UNISON RESEARCH TRIODE 25
นักเขียน : ธีรวัฒน์ โชติสุต :
หลังจากที่ผมได้ทดสอบอินทิเกรตแอมป์หลอด Unison Research: Simply Italy ก็ได้มีนักเล่นให้ความสนใจกันมาก อย่างไรก็ตาม ผมก็ถูกสอบถามบ่อยๆ ว่า หากจะขยับงบขึ้นมาเล่น Unison Research: Triode25 จะคุ้มค่าเงินหรือไม่ และคุณภาพเสียงจะดีกว่ารุ่น Simply Italy ในแง่ไหนบ้าง
ณ ตอนนั้น ผมเลี่ยงตอบคำถามนี้ เพราะยังไม่เคยมีโอกาสลองฟังเป็นเรื่องราว แต่เห็นทีว่าบททดสอบนี้คงตอบได้กระจ่างชัดแล้วล่ะครับ
Unison Research: Triode 25 ไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่ใหญ่กว่าSimply Italy มากนัก กล่าวคือ Triode 25 กว้างกว่าSimply Italy 4 ซม. ลึกกว่า10 ซม. และน้ำหนักมากกว่า5 กก. ใช้หลอด EL34 ทั้งหมด 4 หลอด แบ่งเป็น 2 หลอดต่อข้าง ส่งผลให้พละกำลังเพิ่มขึ้น 25 วัตต์ ในโหมด Triode และ 45 วัตต์ ในโหมด Pentrode ต่างจาก Simply Italy ที่มีกำลังขับเพียง 12 วัตต์ เนื่องจากว่าSimply Italy ใช้หลอด EL34 จำนวน 1 หลอดต่อข้าง แต่ออกแบบการทำงานแบบ Single Ended, Class A ส่วน Triode 25 ทำงานแบบพุชพูล
มุมมองจากด้านบนจะเห็นปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆอาทิ ปุ่มปรับไบอัสหลอด, สวิตช์เลือกฟีดแบ็ก และสวิตช์เลือกโหมดการทำงาน
ในแง่ความหวาน นักเล่นบางท่านคงคิดว่าSimply Italy น่าจะฟังหวานกว่าไพเราะมากกว่าสิ ผมยังไม่ตอบคำถามนี้ แต่เดี๋ยวก็จะได้ทราบกันครับ
จำนวนอินพุตระหว่าง Simply Italy และ Triode 25 ไม่ได้แตกต่างกันเลย คือมี 4 อินพุตเช่นเดิม และ 2 เอาต์พุต สำหรับ Sub out และ Tape out แต่ที่พิเศษกว่าก็คือ Triode 25 เผื่อช่องสำหรับต่อ USB Input ไว้ให้ใช้งานด้วย แต่เป็นออปชั่นเพิ่มเติม หากต้องการก็จะต้องสั่งซื้อเพิ่ม
ขั้วต่อสายลำโพงของแอมป์หลอดส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้ขนาดใหญ่นัก มีนักเล่นเคยถามผมว่าทำไมไม่ทำให้ใหญ่ดูแข็งแรงเหมือนแอมป์โซลิดสเตทไฮเอ็นด์หลายๆ ยี่ห้อทำกัน ตรงนี้… ต้องขอทำความเข้าใจซ้ำอีกสักครั้งว่าแอมป์หลอดไม่ได้ต้องการใช้สายลำโพงขนาดใหญ่ๆ เลยนะครับ จริงๆ ไม่ควรเกิน 2.5 sq.mm เสียด้วยซ้ำ หรือเต็มที่เลย ผมให้ไม่เกิน 4 sq.mm เราจะได้คุณภาพความหวานและเสน่ห์ของหลอดอย่างแท้จริง ผมเห็นนักเล่นส่วนใหญ่ชอบใช้สายลำโพงขนาดใหญ่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความเคยชินจากแอมป์โซลิดสเตทที่ต้องใช้สายลำโพงขนาดใหญ่หรือเปล่า
