ชุมพล มุสิกานนท์

TARA LABS เป็นผู้ผลิตสายเคเบิ้ลเก่าแก่ โรงงานตั้งอยู่ที่รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา เจ้านี้ทำสายมาหลายปีดีดัก นักเล่นเครื่องรุ่นใหญ่มักเคยผ่านหูกันมาแล้วทั้งนั้น สายยี่ห้อนี้โฆษณาน้อยมาก หรือแทบจะไม่เห็นตามนิตยสารเครื่องเสียงหัวนอกเลยครับ เขาก็ขายของเขาได้เรื่อยๆ ด้วยความดีของผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง เท่าที่ผมติดตามดูสายของ TARA LABS มานั้น เขาไม่ค่อยมีลูกเล่นหรือ Gimmick อันแปลกประหลาด ที่พวกเขาเน้นคือใช้ตัวนำชั้นเลิศ โครงสร้างสายที่ถูกต้อง ฉนวนไม่มากมายหลายชั้น ไม่พยายามประหยัดในส่วนสำคัญ คือ หัวแจ๊ค การประกอบสายทำได้เรียบร้อยมาก และที่สำคัญคือ รับประกันการใช้งานตลอดชีวิต!!! 

สาย TARA LABS ที่มาถึงมือผมมักเป็นรุ่นเล็ก/กลาง ราคาไม่สูงมากนัก (บังเอิญมั้ง?) ซึ่งทุกครั้งมันก็ตอบสนองความต้องการใช้งานได้อย่างคุ้มราคาค่าตัว ในครั้งนี้เป็นคิวของรุ่น Prime M2 หัวสายชนิดบาลานซ์ (XLR) ประกอบสำเร็จมาจากโรงงาน สายหุ้มหนังงูสีดำมาตลอดเส้น หัวแจ๊คก็ผ่านการทำ PVD. สีดำมาด้วย ขนาดความยาวมาตรฐาน 1 เมตรครับ สาย Prime M2 ดัดตัวได้ค่อนข้างดี ไม่แข็งโป๊ก และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ใหญ่โตมากนัก ที่จริงคือ มันเป็นสายที่มองดูด้วยสายตาแล้วจัดว่าเรียบๆ ร้อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวาเลยครับท่าน เพราะฉะนั้น ประเด็นที่ TARA LABS นำเสนอให้ผู้บริโภคคือ ความสามารถในการนำสัญญาณล้วนๆ ครับ หัวใจของสายประเภทนี้คือ ตัวนำ และโครงสร้าง รวมทั้งฉนวนและหัวแจ๊คครับ 

Prime M2 ใช้ตัวนำ SA-OF8N (Super-Annealed, Oxygen-Free, Mono-Crystal, Frequency-Tuned, 8-Nines-99.999999% copper) แม่เจ้า!!!! ตัวนำสเปกเทพมากๆ มิน่าจึงให้สุ้มเสียงที่ลื่นไหลใสสะอาดเป็นอย่างยิ่ง นอกจากความล้ำเลิศของวัสดุแล้ว ยังผ่านการขัดเรียบด้วยมือ ก่อนที่จะประกอบสายและเข้าหัว ทุกขั้นตอนทำโดยมนุษย์ ไม่ใช่เครื่องจักร

เมื่อแหกฉนวนด้านนอกเข้าไปดูภายในสาย TARA LABS PRIME M2 จะเห็นท่อฉนวนโพลี-เอธิลีนตีเกลียวกันอยู่แบบห่างๆ ไม่มัดแน่น ล้อมรอบท่อศูนย์กลางอีกที วัดค่าคาพาซิแตนต์ (การเก็บประจุ) ได้ 14 pf ที่ความยาว 1 ฟุต ถือว่าน้อยมากครับ ส่งผลให้เสียงไม่อุ้ยอ้าย รายละเอียดดี ส่วนมากสายสัญญาณโครงสร้างง่ายๆ แบบนี้ มักจะมีสปีดเสียงที่ดี ไม่เร่งรีบ และไม่หน่วงช้าเกินไป แต่จะสู้พวกสายประหลาดไม่ได้อีตรงอิมแพ็ค หรือไม่ก็เวทีเสียงครับ แต่อย่างไรซะ สิ่งที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นการแม็ตชิ่งกับเครื่องเสียงอยู่ดีครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

