ชุมพล

จั่วหัวไว้อย่างนี้อาจทำให้ท่านนักเล่นเครื่องเสียงระดับหูทองเมิน แต่ผมจะบอกให้ว่า สายลำโพงรุ่นนี้ดีพอที่จะต่อเข้ากับชุดไหนๆ ก็ได้ โดยที่มันไม่ไปลดหรือปรับสมดุลเสียงของชุดนั้นๆ แต่อย่างใด อ้าว!!! แล้วทำไมถึงบอกว่ามันเป็นสายลำโพงระดับเริ่มต้นล่ะ เหตุผลคือราคาขายครับ Tellurium Q รุ่น Blue II มีราคาครึ่งหมื่นบาทต่อชุดเท่านั้น สบายกระเป๋าและไม่หลอกหู            

เดิมทีนั้น สายลำโพง Tellurium Q Blue มีจำหน่ายมานานปีดีดัก นับว่าขายดีเพราะคุณภาพคับแก้วและราคายุติธรรม เมื่อผู้ผลิตได้มีการพัฒนาวัสดุตัวนำและกรรมวิธีในการผลิตสายให้ดียิ่งขึ้น เทคโนโลยีเหล่านั้นจึงถูกถ่ายทอดลงมาถึงสาย Tellurium Q Blue II ด้วย ถามว่า… แล้วฟังดีกว่ารุ่นเดิมไหม ต้องเรียนว่าดีกว่าครับ แถมราคาค่าตัวที่เพิ่มขึ้นนั้น เพียงแค่ 500 บาทต่อชุดเท่านั้น คุ้มมากครับ

รูปลักษณ์ของ Tellurium Q Blue กับ Tellurium Q Blue II แทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ทั้งขั้วต่อสายสีน้ำเงินสด ขนาดความกว้างและความหนา สิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นรุ่นใหม่คือตัวอักษรที่สกรีนอยู่บนสายว่า Blue II เท่านั้นเองครับ สายชุดนี้เป็นสายแบน ผลิตในประเทศอังกฤษแท้ๆ มั่นใจได้สำหรับการควบคุมคุณภาพระดับยุโรป ผมลองค้นข้อมูลดูว่าสายลำโพง Blue II มีการปรับปรุงอย่างไรบ้าง ไม่พบเลยครับ

ลองถามผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่าย คือ SOUND BOX จึงได้ทราบว่ามีการเปลี่ยนตัวนำเป็นทองแดงคุณภาพสูงขึ้น มีผลึกของทองแดงที่ต่อเนื่อง ทำให้การนำสัญญาณดีขึ้น Tellurium Q เลือกใช้โครงสร้างไม่สลับซับซ้อนเพื่อให้เฟสไม่เกิดการหักล้างกันในสายลำโพง ตรงนี้เป็นประเด็นที่ Tellurium Q ให้ความใส่ใจมาก ถึงขนาดเอาไปตั้งเป็นสโลแกนของเขาเลย ผลจากการฟังทดสอบก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นสายรุ่นเล็กหรือใหญ่ Tellurium Q ไม่ทำให้ผิดหวังเกี่ยวกับเฟสเลยครับ

แล้วมันส่งผลต่อเสียงอย่างไร เอาง่ายๆ คือ… หากสายลำโพงให้เฟสถูกต้อง ไม่หักล้าง จะทำให้เซ็ตอัพได้อิมเมจและซาวด์สเตจลงตัว มีทั้งกว้างและลึก ชิ้นดนตรีไม่ทับซ้อนกัน ได้สนามเสียงที่มีมิติสวยงาม

ชุดที่ใช้ทดสอบ ผมใช้ลำโพง XAV Small One 20th ปรีแอมป์ XAV 02 เพาเวอร์แอมป์ XAV 120A (BAL) เครื่องเล่นซีดี Gill Audio สายสัญญาณ Zensonice สายไฟ EDL ULTRAMAG MK IV ทุกช่วง ปลั๊กรางของ EDL ใส่เต้ารับ ATL รุ่นชุบโรเดียม (รุ่นสูงสุด) สายลำโพง EDL MK II ในห้องมีแผ่นปรับอะคูสติกส์ของ Vicoustic ปะติดอยู่ 5 แผ่น

ผลการทดสอบ

ผมเปิดเสียงให้สายลำโพงได้ Burn in จนครบ 50 ชั่วโมงแล้ว จึงฟังทดสอบจริงจัง พบว่าเสียงไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว จึงเริ่มฟังเพลงที่ใช้ทดสอบประกอบด้วย… อัลบั้ม Discovery HiFi Prologue 01 (1 : 1 CD-R Master), Chesky Records: Collection Series No.1, Ultimate Reference Disc: Audiophile Classic และ Carly Simon: Moonlight Serenade; Columbia