ฉะนั้น กับแอมป์หลอด ผมย้ำเสมอ อย่าไปคิดว่าสายลำโพงแพงกว่าเส้นใหญ่กว่าจะให้เสียงที่ดีกว่าสายลำโพงที่ถูกกว่าและมีขนาดเล็กกว่านะครับ ถ้ากล้าเปลี่ยนก็จะเห็นถึงความแตกต่าง
Unison Research: Triode 25 มีฟังก์ชั่นปรับไบอัสของหลอดมาให้ด้วย ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากแต่อย่างไร แค่เลื่อนสวิตช์โยกซ้ายหรือขวาเพื่อเลือกว่าจะปรับหลอดด้านไหน และดูเข็มจากมิเตอร์ว่าเอียงไปทางด้านซ้ายหรือขวาแล้วค่อยหมุนให้เข็มมาอยู่ตรงกลางมิเตอร์ก็ถือว่าเรียบร้อยแล้วครับ
ส่วนฟังก์ชั่นปรับ Feedback Control มีให้เลือก 2 แบบ คือ “Low” กับ “High” ถ้าLow ก็หมายถึง 1.8dB และถ้าปรับเป็น High ก็เท่ากับ 5dB การเลือกโหมดการทำงานมีสวิตช์เลือกระหว่าง “Pentrode” และ “Triode”
ขั้วต่อสายลำโพงของ Triode 25 มีมาให้ชุดเดียว อิมพีแดนซ์ปกติ 6 โอห์ม แต่สามารถเล่นคู่กับลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์ปกติ 4 โอห์ม และอิมพีแดนซ์ปกติ 8 โอห์ม โดยไม่มีปัญหาเรื่อง mismatch แต่อย่างไร
เซ็ตอัพ
เรื่องการเซ็ตอัพ จริงๆ ก็แทบไม่ได้แตกต่างจากที่เคยทำเป็นประจำ และก็ไม่ได้แตกต่างจากที่เคยทดสอบ Unison Research: Simply Italy ก่อนหน้านี้ คือใช้สายลำโพงทองแดงฝอยขนาดหน้าตัด 2.5 sq.mm ส่วนสายไฟเอซีก็ใช้สายไฟทองแดงอ่อนขนาดหน้าตัด 6 sq.mm ไม่ได้ใช้สายไฟแบบ stranded
สายลำโพงสำหรับแอมป์หลอด ผมไม่นิยมใช้สายแบบสาย Stranded หรือ สายแกนเดี่ยว สำหรับการเล่นเครื่องเสียงที่ผ่านมาโดยตลอด ผมใช้สายลำโพงแบบทองแดงฝอยกับแอมป์หลอดเสมอ
ลำโพงที่ใช้ในการทดสอบ ผมใช้ Totem Sky เป็นหลัก อาจจะสลับกับ Quad 22L บ้าง แต่เกินกว่า60% ฟังจาก Totem Sky ตอนที่ผมทำสอบ Totem Sky นั้น ถึงแม้ขับง่ายกว่าTotem Model I แต่ถ้าต้องการให้เสียงออกมาดี กำลังขับของแอมป์ก็ต้องถึง และมีคุณภาพที่ดีเช่นกัน นั่นคืออีกเหตุผลหนึ่งที่ผมขอยืม Triode 25 มาเพื่อจะใช้ขับ Totem Sky นั่นเอง
แม้ลำโพง Totem Sky จะเลือกแอมป์อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Triode 25 เพราะสามารถเลือกการทำงานได้ถึง 4 แบบ คือ โหมดกำลังขับสามารถเลือกได้ทั้ง Pentrode หรือ Triode และสามารถเลือก Feedback Control ได้อีก 2 ค่าคือ High (5dB) และ Low (1.8dB)
ไม่ต้องพะวงว่าจะต้องเล่นกับลำโพงความไวสูงๆ เพียงอย่างเดียวจึงจะให้เสียงออกมาดี จะเป็นลำโพงอะไรก็ได้
