ในยุคที่ไฮไฟเป็นมากกว่าแค่เพียงได้ฟัง การที่ได้สัมผัสประสบการณ์เสียงที่เหนือระดับ จำต้องอาศัยอุปกรณ์ที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการอย่างแท้จริง

DA&T รุ่น Q-j มิได้เป็นเพียงแค่ DAC Amp หรือ Preamplifier ทั่วไป แต่เป็นศูนย์กลางของการปฏิวัติวงการเครื่องเสียง ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยกับการออกแบบที่เน้นประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นหลัก ด้วยการควบคุมระดับเสียงแบบดิจิทัลใน (Digital Domain Volume Control) ด้วยเทคโนโลยี DDS (Direct Digital System) อันเป็นเอกสิทธ์เฉพาะ ความสามารถในการขับหูฟังที่ทรงพลัง DA&T รุ่น Q-j ไม่เพียงแต่จะมอบเสียงที่สมจริง คมชัดเท่านั้น แต่ยังเติมเต็มจิตวิญญาณทุกช่วงเวลาของการฟังในทุกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน

นี่คือบททดสอบที่จะพาคุณสำรวจความสามารถที่แท้จริงของ DA&T รุ่น Q-j และค้นพบว่า… ทำไมมันถึงเป็นอุปกรณ์ที่นักฟังชาวไทยทุกคนไม่ควรพลาด? …มา มาเปิดโลกแห่งดิจิทัลออดิโอกับ DA&T รุ่น Q-j: DAC Amp / Table Top Headphones บททดสอบแห่งนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงทุกประสาทสัมผัสด้วยกัน

สวัสดีครับ ทุกคน
พบกันอีกแล้วกับ audiophile go digital… อรรถคดีว่าด้วยเรื่องของ Digital Audio ซึ่งจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้เล่าขานบนสื่อออนไลน์อยู่เสมอ

และนี่เป็นบทความทดสอบบนเว็บไซต์ www.audiophile-videophile.com
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม

เรากำลังจะพาคุณทะยานสู่มิติใหม่ของการฟังเพลงแบบไร้ขอบเขตด้วย *Table Top DAC Amp* สุดล้ำ ที่ไม่ได้มาเล่นๆ นอกจากจะช่วยอัปเกรดคุณภาพเสียงให้พีคสุดแล้ว ยังเป็นไอเทมที่จัดวางตรงไหนก็ดูเท่ สไตล์ก็ไม่ธรรมดา ลืมไปได้เลยกับเสียงแบนๆ ไร้ชีวิตชีวา เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของการอัปเกรดประสบการณ์ฟังเพลงสุดเฟี้ยว มาติดปีกให้หูของคุณไปพร้อมกับเรา แล้วคุณจะรู้ว่าเสียงที่ดี จริงๆ แล้วไม่ต้องจ่ายแพงก็ได้ เออ… มันเป็นยังไงเหรอ!

DA&T: STORY

แบรนด์เครื่องเสียงไต้หวันที่ผสมผสานเทคโนโลยีและศิลปะไว้ด้วยกัน ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่า

“การออกแบบและผลิตเครื่องเสียงไม่ใช่เพียงแค่งานวิศวกรรม
แต่เป็นการสร้างสรรค์งานศิลปะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้”

พันธกิจของ DA&T คือการทำให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสกับคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล

แม้ว่าแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำอย่าง Sony และ Harman/Kardon จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ DA&T มุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่าไต้หวันก็สามารถผลิตเครื่องเสียงที่มีคุณภาพสูงไม่แพ้กัน

แบรนด์ได้พัฒนาเทคโนโลยีและเป็นเจ้าของสิทธิบัตรมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Micro chip รวมถึงการพัฒนา Bluetooth และซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการใช้งานที่ทันสมัย รวมถึงการผลิตดอกลำโพงที่ให้เสียงคุณภาพสูง 

ในส่วนของสิทธิบัตร DA&T ได้จดสิทธิบัตรสำคัญหลายรายการ ตัวอย่างเช่น DDS และ S/PDIF ที่รองรับ Sampling Rate สูงสุดถึง 768kHz ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความสามารถด้านนวัตกรรมของแบรนด์นี้

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง DA&T ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเพาเวอร์แอมป์ ปรีแอมป์ ลำโพง หูฟัง หรือแม้กระทั่งฟิลเตอร์ ผลิตภัณฑ์สำคัญที่ทำให้ DA&T เป็นที่รู้จักได้แก่ AB-75 อินทิเกรแอมป์ที่เปิดตัวในปี 1999 และ A-285 ที่ออกมาในปี 2002 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการยกย่องจากผู้ใช้งานและนักวิจารณ์ในวงการอย่างกว้างขวาง

ต่อมาในปี 2007 DA&T ได้เปิดตัวแอมป์หูฟังรุ่น HA-1 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และกลายเป็นหนึ่งในสินค้าที่โดดเด่นที่สุดของแบรนด์ นอกจากนี้ DA&T ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในสาย USB amplifier ที่ได้รับการตอบรับดีไม่แพ้กัน อาทิเช่น U1 ที่ออกมาในปี 2008 และ U3 ในปี 2013

