ชานนท์

คงไม่มีใครแย้ง หากบอกว่า “เสียงความถี่ต่ำ” มีส่วนช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับการดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่เล่นเกม คำกล่าวนี้ดูจะเด่นชัดขึ้น หากได้ “ลำโพงซับวูฟเฟอร์” คุณภาพดี ซึ่ง Velodyne เป็นอีกแบรนด์ที่มีศักยภาพส่งเสริมในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี !
.
ดังที่เกริ่นไปในรีวิว Velodyne Impact X12 ก่อนหน้านี้ว่า แบรนด์ผู้ผลิตลำโพงซับวูฟเฟอร์ในตำนานอย่าง Velodyne Acoustics ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 40 ปี (นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1983) ระยะเวลานานขนาดนี้ ไม่แปลกที่ระหว่างทางจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงให้บริษัทสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง

ปัจจุบันผู้ที่รับช่วงแบรนด์ Velodyne Acoustics ต่อจากผู้ก่อตั้ง ได้แก่ Audio Reference บริษัทจากประเทศเยอรมนี ซึ่งมิใช่อื่นไกล แต่เป็นคู่ค้าที่ใกล้ชิดกันมากว่า 20 ปี และมีประสบการณ์ในธุรกิจเครื่องเสียงอย่างยาวนาน… ผลของการเปลี่ยนแปลงนี้ หากสังเกตุที่ป้ายชื่อรุ่นของลำโพงซับวูฟเฟอร์ Velodyne รุ่นใหม่ ๆ เราจะเห็นประโยค Designed and Engineered In Germany กำกับอยู่ (แทนที่ USA)

ท่านใดที่อยากทราบรายละเอียดความเป็นมาของ Velodyne Acoustics เพิ่มเติม สามารถอ่านได้ตาม Link แนบครับ

กลับมาที่ลำโพงซับวูฟเฟอร์รุ่นใหม่ของ Velodyne ที่จะกล่าวถึงในรีวิวนี้กัน… Deep Waves นับเป็นหนึ่งในซีรี่ส์ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีการถ่ายทอดเสียงความถี่ต่ำน่าสนใจ โดยซีรี่ส์นี้จะมีให้เลือก 2 รุ่น 2 ขนาด ได้แก่ Deep Waves 10 และ Deep Waves 12 อิงตามขนาดตัวขับเสียง 10 และ 12 นิ้ว ตามลำดับ ซึ่งรีวิวนี้ จะโฟกัสที่รุ่น Deep Waves 10 ครับ

เทคนิคที่น่าสนใจของรุ่นนี้ ได้แก่ การติดตั้งตัวขับเสียง High-excursion double vented basket driver with Paper Composite Membrane and convex cone น้ำหนักเบา แต่ได้รับการขับเคลื่อนด้วย Dual Ferrite Magnet แรงสูง และ 4-Layer 2.5” Voice coil ขนาดใหญ่ ผสานกับ Passive Radiator ขนาดเดียวกัน 2 ชุด ขนาบซ้าย-ขวา ทำงานสอดประสาน พร้อมด้วยภาคขยายกำลังขับ 350 วัตต์ (600W Dynamic) ในรุ่น Deep Waves 10 และ 400 วัตต์ (800W Dynamic) ในรุ่น Deep Waves 12 เพื่อผลักดันเสียงความถี่ต่ำออกมาได้ทั้งลึก และเที่ยงตรง

ตู้ลำโพงประกอบขึ้นจาก MDF ความหนาถึง 22 มม. เพื่อความมั่นคงแข็งแรง ออกแบบให้เป็นตู้ปิด ภายนอกทำสีแบบ Flat Matte Black ให้ผิวสัมผัสเรียบลื่น ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย ด้านล่างมีขายางรองรับ 4 จุด

ช่องรับสัญญาณด้านหลัง ให้มาทั้ง Low Level Input/Output แบบ Unbalanced RCA (Stereo/LFE) และ Speaker Level Input แบบ Binding Post เอื้อกับการเชื่อมต่อใช้งานร่วมกับทั้งชุดดูหนัง และฟังเพลง