การเลือกการทำงานระหว่าง Pentrode หรือ Triode บางครั้งก็ขึ้นกับลำโพง และความชอบของแต่ละท่านด้วย ว่าชอบเสียงแบบไหน หากลำโพงค่อนข้างขับยาก หรือต้องการกำลังขับจากแอมป์มากขึ้น ก็ลองเลือกปรับโหมดการทำงานมาเป็นแบบ Pentrode หากลำโพงไม่ได้ต้องการกำลังขับจากแอมป์เยอะ ก็เลือกการทำงานเป็นโหมด Triode แทน
ในการควบคุมการทำงานของลำโพง หากต้องการให้แอมป์ควบคุมการทำงานของลำโพงให้ดีขึ้นก็เลือก Feedback Control เป็นแบบ High (5dB) หรือ Low (1.8dB) แต่เนื่องจากลำโพงแต่ละคู่ไม่เหมือนกัน แนะนำว่าควรลองเลือกปรับ แล้วฟังเอาว่าชอบอย่างไหนมากที่สุดสำหรับการทดสอบในครั้งนี้ที่ใช้ Totem Sky เป็นส่วนใหญ่นั้น ผมตั้งโหมดการทำงานเป็นแบบ Triode และปรับโหมด Feedback Control แค่ระดับ Low ตรงนี้ก็ให้เสียงที่น่าพอใจแล้ว ในโหมด Pentrode ความโปร่ง รายละเอียดและความไพเราะสู้โหมด Triode ไม่ได้เลย อีกทั้งเรนจ์เสียงโหมด Triode ก็กว้างกว่าและไม่ได้รู้สึกอึดอัดเหมือนโหมด Pentrode เลย ส่วน Feedback Control เมื่อปรับเป็น High (5dB) รู้สึกได้ว่ากรวยลำโพงจะเก็บตัวเร็วไปสักหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมนะครับ ว่าลำโพงแต่ละคู่ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นต้องลองปรับ แล้วลองฟังเสียงเทียบกันดูด้วย
คุณภาพเสียง
ช่วงที่ทดสอบลำโพง Totem Sky ผมเคยบอกไว้ว่าUnison Research Triode 25 กับลำโพง Totem Sky นั้น เข้าคู่กันดีมากเลยแทบไม่น่าเชื่อว่าแอมป์จากอิตาลีจะขับลำโพงแคนาดาออกมาได้ดีมากๆ เช่นนี้
ถ้าถามถึงเรื่องเสียงของอินทิเกรตแอมป์ Unison Research: Simply Italy กับ Triode 25 ว่าแตกต่างกันเยอะไหม ต้องขอบอกว่าแตกต่างกันพอควรทีเดียว หากชอบเสียงแบบ Single Ended Class A ก็ควรหันไปคบหากับ Simply Italy แต่ถ้าต้องการกำลังขับมากขึ้น ขับลำโพงได้หลากหลายกว่าเพิ่มเงินไปเล่น Triode 25 ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าอย่างไรก็ตาม หากตัดคำว่าSingle Ended Class A และ Push-pull ทิ้งไป แล้วลองฟังเพลงเปรียบเทียบกัน ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่จิ้มไปที่ Triode 25 แน่ๆ
อัลบั้มของ Linda Ronstadt (with Nelson Riddle and His Orchestra) / For Sentimental Reasons ชุดที่ขึ้นชื่อค่อนข้างมากของ Linda Ronstadt (รวมถึง Lush Life ด้วย แฟนคลับของ Linda Ronstadt ก็ควรมี 2 ชุดนี้เก็บไว้ในคอลเล็กชั่นเป็นอย่างน้อย ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแฟนคลับตัวจริง)
