อีกหนึ่งผลงานสร้างของ Tombo หรือ Kstudio ของเฮียฉ่างเจ้าของโลโก้หมวกพ่อมด ที่นักเล่นเครื่องเสียงรู้จักกันดีนั่นเองครับ กว่าทศวรรษที่เฮียฉ่างผลิตอุปกรณ์เสริมประเภทใช้รองใต้เครื่อง ไม่ว่า Footer, Spike หรือ จานรอง Spike ประเภทต่างๆ ผมว่าเรื่อง Know How หรือประสบการณ์นี้ เชื่อถือได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของแกต้องใช้ดี ไม่เช่นนั้นคงไม่อยู่มาได้นานจนปัจจุบันนี้

Magic Spike 5 นับเป็นอุปกรณ์เสริมประเภทเดือยแหลมรองเครื่องเสียงของ Tombo Audio Products ที่ออกมาเป็นรุ่นที่ 5 แล้ว และเป็นรุ่นที่ผมชอบอกชอบใจในประสิทธิภาพน้ำเสียงมากที่สุด จึงได้เลือกมารีวิวก่อนรุ่นอื่นๆ

ก่อนจะบรรยายถึงรูปร่างหน้าหน้าตา การออกแบบของ Magic Spike 5 ผมขออธิบายถึงหน้าที่ของ Spike หรือ เดือยแหลมทั่ว ๆ ไปเสียก่อน โดยมากเราจะพบเห็น Spike ที่ว่านี้ในขาตั้งลำโพง หรือชั้นวางเครื่องเสียง หน้าที่ของมันคือ จิกลึกลงไปในพื้นเพื่อให้ลำโพงหรือเครื่องเสียงที่รองใต้ด้วย Spike ยืนอยู่ได้นิ่งไม่โยกคลอน เวลาที่มันทำงานและเกิดการสั่น

หน้าที่ประการที่สองของ Spike ที่สำคัญมาก คือ… การ Isolate หรือ กักกั้นเครื่องเสียงหรือลำโพงจากแรงสั่นสะเทือนภายนอกไม่ให้ไปทำอะไรได้ เพราะลักษณะปลายแหลมของมันนั่นเองที่ทำให้แรงสั่นภายนอกไม่สามารถวิ่งย้อนกลับขึ้นไปส่งผลกระทบต่อลำโพงหรือเครื่องได้ ทำให้เราได้ยินเสียงที่นิ่ง อิมเมจมั่นคง เวทีเสียงไม่วูบวาบ วัสดุที่นิยมนำมาใช้ทำ Spike ส่วนมากเป็นเหล็ก ไม่ก็เป็นโลหะผสม (Alloy) ที่มีความแข็งแกร่งมาก

สำหรับ Khunpol Magic Spike 5 เฮียฉ่างบอกว่าได้แนวคิดของ Horn Load ในลำโพงมาทำงานร่วมกับสไปก์เพื่อระบายแรงสั่นออกไปได้อย่างรวดเร็ว และไม่ให้ย้อนกลับเข้ามากระทำต่อเครื่องเสียงได้ วัสดุที่ใช้เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยเกรดสูง ปลายแหลมทำจากสแตนเลสสตีลหมุนปรับระดับสูงต่ำได้ ที่ด้านบนของ Magic Spike 5 มีแหวนยางใส่ไว้เพื่อทำหน้าที่ยึดเกาะกับแท่นเครื่องที่นำไปรองใต้ ทำให้ไม่เลื่อนไถลเวลาที่ใช้งาน อีกทั้งยังเป็นการปรับจูน resonance ไปด้วย

ที่ผมอยากกล่าวถึงคือ ด้านในบอดี้ของ Magic Spice 5 ใส่ลูกปืน (Ball bearing) เอาไว้ 4 ลูก เป็นลูกเหล็ก 2 ลูก และลูกบอลเซรามิคอีก 2 ลูก การทำงานของลูกปืนเล็ก ๆ นี้จะช่วยทำการ isolate แรงสั่นออกไปในระดับหนึ่ง และปล่อยออกไปทางช่องด้านล่างที่มีลักษณะเหมือนปากแตร (horn load) นั่นเป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกในโลกที่มีการนำหลักการมาผสมกันในลักษณะนี้