ช่อง USB Power มีไว้สำหรับใช้งานร่วมกับ WI Connect System II อุปกรณ์เสริมใช้รับสัญญาณเสียงแบบไร้สาย หากต้องการได้

ในส่วนการควบคุม สามารถปรับ Volume ชดเชยระดับเสียง, Low-pass Crossover ปรับจุดตัดความถี่เสียงตั้งแต่ 50Hz – 200Hz,  ชดเชย Phase (0°/180°) และ App DSP เปิด/ปิด การควบคุมผ่านแอพ Smartphones (จะกล่าวถึงต่อไป) ในส่วนของสวิตช์ Power Mode สามารถกำหนดให้ซับวูฟเฟอร์เปิดทำงานแบบอัตโนมัติ (Auto) เมื่อมีสัญญาณเสียงเข้ามา และเข้าสู่โหมด Standby เมื่อไม่ได้รับสัญญาณช่วงเวลาหนึ่ง

มีไฟ LED บ่งบอกสถานะ On – สีฟ้า, Standby – สีแดง

อุปกรณ์ในกล่องมี สายไฟ 3 เส้น (หัว 3 แบบ) และเอกสาร Quick Start Guide

iWoofer app: DSP and Remote Control for Subwoofer

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Deep Waves 10 คือ รองรับการปรับแต่งตั้งค่าเสียง และควบคุมการทำงานซับวูฟเฟอร์แบบไร้สายด้วยสมาร์ทโฟน ผ่านแอพที่มีชื่อว่า iWoofer สามารถติดตั้งใช้งานร่วมกับทั้งอุปกรณ์ iOS และ Android

วิธีการเชื่อมต่อ iWoofer กับลำโพงซับวูฟเฟอร์ หลังจากติดตั้งแอพแล้ว ขั้นแรก ที่แผงควบคุมด้านหลัง Deep Waves 10 สับสวิตช์ Power Mode และ App DSP ไปที่ตำแหน่ง On (สวิตช์ Power Mode สามารถเปลี่ยนเป็น Auto ในภายหลังได้)

จากนั้นที่สมาร์ทโฟน เปิดฟังก์ชั่น Bluetooth แล้วเปิดแอพ iWoofer ขึ้นมา จะเจอชื่อลำโพงซับวูฟเฟอร์ที่ใช้งานอยู่ (ชื่อจะแสดงเป็นรหัส UUID ประกอบไปด้วยอักษรและตัวเลขยาว ๆ) แตะที่ชื่อเพื่อทำการเชื่อมต่อ

เมื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับลำโพงซับวูฟเฟอร์สำเร็จ ระบบจะนำเข้าสู่หน้าหลักของ iWoofer app ซึ่งเราสามารถปรับแต่งตั้งค่าต่าง ๆ ของซับวูฟเฟอร์ ตั้งแต่การควบคุมพื้นฐาน ไปจนถึงไฟน์จูนเสียงโดยละเอียดจากตัวเลือกแอดวานซ์ได้ ซึ่งละเอียดกว่าการปรับที่แผงควบคุมด้านหลังลำโพง

ตัวอย่างเช่น ปรับดีเลย์และย่านความถี่เพื่อชดเชยเฟส หรือ กำหนด Target Curve และชดเชยแก้ไขผลกระทบจาก Room Mode ผ่านการไฟน์จูนจุดตัดความถี่เสียงทั้ง High-pass และ Low-pass Filter ร่วมกับ Parametric EQ ที่กำหนดได้อิสระถึง 25 จุด

เมื่อตั้งค่าเสร็จอย่าลืมกด Save เพื่อให้แอพส่งค่ากำหนดไปยังลำโพงซับวูฟเฟอร์

ผลการใช้งาน

อย่างที่เน้นย้ำทุกครั้งว่า การเพิ่มลำโพงซับวูฟเฟอร์เข้ามาในระบบจะให้เสียงได้ดีหรือไม่ สำคัญที่ “ความกลมกลืน” เดิมทีกับระบบโฮมเธียเตอร์จะมีฟีเจอร์ช่วยเหลือเพื่อใช้ชดเชยตั้งค่าเสียงของซับวูฟเฟอร์ คือ Bass Management อยู่แล้ว ทว่ากับซิสเต็มฟังเพลงมักไม่มีคุณสมบัตินี้ จึงต้องอาศัยปรับจูนเสียงแบบพื้นฐานที่แผงควบคุมด้านหลังของซับวูฟเฟอร์เท่านั้น ซึ่งอาจไม่เพียงพอหรือไม่สะดวกในบางสถานการณ์ กรณีนี้สำหรับ Deep Waves 10 ที่มี iWoofer app จึงเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้ได้ดีมาก ๆ

