ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ

Master of Reality…
NAD: M33
BluOS® Streaming DAC Amplifier.

สวัสดีครับ…

ขอนำเข้าสู่ audiophile go digital ฉบับออนไลน์ในหมวดของ Audiophile Reviews บนเว็บไซต์ audiophile -videophile.com ด้วยบททดสอบไฮไฟแนว Network Audio ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ พบกับบทความเจาะลึก… ว่าด้วยเรื่องของพี่ชายคนโต “NAD M33 ไฮไฟที่ครบจบในตัวเดียว”

ตอบสนองความต้องการผู้ใช้ที่ต้องการไฮไฟ “ชุดจบ หล่อเข้ม กล้ามโต เทคโนโลยีสุดล้ำ เข้าถึงง่าย งบไม่บานปลาย” ที่เพิ่งรีวิวส์บน Live Stream ไป …ก่อนเข้าเรื่องขอปูพื้นสักนิด

Hi-End TODAY …Complexity and expensive…?

สาย Old School Hi-Fi… “พี่หลาย เล่นใหญ่ด้วยเครื่องหลายชิ้น หลายตัว หลายเส้นสาย หลายสิ่งหลายอย่างกับอุปกรณ์อัพเกรด ยิ่งคันเท่าไหร่ก็ต้องหมดหลาย งบประมาณบานปลาย ไม่ง่ายที่จะแม็ตชิ่งและเซ็ต ดีไม่ดีต้องพึ่งเซียนมาช่วย ต้องไม่ลืมว่าเล่นเครื่องเสียงต้องจ่ายเงินเดือนให้มันก็ต้องจ่ายหลายด้วย ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันว่าหมายถึงค่าวัสดุสิ้นเปลืองที่ไม่มีหยุด หลักๆ ก็จะเป็นแผ่นฟิสิคัลที่ต้องซื้อหามาฟังตลอดอายุในการเล่นไฮไฟของคุณ จะได้ฟังเท่าที่ซื้อเป็นเจ้าของเท่านั้นด้วยซิ

“ไฮไฟในยุคที่ต้องการแค่ลำโพงคู่เดียว”

ไฮไฟเพื่อ MUSIC Lover รักเสียงดนตรี ลงทุนซื้อไฮไฟดีๆ เพื่อฟังอัลบั้มโปรดให้ไพเราะขึ้น หรือแม้ Experienced Listener ที่หยุดการแสวงหา ประมาณว่าหมดไปหลายแล้ว

…ไฮไฟที่ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำของวันนี้… สะดวกสบาย เรียบง่ายดูดี รองรับความบันเทิงของเสียงดนตรีไร้ขีดจำกัดแม้จะอัดฟีเจอร์มากเกิ๊น จบอยู่ในตัว Chassis เดียว ไม่จำกัดอยู่ในกรอบของไฮไฟเดิมๆ แต่ให้เพอร์ฟอร์มานซ์ดีเยี่ยม จนแทบจะไม่ต่างไปจากเครื่องแยกชิ้นแบบ Old School Hi-Fi ที่ใช้งบสูงกว่ามันเป็นเท่าตัว กินเงินเดือนน้อยนิดไปกับค่า Subscribe ของ Streaming Services แถมมีเพลงหลายสิบล้านแทร็กให้ฟังไม่รู้จบ

“เพียงจับกับลำโพงคู่โปรดก็เพียงพอที่จะโลดแล่นไปสู่อาณาจักรแห่งเสียงดนตรีอันไกลโพ้น ไร้ขีดจำกัด ได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัสแล้ว” เรากำลังพูดถึงพี่ชายคนโต NAD M33 BluOS® Streaming DAC Amplifier เครื่องเสียงแนว NETWORK AUDIO ตัวล่าสุดจาก NAD แบรนด์ยอดนิยมที่นักเล่นเครื่องเสียงบ้านเราย่อมรู้จักกันดี