เปิดมาแทร็กแรก “When You Wish Upon Star” คุณภาพเสียงที่ได้ยินจาก Unison Research: Triode 25 ให้บรรยากาศที่น่าฟังมากๆ เสียงใส โปร่ง รายละเอียดของเสียงต่างๆ ชัดเจนดีมากทีเดียว จังหวะลงตัวและแม่นยำ ไม่ได้ดีเลย์ในจังหวะจนรู้สึกเนิบๆ ช้าลงไปอีก เสียงร้องของ Linda Ronstadt ใสเป็นประกาย ไดนามมิกและเรนจ์เสียงกว้าง ช่วงที่ร้องไต่เสียง โหนเสียงร้องขึ้นไป รักษารายละเอียดและความคมชัดออกมาได้ดีมากๆ ทีเดียว
ต่อมาในเพลงที่สอง Bewitched, Bothered & Bewildered เสียงเปียโนตอนต้นเพลงที่เคาะคีย์เบาๆ ความกังวานของเสียงและน้ำหนัก ณ ตรงนี้ Triode25 ทำได้ดีเลย เพราะก่อนหน้านี้หลายครั้งหรือเมื่อเทียบกับเสียงจาก Simply Italy ก็ตาม เสียงจะออกนุ่มกว่าหน่อยหนึ่ง มวลก้อนเนื้อเสียงฟังแล้วยังน้อยกว่าด้วย ฉะนั้น ในความรู้สึกของผมที่ได้ยินบอกได้เลยว่าความกังวานของเสียงเปียโนตรงนี้ Triode 25 ทำได้ใสและกระจ่างมากกว่าบรรยากาศของเสียงภายในตัวเปียโน Triode 25 เก็บรายละเอียดของเสียงถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก เสียงร้องของ Linda ยิ่งตอกย้ำในคุณภาพเสียงขึ้นไปอีก ทั้งในเรื่องความฉ่ำของเสียง ความต่อเนื่อง ช่วงเสียงแอดลิบ เสียงลม Triode 25 ถ่ายทอดออกมาได้ยอดเยี่ยมจริงๆ
ในเรื่องเสียงร้องของ Linda หลายครั้งที่ฟังชุดนี้ ผมชอบเสียงร้องของ Linda เมื่อเล่นกับแอมป์หลอดเสมอๆ จังหวะและช่วงที่ Linda โชว์เสียงเรื่องลูกเอื้อน ลูกคอ ถือว่าสุดยอดมาก เพราะเสียง ณ ตรงนี้ ไม่ได้มีโทนเดียวและคีย์เสียงเดียว การสั่นของเส้นเสียงตรงนี้มีรายละเอียดที่ทำให้เกิดความไพเราะในเสียงร้อง ทำให้รับรู้ได้ถึงศักยภาพความเก่งกาจของนักร้อง และ Triode 25 ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆ
เรื่องนี้มองได้ 3 อย่างด้วยกัน
อย่างแรกก็คือ เกนเสียงของ Triode 25 ค่อนข้างต่ำ คือต้องบิดระดับความดังของโวลุ่มออกมาเยอะหน่อยจึงจะได้ระดับความดังที่ฟังแบบปกติ แตกต่างจากอินทิเกรตแอมป์หลอดบางยี่ห้อ หากเปิดหน่อยเดียว แล้วเสียงดังออกมาค่อนข้างมาก ไดนามิกและรายละเอียดของเสียงบางอย่างย่อมสู้อินทิเกรตแอมป์หลอดที่มีเกนขยายต่ำกว่าไม่ได้
