนำเงินบริสุทธิ์ 6N ขนาด 24 AWG ผนวกกับระบบป้องกันสัญญาณรบกวนขั้นสูงและหัวต่อระดับออดิโอไฟล์เกรดจากผู้ผลิตชั้นนำ สายรุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการประนีประนอมในเรื่องคุณภาพสำหรับคุณ มีให้เลือกหลายขนาดความยาวจนถึง 10 เมตรทีเดียว
จากผลพวงของจุดเด่น 4 ประการของ VooDoo Silver Nova Ethernet Cable
- วัสดุระดับพรีเมียม: ตัวนำเงินบริสุทธิ์ 6N แบบ 24 AWG ช่วยลดความต้านทานและเพิ่มความแม่นยำในการถ่ายโอนข้อมูล
- การป้องกันสัญญาณรบกวนที่สมบูรณ์แบบ: dielectric/shield ระบบป้องกันหลายชั้นช่วยให้สัญญาณรบกวนจาก RF และ EMI ที่ถูกจัดการให้ลดลงอย่างมาก
- รองรับการใช้งานระดับสูง: ความเร็วสูงสุด 40 Gbps และแบนด์วิธ 2000 MHz เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรทั้งภาพและเสียง
- ออกแบบมาเฉพาะสำหรับออดิโอไฟล์: หัวต่อ RJ-45 คุณภาพสูงเพิ่มความมั่นใจในการถ่ายโอนข้อมูลเสียงและภาพบนเครือข่ายสมบูรณ์แบบ ใช้งานได้คงทน
ทั้งหมดเป็นเรื่องของเทคนิค แต่จะส่งผลต่อคุณภาพเสียงในระบบซึ่งผู้ใช้อย่างเราจะได้รับประสบการณ์การฟังที่เปลี่ยนไป เช่น เสียงดนตรีมีชีวิตชีวา (Dynamic) ช่วยให้เสียงมีพลังมากขึ้น โดยเฉพาะในเพลงที่มีไดนามิกส์สูง เช่น เพลงออร์เคสตราหรือแจ๊ส ความละเอียดของเสียง (Resolution): รายละเอียดที่อาจไม่เคยได้ยินในสาย LAN ตลาด เช่น เสียงฉาบที่จางๆ หรือการลากเสียงกีตาร์เบาๆ เด่นชัดขึ้น ความสมูธของเสียงสูง (Smooth Highs): ลด harshness หรือความกระด้างในเสียงย่านสูง ทำให้ฟังได้นานขึ้นโดยไม่ล้า ที่โดดเด่นคือเพลงร้องแนวหลงเสียงนาง
…หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่พิถีพิถัน ต้องการความเป็นที่สุด กำลังมองหาสาย Ethernet ที่ไม่ใช่สักแต่เป็นสาย แต่เป็นสายที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกมิติ VooDoo: Silver Nova Ethernet Cable คือตัวเลือกที่คู่ควรและคุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างยิ่ง ใช้กันยาวๆ เพราะ Life Time warranty เสียด้วยซิ รออะไร จัดเลย!. ADP
Price Lists
VooDoo Silver Nova Ethernet Cable
1 m ราคา 29,500 บาท
2 m ราคา 33,500 บาท
3 m ราคา 39,000 บาท
4 m ราคา 43,700 บาท
5 m ราคา 48,000 บาท
10 m ราคา 72,000 บาท
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
Inventive AV
โทร.02-238-4078-9
ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ
No Comments