NAD (New Acoustic Dimension) ถือกำเนิดมาเมื่อปี 1972 ย่างเข้า 5 ทศวรรษ เริ่มจากผู้นำเข้าในยุโรปลงขันกันสมัยนี้อาจเป็น Startup หรือ Cloud Funding ลงทุนต่ำจดทะเบียนในอังกฤษในระยะแรกทำงานร่วมกับนักพัฒนาวิจัยมือฉมังหลายท่านในแวดวงไฮไฟของโลก… จากบริษัทไฮไฟเล็กๆ จนเติบโตขึ้น หาญกล้าท้าชนค่ายเครื่องเสียงยักษ์ใหญ่ นักเล่นทั่วโลกล้วนยอมรับและเคยสัมผัสเครื่องเสียง NAD ในฐานะเครื่องเสียงบ้าน หน้าตาแสนจะธรรมดาไม่หวือหวา แต่เสียงดี ทว่า “ราคานักศึกษา” ประมาณว่าใครที่เริ่มเข้าสู่วงการไฮไฟก็ต้องเคย “ตีตั๋วเด็ก” ผ่านแอมป์ NAD 3020 อันโด่งดังหรือไม่ก็ไม่ตัวใดก็ตัวนึงทั้งสิ้น ในบ้านเราก็รู้จัก NAD เพราะ CONICE นี่เอง ที่อยู่คู่วงการไฮไฟบ้านเรามาอย่างยาวนาน จากคุณลานทิพย์ จากแอมป์ เครื่องเล่นสื่อฟิสิคัล ส่งผ่านสู่นายหญิงคนสวยคือคุณบุ๋ม Nattika Ho หญิงเก่งยุค Streaming ทั้งเครื่องแยกชิ้นและ Smart All in ONE integrated amp ของวันนี้

…จะพบว่า NAD เติบโตจากแอมป์ เครื่องเสียงบ้านแยกชิ้นหน้าตาคลาสสิก ต่อมาก็มีทั้งจูนเนอร์ เครื่องเล่นซีดี ยุคหลังๆ จะเห็นคำว่า MDC, BluOS แปะติดมากับเครื่องเสียงหลายตัว ขอขยายนิดนึง

MDC (Modular Design Construction)

MDC ถูกนำเสนอตั้งแต่ปี 2007 หมายความว่า NAD เครื่องนี้สามารถอัพเกรดได้ จะมีช่อง Slot สำรองไว้ เผื่อเสียบ Up Grade Board ได้ ก็เพื่อรองรับการอัพเกรดในอนาคต

ด้วยงบประมาณที่ไม่สูงเกินไปทำให้ในบางฟีเจอร์ที่อาจมิได้ติดตั้งเป็นมาตรฐานมากับเครื่อง ซึ่งส่งผลให้ NAD เครื่องนั้นจะไม่ตกรุ่นง่ายๆ นั่นเอง เป็นผลประโยชน์โดยตรงและยึดโยงสำหรับลูกค้าของ NAD เป็นอย่างดี

BluOS

เป็น Streaming platform สุดคูล ถูกพัฒนาวิจัยโดย BlueSound บริษัทในเครือ LENBROOK บริษัทแม่แห่งแคนาดา แยกการดำเนินธุรกิจแตกต่างกันโดยที่ BlueSound มีไฮไฟแนวไลฟ์สไตล์ราคาไม่แรง เน้นลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ชอบไฮไฟประเภท Network audio ครบไลน์ รองรับ Streaming สื่อกระแสหลักของไฮไฟวันนี้ ตัวเล็ก ราคาไม่สูง เสียงดี ใช้งานง่าย อเนกประสงค์ไร้ข้อจำกัด ประหยัดเนื้อที่ ติดตั้งกลมกลืนเข้ากับอินทีเรียอย่างสวยงาม

เดิมที BluOS ก็เพื่อเครื่องของ BlueSound อย่างเดียว ที่จะสตรีมแบบไร้สาย ตัว Platform เองทำงานบน LINUX kernel ทำงานด้วยขุมพลัง NXP 1 GHz ARM processor ที่จะ integrated การทำงานของ hardware และ software ที่จะบริหารจัดการเพื่อเปิดประสบการณ์เสียงดนตรีดิจิทัลให้กับคุณด้วยปลายนิ้วสัมผัส จัดการเพลง 24/192 PCM, MQA จาก “คลังแสง” (NAS) ของคุณไปจนถึง Cloud Services มากถึง 20 services (Spotify, Amazon Music, WiMP, Qobuz, IDAGIO, Deezer, Murfie, nugs.net, TIDAL, Napster, Bugs, KKBOX, Taihe Music ZONE, SOUNDMACHINE, RADIO.COM) จะเยอะไปไหน, Internet Radio (TuneIn, iHeartRadio, Calm Radio, Radio Paradise, LiveXLive) กันเลยทีเดียว ใช้งานกับ Multi-room รวมถึง Smart Home Integration ทั้งสายและไร้สาย AirPlay 2, Bluetooth aptX HD รวบการทำงานทั้งหมดไว้ในแพลตฟอร์มเดียว สามารถ Set up, Vol Control, Inputs Selection, Streaming Services, Internet Radio, สตรีมจาก Music Library จนถึงได้ควบคุมเปิดปิดการทำงานของ DiRAC Live Room Correction ด้วย  