DA&T ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในปี 2023 ได้เปิดตัว K-300 เครื่องขยายเสียงภาคขยาย และ Q-r เครื่องขยายเสียงดิจิทัล ในปีหน้า 2025: M8p ปรีโปรเซสเซอร์ดิจิทัลมัลติแชแนล DOLBY ATMOS สำหรับเพลงโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของแบรนด์

ด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง DA&T จึงมิได้เป็นเพียงแค่แบรนด์เครื่องเสียงจากไต้หวัน แต่ยังเป็นตัวแทนของงานศิลปะที่สามารถสัมผัสได้ผ่านเสียงที่เหนือชั้น

ทั้งหมดคือการเดินทางและความสำเร็จของ DA&T แบรนด์เครื่องเสียงไต้หวันที่โลกยอมรับ

ไม่เพียงแค่สร้างสรรค์เครื่องเสียงที่มีคุณภาพ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีและยกระดับประสบการณ์การฟังทั่วโลก ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการผสมผสานงานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยี วิสัยทัศน์นี้ได้ผลักดัน DA&T สู่พันธกิจสำคัญให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

DA&T ได้ขยายธุรกิจไปยังหลายประเทศทั่วโลก โดยมีตัวแทนจำหน่ายในเอเชียหลายประเทศ เช่น:

– **2002** เจียซี่เสียง, ฮ่องกง 
– **2005** จินเฟิงเสียง, จีน 
– **2006** Sky Audio, สิงคโปร์ 
– **2017** Tombo Audio, ประเทศไทย 

นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว DA&T ยังได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคมมากมาย

ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถที่ไม่มีที่สิ้นสุด DA&T ยังคงเป็นแบรนด์ที่นำเทคโนโลยีและศิลปะมาผสมผสานอย่างลงตัว ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักพัฒนาและผู้ใช้งานทั่วโลกในอนาคต

DAC Amp / Table Top Headphones
DA&T: Q-j (Digital Domain Volume Control Preamplifier)

DA&T รุ่น Q-j เป็นอุปกรณ์เครื่องเสียงไฮเอนด์ใน Q Series ถูกออกแบบมาเพื่อนักฟังที่ต้องการความแม่นยำและความชัดเจนในการฟังเพลง เราจะสำรวจทั้งการออกแบบ ฟีเจอร์ คุณภาพเสียง รวมถึงคุณค่าที่เพิ่มขึ้นจากฟังก์ชันหูฟังที่รวมอยู่ด้วย จะครอบคลุมเกี่ยวกับสิ่งที่ปรีแอมป์รุ่นนี้มีให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จริงจังในการฟังผ่านหูฟัง

Design

DA&T รุ่น Q-j มีการออกแบบที่ดูเรียบง่าย แต่มีฟีเจอร์ครบทันสมัย เหมาะกับนักฟังเสียงที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ ตัวเครื่องผลิตจากอะลูมินัมอะโนไดซ์คุณภาพสูง ให้ความรู้สึกพรีเมียม มีสัมผัสที่หรูหรา ติดตั้ง LED ขนาดเล็กที่แสดงข้อมูลสถานะการใช้งานต่าง ๆ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ง่าย ๆ เช่น ค่า Input sources และระดับเสียง เป็นต้น

แผงหน้าของตัวเครื่องออกแบบมาเรียบง่าย มีปุ่มปรับสีแดงเพื่อปรับเสียงอยู่ตรงด้านบนขวา มีช่องเสียบหูฟังด้านหน้าที่วางในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย ปุ่มควบคุมแบบหมุนสำหรับปรับระดับเสียง และมีปุ่มสลับ Input / Output รวมถึงปรับ Gain input ที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวก ในขณะที่แผงหลังมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน เช่น USB, Coaxial, Optical และ Line In / Out ซึ่งสามารถรองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลาย

โดยรวมแล้วคุณภาพการผลิตถือว่าโดดเด่น ด้วยความประณีตในการประกอบและมีน้ำหนักที่มั่นคง บ่งบอกถึงความเป็นสินค้าระดับพรีเมียม

Features

DA&T รุ่น Q-j มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมายที่ทำให้เป็นอุปกรณ์ที่หลากหลายในการใช้งาน รองรับอินพุตได้หลายรูปแบบ ทำให้มันสามารถเป็นศูนย์กลางสำหรับแหล่งเสียงต่างๆ ฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการควบคุมระดับเสียงใน Digital Domain ซึ่งให้การปรับระดับเสียงที่แม่นยำโดยไม่ทำให้สัญญาณเสียงเสื่อมลง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพเสียง นอกจากนี้ยังมีแอมป์สำหรับหูฟังในตัวที่เพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน ทำให้เป็นโซลูชันที่ครบครันทั้งการฟังผ่านลำโพงแอ็คทีฟ เครื่องเสียง หรือหูฟัง โดยมีคุณสมบัติหลักของ Digital Domain Volume Control ให้การปรับระดับเสียงที่แม่นยำโดยไม่สูญเสียคุณภาพเสียง เพื่อรองรับแหล่งเสียงที่ต่างกัน รองรับอินพุตหลายรูปแบบ มีอินพุตดิจิทัลหลากหลายทั้งดิจิทัลและอะนาล็อก