ฟังเพลงร้องก่อนครับ Carly Simon ขับร้องเพลงแนวสแตนดาร์ด ด้วยความนุ่มนวล มีรายละเอียด และไดนามิกคอนทราสต์พอดีๆ แผ่นนี้บันทึกมาไม่ถึงกับ Audiophile แต่ยังพอสัมผัสได้ถึงตำแหน่งชิ้นดนตรีต่างๆ สิ่งที่ผมตั้งหน้าตั้งตาฟัง คือ… ไดนามิกและเฟส เพราะเป็นจุดชี้ขาดว่า สายแพงกับสายถูก มันมักจะเป็นประเด็นที่แตกต่างกันอยู่ โดยเฉพาะไดนามิกคอนทราสต์อันเป็นที่มาของลีลาในการนำเสนอนั้น สายลำโพงหรือสายสัญญาณในระดับเริ่มต้น มักทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่กับ Tellurium Q Blue II กลับไม่รู้สึกว่า มันขาดแคลนคุณสมบัติในประการนี้ไปสักเท่าใด

Macro Dynamic สวิงได้กว้างครับ อาจจะเนื่องด้วยมันให้เสียงในบุคลิกที่ใสกระจ่างมากด้วย รายละเอียดไม่อึมครึมเลย ทำให้รู้สึกว่าไดนามิกสวิงดี ไม่มีอั้นตื้อ ยกเว้นแต่ในเพลงสุดโหดอย่าง 1812 Overture: Antal Dorati ที่ปลายๆ ทั้งบนและล่างยังไปไม่สุดเสียงสังข์ แต่กับเพลงทั่วๆ ไปไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

สำหรับเรื่องเฟสแล้ว ผมเลือกเอาแผ่นบันทึกเสียงเครื่องดนตรีสดเล่นพร้อมกันในสตูดิโอของ Discovery HiFi มาทดสอบครับ

ผมได้ยินเสียงที่มีบรรยากาศของห้องบันทึกเสียงออกมาด้วย ซึ่งตรงนี้มีความแตกต่างจากแผ่นที่อัดเสียงมาในรูปแบบของการ over-dubbing หรือการอัดแยกหลายๆ แทร็ก แล้วนำมามิกซ์รวมกัน แบบหลังนี้ไม่มีแอมเบี้ยนต์ของห้องอัด และการ modulate ของเครื่องดนตรีชิ้นต่างๆ ก็จะไม่มีด้วย

Blue II ถ่ายทอดบรรยากาศความสดออกมาได้แบบที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับสายลำโพงราคา 5 พันกว่าบาท แม้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็พอทำให้แยกแยะความแตกต่างได้

ในส่วนของสมดุลเสียงหรือ Tonal Balance นั้น ทำได้ดีครับ ย่านทุ้มต้นและทุ้มลึกยังเทียบกับรุ่น Black ไม่ได้ แต่เมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของย่านกลาง สูง แล้ว ต้องถือว่าในภาพรวมยังสอบผ่านด้วยคะแนน 7.9 เต็ม 10 เสียงกลางมีความชัดเจน ใส และโฟกัสดีมาก ผิวเสียงเกลี้ยงเกลาไม่มีสากเสี้ยน เสียงแหลมทอดประกายออกไปได้ไกลกว่า Black ธรรมดา หรือจะเรียกว่า Blue I ก็ได้ครับ

ที่ต้องชมมากคือ ความกว้างและลึกของเวทีเสียง ด้านกว้างนั้นตีวงโอบล้อมลำโพงออกไปได้ราวกับสายลำโพงค่าตัวหลายหมื่น ส่วนด้านลึกนั้นมีลักษณะเหมือนตัว U (ยู) ที่สอบเข้าหากันเล็กน้อย การจัดวางตำแหน่งอิมเมจแม่นยำและมั่นคงเป็นตัวเป็นตนสูง

สรุป

สายลำโพง Tellurium Q Blue II เป็นสายลำโพงที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดยี่ห้อหนึ่งในปัจจุบันนี้ สายเส้นนี้เหมาะกับผู้ที่อยากได้ยินเสียงดนตรีสมจริง เป็นธรรมชาติ ไม่แต่งแต้มจนสีสันเกินจริง ข้อสำคัญคือ ราคาโดนใจมากครับ กระซิบดังๆ ว่า ท่านที่มีลำโพงไบไวร์ให้ซื้อ Tellurium Q Blue II ไปสองชุด จัดการ Terminate ขั้วต่อด้านที่เสียบเข้าแอมป์ให้เหลือชุดเดียว (Single to Bi-wire) รับรองมีเฮครับ. ADP

ราคา 5,500 บาท

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย SOUND BOX
โทร: 089-920-8297, 02-642-1448