ต่อมา BluOS ถูกนำไปติดตั้งในเครื่องเสียง NAD หลายรุ่น จาก Master Series หรือ DAC ใน Classic Series กลายเป็น Streaming DAC ก็ยังมี… ปัจจุบัน BluOS มีพาร์ตเนอร์เป็นแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ มากขึ้น

BluOS Streaming Amp >> BluOS Streaming DAC Amp

NAD เดินหน้าเต็มตัวกับการนำเสนอ Smart All in One Amp ในกลุ่ม Master Series คือซีรีส์บนของ NAD ด้วย

NAD M10 BluOS Streaming Amp เป็น Smart All in One Integrated Amp ถูกรีลีสมาเมื่อซัก 2 ปีที่ผ่านมา รูปลักษณ์หรู ทันสมัย ถือว่าจี๊ดจ๊าดมาก BluOS ถูกผนวกนวัตกรรมที่สุดยอดรวมกับวงจรแอมป์ Hybrid Digital NCore ใช้ ESS 32bit DAC เกิดเป็น All in One ตัวเล็กเสียงดี ผลตอบรับดีมาก ซึ่งได้รีวิวส์ไปนานแล้ว ทุกวันนี้ก็ยัง “ปัง” อยู่นะ

ส่วน NAD M33 นั้นก็เป็นพี่ใหญ่ใน MASTER Series ซึ่งวงจรแอมป์ใช้บริการของ PURIFI จากเดนมาร์กแต่ใช้คำว่า BluOS Streaming DAC Amp ซึ่งแปลว่าเป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ติดตั้ง DAC เทพรวมร่างกับ BluOS กลายเป็น M33 ไงครับ

NAD M33: BluOS® Streaming DAC Amplifier…

NAD M33 แอมป์หล่อเข้มกล้ามโตและฉลาดคือไฮไฟแนว Streaming DAC All-in-one Integrated

BluOS Platform รวมร่างกับ DAC ชั้นดีกับแอมป์กล้ามโตจาก PURIFI Audio Eigentakt amplification module จาก PURIFI แห่งเดนมาร์ก NAD M33 ที่อยู่ในห้อง Home Studio ขณะนี้

Best of Both World Hi-Fi

NAD M33 คือ “ไฮไฟแห่งอนาคต แน่นด้วยพละกำลังขับ 200 watts ที่ 8 Ohms”

ด้วย Platform BluOS® อันทรงพลังผนวกร่างกับ DAC/Amp ที่เสริมพลังด้วย Purifi Eigentakt™ analog-input Class D amplifier module, Dual Mono กำลังขับ 200 watt/ch ที่ 8 Ohm / 380 watt/ch ที่ 4 Ohm สามารถขับลำโพงใดๆ ได้สบายๆ อ้อ… สามารถ Bridge 700 watts ที่ 8 Ohm ได้ เออว่าแต่ว่าจะเอาไปขับอะไร  

PURIFI ‘Eigentakt’ Amplifier Technology

PURIFI บริษัทสัญชาติเดนมาร์ก ที่รวมวิศวกรชั้นนำของอุตสาหกรรมไฮไฟหลายคน ใช้ Simulation ทางคณิตศาสตร์ขั้นสูงเพื่อแก้ปัญหาข้อจำกัดที่เหลืออยู่ของวงจรแอมปลิฟายเออร์ แม้ว่าในตลาดปัจจุบันมีแอมพลิฟายเออร์ที่ให้เสียงดีมากมายก็จริง

Bruno Putzeys พ่อมดแห่งวงการไฮไฟยุคใหม่ กลับหามุมมองใหม่ในทุกมิติของการเพิ่มประสิทธิภาพของวงจรแอมปลิฟายเออร์ โดยพบว่ายังมีความ Non Linear ในวงจร ที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่เล็กน้อยมากก็จริง แต่เมื่อได้แก้ปมปัญหาตรงนี้แล้วกลับสามารถสร้างความแตกต่างให้กับคุณภาพเสียงโดยรวมเป็นอย่างมาก ผลลัพธ์เชิงวิทยาศาสตร์วัดได้ว่า ค่าสัญญาณรบกวนน้อยลง ในขณะเดียวกันก็พบว่าให้ความผิดเพี้ยนต่ำกว่าด้วย แต่ผลจากการฟังด้วยหูนั้นเป็นอะไรที่มากมายต่อไดนามิกส์ เสียงให้รายละเอียดดีขึ้น ความโปร่งใสเป็นธรรมชาติที่จะฟังได้นานอย่างน่าประหลาด จะต่างจากแอมป์หลายๆ ตัวที่แม้ให้เสียงที่มีรายละเอียดดีมากก็จริง แต่ก็กลับทำให้ล้าหูได้เมื่อฟังนานๆ 