แอมป์หูฟังในตัวออกแบบมาเพื่อขับหูฟังที่มีอิมพีแดนซ์สูงได้อย่างง่ายดาย โดยมีคุณสมบัติโดยรวมดังนี้

  • มีเอาต์พุตพรีแอมป์แบบ TRS บาลานซ์แบบอะนาล็อกขนาด 6.3 มม. รวมถึงอะนาล็อกแบบ RCA
  • ตั้งค่ากำลังขับของช่องสัญญาณหูฟังแบบแยกอิสระ
  • ปรับเพิ่ม-ลดกำลังขยายได้อย่างต่อเนื่อง
  • เอาต์พุตช่องหูฟังแบบ 4-pin balanced, 4.4 มม. 6.3 มม. และ 3.5 มม.
  • เอาต์พุตแบบ 4-pin balanced ให้แรงดันไฟสูงสุดถึง 46Vpp ด้วยความสามารถขับเคลื่อนสูงพิเศษ
  • มีช่องเสียบต่อภายนอก Bluetooth (Option)
  • มีเอาต์พุตปรีแอมป์ดิจิทัลแบบโคแอกเชียล S/PDIF (Coax, Optic)
  • รองรับการรับสัญญาณดิจิทัลที่ 384kHz / 32bit / DSD256
  • สามารถซื้อรีโมตคอนโทรลเพิ่มเติมได้ตามต้องการ

DA&T รุ่น Q-j เป็นอุปกรณ์ DAC Amp ที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงระดับสูง ทั้งในแบบ DAC, แอมป์หูฟัง และปรีแอมป์สเตอริโอในตัวเดียวกัน จุดเด่นของอุปกรณ์นี้คือการรวมเอาคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน มาดูรายละเอียดกันอย่างใกล้ชิด

Design & Connect

DA&T: Q-j มีทีเด็ดตรงใช้เทคโนโลยี DDS (Direct Digital System) อันเป็นเอกสิทธิ์ของ DA&T เอง ทำให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้อย่างคมชัดและมีความเป็นธรรมชาติสูง โดย DA&T: Q-j ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานได้หลากหลาย มีอรรถประโยชน์ คุ้มค่าที่สุด

สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์นี้มีทางเลือกที่หลากหลาย ทั้ง USB สำหรับการเชื่อมต่อกับ CAT ที่จะรองรับการรับสัญญาณดิจิทัลที่ 384kHz/32bit / DSD256, Coaxial และ Optical สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องเล่นซีดีหรือเครื่องเล่นสตรีมมิ่ง อย่างน้องอาย Arylic: S50 Pro+ นอกจากนี้ยังมี Line In และ Line Out ที่สามารถใช้เป็น Pre-amp เชื่อมต่อกับแอมป์ภายนอกได้

DA&T: Q-j มีโหมดแอมป์หูฟังในตัวที่สามารถขับหูฟังได้อย่างมีพลัง รองรับหูฟังที่มีความต้านทานหลากหลายตั้งแต่ 16 โอห์ม ถึง 600 โอห์ม @1480mW โดยมีการปรับระดับแรงขับที่เหมาะสม ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับหูฟังแบบต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบ in-ear ที่ความต้านทานต่ำ หรือหูฟังแบบ full-size ที่ต้องการกำลังขับสูงได้ทุกตัว

DDS (Direct Digital System)

DDS Technology ใน DA&T: Q-j – Digital Domain Volume Control Preamplifier คือหนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ **DA&T: Q-j – Digital Domain Volume Control Preamplifier** ตัวนี้ มันคือการใช้เทคโนโลยี **DDS (Direct Digital System)** ซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ **DA&T** เทคโนโลยีนี้มีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพเสียงและประสิทธิภาพของปรีแอมป์รุ่นนี้ ในส่วนนี้เราจะมาทำความเข้าใจว่าการใช้เทคโนโลยี DDS มีผลอย่างไรต่อการทำงานและเสียงใน DA&T: Q-j

DDS เป็นเทคนิคการสังเคราะห์สัญญาณที่ใช้ในการสร้างสัญญาณความถี่ที่มีความแม่นยำสูงและมีสัญญาณรบกวนต่ำ ในอุปกรณ์เสียง (audio equipment) เทคโนโลยี DDS สามารถนำมาใช้ในการสร้างและสังเคราะห์สัญญาณเสียง โดยมีข้อดีเช่น ความละเอียดในการปรับความถี่ที่สูง (high frequency resolution) การเปลี่ยนความถี่ที่รวดเร็ว (fast frequency switching) และสัญญาณรบกวนเฟสที่ต่ำ (low phase noise)

การใช้เทคโนโลยี DDS ใน DA&T รุ่น Q-j ทำให้ปรีแอมป์รุ่นนี้สามารถถ่ายทอดสัญญาณเสียงที่มีความคมชัดและมีรายละเอียดสูงสุด ซึ่งทำให้การฟังเพลงเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและแตกต่างจากอุปกรณ์ที่ไม่มีเทคโนโลยีนี้

DDS ช่วยให้การปรับระดับเสียงสามารถทำได้อย่างละเอียด แม่นยำ ไร้การลดทอนคุณภาพของสัญญาณเสียง ไม่ว่าคุณจะปรับระดับเสียงเบาเพียงใด รายละเอียดและความคมชัดของเสียงก็ยังคงครบถ้วน