Prime M2 มีฉนวนตาข่ายทองแดงถักหุ้มอยู่เพื่อกันคลื่นรบกวนต่างๆ ก่อนจะหุ้มด้วยโพลีเอธิลีน ด้านในระหว่างตัวนำแต่ละเส้นมี Spacer ที่ทำด้วยไฟเบอร์ธรรมชาติ การออกแบบสายเส้นนี้ ผมคิดว่าConservative มากๆ แบบนี้เชื่อขนมกินได้เลยว่าเสียงดีแน่ แต่จะดีขนาดไหน หนีไม่พ้นการฟังจริงอยู่ดี และด้วยความที่สายชุดนี้มีขนาดหน้าตัดไม่ใหญ่โตมากนัก ผมเลยจับมันต่อเข้ากับเครื่องเล่นซีดี NEC CD-300 ที่มี Output XLR ไปเข้าXLR Input ของปรีแอมป์ XAV 02 ซึ่งเป็นปรีแอมป์วงจร Balanced แท้, เพาเวอร์แอมป์ใช้ Aura PA-100, ลำโพง Reference 3A Episode รุ่นเก่า, สายลำโพง Zonotone 5500 (Bi-Wire), ปลั๊กกรองไฟ NRG-1100 ของ Audioquest เสียบอุปกรณ์ทุกตัว เว้นแต่เพาเวอร์แอมป์เข้าที่ปลั๊กพ่วงของ Zensonice รุ่นสองช่องเสียบ ที่ทำมาให้ใช้กับปรีแอมป์และเพาเวอร์แอมป์โดยเฉพาะ 

คุณภาพเสียง

เสียงแรกออกมาไม่เป็นที่ผิดหวัง ผมเทียบกับสาย VIARD ที่ผมใช้อยู่แล้ว ไม่ได้ด้อยกว่าในย่านกลาง-แหลม และความไหลลื่น ผ่านไป 3 ชั่วโมง เสียงเริ่มแกว่ง เอาล่ะครับ ระยะเวลาแห่งความปวดร้าวมาแล้ว ผมต้องทนทุกข์ทรมานต่อไปอีก 20 ชั่วโมง จึงจะได้ยินเสียงจริงของสาย TARA LABS PRIME M2 โชคดีที่ผู้แทนจำหน่ายไม่รีบเอาคืน ผมเลยเสียบฟังต่อไปอีก 10 ชั่วโมง สิริรวมแล้ว 30 ชั่วโมงเศษ เสียงถึงจะอยู่ตัว ไม่เปลี่ยนแปลงอีก นี่ถ้าหากเป็นพวกสายที่ทำไครโอเจนิกมาคงต้องล่อเข้าไปอีก 50 ชั่วโมงแน่!!!

เสียงของ TARA LABS PRIME M2 บุคลิกโดยรวม จัดว่าเปิดเผยให้รายละเอียดที่ดี โดยที่ยังคงความสุภาพ ไม่รุกเร้าจนเกินไป ดุลน้ำเสียงผมให้ 8 เต็ม 10 เนื่องจากมันอ่อนเบสไปนิด แต่มีสิ่งดีเลิศประเสริฐศรีมาทดแทน นั่นคือ การเว้นวรรคช่องว่างช่องไฟระหว่างชิ้นดนตรีทำได้ดีเกินราคาค่าตัว เสียงที่ถ่ายทอดผ่านสายสัญญาณชุดนี้ไร้ความหยาบกระด้าง เนื้อเสียงมีมวลเข้มข้นพอประมาณ ไม่ถึงกับอิ่มหนาจนฟังแล้วรู้สึกอึดอัด แต่ก็ไม่บางเรียวจนผิดสเกล มันสมควรพอดีแบบที่สายสัญญาณดีๆ พึงจะเป็น ไดนามิกสวิงได้กว้างตั้งแต่เบาสุดจนถึงดังสุด ไม่มีอาการอั้นตื้อใดๆ ตลอดเวลาที่ฟังทดสอบ ความต่อเนื่องลื่นไหลของเสียงเป็นคุณสมบัติของ TARA LABS ที่คุณคาดหวังได้เลยครับ