CHECK IN

NAD M33 อยู่ในสัณฐาน 435 x 133 x 396 mm ตัวเครื่องทำจาก ALUMINUM Anodized สีดำเป็น CHASSIS ที่ทำให้ M33 ทั้งตัวหนักประมาณ 18.4 กิโลทีเดียว มาพร้อมกับ ISO-Point feet วางบนแป้นตัวล่างเป็นแม่เหล็กอยู่ในกล่องแยกมาให้ บนหลังเครื่องทำเป็น Grill เจาะเป็นช่องระบายอากาศเห็นวงจรภายใน จำนวน 8 ช่อง มองดูคล้าย 6 Packs ของมนุษย์ บ่งบอกถึงโครงสร้างที่เอาจริง แสดงถึงพละกำลังของแอมป์ตัวนี้

FRONT-panel

แผงหน้าปัดด้านหน้าทำจากแผ่นอะลูมินัมอย่างหนา ติดตั้งไว้ด้วย NAD LOGO ที่จะบอกสถานะของเครื่องว่าเปิดหรือ Stand by ถูกวางบนแผงหน้าปัดซึ่งเป็น Aluminum Plate อย่างหนา สวิตช์ปิดเปิดแบบสัมผัสถูกติดตั้งไว้ด้านบนของแผงหน้าเครื่อง ซึ่งเป็นที่ของติดตั้งของจอ Display ที่จะแสดงผลสถานะเครื่องและไฟล์ขณะเล่น สามารถควบคุมด้วย Touch Screen ผ่านหน้าจอได้เลย แผงหน้าปัดติดตั้งไว้ด้วยลูกบิดขนาดใหญ่ของวอลลุ่มคอนโทรลที่ใช้ควบคุมระดับ ดัง-ค่อย ทั้งจากลำโพงและหูฟังกันเลย ด้านล่างของแผงหน้าปัดด้านซ้ายติดตั้งไว้ด้วย Headphone Jack ขนาด ¼ นิ้วตามมาตรฐานหูฟัง

Inside

ภายในแน่นเอียดด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูง ภาคจ่ายไฟขนาดใหญ่ จ่ายไฟแยกอะนาล็อกและ Digital board แยกจากกันอิสระ

REAR Panel

ด้านหลังเครื่องจากด้านซ้าย จะมี MDC Slots จำนวน 2 ช่องติดตั้งเผื่อไว้สำหรับเพิ่ม Option เช่น MDMI จำนวนหลายช่องหรืออย่างอื่นอีกในอนาคต

ที่แน่ๆ มากับเครื่องเป็นมาตรฐานก็คือ Digital inputs ครบทุกรูปแบบคือ RJ45 Ethernet input (LAN) ช่อง USB ที่ทำงานเป็น 2 หน้าที่คือสำหรับ USB Storage และ DIRAC LIVE USB Microphone adapter ถัดไปเป็น eARC HDMI, AES/EBU รวมถึง Coax และ Opt อย่างละ 2 ช่อง

ส่วน Analog Inputs ทั้ง Balance และ Unbalance (XLR/ RCA) รวมถึง MM/MC phono ที่พร้อมให้เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นโต๊ะหมุนของคุณ เท่านั้นไม่พอยังเตรียมช่อง Pre-OUT ไว้ให้อีกเผื่ออยากให้มันทำตัวเป็น Player ต่อเข้ากับแอมป์ตัวอื่น

เตรียม 2 ขั้วต่อลำโพงไว้ให้ 2 ชุดเผื่ออยากต่อแบบ bi-wire พร้อมทั้งขั้วต่อ 2 Subwoofer outputs ที่พร้อมจัดการด้วย Digital Crossover จากแอป

Connectivity

แม้ติดตั้งพร้อมขั้ว RJ 24 ที่พร้อมเชื่อมต่อกับวงเน็ตเวิร์กผ่านสาย LAN แบบ Wire Connection แต่ก็สามารถเชื่อมแบบ Wireless ได้ แต่ถ้าแนะนำให้เล่นแบบสายดีกว่า เสถียรกว่าแน่นอนครับ

Hi-Light Features….

