เตรียมพร้อมที่จะดำดิ่งลงไปในโลกดิจิทัลออดิโอในทุกตัวโน้ต
พบทุกความแตกต่างด้วย “ความชัดเจน จะแจ้ง และอารมณ์ดนตรี” ที่ไม่มีใครเทียบได้

บททดสอบครั้งแรกที่ครอบคลุมทุกมิติของ ROCKNA Wavelight Server (WLS) เครื่องเล่นตัวต้นทางที่ว้าวที่สุดของวันนี้

สวัสดีครับ ทุกคน

พบกันอีกแล้วกับ audiophile go digital…อรรถคดีว่าด้วยเรื่องของ Digital Audio ซึ่งจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้เล่าขานอยู่เสมอบนสื่อออนไลน์ที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

และนี่เป็นบทความทดสอบบนเว็บไซต์… www.audiophile-videophile.com

…ขอบคุณสำหรับการติดตาม

Breaking News

ก่อนอื่นขออัปเดตข่าวระอุในแวดวง Streaming Services กันหน่อย

Tidal ปรับกลยุทธ์ใหม่ เดิมทีมี 2 แพลน คือ HiFi ราคา 139 บาทต่อเดือน และ HiFi Plus 258 บาทต่อเดือน หลังจาก 10 เมษายนนี้เป็นต้นไปจะรวบเหลือแพลนเดียวคือ HiFi Plus ในราคา 139 บาทต่อเดือน ซึ่งจะได้ครบที่ FLAC 24/192 และ Dolby Atmos ซึ่งในฐานะหัวหมู่ทะลวงฟัน Streaming Hi-Res ราคาสบายกระเป๋า ต้องจ่ายเท่านี้ก็จะไปเบียดกับขาใหญ่พี่เปิ้ลที่ปล่อย Apple Lossless และ Dolby Atmos อยู่แล้ว โชคยังดีที่พี่เปิ้ลไม่สนใจกลุ่มเครื่องเสียงบ้านเท่าไหร่ และตอนนี้ทั้ง Tidal กับ Apple Music ราคายังลงมาสูสีกับ Spotify แต่ให้คุณภาพที่เหนือกว่าอีกด้วย

เอาล่ะซิ ขาใหญ่ Spotify ซึ่งยังคงพอใจที่จะปล่อยแค่ MP3 320bps งานนี้เหนื่อยแน่ เมื่อไหร่จะปรับเป็น Spotify HiFi เสียที เสียชื่อตัวแทนหมู่บ้านหมด ถ้าคิดว่าสะดวกแบบนี้ เห็นทีลูกค้าน่าจะตาสว่างได้แล้ว

แต่ยิ่งการแข่งขันสูงเท่าใด ผู้บริโภคอย่างเราก็ได้กับได้ ไม่ต้องคิดเยอะ เอาล่ะมาเข้าเรื่องกัน

Overture

ในแวดวงไฮเอนด์กลุ่มดิจิทัลออดิโอนั้น สุดยอดปรารถนาที่นักเล่นเครื่องเสียงสายสตรีมคือ

ความเที่ยงตรง แม่นยำ มาบรรจบกับความหลงใหล (passion) ในเสียงดนตรีธรรมชาติ

จากแนวคิดนี้ ก่อกำเนิดเป็น ROCKNA Wavelight Server ปรากฏเป็นสัญญาณสู่ความเป็นเลิศ ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ให้ทำงานเข้ากับ DAC ทุกตัวในโลกใบนี้ ช่วยเสริมสมรรถนะ ปลดปล่อยอย่างอิสระไร้ขีดจำกัด เต็มสมรรถนะของ DAC ตัวนั้น ให้บังเกิดเสียงดนตรีเป็นธรรมชาติที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ขณะที่กำลังเริ่มต้นการเดินทางผ่านระบบนิเวศในกลุ่มเครื่องเสียงไฮเอนด์ที่สร้างขึ้นโดย “ตัวต้นทาง” (Front End) ที่ ROCKNA เรียกว่า Server ในที่นี้ขอเรียกว่า Dedicated Multi-Function Network Transport มีรูปทรงที่หล่อ บุคลิกดี น่าเกรงขาม รวบความสามารถทุกอย่างเท่าที่นักเล่นออดิโอไฟล์ในยุทธจักรสายสตรีมอยากให้เป็นและต้องรู้จักดี เช่น Roon Core, Roon Endpoint, HQ Player, UPnP renderer, AirPlay แถมยังมีขุมพลังอัปแซมปลิง / อัปคอนเวอร์ชัน กับเซอร์วิสอื่นๆ อีกมากมายที่จะตามมา จะนำพาให้ DAC เทพของคุณสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างรื่นรมย์

เริ่มต้นการเดินทางในโลกเสียงดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครไปด้วยกัน โดยที่ ROCKNA Wavelight Server จะครองตำแหน่งสูงสุดด้วยประสิทธิภาพ ความเก่งกาจที่ไม่มีใครเทียบได้ ในฐานะความเป็นเลิศด้านเสียงขั้นสูงสุดในงบประมาณเท่ากันนี้

พบกับอนาคตของเสียงดิจิทัลออดิโอที่มีความเที่ยงตรงสูง

เข้าถึงเนื้อแท้ของดนตรี จะถูกเปิดเผยต่อหน้าคุณต่อจากนี้ มา มา

ROCKNA Wavelight Server (WLS)

เพิ่งเปิดตัวหมาดๆ ในมิวนิกไฮเอนด์ที่ผ่านมา

ROCKNA Wavelight เป็นซีรีส์รองของ ROCKNA ที่เดิมที่มี Wavelight Pre/DAC อยู่ตัวเดียว บัดนี้มีเพื่อนคู่หูออกมา ตัวเป็นๆ มาอยู่ในห้อง Home Studio ของผมแล้ว