อย่างที่สองก็คือ โครงสร้างบางอย่างของหลอดให้ออกมาดีกว่าแอมป์โซลิดสเตท เปรียบเทียบกับ Simply Italy แล้วเหมือน Simply Italy เสียงหวานกว่าแต่เนื้อเสียงบางกว่าและความเนียนของเสียงนั้น ผมยกให้ Trode 25 มีภาษีที่เหนือกว่าด้วยกำลังขับที่สูงกว่าเสียงฟังดูอบอุ่นและเนียนกว่า
อย่างที่สามก็คือ เรื่องของแม็ตซิ่งซิสเต็ม เพราะก่อนหน้านี้ แทร็กเดียวกัน เมื่อลองนำ Triode 25 ไปขับลำโพง Heco: Direkt Dreiklang เสียงฟังดูอึดอัดไปหน่อย Heco เมื่อขับด้วยอินทิเกรตแอมป์ Simply Italy เสียงน่าฟังกว่าเยอะ แต่พอเปลี่ยนลำโพงจาก Heco มาเป็น Totem Sky เสียงแตกต่างกันคนละเรื่องเลย
Triode 25 แตกต่างจากอินทิเกรตแอมป์หลอดอื่นๆ ทั่วไป คือ ไม่ต้องกังวลว่าต้องหาลำโพงความไวสูงๆ เท่านั้น ไม่งั้นเสียงจะออกเนือยๆเนิบๆ ช้าๆ ซึ่งครั้งที่ผมทดสอบ Simply Italy ผมได้บอกว่าอินทิเกรตแอมป์รุ่นใหม่ๆ ของ Unison Research มีทั้งความหวานและพละกำลัง แต่เมื่อได้ลองฟัง Triode 25 ในเรื่องของพละกำลัง บอกได้เลยครับ มีให้ออกมาได้อย่างเหลือเฟือมากๆ เอาเป็นว่าหากสามารถขับลำโพง Totem Sky แล้วให้เสียงออกมาดีมากๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะขับลำโพงคู่อื่นๆ ไม่ได้ก็แล้วกัน
เมื่อพูดถึงพละกำลัง เชื่อว่านักเล่นหลายท่านก็คงกังวลว่าแล้วเสน่ห์ความหวานจากหลอดล่ะ จะหายไปด้วยหรือเปล่าถ้าบอกว่าเสน่ห์ความหวานของหลอดไม่ได้จางหายไปไหน แต่จะเทียบเรื่องความหวาน จะให้เทียบกับอะไร?
ให้ง่ายที่สุด ก็คงเทียบกับหวานจากยี่ห้อเดียวกัน คือ Simply Italy ต้องขอบอกว่าหากชอบฟังเพลงร้องช้าๆ ไม่ได้ต้องการอะไรหวือหวาไม่ได้เน้นเบส ไม่ได้เน้นกำลัง ก็หันไปคบ Simply Italy ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแต่หากจะลดความหวานลงมาหน่อย แต่ไม่ได้ฟังแล้วรู้สึกเหมือนขาด ในเสียงร้องยังมีความฉ่ำอยู่ แต่มีพละกำลังมากยิ่งขึ้น ก็หันมาคบ Triode 25 แทน และตลอดย่านความถี่เสียงสูงจะไม่มีลักษณะเนื้อเสียงที่หยาบกระด้างเลย และจะได้เนื้อเสียงที่ดีและลื่นต่อเนื่อง ตอบสนองความถี่เสียงได้อย่างราบลื่นในทุกย่านความถี่เสียง
เพลง Blind-Hearted / Sara K & Chris Jones, จับมวลเสียงกีต้าร์ตอนเริ่มต้นเพลง เปรียบเทียบรายละเอียดเสียงต้นเพลง เสียงกีต้าร์มวลเสียงใหญ่แน่นและเข้มข้นกว่าSimply Italy ชัดเจน เสียงขวด เสียงคนพูด และเสียงหัวเราะเล็กน้อย ตอนต้นเพลง Triode 25 ได้ยินชัดเจนมากเมื่อตอนที่ฟัง Simply Italy ยังไม่ได้ยินชัดเจนมากนัก แต่เมื่อมาลองฟัง Triode 25 