เทคโนโลยีนี้ช่วยลดสัญญาณรบกวนและความบิดเบือน ทำให้เสียงที่ออกมามีความโปร่งใสและเป็นธรรมชาติ คุณจะได้ยินรายละเอียดที่คมชัดทุกย่านความถี่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสที่ลึกและแน่น เสียงกลางที่ชัดเจน หรือเสียงสูงที่ใสและสะอาด

ด้วยการประมวลผลที่รวดเร็วของ DDS การตอบสนองของระบบจึงเป็นไปอย่างทันที คุณจะไม่รู้สึกถึงความล่าช้าหรือหน่วงเมื่อปรับระดับเสียงหรือสลับการใช้งานระหว่างอินพุตต่างๆ ซึ่งทำให้ประสบการณ์การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหล

เทคโนโลยี DDS ใน DA&T: Q-j – Digital Domain Volume Control Preamplifier ถือเป็นจุดขายสำคัญที่ยกระดับคุณภาพเสียงและประสบการณ์การฟังให้เหนือกว่าปรีแอมป์ทั่วไป การใช้งาน DDS ช่วยให้การปรับระดับเสียงเป็นไปอย่างแม่นยำโดยไม่มีการสูญเสียคุณภาพของสัญญาณเสียง และยังช่วยลดสัญญาณรบกวนและความบิดเบือน ทำให้เสียงที่ออกมามีความโปร่ง ใส คมชัด และเป็นธรรมชาติ

สำหรับนักฟังเสียงที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด เทคโนโลยี DDS ของ DA&T: Q-j เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และทำให้ปรีแอมป์รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับระบบเสียงระดับไฮเอนด์ ความเป็นเลิศของเทคโนโลยี DDS ที่มีผลต่อคุณภาพเสียงและการใช้งาน ทำให้ DA&T รุ่น Q-j เป็นรีแอมป์ที่มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักฟังสายออดิโอไฟล์ ในราคาที่ไม่แรงเกินไป

Hook Up

เชื่อมต่อ DA&T: Q-j กับ น้องอาย Arylic S50 Pro+ ตัวน้อยโดยใช้สาย Khunpol Optical และการใช้งานกับ Active Speaker และ Headphone นั่งฟังชิลล์ๆ บนโต๊ะทำงาน

ในการทดสอบนี้ เราจะเพิ่มความซับซ้อนในการเชื่อมต่อ โดยการใช้ **Khunpol Optical Cable** สำหรับการเชื่อมต่อระหว่าง **DA&T: Q-j – Digital Domain Volume Control Preamplifier** กับ **Ayrlic: S50 Pro+** เพื่อถ่ายทอดสัญญาณเสียงคุณภาพสูง

นอกจากนี้ เราจะพิจารณาการใช้งานในสองบริบท คือ การใช้งานร่วมกับ **Active Speakers** และ **Headphones** ซึ่งทั้งสองรูปแบบนี้มีความต้องการเฉพาะที่แตกต่างกัน การทดสอบนี้จะช่วยให้เข้าใจถึงประสิทธิภาพของระบบและคุณภาพเสียงที่ได้จากการตั้งค่าที่ซับซ้อนนี้

เชื่อมต่อด้วย Khunpol Optical Cable**  เสริมด้วย Khunpol Power Cord เส้นโตที่จัดส่งมาด้วย

ในการเชื่อมต่อระหว่าง DA&T: Q-J และ Ayrlic S50 Pro+ ถือเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการรักษาคุณภาพของสัญญาณเสียง เนื่องจากสาย Optical มีความสามารถในการส่งสัญญาณดิจิทัลได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วด้วยการใช้แสงในการส่งสัญญาณนี้ สาย Optical ป้องกันการรบกวนจากสัญญาณไฟฟ้าอื่น ๆ โดยไม่มีการสูญเสียรายละเอียดหรือการรบกวนของสัญญาณ ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่บริสุทธิ์และชัดเจน อีกอย่างการเชื่อมต่อสาย Optical นั้นง่ายและไม่ต้องการการปรับแต่งเพิ่มเติม เสริมพลังด้วย Khunpol Power Cord ที่จะทำให้ Q-j เด้งเหมือนติดเทอร์โบกันเลยทีเดียว

with Active Speakers**

เมื่อเชื่อมต่อ DA&T: Q-J กับ Ayrlic: S50 Pro+ ผ่านสาย Khunpol Optical แล้วส่งสัญญาณไปยัง **Active Speakers** เจ้าถิ่นระบบนี้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดย Q-j จะทำหน้าที่ควบคุมระดับเสียงและปรับแต่งสัญญาณก่อนที่จะถูกขยายโดย Ayrlic: A50 แล้วส่งต่อไปยังลำโพง Active ซึ่งมีแอมป์ในตัวบนโต๊ะทำงาน

DA&T Q-j รักษาความชัดเจนและความละเอียดของสัญญาณเสียงได้ดีมาก เสียงกลางและเสียงสูงมีความโปร่งใสและชัดเจน ทำให้การฟังเพลงมีความสมจริงและมีชีวิตชีวา การเชื่อมต่อผ่านสาย Optical ทำให้เสียงเบสถูกควบคุมได้ดี ไม่มีเสียงเบสบวม หรือเสียงที่บิดเบือนให้กวนใจเลย ทำให้ได้เสียงที่กระชับและคมชัด