สิ้นสุดการแสวงหาความสมบูรณ์แบบด้านเสียงจากตัวต้นทาง ผลงานอันเป็นลายเซ็นจากแนวคิดของพ่อมดดิจิทัลจากโรมาเนีย Mr.Nicole Jitariu: Designer/Founder บุคคลผู้อยู่เบื้องหลัง DAC รุ่นดังของวงการ Digital Audio หลายตัวรวมถึงรุ่นพี่ ROCKNA WaveDream series ทั้งสองตัวที่ผมได้รีวิวเปิดตลาดในบ้านเราไปแล้ว ตามอ่านย้อนหลังได้

เป้าหมายก็เพื่อก้าวข้ามขอบเขตเดิมๆ เพื่อสร้างสิ่งมหัศจรรย์ในหลายแง่มุม กำเนิดเป็นนิยามใหม่ให้กับความเป็นไปได้ของการเล่นเครื่องเสียงดิจิทัลไฮเอนด์แบบ ‘สุด’ โดยผสานเทคโนโลยีดิจิทัลรวมเข้ากับศิลปะของเสียงดนตรีธรรมชาติ การตั้งค่าอันชาญฉลาดให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นง่ายดายเพื่อออดิโอไฟล์ในทุกระดับ

ตัวเครื่องมีลุคทันสมัยและสง่างามในทุกมิติ ใส่ใจตั้งแต่การออกแบบที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันไปจนถึงคุณสมบัติอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีภายในแน่นปึ้ก บรรจุไว้ด้วยความสามารถอันสุดล้ำ

ทุกแง่มุมของ ROCKNA Wavelight Server สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศที่ตอบสนองความต้องการสูงสุดของผู้ลูกค้าผู้ชื่นชอบ ROCKNA บ่งบอก “ความเป็นตัวตนของผู้เป็นเจ้าของ” ได้เป็นอย่างดี

เมื่อมี Network Transport / Server เทพเป็นตัวต้นทางแล้ว ที่เหลือก็ต้องจับคู่กับ DAC ตัวเก่งของคุณที่จะสตรีมและเพลิดเพลินเพลงกับ Streaming services ล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้ารวมถึงในคลังแสงทั้งหมดของคุณด้วยความสะดวกสบายเพราะเสถียรมาก ใช้งานง่ายและเหนือชั้นในทุกมิติ

Differentiated than others

เจาะลึกลงไปถึงฟังก์ชันการทำงานมากมายของ Wavelight Server ก็ต้องว้าว เพราะได้ค้นพบขุมทรัพย์ของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัลออดิโอ รวมถึงการปรับแต่งเสียง ทำหน้าที่เป็น Multi-function Network Transport (ไม่มี DAC) พร้อมหน่วยความจำ ที่ต่างจากมิวสิกเซิร์ฟเวอร์ตระกูล CAT ตัวอื่นๆ เพราะพวกนั้นล้วนแล้วแต่ใช้ USB เป็น Interface แทบทั้งสิ้น ซึ่งการที่จะทำให้ USB เสียงดีนั้นไม่ง่ายเลย

WLS ไม่ใช่ CAT เหมือนคนอื่น แต่เป็น Music Server ที่จัดเต็มมาก โดยจะมี Digital Interface ชั้นดีแบบ Full features ติดตั้งมากับเครื่องเลย เพื่อใช้รองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อดิจิทัลกับ DAC ได้ทุกรุ่นทุกยุคในโลกครบครัน อีกทั้งยังจัดเต็มในเรื่อง Linear PSU ขุมพลังมหึมามาด้วยเลยโดยมิต้องร้องขอ

ตรงนี้ก็ต้องจ่ายเงินเป็นแสนบาทแล้วครับ

ROCKNA Wavelight Server พกความเป็น Specialty เอามากๆ

วางตัวอยู่ในฐานะ Network Transport ชั้นดี ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์เสียงแบบ Hi-End ให้กับผู้ใช้ Roon Core ตลาดเดิมๆ โดยมอบความสามารถในการสตรีมเพลงดิจิทัลคุณภาพสูง โดยนำเสนอคุณสมบัติต่างๆ มากกว่าและเหนือกว่า

วงจรภายในอยู่บนพื้นฐานของ Custom LINUX OS Platform เช่นเดียวกับรุ่นพี่ ROCKNA Wavedream NET แน่นอนที่ต้องจัดเต็มด้วยฮาร์ดแวร์ใช้ AMD 7 Series FPGA รวมถึงใช้ FEMTO Clock อิสระ 2 ชุด เป็นที่รู้กันว่าแพงและมี jitter ต่ำเป็นพิเศษ เพื่อการประมวลผลสัญญาณดิจิทัลที่ซับซ้อนได้อย่างราบลื่น ไร้รอยต่อ ให้เสียงบริสุทธิ์เป็นธรรมชาติที่สุด

เพื่อให้มั่นใจถึงการ reproduce ดนตรีที่จะให้เสียงธรรมชาติ ความสามารถเล่นเพลงที่มีความละเอียดสูงได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังอาจรองรับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายมากกว่าคำว่า Music Server ดาดๆ เปิดโอกาสให้การตั้งค่าการใช้งาน พร้อมทั้งปรับแต่งให้เหมาะสมตามความต้องการของผู้ใช้ มอบประสบการณ์เครื่ิองเสียง Hi-End อันดื่มด่ำและเหนือชั้นในท้ายที่สุดอย่างที่จะไม่พบจากเครื่องเสียงในอดีต

WLS เข้ามาแก้ไขปัญหาสำคัญบางประการของการตั้งค่าเสียงสมัยใหม่ ช่วยลดความจำเป็นในการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มักมีปัญหายุ่งยาก จากการรบกวนสูงของเซิร์ฟเวอร์หลักของคุณ เลือกที่จะขจัดความจำเป็นในการใช้ CPU ที่แรง ในการแปลงรหัส PCM เป็น DSD และลดความจำเป็นในการใช้เซิร์ฟเวอร์ หรือ NAS พื้นที่เก็บข้อมูลเพลงตัวเดิม

