ดร. ชุมพล มุสิกานนท์

ชื่อลำโพง Verity Audio อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนักเล่นเครื่องเสียงในประเทศไทยมากนัก ทั้งที่ Verity โด่งดังมากที่แคนาดาและอเมริกายี่ห้อนี้เขามีห้องแล็บสำหรับทดสอบลำโพงโดยเฉพาะเลยด้วยซ้ำ ส่วนดอกลำโพงที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นการทำขึ้นมาเฉพาะรุ่น ลำโพงยี่ห้อนี้ประกอบในประเทศแคนาดาล้วนๆ ครับ ฝีมือการทำตู้ประณีตสวยงาม ไม่มีการใช้น็อตยึดผนังตู้ แถมรูปทรงของตู้จงใจออกแบบมาให้ไม่มีด้านไหนขนานกันเลย เพื่อแก้ปัญหาเรโซแนนซ์ในตัวตู้

ลำโพง Verity ส่วนมากจะแยกปริมาตรตู้ระหว่างดอกลำโพงเสียงกลาง-แหลม และดอกลำโพงเสียงทุ้มอย่างในรุ่น Finn นี่ก็มีวูฟเฟอร์ขนาด 6 นิ้ว ยิงออกมาทางด้านหลัง และมีท่อพอร์ตยิงออกมาทางทิศเดียวกัน ดังนั้นเมื่อมองจากด้านหน้าเราจึงเห็นว่าลำโพงมีแค่สองดอก คือมิดเรจน์ขนาด 5 นิ้ว และทวีตเตอร์ชนิดซอฟต์โดมขนาด 1 นิ้ว ซึ่งแท้จริงแล้ว Finn เป็นลำโพง 3 ทาง ขั้วต่อชนิดซิงเกิลไวร์

ลำโพง Verity Audio: Finn ที่ผมได้รับมาทดสอบ มีสีดำมันแบบแบล็กเปียโน สวยงามมาก ด้านบนของตู้แหงนขึ้นเล็กน้อย ด้านล่างเป็นกรอบทองเหลืองที่ใส่สไปก์ชนิดปรับระดับความสูงได้ ดูจากรูปลักษณ์แล้วเรียบหรู ดูมีราคาและผ่านการออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม ตะแกรงหรือหน้ากากป้องกันดอกลำโพงยึดติดกับตู้ด้วยแม่เหล็ก ไม่ใช้สลักที่ทำให้ดูแล้วเสียราคาครับ แหม! แคนาดาทำลำโพงระดับบนทั้งทีมันต้องอย่างนี้ ยิ่งกับรุ่นแพงๆ ของเขาตัวตู้จะเป็นไม้สีสวยมาก แถมด้วยเสียงที่ไพเราะ มีคุณลักษณะผู้ดีทุกกระเบียดเลยก็ว่าได้ สรุปว่า… คุณภาพการประกอบของลำโพง Verity Finn ไร้ที่จะติได้ ตอนผมเอาลำโพงออกมาจากกล่องเล่นเอาเหนื่อยอยู่ เพราะมันหนักถึง 55 ปอนด์ต่อข้าง 

ไม่รู้หนักตรงไหนครับ ไดรเวอร์ก็แค่ 3 ตัว เข้าใจว่าคงหนักตัวตู้ ซึ่งลักษณะนี้เชื่อขนมกินได้เลยว่าตู้ของมันคงแทบจะไร้การ กระพือขณะใช้งาน ขั้วต่อลำโพงอยู่ด้านหลังตรงบริเวณขอบล่างของตู้ ทำให้ไม่ต้องใช้สายลำโพงยาวมากเหมือนกับลำโพง หลายๆ ยี่ห้อที่ชอบใส่ขั้วต่อสายลำโพงไว้ตรงบริเวณกลางตู้ 

ดอกลำโพงเสียงกลางและเสียงทุ้มใช้ไดอะแฟรมที่เป็นวัสดุ Fiber/Pulb โคนเหมือนกัน ส่วนทวีตเตอร์เป็นโดมผ้าคุณสมบัติ ทางเทคนิคตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 35Hz – 40kHz ความไว 91dB อิมพีแดนซ์ 8 โอห์ม สูง 39.5” กว้าง 10” และลึก 13.5” ราคาค่าตัวอยู่ที่สองแสนกว่าพิจารณาจากสเปกแล้ว เป็นลำโพง ที่ขับไม่ยาก ขนาดตัวตู้ก็ค่อนข้างเล็ก ตอบสนองความถี่ได้กว้าง แหม! นี่ถ้าผมมีกะตังค์เยอะๆ คงซื้อมาไว้สักคู่แล้วครับ… 