การใช้งานร่วมกับ Active Speakers ให้ Soundstage ที่กว้างและการจัดวางตำแหน่งของเสียงที่แม่นยำ คุณสามารถรู้สึกถึงตำแหน่งของเครื่องดนตรีและเสียงร้องได้อย่างชัดเจนในสเตจเสียงที่กว้างขวาง

with Headphones**

สำหรับการใช้งานกับ **Headphones เหยี่ยว การเชื่อมต่อผ่าน Khunpol Optical Cable ก็ยังคงให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้หูฟังที่มีความไวและมีอิมพีแดนซ์สูง DA&T: Q-j ทำหน้าที่แอมป์หูฟังได้อย่างดีเยี่ยมในการขับสัญญาณไปยังหูฟัง โดยผ่านการขยายสัญญาณจาก Ayrlic: A50

DA&T: Q-j ยังคงรักษาความละเอียดของเสียงสูงสุดเมื่อใช้หูฟัง เสียงกลางมีความชัดเจนมาก ทำให้การฟังเสียงร้องและเครื่องดนตรีเป็นไปอย่างไพเราะ

เมื่อใช้หูฟัง การควบคุมเสียงเบสยังคงมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการใช้งานผ่านลำโพง Active เบสมีความหนักแน่นและกระชับโดยไม่เบลอหรือสูญเสียรายละเอียด

แม้ว่าหูฟังจะมีข้อจำกัดในการสร้าง soundstage เมื่อเทียบกับลำโพง Active แต่ DA&T: Q-j ก็ยังสามารถสร้างความลึกและการจัดวางตำแหน่งเสียงได้ดี ทำให้ผู้ฟังรู้สึกถึงมิติและการจัดวางที่สมจริง

ShowTime

เมื่อต้นทางเป็นน้องอาย ซึ่งเล่นได้หลากหลายง่ายสุดก็ Radio Paradise ฟังไปเรื่อยๆ ทีนี้ก็เข้าโหมดฟังจริงจังก็ Tidal ไง ร่ายกันยาวๆ เพลินมาก

…แทร็กแรกที่อยากนำเสนอก็เป็น “Cheek to Cheek” ของ Eva Cassidy ไม่ใช่แค่การคัฟเวอร์ แต่เป็นการตีความใหม่ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ทำให้เพลงนี้ยังคงความเป็นอมตะและน่าฟังในทุกยุคสมัย เพลงแจ๊สคลาสสิกที่ถูกตีความใหม่อย่างงดงามด้วยความอบอุ่นและอมตะ เวอร์ชันของ Eva Cassidy ในเพลง “Cheek to Cheek” จากอัลบั้ม Walkin’

After Midnight ที่เพิ่งถูกรีลีสมาไม่นานนี่เอง แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของเธอในการผสมผสานแนวเพลงต่างๆ อย่างลงตัว ทำให้เพลงแจ๊สมาตรฐานนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและอบอุ่น ซึ่งเดิมทีเพลงนี้เขียนโดย Irving Berlin สำหรับภาพยนตร์ปี 1935 เรื่อง Top Hat และเป็นที่รู้จักจากการแสดงของ Fred Astaire แต่เวอร์ชันของ Cassidy นั้นฟังดูนุ่มนวลกว่าและเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก โดยเน้นการใช้เสียงและการแสดงออกอย่างละเอียดอ่อน เป็นการแสดงถึงความสามารถของเธอในการอเรนจ์เพลงที่คุ้นเคยให้กลายเป็นอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง แม้ว่าเธอจะจากไปในปี 1996 แต่การออกอัลบั้มหลังเสียชีวิตยังคงได้รับการยกย่อง โดย Walkin’ After Midnight เป็นหนึ่งในผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางดนตรีของเธอ **ความหมายของเนื้อเพลง:** เพลงนี้เป็นการเฉลิมฉลองความสุขที่ได้เต้นรำกับคนที่คุณรัก ความรู้สึกที่เหมือนอยู่ “ในสวรรค์” ขณะที่ตัดความกังวลของโลกภายนอกหายไปอย่างสิ้นเชิง การร้องเพลงของ Cassidy ทำให้เนื้อเพลงดูอบอุ่นและจริงใจ เหมือนกับการร้องเพลงให้คนรักฟังโดยเฉพาะเมื่อผ่าน Q-j ยิ่งน่าฟัง

จริงใจ เหมือนกับการร้องเพลงให้คนรักฟังโดยเฉพาะเมื่อผ่าน Q-j ยิ่งน่าฟัง แทร็กต่อไป การเดินทางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ผ่านกาลเวลาและประเพณี เกี่ยวพันกับท่วงทำนองที่ล่องลอยดุจดั่งความฝัน จากเพลง “The Mummers’ Dance” ของ Loreena McKennitt จากอัลบั้ม The Book of Secrets ในปี 1997 เป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีพื้นบ้านเซลติก ดนตรีโลก และเสียงดนตรียุคกลางที่สร้างบรรยากาศที่รู้สึกได้ทั้งถึงความเก่าแก่และความอมตะ เพลงนี้กลายเป็นที่นิยมอย่างน่าประหลาดใจในวิทยุทั่วไป และเฉลิมฉลองประเพณีโบราณของการแสดงละครแบบมัมเมอร์ ซึ่งเป็นการแสดงพื้นบ้านที่จัดขึ้นในชนบทของอังกฤษ ไอร์แลนด์ และส่วนอื่นๆ ของยุโรป