WLS รวบคุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้รวมอยู่ในแพ็กเกจที่ทันสมัยและมีสไตล์ ซึ่งเข้ากันได้ดีเยี่ยมกับ ROCKNA Wavelight DAC ซึ่งเป็น R2R hybrid DAC ที่ครบเครื่องโดยให้เสียงแบบเต็มคาราเบล

จะลงรายละเอียดในรีวิวส์ต่อไป อดใจรอนิดนึง

Under the hood

WLS ได้รวบองค์ประกอบสำคัญหลายประการสำหรับดิจิทัลออดิโอบนมิวสิกเซิร์ฟเวอร์สมัยใหม่เช่น จัดเต็มมาพร้อม Linear Power Supply เป็นแหล่งจ่ายไฟในตัว ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการส่งพลังงานที่สะอาดและเสถียรไปยังส่วนประกอบต่างๆ ลดเสียงรบกวนทางไฟฟ้าและการรบกวนอื่นๆ ซึ่งอาจลดคุณภาพเสียงได้ ระบบฮาร์ดแวร์ชั้นดีออกแบบให้มี low TDP (Thermal Design Power)หมายถึงความร้อนต่ำระหว่างการทำงานของ CPU โดยนอกจากนี้ยังเลือกใช้ AMD 7 series FPGA/DSP ที่มีประสิทธิภาพสูงใช้ Custom Linux OS สำหรับการจัดการเสียงยังช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผลให้สามารถประมวลผลสัญญาณขั้นสูงแบบเรียลไทม์อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและประสิทธิภาพของระบบ ทำให้การทำงานราบรื่นรวมถึงการจัดการไฟล์เสียง โดยเฉพาะการสตรีมเพลงได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ

โดยรวมแล้ว การผสมผสานนี้ส่งผลให้ได้โซลูชันเป็นมิวสิซิร์เวอร์ที่เสถียร เชื่อถือได้ และมีความแม่นยำสูง รองรับการใช้แอปพลิเคชันเสียงระดับมืออาชีพ เหมาะสำหรับคุณชายสายสตรีมผู้รักเสียงเพลง ชอบเสียงดนตรีบริสุทธิ์ ยึดถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

How?

WLS จะจัดการแปลงรหัสระหว่างรูปแบบในระดับฮาร์ดแวร์ โดยไม่ทำให้ CPU ทำงานหนักเกินไป ดังนั้นความร้อนและการปล่อย RFI จะอยู่ในระดับต่ำ โดยจะไม่ส่งผลเสียต่อวงจรเสียง

WLS มีความสามารถในการให้คุณเลือกใช้ซอฟต์แวร์เซิร์ฟเวอร์และเซอร์วิสด้านเสียงที่หลากหลาย รวมถึง Roon, MPD, LMS และอื่นๆ มีสถานการณ์การใช้งานหลายอย่าง เช่น อุปกรณ์สามารถใช้เป็นแกนหลัก หรือสามารถใช้เป็นมิวสิกเซิร์ฟเวอร์ตัวเรนเดอร์ต้นทาง (Roon Core) หรือปลายทาง (Roon Bridge) ได้

Controlled

WLS มีอินเทอร์เฟซควบคุมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านเว็บบราวเซอร์ในเครื่องหรือแอป ช่วยให้เจ้าของสามารถจัดการที่เก็บข้อมูลภายในหรือเสียบ USB Storage จากภายนอก เลือกซอฟต์แวร์หรือบริการที่ใช้งาน เลือกอัปแซมปลิงหรือพารามิเตอร์การแปลงรหัส เลือกการตั้งค่าเอาต์พุต I2S สำหรับความเข้ากันได้ของ DAC โดยอัตโนมัติ

WLS สามารถอัปเกรดฟีเจอร์ได้อย่างสมบูรณ์และรองรับได้ในอนาคต รวมถึงริปซีดีไปยังไดรฟ์ความจำในตัวเครื่องได้ ทั้งระบบปฏิบัติการพร้อมบริการและ FPGA (ฮาร์ดแวร์เสียง) สามารถอัปเดตได้อย่างง่ายดายผ่านทางอินเทอร์เน็ต

Storage

Wavelight Server (WLS) ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นคลังแสงเพลงของคุณ จัดพื้นที่เก็บข้อมูลภายในไว้มากับเครื่อง 2TB audio grade SSD เป็นพื้นฐานโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มแต่อย่างใด หรือจะเพิ่มความจุไปจนถึงสูงสุด 16TB สามารถเก็บอัลบั้มเพลง Hi-Res, Uncompress ภายในมากมาย นอกจากนี้ WLS ยังมีพอร์ต USB 3 พอร์ต ซึ่งคุณสามารถเชื่อมต่อที่จัดเก็บข้อมูลภายนอก และ / หรือ NAS (Network Attached Storage) ที่สามารถกำหนดให้เป็นแหล่งคลังแสงดนตรีสำหรับ WLS ได้ไม่รู้จบ

Check In

ตัวเครื่องอะลูมินัมสลิมบางกว่ารุ่นพี่ Wavedream ปกติจะมีสองสีให้เลือก คือ สีเงินอะโนไดซ์ และดำอะโนไดซ์ เครื่องที่ส่งมาเป็นตัวถังสีดำ หน้าตาทันสมัย หลังตัวเครื่องเพื่อไม่ให้เรียบเกินไป แบ่งเป็นสามส่วน ก็คงบ่งบอกภายในคือ Engines / DSP, PSU, Storage & Interfaces