ปกติเราจะเห็น Verity จับคู่กับ Accuphase ไม่ว่าจะเป็น อินทิเกรตแอมป์ หรือชุดปรี-เพาเวอร์ สายเคเบิลที่ใช้ก็มัก จะเป็น Purist Audio Design เนื่องจากว่าทาง ไฮเอ็นด์ ออดิโอ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั้งหมดนี้ ในการทดสอบคราวนี้ Verity Finn เจอกับ Rotel 1520 Tinn ก่อนครับ Source เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียง Pioneer PL70 ติดหัวเข็ม Grado Gold เครื่องเล่นบลูเรย์ Oppo 203 สายสัญญาณ Zensonice รุ่น X-File สายไฟ Hifidelity รุ่น Reference สายลำโพง Zonotone 7700 หลังจากนั้นเปลี่ยนแอมป์เป็น C-3 MM. แอมป์หลอดพุชพูล 80 วัตต์ ที่ขับลำโพงโหดๆ ได้สบายมาก 

อันที่จริง อินทิเกรตแอมป์ Rotel 1520 ตัวเดิมๆ มันคง ไม่เหมาะสมที่จะนำมาทำงานร่วมกับลำโพงระดับนี้ แต่ใน Version Tinn ที่ผมได้ทำการอัพเกรดจนกลายเป็นเสียง แบบแอมป์ใหญ่ในตัวถังแอมป์เล็กไปแล้ว โดยเฉพาะเสียงเบสนี่ ทุกคนที่เคยฟัง Rotel 1520 Version Tinn จะต้องประหลาด ใจว่าทำไมมันถึงได้หนักและแน่นขนาดนี้ และเมื่อเอามาขับ Verity Finn แล้ว แน่นอนว่าเสียงไม่เหมือนที่ฟังกับ Accuphase แสดงว่าลำโพงสามารถถ่ายทอดความแตกต่าง ของต้นทางได้เป็นอย่างดี 

ผมเปิดฟังลำโพงได้สักพักกว่าๆ 7-8 วัน วันละ 3 ชั่วโมง โดยประมาณ (ลำโพงผ่านการใช้งานมาแล้ว) พอคุ้นเคยกับ แนวเสียงแล้ว จึงเริ่มฟังทดสอบจริงจัง ผมพบว่าลำโพง Verity Finn ไวต่อการจัดวางค่อนข้างมาก อาจจะเนื่องจากมันมี วูฟเฟอร์ที่ยิงออกมาทางด้านหลัง ทำให้ไม่ควรวางชิดผนัง หรือเข้ามุมห้องจนเกินไป ไม่เช่นนั้นเบสจะขุ่น ไม่กระชับแน่นๆ เป็นตัวๆ และในห้องขนาดเล็กประมาณ 4.5 x 6 เมตร ที่ผมใช้ ฟังทดสอบ ต้องโทอินลำโพงประมาณ 15 องศาเพื่อให้อิมเมจ ตรงกลางโฟกัสชัดเจน โดยที่ไม่เสียเความกว้างของเวทีไป ผนังห้องด้านข้างดูจะมีผลกับลำโพงคู่นี้ไม่มากครับ ผมวางมัน ห่างจากผนังห้องด้านข้างประมาณ 0.8 เมตรเท่านั้น ในการเซ็ตอัพเพื่อทดสอบครั้งน 

ผลการทดสอบในคาบแรกที่ใช้ Rotel 1520 Tinn บุคลิกเสียงโดยรวมของเสียงมีความโดดเด่นที่รายละเอียดอันพรั่งพรูทั้งเสียงเล็กเสียงน้อยต่างๆ หรือการเปลี่ยนแปลงไปของฮาร์โมนิกในลำดับก่อนหลัง เบสเด้งตัวมันหยดเวลาฟังเพลงเร็วๆ และใช้กีตาร์เบสจริงอย่างอัลบั้มของ The Eagle หรือ Queen 