 “The Mummers’ Dance” ได้แรงบันดาลใจจากประเพณีของมัมเมอร์ ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการแสดงของนักแสดงที่แต่งตัวแปลกๆ เพื่อแสดงละครที่มักจะสื่อถึงการตายและการเกิดใหม่ของฤดูกาล McKennitt ผู้มีความสนใจในประวัติศาสตร์และตำนาน ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านแบบดั้งเดิมเช่น ฮาร์ดี-การ์ดี และ โบดราน เพื่อให้เพลงนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ท่วงทำนองที่แฝงด้วยความหลอนและการผลิตที่เต็มไปด้วยรายละเอียดช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนถูกพาย้อนเวลากลับไปยังยุคโบราณและภาพของพิธีกรรมและการเฉลิมฉลอง

เนื้อเพลงบรรยายถึงการเฉลิมฉลองที่เปี่ยมด้วยความสุขของชีวิตและธรรมชาติที่เวียนวนของฤดูกาล McKennitt ร้องถึงการรวมตัวกัน การเต้นรำ และการเฉลิมฉลองเวลาที่ผ่านไปผ่านพิธีกรรมดั้งเดิม ซึ่งสะท้อนถึงการที่ประเพณีเหล่านี้เชื่อมโยงเรากับบรรพบุรุษและโลกธรรมชาติ

**การคัฟเวอร์ที่โดดเด่น**: “The Mummers’ Dance” เป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Loreena McKennitt ทำให้มีการคัฟเวอร์ที่โดดเด่นน้อย แต่มีอิทธิพลต่อการตีความดนตรีเซลติกสมัยใหม่โดยศิลปินหลายคน

**เพลงถัดไปที่แนะนำ**: ถ้า “The Mummers’ Dance” จับใจคุณ คุณอาจจะชอบเพลง “All Souls Night” จากอัลบั้ม The Visit ของ McKennitt ซึ่งเป็นธีมเกี่ยวกับพิธีกรรมโบราณและการเฉลิมฉลองฤดูกาลด้วยเสียงดนตรีที่น่าหลงใหลเช่นเดียวกัน สำหรับเพลงที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและมีการเรียบเรียงแบบออร์เคสตรา ลองฟังเพลง “Orinoco Flow” ของ Enya ซึ่งผสมผสานอิทธิพลของเซลติกเข้ากับการผลิตที่ลุ่มลึกและละเอียดอ่อนทีเดียว

**ประสบการณ์การใช้งานและความประทับใจ**

การใช้ **Khunpol Optical Cable** ในการเชื่อมต่อระบบเสียงนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายทอดสัญญาณเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่าน Active Speakers หรือหูฟัง ระบบนี้ให้เสียงที่มีความชัดเจน รายละเอียด และความสมจริงที่สูงมาก การผสมผสานระหว่าง DA&T: Q-j และ Ayrlic: S50 Pro+ ทำให้ได้ประสบการณ์การฟังเพลงแนวนี้ครบถ้วนสมบูรณ์จริง ๆ

– การเชื่อมต่อ Optical ให้การส่งสัญญาณที่มีความบริสุทธิ์และไร้การรบกวน
– คุณภาพเสียงสูงเมื่อใช้กับทั้ง Active Speakers และหูฟัง
– คุณภาพเสียงสูงเมื่อใช้กับทั้ง Active Speakers และหูฟัง

การเชื่อมต่อ DA&T: Q-j – Digital Domain Volume Control Preamplifier กับ Ayrlic: S50 Pro+ ผ่านสาย Khunpol Optical Cable และการใช้งานร่วมกับ Active Speakers และหูฟัง ถือเป็นการตั้งค่าที่สร้างประสบการณ์การฟังที่มีคุณภาพสูง สาย Optical ช่วยรักษาคุณภาพสัญญาณเสียงและป้องกันการรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะฟังผ่านลำโพงหรือหูฟัง ระบบนี้ยังคงให้เสียงที่มีรายละเอียด ชัดเจนและมีมิติ สะท้อนถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของการตั้งค่าและคุณภาพเสียงที่สูงเมื่อใช้งานกับทั้ง Active Speakers รวมถึงหูฟัง โดยเฉพาะเมื่อใช้สาย Optical ในการเชื่อมต่อที่ช่วยรักษาคุณภาพสัญญาณและเพิ่มประสบการณ์การฟังเพลงเหนือระดับ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักฟังเสียงที่ต้องการคุณภาพสูงสุดในระบบเสียงของตน

อาจมีข้อจำกัดของ Ayrlic: S50 Pro+ กับอแดปเตอร์พื้นฐานก็ระดับหนึ่ง อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ Q-j ออกมาได้มากนัก แต่เมื่อเทียบเท่ากับการใช้ตัวต้นทางที่สูงขึ้น หรืออย่างน้อยก็อุปกรณ์เสริมของ Khunpol ที่มีคุณภาพสูงกว่า ทำให้เสียงเด้งขึ้นไปอีกเยอะตามราคาที่ลงทุนไปแหละ