หน้าเครื่องเรียบ มีจอดิสเพลย์เล็กๆ กับสวิตช์ on/off เป็นปุ่มตัวเดียวเท่านั้น ก็ไม่ต้องทำอะไรหรอก จะปรับแต่งอะไรไม่ต้องทำหน้าเครื่องหรอก รีโมตก็ไม่จำเป็น ใช้แอปบนมือถือหรือบนเว็บบราวเซอร์เอาดิ 555

Connectivity / Functions

ขั้วต่อที่แผงด้านหลังอธิบายได้ในตัว มีพอร์ต RJ 45 (LAN Port) หนึ่งพอร์ต, พอร์ต USB 3 พอร์ต (1 x USB 3.0, 2 x USB 2.0) และเอาต์พุตดิจิทัลเพื่อต่อกับ DAC: I2S, Toslink, SPDIF และ AES/EBU พอร์ต USB ใช้สำหรับเชื่อมต่อที่จัดเก็บข้อมูลภายนอกเป็นหลัก แต่สามารถใช้เชื่อมต่อ USB DAC หรือตัวกระจายสัญญาณ WI-FI ได้ ด้านขวามีอินพุตสำหรับไฟ AC

WLS สามารถรองรับรูปแบบการเชื่อมต่อในยุคนี้ทุกรูปแบบก็จริง แต่ความสามารถต่างกันนะ จะพบว่า I2S นั้น ‘สุด’ จริง รวมถึง Interface อื่นๆ ยกเว้น USB จะไม่สามารถเล่น Upsampling ได้เป็นต้น

ฟังก์ชัน By Default มาในฐานะ Roon Core และมิวสิกเซิร์ฟเวอร์ ยังมีฟีเจอร์อื่น การทำงานอันหลากหลาย รวมถึงการปรับ Upsampling / Upconversion ที่หลากหลายได้อย่างง่ายดายด้วยความแม่นยำและเที่ยงตรงที่ไม่มีใครเทียบได้

the Perfect Match

เมื่อ ROCKNA Wavelight Server (WLS) จับคู่กับ ROCKNA Wavelight DAC (WLD) ถือว่าคุณกำลังสร้างระบบเสียงดิจิทัลประสิทธิภาพสูงที่ปรับทุกขั้นตอนของห่วงโซ่การเล่นสตรีมมิ่งให้เหมาะสมสมบูรณ์แบบที่สุด และนี่คือวิธีการทำงานที่รวบให้ไว้ในที่เดียว

1. **แหล่งที่มาของเสียงดิจิทัลคุณภาพสูง** Wavelight Server (WLS) ทำหน้าที่เป็น Transport แหล่งที่มาของไฟล์เสียงดิจิทัล ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไฟล์เสียงจะถูกสตรีมหรือเล่นด้วยความเที่ยงตรงและแม่นยำสูงสุด ด้วยความสามารถในการประมวลผลสัญญาณดิจิทัลขั้นสูงและตัวเลือกการเชื่อมต่อที่แม่นยำ I2S

2. **ประสิทธิภาพการส่งข้อมูลดิจิทัล** Wavelight Server (WLS) สื่อสารกับ DAC ในที่นี้คือ Wavelight DAC (WLD) ผ่านการเชื่อมต่อดิจิทัลคุณภาพสูงได้หลายทาง เช่น I2S จริงๆ แล้วอาจเลือกเป็น USB หรือ AES / EBU ก็ได้แต่เกรงจะพลาดโอกาสที่จะได้อานิสงส์จาก Hardware upsampling audio engine จาก WLS จึงเลือกที่ใช้ I2S (HDMI cable) เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลเสียงดิจิทัลจะได้รับการถ่ายโอนอย่างราบรื่นโดยไม่ส่งผลให้มีข้อจำกัดในแง่ฟีเจอร์ลงนั่นเอง และจะถูกเลือกเป็นค่าเริ่มต้นโดยอัตโนมัติ

3. ** Wavelight DAC (WLD) มีหน้าที่ในการแปลงสัญญาณเสียงดิจิทัลที่ได้รับจาก WLS ให้เป็นสัญญาณอะนาล็อกที่สามารถผ่านเพาเวอร์แอมป์ได้ตรงๆ เลย เนื่องจาก WLD เล่นผ่านลำโพงหรือหูฟังได้ ใช้ส่วนประกอบการแปลงดิจิทัลเป็นอะนาล็อกคุณภาพสูงและวงจรที่ซับซ้อนเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของสัญญาณเสียงในระหว่างกระบวนการแปลง

4.  Wavelight Server (WLS) และ Wavelight DAC (WLD) ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นทุกด้าน รวมถึงความละเอียด ไดนามิก จังหวะ ไทมิ่ง และความแม่นยำของโทนเสียง ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์การฟังที่มีความชัดเจน รายละเอียด และความสมจริงเป็นพิเศษ ทำให้คุณดื่มด่ำไปกับเพลงโปรดของคุณด้วยความเที่ยงตรง และบริสุทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้

โดยรวมแล้ว การจับคู่ ROCKNA Wavelight Server (WLS) และ Wavelight DAC (WLD) จะสร้างระบบเสียงที่ทำงานร่วมกันซึ่งยกระดับการเล่นดิจิทัลออดิโอกับเครื่องเสียง Hi-End ขึ้นไปอีกขั้น มอบประสบการณ์การฟังที่ดื่มด่ำและน่าหลงใหลอย่างแท้จริง

Appendix

I2S (Inter-IC Sound) and USB

ทั้งสองเป็นอินเทอร์เฟซเสียงดิจิทัลเหมือนกัน แม้ว่า I2S ยังอาจมีข้อจำกัดในมาตรฐานการเชื่อมต่อที่แตกต่างกันของแต่ละแบรนด์ ต่างจาก USB ที่มีมาตรฐานแน่ชัดแล้ว