การผสมกันระหว่างลูกปืนเหล็กกับลูกปืนเซรามิค ซึ่งมี resonance ต่างกัน ทำให้ได้ผลทางเสียงที่ลงตัวกลมกลืน สมดุลเสียงไม่เว้า ๆ แหว่ง ๆ กล่าวคือ… ถ้าใช้เซรามิคทั้งหมด เสียงจะกลมๆ อิ่มเนื้อ แต่ตัวโน้ตจะขาดความคม ปลายหางเสียงแหลมไม่ดี หรือถ้าใช้ลูกปืนเหล็กทั้งหมด เบสจะนำหน้ามาก่อนเพื่อนเลย ในขณะที่เสียงกลางจะกระชับ รูปทรงค่อนข้างผอม แหลมจะเฟี้ยวฟ้าวติดกระด้างนิด ๆ ทางที่ดีคือต้องใช้ผสมกันครับ จะเป็น 2:2 / 3:1 แล้วแต่เชมเบอร์ที่ใส่มันเข้าไปว่ามีความแข็ง และ resonance ในลักษณะไหน ยกตัวอย่าง ถ้าเป็นอะลูมิเนียมทั้งตัวอาจจะต้องใช้เซรามิคเยอะกว่าพวกที่เป็นเหล็กกล้าครับ

Khunpol Magic Spike 5 มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม ดูดีมีราคา น้ำหนักกำลังดี กล่องบรรจุสไปก์ทำออกมาได้ดี ประณีต การใช้งานไม่ยาก เอาด้านแหลมจิกลงพื้น ส่วนด้านบนให้รองเครื่องโดยสัมผัสกับผิวของแท่นเครื่อง (หรือลำโพง) โดยตรง อย่าเอาไปรองตรงใต้ขาของเครื่องครับ ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับประสิทธิภาพของ Magic Spike เต็มที่ หลักการนี้ใช้ได้กับอุปกรณ์เสริมประเภทรองใต้เครื่องเกือบทั้งหมดทุกประเภทครับ

เฮียฉ่างผลิต Magic Spike 5 ออกมา 2 สี คือ สีน้ำเงินอมเทา และ สีแดงเฟอร์รารี่ ซึ่งในส่วนของการเคลือบผิวหรืออะโนไดซ์นี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะได้คำนึงถึงการซับเสียงเอาไว้ในระดับที่พอดีแล้วด้วย เรียกว่าพิถีพิถันกันทุกส่วนเลย

ในการใช้งานให้วาง Magic Spike 5 โดยเอาโลโก้หมวกพ่อมดหันเข้าหาตัวเองครับ ถามว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น เหตุผลคือ ตัวของมันถูกออกแบบมาให้ใส่ลูกปืน 2 ชนิด และมีรูระบายการสั่นออกไปทางอากาศ ดังนั้น จึงกึ่ง ๆ มีทิศทางของการวางอยู่ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทดลองวางในลักษณะอื่นก็ได้ครับ ส่วนที่ว่าจะใช้งาน 3 ตัว หรือ 4 ตัวนั้น ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเครื่องที่จะนำไปรอง เพื่อไม่ให้คุณปวดหัวมาก ผมแนะนำว่า ถ้าเครื่องหรือลำโพงที่จะนำไปรองนั้นมีน้ำหนักมากกว่า 20 กก. ขึ้นไป ให้ใช้ 4 ลูก ไปเลยครับ ส่วนการใช้รองให้เครื่องที่มีน้ำหนักเบากว่าอาจจะใช้ 3 ลูก วางเป็นสามเหลี่ยมล้อมรอบจุดที่หนักที่สุดของเครื่อง ในลักษณะเดียวกับการรองทิปโทนั่นแหละครับ

ผลการทดสอบ

ผมนำ Magic Spike 5 ไปวางรองใต้เครื่องเล่นซีดี Marantz 42 (upgraded) ในคาบแรกของการทดสอบ เนื่องจากเครื่องมีน้ำหนักไม่มากจึงใช้แค่ 3 ตัว โดยที่วางหน้า 2 ตัวและด้านหลัง 1 ตัว เสียงที่ได้ยินหลังจากกดปุ่มให้ Play ไป 1 ชั่วโมง คือ เวทีเสียงมีความสงัด บุคลิกโดยรวมของเสียงไม่ได้แปรเปลี่ยนไปจนเสียสมดุลน้ำเสียง หากแต่ทำให้ได้รับความเปิดโล่ง (Transparency) มากขึ้น เหมือนเรามองภาพผ่านกระจกใสปิ๊งบานใหญ่ ๆ เสียงร้องผ่อนคลาย มีความเป็นธรรมชาติคล้ายเสียงคนจริง เสียงเครื่องดนตรีกลุ่มเครื่องสาย เช่น ไวโอลิน,  วิโอล่า หรือ เชลโล่ มีฮาร์โมนิกที่สมจริง มีรายละเอียดเสียงที่ชัดเจน เก็บมาได้ทุกเม็ด ส่วนเสียงทุ้มหรือเบสนั้นมาเป็นลูกใหญ่ ๆ และแน่น กระชับพอดี ไม่เก็บตัวเร็วเกินไป ในเว็บไซต์ของ Kstudio แนะนำให้ใช้ตัว Magic Spike ร่วมกับ Magic Plate ผมยังใจแข็งใช้ตัว Spike 5 เดี่ยว ๆ ไปก่อนครับ เพื่อให้รู้ว่าตัวมันโดยลำพังแล้วจะมีฤทธิ์เดชขนาดไหน