Sound

เสียงจาก DA&T: Q-j นั้นโดดเด่นด้วยความเป็นธรรมชาติ ความโปร่งใส และมีไดนามิกส์ที่ยอดเยี่ยม เสียงกลางมีความชัดเจน รายละเอียดของเสียงเครื่องดนตรีและเสียงร้องถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมจริง เสียงแหลมมีความละเอียดและไม่ทำให้รู้สึกแข็งกระด้างหรือคมจนเกินไป ในขณะที่เสียงเบสก็มีน้ำหนักและความสมบูรณ์ ทำให้เหมาะกับการฟังเพลงหลายแนวตั้งแต่แจ๊สไปจนถึงร็อหรือคลาสสิ

นอกจากนี้ DA&T: Q-j ยังมีความสงัดของพื้นเสียง (noise floor) ที่ต่ำมาก ทำให้เสียงที่ได้มีความสะอาดและโปร่งใส เหมาะสำหรับการฟังเพลงที่ต้องการความละเอียดสูงโดยที่เสียงที่ไร้ซึ่งการรบกวน ดีเกินค่าตัว

DA&T: Q-j จึงมีความโดดเด่นในการให้เสียงสะอาด โปร่ง ใส และมีรายละเอียด ไม่ว่าจะผ่านลำโพงหรือหูฟัง มันสามารถจัดการกับหลากหลายแนวเพลงได้อย่างง่ายดาย ให้ซาวด์สเตจกว้าง สมดุลและเป็นธรรมชาติ ปรีแอมป์ตัวนี้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการรักษาความละเอียดอ่อนของเสียง ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงคลาสสิกที่ซับซ้อนหรือเพลงอะคูสติกส์ที่เรียบง่าย

**ประสิทธิภาพเมื่อผ่านลำโพงแอ็กทีฟ ตอบสนองต่อเสียงเบสได้อย่างแน่นและกระชับโดยไม่รบกวนเสียงกลางและสูง เหมาะสำหรับทั้งเพลงที่มีเสียงเบสหนักและเพลงที่มีความละเอียดอ่อน เสียงกลางเป็นจุดที่ Q-j ทำได้ยอดเยี่ยมที่สุด ส่งผ่านเสียงร้องและเครื่องดนตรีด้วยความชัดเจนที่ทำให้รายละเอียดทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจน เสียงกลางไม่จมและไม่โดดเด่นเกินไป ทำให้เกิดความสมดุลอย่างสมบูรณ์แบบ ย่านเสียงสูงมีความคมชัดและใส ปราศจากความหยาบหรือเสียงที่ไม่พึงประสงค์ Q-j จัดการกับย่านเสียงแหลมได้ดี ทำให้สามารถฟังเพลงที่ซับซ้อนได้โดยไม่รู้สึกล้า มีซาวด์สเตจเสียงกว้างและลึก ให้ความรู้สึกถึงพื้นที่จริง การแยกเสียงและตำแหน่งของเครื่องดนตรีและเสียงร้องทำได้อย่างแม่นยำ

เมื่อผ่านแอมป์หูฟังในตัวสามารถขับหูฟังหลากหลายประเภท รวมถึงหูฟังที่มีอิมพีแดนซ์สูงได้อย่างไม่ลำบากเลย ซึ่งรับประกันได้ว่าคุณจะได้ใช้ศักยภาพสูงสุดจากหูฟังของคุณโดยไม่มีสัญญาณเสียงที่บิดเบือนแม้ในระดับเสียงที่สูง

เมื่อฟังผ่านหูฟัง Q-j ยังคงรักษาระดับรายละเอียดและความโปร่ง เสียงใสเช่นเดียวกับเมื่อใช้ผ่านลำโพง ความชัดเจนของเสียงกลางและสูงจะฟังได้ชัดเจน ทำให้ปรีแอมป์ตัวนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการฟังเพลงเชิงวิเคราะห์

ถึงแม้ว่า soundstage จะมีข้อจำกัดเมื่อใช้หูฟัง แต่ Q-j ก็ยังสามารถสร้างความรู้สึกถึงพื้นที่และความลึกได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ผู้ฟังได้สัมผัสกับ soundstage ที่ชัดเจนแม้ในระบบหูฟัง

เสียงเบสถูกควบคุมอย่างดีและมีความหนักแน่น โดยไม่มีความบวมที่มักเกิดขึ้นกับแอมป์หูฟังที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งทำให้มันเหมาะสมกับหลากหลายแนวเพลง ตั้งแต่คลาสสิกไปจนถึงอิเล็กทรอนิกส์

Q-j สามารถผสานเข้ากับระบบเสียงหลากหลายได้อย่างลงตัว แสดงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในรูปแบบการเชื่อมต่อที่ต่างกัน ไม่ว่าจะจับคู่กับแอมป์ หรือหูฟังระดับไฮเอนด์ มันยังคงส่งมอบคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ปรีแอมป์ตัวนี้ยังมีสัญญาณรบกวนต่ำมาก ทำให้ไม่มีการรบกวนหรือบิดเบือนที่ไม่พึงประสงค์ในการฟังเพลง