แต่ทั้งสองก็ทำงานแตกต่างกันและยังให้ข้อได้เปรียบที่แตกต่างกันในบางบริบท นี่คือข้อดีบางประการของการเชื่อมต่อ I2S เมื่อเปรียบเทียบกับ USB ในระบบเสียงดิจิทัลที่นักเล่นต้องโฟกัส

**Synchronization** I2S ช่วยให้สามารถส่ง audio data, clock และ control signals แบบซิงโครไนซ์ระหว่างอุปกรณ์เสียงดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลให้ jitter ลดลงและเพิ่มความแม่นยำของ timing เมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อ USB การซิงโครไนซ์นี้สามารถนำไปสู่สัญญาณเสียงที่สะอาดขึ้นและอาจมีคุณภาพเสียงที่สูงขึ้น

**Dedicated Communication** I2S เป็นอินเทอร์เฟซเสียงดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายโอนข้อมูลเสียงดิจิทัลโดยเฉพาะ ในขณะที่ USB เป็นอินเทอร์เฟซอเนกประสงค์ที่รองรับการรับส่งข้อมูลประเภทต่างๆ ในทุกรูปแบบกว้างเป็นมหาสมุทร ลักษณะเฉพาะของ I2S นี้สามารถส่งผลให้มีการสื่อสารที่เหมาะสมยิ่งขึ้นระหว่างส่วนประกอบของเสียง ซึ่งนำไปสู่ประสิทธิภาพที่ดีกว่า

**เส้นทางสัญญาณที่สั้นกว่า** ในการตั้งค่าบางอย่าง การเชื่อมต่อ I2S อาจทำให้เส้นทางสัญญาณสั้นกว่าเมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อ USB ซึ่งอาจลดโอกาสของการรบกวนและการเสื่อมของสัญญาณ สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบเสียงระดับไฮเอนด์ที่ความบริสุทธิ์ของสัญญาณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

**Customization** การเชื่อมต่อ I2S จะทำให้สามารถปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งสัญญาณเสียงได้มากกว่าเมื่อเทียบกับ USB ซึ่งอาจรวมถึงตัวเลือกสำหรับการปรับแต่ง re-clocking, data format รวมถึงพารามิเตอร์อื่นๆ เพื่อให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของระบบเสียงของเรามากขึ้น

**Compatibility** แม้ว่า USB จะเป็นอินเทอร์เฟซที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นมาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงเข้ากับคอมพิวเตอร์และแหล่งดิจิทัลอื่นๆ แต่ในระยะหลังๆ มานี้การเชื่อมต่อ I2S นั้นพบได้ทั่วไปในอุปกรณ์เครื่องเสียง โดยเฉพาะ DAC ระดับไฮเอนด์ กับโปรเซสเซอร์ดิจิทัลใหม่ๆ ดังนั้นหากระบบเสียงของคุณมีส่วนประกอบที่รองรับ I2S การใช้อินเทอร์เฟซนี้อาจให้การบูรณาการที่ราบรื่นรวมถึงให้ประสิทธิภาพสูงสุด

โดยรวมแล้วประโยชน์ของการใช้ I2S ในระบบเสียงดิจิทัลขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและคุณลักษณะเฉพาะของระบบเสียงของคุณ แม้ว่า USB จะแพร่หลายและสะดวกกว่าสำหรับการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และแหล่งดิจิทัลอื่นๆ แต่ I2S ก็มีข้อดีในด้านคุณภาพเสียง การซิงโครไนซ์ และการปรับแต่งในการตั้งค่าเสียงบางอย่างทำได้สุดก็เช่น UpSampling / UpConversion แล้วทำไมจะไม่ล่ะครับ

ขณะทดสอบก็เลยลองเสียบ WLS กับ CYRUS STREAM-XR และ WEISS MAN 301 Golden DAC เสียด้วยเลย โดยใช้ Coax นี่ล่ะ

Setting

ทั้ง ROCKNA Wavelight Server (WLS) และ ROCKNA Wavelight DAC (WLD) ผมเลือกใช้การตั้งค่าผ่านแอปบน Mobile device ทั้งคู่ เพราะสะดวกดี อย่างที่เกริ่นข้างต้นว่า WLS นั้นเล่นได้หลายบทบาท

ก็ต้องเข้ามาที่ Servers จะเห็นว่า Roon Server เปิดอยู่แล้ว

แต่ที่ติดตั้งมาเป็น By default นั่นคือ Roon ถ้าต้องการให้สวมบทบาทอื่นก็ต้องเข้าไปเลือกบนแอปเพื่อเปลี่ยนสถานะเอาตามปรารถนา เล่นทีละฟังก์ชัน วนไป ไม่แน่ใจว่าจะเล่นครบไหมนะ ฮา

ดังนั้นเบื้องต้นเลือกที่จะเล่น WLS เป็น Roon Core ก่อนเลย ก็ต้องเข้าไปที่ Setting เพื่อเลือกเอาต์พุตเป็น ALSA ก็เพราะเป็น LINUX OS รายละเอียดตามนี้เลย