ต่อมาผมย้าย Spike 5 ไปวางรองใต้อินทิเกรตแอมป์ Rotel 1520 (Tinn) ที่ผมทำไว้เมื่อ 8 ปีก่อน โดยที่ยังคงให้ปลายแหลมจิกลงพื้น แต่คราวนี้ใช้ Magic Spike 5 จำนวน 4 ลูก วางตรงบริเวณมุมเครื่องทั้ง 4 มุม เสียงที่ได้ยินเปรียบเทียบระหว่างใช้กับไม่ใช้ Magic Spike 5 นั้น ตอนที่ใช้เสียงดีขึ้นอย่างชัดเจน เบสแน่นกระชับอัดออกมาเป็นลูก ๆ อย่างมีรายละเอียด ไม่ใช่มีเฉพาะความถี่ต่ำ ๆ มากระทบเท่านั้น หากแต่รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปตามจังหวะของดนตรีว่าตรงไหนหนักตรงไหนเบา และที่ผมรู้สึกได้ชัดคือ ความเป็นสามมิติมีมากขึ้น การจัดวาง layout สรรพเสียงแต่ละที่มามีตำแหน่งแห่งหนเป็นตัวเป็นตน รู้ได้ว่าอะไรเล่นอยู่ซ้าย ขวา หน้า หลัง หรือ ค่อนไปในทิศทางใด ส่วนที่ผมค่อนข้างกังวล คือ เสียงกลางจะผอมเพรียวกว่าเดิมหรือไม่ เพราะแอมป์ตัวนี้ไม่ใช่แนวออดอ้อน ฉอเลาะอยู่แล้ว ปรากฏว่าฟังซีดีแผ่นทดสอบ 4 – 5 แผ่น ไม่ว่าจะเป็นไทย – เทศ  เสียงกลางไม่ได้เพรียวบางลง ยังคงไว้ซึ่งสเกลของเสียงถูกต้อง แถมมาด้วยความกังวานรอบตัวโน้ตอีกเล็กน้อย ทำให้รู้สึกว่าฟังเพลงได้ไพเราะกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ แสดงว่าการจัดการกับแรงสั่นสะเทือนของ Magic Spike 5 ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในคาบหลัง ผมลองนำ Magic Plate ไปรองใต้ส่วนที่เป็นปลายแหลมของ Magic Spike 5 ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นช่วยยกระดับคุณภาพเสียงให้ยิ่งน่าฟังมากขึ้นไปอีก โดยที่ไม่ไปยุ่งกับดุลน้ำเสียง ไม่ยกเบส ไม่เพิ่มแหลม ไม่บีบหรือขยายเสียงกลาง ฟังออกว่ามวลเสียงมีความอิ่ม เข้ม มีการเน้นย้ำหัวโน้ตอย่างชัดเจน ในเพลงที่มีเครื่องดนตรีหลายชิ้นเล่นพร้อม ๆ กัน รู้สึกว่าเจ้าอุปกรณ์เสริมทั้ง 2 นี้เข้ามาจัดระเบียบให้กับทุก ๆ เส้นเสียง ที่เคยรู้สึกว่ามีความฟุ้งมัว แยกแยะกันไม่ออก ก็กลับกระจ่างแจ้ง มีการวางตำแหน่ง หน้า หลัง เน้นช่องว่าง ช่องไฟระหว่างชิ้นดนตรีให้เป็นอิสระจากกัน ชนิดที่คล้าย ๆ กับมีการเซ็ตอัพลำโพงใหม่

บทสรุป  

Khunpol Magic Spike 5 เป็นอุปกรณ์เสริมอีกชุดหนึ่งที่น่าจะมีไว้ใช้งานในชุดเครื่องเสียง โดยเฉพาะเครื่องเล่นแผ่นเสียง และเครื่องเล่นซีดี ซึ่งมีการสั่นสะเทือนการใช้งานสูงกว่าเพื่อน ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าควรใช้รอง 4 ตัว หรือ 3 ตัว แนะนำว่าให้ใส่ไปทั้ง 4 ตัว โดยวางลงไปใกล้ ๆ กับมุมเครื่องแต่ละมุม ในการวางรองใต้เครื่อง คุณอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนมาช่วยยก ๆ ดัน ๆ สักหน่อย แต่คุณภาพเสียงที่จะได้รับกลับมา รับรองว่าคุ้มค่ากับความยุ่งยาก เล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ. ADP

Magic Spike 5 ราคา 6,000 บาทต่อชุด
Magic Plate 5 ราคา 4,000 บาทต่อชุด

สอบถามรายละเอียด Kstudio
โทร. 085-489-7606, 081-556-4812