– ทำงานได้ดีทั้งกับแอมป์ Solid-state และ Tube
– รองรับการเชื่อมต่อกับ Player / DAC และแหล่งอะนาล็อกอื่นๆ ได้หลากหลาย
– แอมป์หูฟังในตัวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับหูฟังหลากหลายประเภท ตั้งแต่ Low ถึง High Impedance

Q-j จัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีการสะสมความร้อนที่เห็นได้ชัดเจนแม้ในการฟังเพลงที่ยาวนาน ความน่าเชื่อถือนี้ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ฟังเพลงเป็นเวลานานไม่ว่าจะผ่านลำโพงหรือหูฟัง ผมว่ายิ่งเปิดนานยิ่งจะนิ่งมากขึ้นด้วยซิ

แม้ว่า DA&T: Q-j จะอยู่ในกลุ่มสินค้าระดับพรีเมียม แต่ราคาก็ยังไม่ได้สูงนัก คงมีความคุ้มค่าต่อราคาที่จ่ายไป การผสมผสานระหว่างคุณภาพการผลิต คุณสมบัติครบ และที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพเสียง ทำให้มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับนักฟังเสียงที่จริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการฟังผ่านหูฟังคุณภาพสูง

– คุณภาพเสียงยอดเยี่ยมพร้อมการควบคุมระดับเสียงที่แม่นยำ
– โครงสร้างแข็งแรงและดีไซน์ทันสมัย หรูหรา
– แอมป์หูฟังในตัวเพิ่มความหลากหลายในการใช้งานและมีประสิทธิภาพสูง

Wrap Up

DA&T: Q-j – Digital Domain Volume Control Preamplifier เป็น DAC Amp / Headphones / Table Top Preamp ที่ออกแบบมาอย่างรอบคอบ เก็บทุกรายละเอียด ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงผ่านหูฟัง รวมถึงผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงในการใช้งานกับชุดเครื่องเสียงบ้านโดยใช้แอมป์ของ DA&T เองก็มีอยู่หลายรุ่น การออกแบบคำนึงถึงการใช้งานอันหลากหลาย ให้คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม DA&T: Q-j จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์การฟังเพลงของตนเองในงบประมาณที่ไม่สูงเกินไป บอกเลยว่าถ้าเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นหรือเกาหลีต้องจ่ายเรือนแสน

จึงทำให้ พอมีงบเหลือที่อัพเกรดขึ้นไปได้อีก Kstudio ก็มีชุดแต่งซิ่งมาอัเกรดอยู่หลายตัว สำคัญที่ค่าตัวก็ไม่แรงด้วยนี่นา อย่าง Khunpol Spike นี่อย่างหล่อ เชื่อว่าใส่แล้วเสียงต้องเด้งขึ้นอีกเยอะ เอาเลย

Q-j กับคุณสมบัติจุก ๆ
– รองรับไฟล์ Hi-Res ถึง DXD 384kHz / 32bit / DSD256
คุณภาพเสียงโปร่ง ใส เป็นธรรมชาติ
– แอมป์หูฟังที่สามารถขับหูฟังได้หลากหลายแบบ
– ขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับ DAC/Amp บางรุ่น
– มีฟังก์ชันครบเครื่อง รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth และรีโมต

DA&T: Q-j – DAC AMP / Headphones / Table Top Preamp จึงเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มองหา DAC และแอมป์หูฟังในระดับ Hi-Fi ที่มีความละเอียดสูง มีการออกแบบที่ทนทานและสวยงาม

DA&T: Q-j – Digital Domain Volume Control Preamplifier เป็นอุปกรณ์เครื่องเสียงที่โดดเด่น ซึ่งตอบโจทย์นักฟังที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงและความสมบูรณ์ของการผลิต ประสิทธิภาพของมันในส่วนของการฟังผ่านอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงการฟังผ่านหูฟัง ทำให้มันเป็นส่วนเสริมที่หลากหลายและมีคุณค่าในระบบเสียงระดับไฮเอนด์ แอมป์หูฟังในตัวเป็นข้อดีสำคัญที่ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฟังทั้งผ่านลำโพงและหูฟัง การลงทุนในปรีแอมป์ตัวนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าด้วยคุณภาพเสียงและการผลิตที่พรีเมียมเกินราคา

หากกำลังมองหา DAC AMP / Headphones / Table Top Preamp ที่จะมอบประสบการณ์การฟังที่สมบูรณ์แบบและเสริมคุณภาพการฟังของคุณผ่านทั้งลำโพงและหูฟัง DA&T: Q-j เป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง สะท้อนถึงคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม โครงสร้างพรีเมียม ฟังก์ชันหูฟังที่หลากหลาย และความคุ้มค่าต่อราคาของ DA&T รุ่น Q-j ถือว่าเป็นตัวเลือกสำหรับนักฟังเสียงที่ต้องการยกระดับระบบเสียงของตนเองในงบประมาณโดยไม่ติดแบรนด์ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักนัก ต้องแนะนำอย่างยิ่งเพราะ DA&T ก็จะ “ปัง” เป็นที่รู้จักกันมากต่อจากนี้. ADP

ราคา 30,000 บาท
สอบถามเพิ่มเติม
Kstudio
โชว์รูมชั้น 3 ฟอร์จูน ทาวน์
โทร.
084-241-4496 และ 065-462-6254
Line: @kstudio

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