การกำหนด Low-pass และ High-pass Filter ได้อิสระ บวกกับการปรับดีเลย์เพื่อชดเชยเฟสโดยละเอียด พ่วงด้วยการตั้งค่าอื่น ๆ ที่ซับวูฟเฟอร์โดยตรง เพิ่มโอกาสให้ได้เสียงความถี่ต่ำที่ต่อเนื่องกลมกลืนเข้ากับลำโพงหลักได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมอื่นใด แนวทางนี้น่าจะตอบโจทย์สายออดิโอไฟล์ ที่ไม่อยากให้มีวงจร DSP หรือ Room EQ คั่นกลางที่ Front-end หรือ Preamplifier

แต่จุดที่ต้องคำนึง คือ การกำหนดค่าแบบแมนนวล 100% จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจ จึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีดังหวังครับ

พูดถึงคาแรคเตอร์เสียงของ Deep Waves 10 ต้องบอกว่าเป็นซับวูฟเฟอร์ที่ให้อิมแพ็คแรงปะทะเหมือนซับวูฟเฟอร์ตู้เปิด ทว่าก็ได้ความลุ่มลึกเหมือนตู้ปิด ทดสอบกับภาพยนตร์ Prey (Dolby Atmos) เสียงคำรามบนท้องฟ้าในฉากที่ยานของ Predator ลงมาที่โลกใช้ยืนยันความหนักแน่นของเสียงเอฟเฟ็กต์ความถี่ต่ำลึก ไปจนถึงเสียงกระทบของเสียงอาวุธและวัตถุต่าง ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความรุนแรง เติมเต็มอารมณ์ร่วมในการรับชมได้เป็นอย่างมาก

การฟังเพลงก็ทำได้โดดเด่นไม่แพ้กัน กับเพลง Long Deep Kisses จาก Soul Ballet มวลเสียงความถี่ต่ำจากลำโพงวางหิ้ง หรือลำโพงตั้งพื้นขนาดเล็กหลายรุ่น อาจยังให้ได้ไม่เต็มที่ ในจุดนี้ Deep Waves 10 ได้ทั้งความลึก กระชับ และแรงปะทะ ช่วยส่งเสริมอรรถรสได้เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นดังที่กล่าวไปว่า คุณสมบัติที่เอื้อต่อการไฟน์จูนเสียงของลำโพงซับวูฟเฟอร์ คือ ส่วนสำคัญของ Deep Waves 10 ที่ทำได้อย่างโดดเด่น จุดนี้เองที่ทำให้เข้ามาเติมเต็มย่านเสียงความถี่ต่ำในระบบ ทั้งการฟังเพลงและรับชมภาพยนตร์ได้โดยสมบูรณ์

Deep Waves 10 เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ที่ดีว่า ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงจากการที่ Audio Reference เข้ามารับช่วงแบรนด์ Velodyne จากผู้ก่อตั้ง ทว่าก็ยังคงยึดมั่นแนวทางเดิม คือ โฟกัสพัฒนาลำโพงซับวูฟเฟอร์โดยเฉพาะ จากการนำสิทธิบัตรเทคโนโลยีการออกแบบต่าง ๆ ที่ได้รับมา พร้อมกับความรู้และความเชี่ยวชาญของทีมวิจัยพัฒนามาต่อยอด เพื่อเป้าหมายการถ่ายทอดคุณภาพเสียงความถี่ต่ำที่ดี ตามแบบฉบับของ Velodyne… ถ้าหากต้องการลำโพงซับวูฟเฟอร์คุณภาพดี ยี่ห้อนี้ไม่ทำให้ผิดหวังครับ. VDP

ราคา 68,000 บาท

สอบถามเพิ่มเติม
Inventive AV
โทร: 02-238-4078-9