สามารถขับรายละเอียดของเสียงออกมาได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ไดนามิก มวลเสียงของกีตาร์ ทั้งมวลและบรรยากาศนั้น Triode 25 ให้ออกมาไม่ได้แตกต่างจากแอมป์โซลิดสเตทเลย ก่อนหน้านี้ใครที่เคยบ่นว่าแอมป์หลอดให้เสียงใหญ่ อวบ จริง แต่นุ่ม คิดว่าคงไม่ใช่แล้วล่ะ สเกลเสียงนั้น Triode 25 ให้ออกมาใหญ่มาก กว้างและลึกด้วยเช่นกัน เสียงร้องของ Sara K ให้ไดนามิกของเสียงออกมาดี ยิ่งเป็นช่วงกลางๆ ที่โชว์กีตาร์ของ Chris Jones สุดยอดมาก จังหวะกระชับไม่ยืดยาด ไม่เร็วเกินไป จังหวะเป๊ะดีมากๆ เสียงกีตาร์ให้ออกมาครบถ้วนสมบูรณ์ดีมากทีเดียว ไม่ได้รู้สึกว่าขาด หรือต้องการให้เติมอะไรเพิ่มเลยแม้แต่น้อย
เพลง Home จากการแสดงคอนเสิร์ตของ Michael Bubble’ & Blake Sheton จากชุด Hit Man David Foster & Friends เสียงกลองกระจ่างชัด ไม่ทึบ มวลเสียงของกระเดื่องกลองให้เสียงใหญ่กว่าเสียงกลองแต๊ก มวลเสียงใหญ่และเนื้อเสียงที่แน่น เสียงกลองได้ยินออกมาชัดเจนและตอบสนองได้อย่างฉับไว เสียงร้องของ Michael และ Blake ก็ให้ความแตกต่างออกมาได้ชัดเจน เสียงของ Michael ค่อนข้างไปทางโรแมนติก แต่เสียงของ Blake ให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่น เป็นเรื่องของอารมณ์เพลงที่ Triode 25 ถ่ายทอดออกมารายละเอียดเสียงของเครื่องดนตรีต่างๆ ก็ให้ออกมาได้อย่างครบถ้วน ไม่ได้รู้สึกว่ามีเสียงหนึ่งเสียงใดขาดหายไป เป็นแผ่นบันทึกการแสดงสดที่ผมชอบมากๆ จึงคุ้นเคยในคุณภาพเสียงเป็นอย่างดี
ผมชอบในเรื่องจังหวะและเนื้อเสียงของความถี่ต่ำๆ ผมรู้สึกว่าTriode 25 ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ หากเทียบกับอินทิเกรตแอมป์โซลิดสเตทที่ราคาขายเท่าๆ กัน ผมไม่แน่ใจว่าจะมีอินทิเกรตแอมป์โซลิดสเตทตัวไหนให้เสียงออกมาดีกว่าTriode 25 ในเรื่องของมวลเสียงต่ำและพละกำลังของเบส คิดว่าเผลอๆ Triode 25 เหนือกว่าแน่ๆ ยิ่งความน่าฟังในเรื่องเสียงร้องและความใสกระจ่างของย่านความถี่สูง อินทิเกรตแอมป์โซลิดสเตทในระดับแสนหายากที่จะมาสร้างความแตกต่างและให้เสียงที่เหนือกว่าTriode 25 ณ ตอนนี้เอาเป็นว่าผมยังมองไม่เห็นก็แล้วกัน