เพลง Jazz ของสังกัด The Venus นี่ของชอบเลยครับ แหลมดีมาก ใสสะอาดมีประกายกังวาน ความดีของเสียงแหลมที่ Verity Finn ให้ออกมาไม่ใช่เสียงที่แหลมที่มันขึ้นได้สูงมาก หรือแค่ฮาร์โมนิกเพียงเท่านั้น แต่ที่เหนือชั้นกว่าลำโพงตั้งพื้นระดับกลางๆ หรือเริ่มต้น คือ มันให้เสียงที่ “น่าเชื่อ” ว่าคุณกำลังฟังเสียงของเครื่องดนตรีชนิดนั้นอยู่จริงๆ และหากเป็นอัลบั้มที่บันทึกมามีบรรยากาศของห้องอัด คุณก็จะรับรู้ออกมาจากลำโพงคู่นี้ด้วย

เสียงกลางเป็นอะไรที่ต่างไปจากตอนฟังกับ Accuphase อย่างชัดเจน กล่าวคือ… ตอนนั้นเสียงจะออกมาทางอิ่มอุ่น มีมวลหนักแน่น และมีปริมาณเสียงกลางต่ำค่อนข้างมาก แต่พอขับด้วย Tinn 1520 ปรากฏว่าแนวเสียงพลิกไปในแนวโปร่งสะอาด อิมเมจผุดขึ้นมาเป็นจุดๆ ค่อนข้างจะจริงจังมากในบางเพลงที่บันทึกมาจัดๆ กร้าวๆ ก็จะถ่ายทอดออกมาตามนั้นเลยครับ แต่ถ้าบันทึกมาหวานใสสะอาด เช่น อัลบั้มเพลงอภิรมย์ 1, 2 มันก็ให้ออกมาได้ตามนั้น เสียงร้องชัด โฟกัสเป๊ะๆ เลย สัดส่วนของความชัดกับความละมุนละไมผสมกันลงตัวพอดี ไม่เอาใจหูจนเลี่ยน ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ขี้ฟ้อง จู้จี้ จิกจิก จนฟังแล้วเครียด ข้อสำคัญคือ มันเป็นลำโพงที่แม่นยำกับจังหวะมาก ไม่เคยหลุดเลยสักนิด ขนาดผมเอาแอมป์ C-3 MM. ที่ว่าโหดมากมาลองขับเพื่อทดสอบเสียงเหยียบกระเดื่องกลองรัวๆ ปรากฏว่าลำโพงนิ่ง คุมจังหวะไว้ได้ทุกกรณี ไม่แสดงความผิดปกติใดๆ เสียงเบสหรือเสียงทุ้มของ Verity Finn นั้น ตอนแรกผมนึกว่ามันง่ายต่อการเซ็ตอัพ เพราะลองวางชิดผนังด้านหลังก็ไม่พบว่ามีอาการเบสล้นหรือเบสบวม เอาดิ!!! 

ลองเปิดฟังแผ่นลำนำน่าน คราวนี้รู้เลยว่าวางชิดผนังห้องมากไม่ค่อยดีครับ แม้เบสไม่บวม แต่ยามที่มันอัดออกมาแรงๆ จะกระทบต่อกลางแหลม ทำให้เสียงขุ่นครับ ต้องดึงลำโพงออกมาให้ห่างมากกว่า1 เมตรขึ้นไป คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเล่นลำโพง Verity คือ เซ็ตอัพเบสให้ได้ก่อนครับ เมื่อเบสลงตัวพอดี คือทิ้งตัวลงได้เต็มที่ และมีรายละเอียดหัวโน้ตแล้ว จึงค่อยไปขยับปรับระยะให้ได้เวทีเสียงโฟกัสกันอีกที

โอเคครับ สมมติว่าเซ็ตอัพลำโพงในตำแหน่งที่ถูกต้อง สมควรแล้ว Finn จะให้เบสที่สมตัว ไม่ใหญ่โตมโหฬารเกินกว่าความเป็นจริง ลีลาการเดินเบสของ Pink Floyd ในอัลบั้ม The Wall ฟังสนุกเมามันมาก เสียงฟาดสแนร์มีความสด และทรานเชี้ยนส์เป็นธรรมชาติ อิมแพ็คมีความฉับพลัน รวดเร็ว ลีลาจังหวะ การไล่โน้ตต่างๆ ไม่มีปัญหาลองเปลี่ยนเพลงไปฟังแจ๊สที่ใช้เครื่องเป่าอย่างแซ็กโซโฟนและคลาริเน็ต หูยยย… เสียงลมปากท่อที่พุ่งออกมานี่ใช่เลย มันเป็นลำโพงที่ให้เสียงประเภทนี้ได้ดีอย่างยิ่ง 