Roon Core

Roon ถือเป็นเกจิตัลแห่งอาณาจักรดนตรีดิจิทัลของคุณ ช่วยเรียบเรียงซิมโฟนีของเสียงดนตรีด้วยความประณีตและมีไหวพริบ ทำหน้าที่อยู่เหนือสุดเพียงอย่างเดียวที่จะเจาะลึกเข้าถึงบริการสตรีมเพลงอย่าง Tidal และ Qobuz ผ่านคลังแสงสุดขอบฟ้าอันกว้างใหญ่ รวมถึงเข้ากับคอลเลชันส่วนตัวของคุณได้อย่างราบรื่น จะช่วยจัดการเพลย์ลิสต์ ซิงโครไนซ์แบบมัลติรูม ประมาณว่าฟังได้หลายห้องในคราวเดียวแบบมิวสิกเซิร์ฟเวอร์มืออาชีพ และปรับแต่งทุกโน้ตเพื่อความเพลิดเพลินในการฟังสูงสุด อัจฉริยะด้านดิจิทัลออดิโอนี้ไม่เพียงแต่รวบรวมเพลงของคุณเท่านั้น แต่เมื่อให้ WLS ทำงานด้วยบทบาท Roon Core ก็ไม่ใช่ว่าเสียงจะเหมือนกับ Roon Core ตัวอื่น แต่ยังยกระดับคุณภาพเสียงโดยรวมในระบบเครื่องเสียงไฮเอนด์ขึ้นไปอีก เปลี่ยนประสบการณ์การฟังของคุณให้กลายเป็นการเดินทางด้วยเสียงดนตรีที่น่าจดจำอย่างยิ่ง

ALSA

ย่อมาจาก “Advanced Linux Sound Architecture” ในบริบทของการตั้งค่าเอาต์พุตเสียงของ WLS ในหน้าที่ Roon Core… ALSA หมายถึงอินเทอร์เฟซเสียงที่ใช้สำหรับ Audio Output บนระบบที่ใช้ Linux ALSA ให้การเข้าถึงฮาร์ดแวร์เสียง และโดยทั่วไปใช้เป็นเฟรมเวิร์กเสียงเริ่มต้นใน Linux หลายๆ รุ่น เมื่อเลือก ALSA เป็นตัวเลือกเอาต์พุตเสียงในการตั้งค่า Roon Core หมายความว่า Roon จะใช้ ALSA เพื่อสื่อสารกับฮาร์ดแวร์เสียงบนระบบ Linux ของคุณเพื่อเล่นเพลง

ROON Bridge

เคสนี้ ก็เพื่อถ้าบังเอิญคุณมี Roon Core ชั้นดีอยู่แล้ว ก็แค่ปรับเปลี่ยนบทบาท WLS ให้มันเล่นบท Roon Bridge ไปเลยซึ่งก็ง่ายดายด้วยปลายนิ้ว คุณจะต้องอึ้งว่า เฮ้ย! มันคือดิจิทัลทรานสปอร์ตชั้นดีเลยนะเนี่ย

ฟังก์ชันนี้ก็ต้องลองซิครับ เข้าไปตั้งค่าที่ Service แล้วติ๊กที่ต้องการ แค่นี้ก็พร้อมใช้งาน WLS จึงกลายเป็นRoon Bridge และที่ต่ออยู่กับ WLD ก็จะกลายเป็น ROON Endpoint ไปในบัดดล

ที่น่าประทับใจที่สุดก็คือความสามารถของ Wavelight Server ที่ถูกปรับแต่งให้อยู่ในฐานะอุปกรณ์เชื่อมต่อกับ DAC ปลายทางที่ทั้งคู่จึงกลายเป็น Roon Endpoint ไปเลย คำนี้ก็คงคุ้นสำหรับการเล่นเครื่องเสียงดิจิทัลออดิโอไฮเอนด์ในยุคนี้ที่ต้องมี ตรงนี้เท่าที่ทราบควรเอา Roon Core กล้ามโตไว้ข้างหน้าจะดีที่ซู้ดครับ ผมเองใช้ Pachanko Labs Constellation Mini (CAT) เป็น Roon core ที่เล็กกว่าซึ่งควรอยู่ปลายทาง แต่ก็ลองเพื่อให้รู้ว่าทำได้ไง

AirPlay

อยากฟังเพลงจาก Spotify, Apple Music ชีวิตง่ายขึ้นอีก ค้นพบความสุขในการสตรีมอีกครั้งด้วย Apple AirPlay เชื่อมต่ออุปกรณ์ iDevice ของคุณกับ WLS ได้อย่างง่ายดาย และปลดล็อกวิธีใหม่ในการเพลิดเพลินกับเนื้อหาที่คุณชื่นชอบ ในที่นี้ WLS จัดการให้ได้เข้าไปตั้งค่าที่ Service แล้วเชื่อมจาก iPhone ได้เลย เพียงต้องใส่ password “WLS” นิดนึง

Upsampling & Upconversion

ฟังก์ชันที่ต้องเล่นควบคู่ไปกับความสามารถในการอัปแซมปลิงและอัปคอนเวอร์ชันขั้นสูง เช่นจาก Native > 352/384 หรือ PCM Native>>DSD512 เป็นต้น และ PCM Phase Response ได้ด้วยความสามารถในการ UpSampling (อัป ความละเอียด Sampling rate) ให้ได้ไดนามิกการบันทึกเสียงของอัลบั้มที่คุณชื่นชอบให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ทำให้ดนตรีในทุกโน้ตตัวมีชีวิต ยิ่งผสมผสานประสบการณ์การฟังของคุณเข้ากับระดับของความสมจริงและความดื่มด่ำที่เหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้าต้นฉบับบันทึกดีอยู่แล้วก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก จุดสังเกตพบว่าผมกลับชอบ 352 มากกว่าแฮะ