Hope / Hugh Masekela เพลง Nomali สำหรับชุดนี้ นักเล่นหลายท่านมักจะกล่าวถึงเพลง Stimela เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ผมชอบเพลง Nomali มากกว่าเพราะเวลาทดสอบเสียงแล้วโชว์กึ๋นของเสียงที่เราได้ยินจากอุปกรณ์ที่กำลังทดสอบได้ดีกว่าเสียงไม่ได้โครมครามมากเกินไป ทุกอย่างมีครบในเพลงนี้ ทั้งแมคโคร-ไมโครไดนามิก การแยกแยะเสียง สปีดความฉับไว ความนุ่มของหัวเสียงต่างๆ เวลาดนตรีหลายๆ ชิ้นขึ้นมาพร้อมๆ กันยังคงควบคุมทั้งในเรื่องราย-ละเอียดและไดนามิกได้ดีหรือเปล่าการควบคุม ความกว้างลึกของเวทีเสียง และความแม่นยำโฟกัสในเครื่องดนตรีต่างๆ เป็นอย่างไร
ในแง่คุณภาพการตอบสนองความถี่กลางต่ำ ผมรู้สึกว่ากำลังฟังเสียงจากอินทิเกรตแอมป์ราคาหลายๆ แสนอยู่ ชอบตรงการตอบสนองไดนามิกของเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ไม่ได้อ่อนแรงอ่อนล้าลงไปเลย ยังคุมการตอบสนองในเรื่องน้ำหนักและไดนามิกออกมาดีมาก สเกลเสียงของเครื่องดนตรีต่างๆ รับรู้ถึงความแตกต่างได้ดี เรนจ์เสียงกว้างขวาง เสียงเครื่องเป่าก็ให้มวลบรรยากาศออกมาดีมาก ย่านความถี่เสียงสูงใสกระจ่าง กังวาน ยิ่งเป็นเรื่องไดนามิกและความกังวานของเสียเปียโนนี่ ถือว่าสุดยอดมาก
ส่วนหนึ่งกว่า50% เกิดจากภาคเอาต์พุตทรานสฟอร์เมอร์ของ Triode 25 ซึ่งมีคุณภาพที่สูงมาก และเมื่อเปิดเสียงดังมากขึ้น ไม่มีเสียงที่หยาบกร้านออกมาเลย ต่างจากอินทิเกรตแอมป์บางตัวที่เวลาเปิดดังแล้ว เสียงจะแผด และให้เนื้อเสียงที่หยาบสักหน่อย แต่เรื่องนี้ผมกลับไม่เจอในตัว Triode 25 แม้แต่น้อย ถือว่าเป็นอินทิเกรตแอมป์หลอดที่สร้างความประทับใจไว้อย่างมากทีเดียว
บทสรุป
จากคำถามที่เคยได้รับ หากจะขยับจาก Unison Research: Simply Italy ไปเล่น Triode 25 ดีกว่าหรือเปล่าผมเชียร์ให้ขยับไปเล่น Triode 25 โดยไม่ต้องลังเลเลย หากงบไม่ใช่ประเด็น
Triode 25 ได้ลบประเด็นต่างๆ ของแอมป์หลอดไปโดยสิ้นเชิง คือไม่ต้องพะวงว่าจะต้องเล่นกับลำโพงความไวสูงๆ เพียงอย่างเดียวจึงจะให้เสียงออกมาดี จะเป็นลำโพงอะไรก็ได้ การเลือกเล่นกับลำโพงความไวสูงสำหรับ Triode25 นั้น ไม่จำเป็นเลย
Triode 25 ให้พละกำลังของย่านความถี่เสียงต่ำได้อย่างยอดเยี่ยมมาก เสียงกลางฉ่ำ และให้เสียงที่ไพเราะน่าฟัง เสียงย่านความถี่สูงใส กระจ่าง พลิ้ว กังวานดีมากทีเดียว เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ครบเครื่องในทุกด้าน จะบู๊ก็ถนัด จะเอาบุ๋นก็ชำนาญ
Triode25 ถือเป็นอินทิเกรตแอมป์หลอดที่โชว์ศักยภาพออกมาได้อย่างครบถ้วน และเป็น Default Choice ที่แนะนำให้เล่นได้อย่างเต็มปากเต็มคำ… และหลังจากนี้ สำหรับผมสงสัยต้องขอราคาหลังไมค์แล้วเช่นกัน. ADP
นิตยสารAudiophile Videophile ฉบับที่ 249
No Comments