ความเปิดเผยของสายที่เรียนมาตอนต้นนั้น ไม่ถึงกับเปิดโล่งขาวโพลนไปหมดนะครับ มันมีส่วนที่เก็บตัวไว้ให้พอเป็นเสน่ห์ ไม่งั้นฟังไปนานๆ จะพาลเบื่อเร็วไป เสียงแหลมฟังสบายๆ ไม่จี๊ดจ๊าด ไม่แตกตัวเป็นฝอย มีการควบคุมจัดระเบียบให้ฉายออกมาอย่างถูกต้องตามกาลเทศะ ทำให้ฟังแล้วนุ่มนวล รื่นหู ไม่บาดคม เสียดกร้าว มีประกายกังวานพอประมาณ ไม่ทิ้งหางเสียงไว้ในอากาศยาวนัก เสียงเคาะโลหะฟังดูยังได้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ หากแต่น้ำหนักหัวเสียงยังไม่คมเข้มเท่ากับสายสัญญาณมหากาฬทั้งหลาย

เสียงกลางมีความเป็นธรรมชาติสูง สด กระชับ โฟกัสเสียงได้อย่างชัดเจน ไม่เน้นยำจนขึ้นขอบ ความกังวานรอบๆ ตัวโน้ตมีมาให้ตามราคาเป๊ะ ถือว่ายุติธรรมครับ ฟังเสียงคนร้องเพลงรู้สึกว่านักร้องเปิดปากร้องชัด ไม่อมพะนำ มีเสียงลมลอดไรฟันออกมาอย่างเป็นอิสระ

เสียงทุ้มหรือเบส บอกได้เลยว่าTARA LABS ไม่ใช่สายบ้าเบสแน่นอน มันไม่โดดเด่น แต่ก็ไม่ขาดแคลน เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาทำเป็นสายเชื่อมต่อจากแหล่งกำเนิดสัญญาณ เพราะคุณสมบัติที่มีบุคลิกในตัวเองน้อย จึงไม่ไปเบี่ยงเบนความจริงแท้ของเสียงที่ส่งผ่านเข้ามาผมลองฟังทดสอบแผ่นซีดีที่เน้นเบสอย่าง Bella Sonus แทร็กที่ 1 และ 6 เบสที่ได้ยินยังคงไว้ซึ่งน้ำหนัก แรงปะทะ และรายละเอียด สิ่งที่ลดลงไปบ้างคือ ปริมาณที่บอกเอาไว้ สำหรับผมแล้วไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพียงแค่ไปเพิ่มโวลุ่มที่ซับวูฟเฟอร์อีก 1 ระดับก็จบแล้ว

คุณสมบัติทางด้านมิติเวทีเสียง ตรงนี้น่าประทับใจมาก ด้วยความที่โครงสร้างสายไม่มีอะไรพิสดารพันลึก ผมเข้าใจว่าเฟสเลยดี แถม Skin Effect ก็ต่ำ เลยทำให้อิมเมจขึ้นรูปชัดเจน มีทรวดทรงองค์เอว การจัดลำดับของชิ้นดนตรีมีระยะตื้นลึกอย่างสวยงามเป็นระเบียบ 

สรุป 

สายสัญญาณ TARA LABS PRIME M2 เป็นสายที่บุคลิกไม่แรง เป็นมิตรกับทุกซิสเต็ม ไม่น่าจะเกิดปัญหา Mismatch กับสายชุดนี้ คุณสมบัติอันโดดเด่นคือเป็นกลาง เวทีเสียงดีมาก และราคาค่าตัวไม่แพงครับ. ADP

ราคา 18,500 บาท
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย Inventive AV (IAV) 
โทร. 0-2238-4078-9 

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 259