Show Time

ถึงเวลาฟังจริงจัง อัลบั้มหลากหลายแนวถูกทยอยกดบรรจุลงในโผ

แหม่ กำลังอินกับดนตรีแสดงสดของ Porcupine Tree เลือกรีวิวซักหน่อย เพลง “Buying New Soul” จาก “Closure/Continuation Live” ประทับใจให้กับเสียงกลองอันฉับไว ซับซ้อนของ Gavin อีกด้วย หวดอย่างเชี่ยวชาญ ช่ำชองของมือกลองช่วยเพิ่มมิติให้กับเพลงอีกระดับ เสริมด้วยเบสตบแบบไดนามิกส์ และเพิ่มประสบการณ์การฟังโดยรวม ตั้งแต่การเติมคีย์บอร์ดเบาๆ ไปจนถึงกรูฟที่ทรงพลัง กลองมีส่วนทำให้จังหวะของเพลงซับซ้อนและช่วยรักษาโมเมนตัมให้ก้าวไปข้างหน้า การแสดงสดช่วยให้มีการแสดงได้ Improvise หรือด้นสดและการปรุงแต่งที่ดียิ่งขึ้นกว่าสตูดิโออัลบั้ม โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านเทคนิคและไหวพริบสุดเก๋าในการสร้างสรรค์ของมือกลอง Gavin ด้วยเหตุนี้ แทร็ก “Buying New Soul” จึงเป็นตัวอย่างที่ยกมา ไม่เพียงเป็นการแสดงถึงความซับซ้อนทางดนตรีของวงเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงโชว์ของการแสดงสดที่เหนียวแน่นและมีพลังของพวกเขาด้วยการถ่ายทอดผ่าน WLS และ WLD ได้สุดติ่งจริง

ยิ่งเมื่อฟังเพลงซาวด์แทร็กของ ‘Dune: Part Two’ ของ Hans Zimmer ผ่าน ROCKNA Wavelight Server ได้สัมผัสกับเสียงดนตรีที่บรรเลง Score OST ถึงแก่นแท้ของหนังที่กำลังโด่งดัง เป็นการลับหูกับดนตรีวงใหญ่ซึ่งมีความซับซ้อน ผมชอบฟัง Score หนัง ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การฟังให้ยิ่งสูงขึ้นไปอีก ความสามารถในการเล่นเสียงที่มีความเที่ยงตรงสูงของ Wavelight Server ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกรายละเอียดขององค์ประกอบชิ้นดนตรีของ Hans Zimmer ได้รับการ reproduce อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ ตั้งแต่ความแตกต่างอันละเอียดอ่อนของเส้นสายไปจนถึงเสียงกระทบของเปอร์คัสชั่นที่โหมกระพือดังสนั่น ความถี่ต่ำแน่นกระชับ แผ่กว้างเต็มห้อง ในทุกองค์ประกอบของเพลงประกอบจะถูกนำเสนอด้วยความชัดเจนและความแม่นยำอย่างยอดเยี่ยมได้ทั้ง Depth, Image, Sound Stage จาก Wavelight Server ยิ่งเมื่ออยู่ในห้องโฮมสตูดิโอที่มีความสงัดที่จะได้ยินแม้เข็มตกลงพื้นเช่นนี้… เวอร์ เวอร์

มีความเชื่อว่าความสงัดช่วยให้ผมในฐานะผู้ฟังสามารถระบุตำแหน่งของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้ง่าย แม้เสียงเล็กเบาๆ เอฟเฟกต์ต่างๆ ภายในเวทีเสียงแบบไร้ขอบเขตสุดจินตนาการของหนัง เพิ่มความดื่มด่ำโดยรวมของหนังและมอบประสบการณ์การฟังอย่างแท้จริง

อีกอัลบั้มที่ฟังบ่อยมาก คือ “Time Out” DSD64 ของ Dave Brubeck Quartet เป็นอัลบั้มดนตรีแจ๊สคลาสสิกเหนือกาลเวลา ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานการเรียบเรียงที่แหวกแนวด้านจังหวะในยุคนั้น เมื่อเล่นผ่าน ROCKNA Wavelight Server และ ROCKNA Wavelight DAC อัลบั้มนี้จะนำเสนอได้โดดเด่นอย่างแท้จริง

คุณภาพการบันทึกเสียงที่ไร้ที่ติที่ถูกส่งมอบโดยตัวต้นทาง ROCKNA Wavelight Server ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การฟังที่เป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยรายละเอียดเล็กๆ รวมถึงรายละเอียดของการบันทึกที่ถูก reproduce อย่างเที่ยงตรง

จะเป็นเพราะสถาปัตยกรรมที่เสถียร แข็งแกร่งของเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงความสามารถในการประมวลผลสัญญาณดิจิทัลที่แม่นยำช่วยให้เวทีเสียงที่สะอาดและโปร่งใส ช่วยให้ในฐานะผู้ฟังอย่างผมสามารถชื่นชมความซับซ้อนของเปียโนของ Brubeck แซกโซโฟนของ Paul Desmond และการทำงานร่วมกันของวงดนตรีได้อย่างเต็มที่

ยิ่งเมื่อจับคู่กับ ROCKNA Wavelight DAC การเล่นอัลบั้ม “Time Out” จะเพิ่มความคมชัดและความลึกที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน การประมวลผลเสียงความละเอียดสูงของ DAC และ Processing ทำงานด้วยความแม่นยำของ Femto clock ที่มี jitter ต่ำส่งผลให้ได้เสียงที่ละเอียด ละเมียดละไม นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติเป็นพิเศษ พร้อมการแยกเครื่องดนตรีอย่างชัดเจน มีเลเยอร์ และให้ความรู้สึกที่ชัดเจนของอารมณ์เพลง

โดยรวมแล้ว การผสมผสานระหว่าง ROCKNA Wavelight Server และ ROCKNA Wavelight DAC จะยกระดับประสบการณ์การฟังของ “Time Out” สู่ระดับความเป็นเลิศด้านเสียงที่ไม่มีใครเทียบได้ ไม่ว่าจะเพลิดเพลินกับจังหวะกลองของแทร็กตำนาน “Take Five” มีไดนามิกส์ความเที่ยงตรงอย่างที่สมควรได้รับ ทำให้ต้องมีเก็บในคอลเลกชันของผู้ที่รักดนตรีแจ๊สทุกคนต้องไม่พลาด บอกเลยว่าผมเองแม้ไม่ถนัดดนตรีแจ๊สนัก… ยังฟินเลย