ผมทดสอบเสียงกลางย่านบนด้วยเพลงบรรเลงเครื่องสายประเภทเชมเบอร์มิวสิก ได้ความรู้สึกที่สวยงาม ละมุนละม่อม มีความกังวานรอบตัวโน้ต ทำให้ฟังแล้วชุ่มชื่นลื่นหูจริงๆ เสียงคันชักหรือซอฝรั่ง (ไวโอลิน) ที่บี้ผ่านสาย มีทั้งความหนักเบาพลิ้วไหว ไม่ใช่บางเป็นเส้นๆ เท่านั้น

อ่านกันมาถึงตรงนี้ คุณอาจจะคิดว่านายชุมพล ชมอย่างเดียวเลย มันไร้ซึ่งข้อเสียเลยเหรอไง? ก็จริงละครับ ถ้าคุณใช้แอมป์ดีๆ กำลังขับไม่เกิน 100 วัตต์มาขับลำโพงคู่นี้ที่ความดังปกติ ผมว่ามันแจ๋วจริง แต่พอย้ายมาใช้งานกับแอมป์ C-3 MM. คราวนี้ผมพบว่าVerity Finn แทบจะสำลัก เนื่องจากโดนแอมป

จัดหนักเกินไป ฟังไปแค่ 2 เพลงรู้เรื่องแล้ว โดยเฉพาะ Fusion Jazz ที่มีเบสหนักๆ หน่อย ไม่ไหวแล้วครับ แสดงว่าลำโพงคู่นี้ ไม่ชอบแอมป์วัตต์สูงมากเกินไป หรือแอมป์ที่จูนเสียงมาในบุคลิกที่ Forward โดยเฉพาะมันไม่ชอบเวลาที่โดนเปิดเสียง ดังมากๆ ฟังแล้วคุณจะรู้เลยว่าความเพี้ยนและมั่วซั่วนั้น เป็นอย่างไร แต่ที่ว่ามานี้ ผมไม่ถือว่าเป็นจุดอ่อนหรือข้อเสียของลำโพงนะครับ ต้องย้ำกันอีกทีว่าระหว่างลำโพงกับแอมป์ เปรียบเหมือนกับสามีและภรรยาซึ่งต้องมีความเข้ากันได้ดี หากจับคู่กันแล้วไม่ลงตัวก็ยากที่จะครองคู่อยู่กันไปได้ตลอดรอดฝั่ง ดังนั้น ในการเล่นเครื่องเสียง คุณต้องรู้และเข้าใจ ธรรมชาติของแอมป์และลำโพงที่จะนำมาใช้ร่วมกันว่ามันเข้ากันได้ไหม

ในคาบสุดท้ายของการทดสอบลำโพง Verity Finn ผมไปยืมอินทิเกรตแอมป์ Octave V70SE มาลองต่อฟังดู คราวนี้เห็นหน้าเห็นหลังกว่าตอนที่ขับด้วย 1520 Tinn เยอะเลย เวทีเสียงกว้างกว่าเสียงเบสเด้งตัวเป็นลูกใหญ่กว่าเดิม ผิวเสียงเกลี้ยงเกลาไร้สิวฝ้าราคี สเกลชิ้นดนตรีต่างๆ ดีขึ้นกว่าเดิม พอดีลดความสดดิบมานิดหน่อย 

สรุปผลการทดสอบ 

ลำโพง Verity Finn เป็นลำโพงที่ดี มันฟ้องคุณภาพของต้นทางออกมาได้อย่างชัดเจนว่าดีขนาดไหน บุคลิกเฉพาะตัว จะโดดเด่นไปที่ย่านกลางแหลมที่หวานใส มีเนื้อมวลเข้มข้น กำลังดี เบสสะอาด จังหวะจะโคนดี ไม่เน้นปริมาณหรือขนาดมากไปกว่าจังหวะอันถูกต้องและความเป็นธรรมชาติ เลือกสายเคเบิลที่เนื้อมวลหนาๆ เวทีเสียงดีๆ หน่อยมาเล่นกับมัน นี่อาจจะเป็นลำโพงที่คุณจบกับมันได้ครับ. ADP 

ราคา 280,000 บาท 
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย ไฮเอ็นด์ ออดิโอ 
โทร. 0-2101-1988, 0-2102-1168 

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 271