Unveiling the Sonic Masterpiece

ยุคนี้ใครๆ ก็ฟังเพลงสตรีมมิ่งไฮไฟ ในปัจจุบันผู้ผลิตน้อยใหญ่พากันหันหัวสู่ตรีมมิ่งกันทั้งสิ้น ไปตรงไหนก็เจอหลักพันยันหลักล้านกันเลยทีเดียว ฟังเพลงอัลบั้มโปรดง่ายยิ่งกว่าในยุคใดๆ มีทั้งฟรีและเหมาจ่าย

ขอยกวลีอมตะ ที่ว่า “Music is not to hear, it is to feel” แปลตรงๆ ก็คือ “ดนตรีไม่ใช่แค่การได้ยิน แต่คือความรู้สึก”

แนวคิดที่ว่าแก่นแท้ของดนตรีอยู่เหนือการรับรู้จากการได้ยินนั้นเมื่อเราฟังเพลง เพราะดนตรีจะเจาะลึกเข้าไปในขอบเขตของอารมณ์และความรู้สึก ไม่ใช่แค่เสียงจากชุดเครื่องเสียงที่เข้าหูของเราให้รับรู้เท่านั้น แต่เกี่ยวกับวิธีที่คลื่นเสียงขับเคลื่อนสู่ภายใน ปลุกเร้าอารมณ์ จุดประกายความทรงจำ รวมถึงสะท้อนกับจิตวิญญาณของเรานั่นเอง

วลีนี้เน้นย้ำถึงผลกระทบอันลึกซึ้งที่ดนตรีมีต่อจิตใจและความคิดของเรา เตือนเราว่าพลังของดนตรีอยู่ที่ความสามารถในการกระตุ้นความรู้สึกที่จับต้องได้ ซึ่งเกินกว่าความรู้สึกของการได้ยินเสียงจากประสาทหูเพียงอย่างเดียว

ถ้าเครื่องเสียงที่มีลักษณะเฉพาะมากเท่าไหร่ ก็ให้ได้ชัดมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมิได้หมายถึงราคาต้องแพงเสมอไป ถึงให้คุณสมบัติเหล่านี้ได้หรอก และหนึ่งในนั้นก็คือ WLS ตัวนี้กับและคู่หู WLD นั่นเองที่มีลักษณะเฉพาะมากพอเช่นกัน

ROCKNA Wavelight Server (WLS) สร้างความประทับใจให้กับคุณชายสายตรีมได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะจับคู่กับ DAC ตัวใดก็ให้คุณภาพเสียงที่น่าหลงใหล ให้เสียงเนื้อแท้ของ DAC ตัวนั้น ให้เสียงที่มีรายละเอียดและความเป็นดนตรีอย่างแท้จริง ตั้งแต่ความซับซ้อนของโน้ตแต่ละตัวไปจนถึงเวทีเสียง 3 มิติที่กว้างทะลุกำแพงห้องโฮมสตูดิโอบ้านนอกห้องเล็กๆ ของผม ส่งมอบผลงานชิ้นเอกด้านดนตรีของศิลปินคนโปรด ให้ดื่มด่ำไปกับบทเพลงเหนือกว่าประสบการณ์ของการฟังแบบเดิมๆ พร้อมด้วยการผสมผสานฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่มี Music Server ทั่วไปเทียบได้

เมื่อคู่กับ WLD ด้วยแล้ว นำเสนอเนื้อแท้ เปิดเผยตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็นคุณสมบัติของ WLD R2R DAC ได้แรงปะทะที่ดุดันแม้อาจไม่เท่า Wavedream DAC แต่ก็แนวเดียวกัน หรือแม้จาก Golden DAC รับการสวิงขององค์ประกอบเสียง ไร้ขีดจำกัดใดๆ อันหมายถึง Dynamic headroom ที่นำสู่ปลายแหลมที่พลิ้วไม่กุด และในขณะเดียวกันก็ให้ไดนามิกส์ดำดิ่งสู่ห้วงลึกของเสียงเป็นอะนาล็อกได้อย่างง่ายดายเมื่อฟังกับ CYRUS STREAM XR เช่นกัน

ROCKNA WLS ตัวนี้จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ของนิยาม Multi-function Network Transport อย่างแท้จริง อันที่จะปลดล็อกสู่อาณาจักรดนตรีที่มิเพียงแต่ได้ยินเสียงดนตรีเท่านั้น แต่ยังปลุกเร้าจิตให้สู่พะวังด้วยอารมณ์เพลง สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณที่มีชีวิตของศิลปินอีกด้วย

เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ถึงความกล้าหาญของ ROCKNA Wavelight Server ถือเป็นสัญญาณแห่งความเป็นเลิศด้านเสียง โดย ‘เสี่ยมุแห่ง Bull Dog’ ขอมอบ “ข้อเสนอที่มิอาจปฎิเสธได้” ต่อคุณชายสายสตรีมที่คู่ควรอย่างท่านที่มี ROCKNA DAC อยู่ในมือ หรือแม้นักเล่นท่านอื่นที่มี DAC เทพตัวอื่นอยู่แล้วทุกคนก็ต้องชวนล่ะ ที่ยังไม่เคยสัมผัส Dedicate Multi-function Network Transport ชั้นดีจากออสเตรีย ทั้งนี้ก็เพื่อชวนให้เริ่มต้นการเดินทางดนตรีสู่หนทางสายสตรีมที่ไม่เหมือนใคร ที่เปลี่ยนไปตลอดกาล แนะนำเลยครับ. ADP

ROCKNA: Wavelight Server ราคา 220,000 บาท

พิเศษ!!! สำหรับคนใช้ ROCKNA DAC
มีส่วนพิเศษลด 20% เหลือเพียง 176,000 บาท
เพียงแจ้ง serial number แล้วมาจัดไปได้เลย!

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 
Bulldog Audio
โทร.081-454-0078

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