NAD M33 นอกจากมีทีเด็ดที่เกิดจากการรวมร่างของ BluOS และ PURIFI แอมป์แล้ว ยังมี Hi-Light อีกเช่นฟีเจอร์ไฮไลต์ดังนี้

ติดตั้ง PURIFI ‘Eigentakt’ Amplifier Dual Mono Modules

กำลังขับ 200 วัตต์ต่อข้างที่ 8 Ohm/370 วัตต์ที่ 4 Ohm แบบ Dual Mono ให้เสียงผ่อนคลายเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ เสียงดนตรีไหลลื่นอย่างน่าทึ่ง ได้บรรยากาศตามธรรมชาติ ภาคจ่ายไฟมีกำลังสำรองสูงช่วยให้มั่นใจถึงความสามารถในการให้ไดนามิก รับการสวิงของคลื่นเสียงได้กว้าง สามารถขับลำโพงใดๆ ให้เต็มศักยภาพได้อย่างง่ายดาย

การหวนคืนสู่หลักการนี้ส่งผลให้เกิดแนวทางง่ายๆ สำหรับปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างน่าทึ่ง เมื่อผนวกกับนวัตกรรมแอมปลิฟายเออร์หลายทศวรรษของ NAD มั่นใจว่า M33 นั้นให้ความแตกต่างในด้านความแม่นยำและคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

DAC

Digital Audio ต้องชูภาค D/A ซิ NAD M33 นั้นมาพร้อมกับ 32-bit HyperStreamTM DAC architecture ด้วย 32-BIT/384kHz ESS Sabre DAC CHIP ESS 9028 ใช้ Utilities ภายในคือ Programmable output filter เพื่อรองรับไฟล์ HiRes และคลี่ MQA แบบ Full Decode เสียด้วย

Dirac Live: Room Correction

ติดตั้ง Dirac Live: Room Correction แบบ Onboard ที่จะช่วยทำให้เสียงดีที่สุดได้แม้อะคูสติกส์ในห้องฟังอาจจะไม่อำนวยต่อคุณภาพเสียงที่ดี เมื่อปรับแต่งด้วย Dirac Live จะส่งผลต่อ Sound Stage, Image, Tonal balance และ dynamics เสียงร้อง เบสกระชับขึ้น

Control

Network Audio ก็ต้องต่อโฮมเน็ตเวิร์กซิ ควบคุมผ่าน BluOS Control app จะบน iOS หรือ Android ที่ใช้งานง่ายมาก หรือจะสั่งงานผ่าน Voice Control integrated… Siri, Alexa, Google asst. ก็ไม่ขัด

…ถึงแม้ไม่ได้เชื่อมต่อเน็ตเวิร์ก ยังควบคุมทำได้หลายวิธี เช่นจากตัวเครื่อง แตะหน้าจอ Touch Screen หมุนลูกบิดได้ตรงๆ รวมถึงใช้ Remote control เช่นเครื่องเสียงเดิมๆ ซึ่งถ้าจะเล่นแค่นั้นก็อดเสียดายไม่ได้

Hook Up

ติดตั้งง่ายมาก คือ 1.เสียบสายลำโพง 2.สาย LAN cable สุดท้ายก็เสียบสายไฟ AC หรือจะเพิ่มซับ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีก็เรียบร้อย ง่ายมะ ที่เหลือก็ต้องโหลดแอป BluOS Controller และ DIRAC Live ติดตั้งเตรียมไว้เลย

Set Up

ถึงแม้ NAD M33 จะสามารถใช้งานแบบ Old School Hi-Fi เช่นที่เคยเล่นไฮไฟตัวอื่นในอดีต โดยใช้รีโมตหรือเดินไปแตะที่เครื่องได้ก็จริงได้ แต่ถ้าจะเล่นกันแบบสุดๆ ก็ต้องจัดการด้วยแอป BluOS Controller app ซิ จะไปได้สุดกว่า ต้องจัดการตั้งค่านิดหน่อย ในที่นี้ผมใช้ iPhone ตัวเดียวจัดการได้หมด จริงๆ แล้วจะใช้แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ก็ได้

จริงๆ แล้ว M33 ตัวนี้ทาง CONICE เขาลงทะเบียนไว้เกือบหมดแล้ว ซึ่งถึงจะเป็นเครื่องใหม่เอี่ยม ยังไม่ลงทะเบียนใดๆ ก็สามารถเล่น TIDAL กับ Spotify ได้เลย ในกรณีที่คุณได้ Subscribed ไว้และมีแอปอยู่ใน Smart Devices ซึ่งก็แทบไม่ต้องทำอะไรเพราะสามารถ Connect ได้ตรงๆ กับ TIDAL Connect และ Spotify Connect อยู่แล้ว เพียงแค่เลือก Audio Device Output ให้เป็น M33 เท่านั้นเอง ซึ่งสะดวกมาก

แต่ไหนๆ แล้วก็ควรจัดการให้เสร็จ อย่างแรกที่ผมทำก็คือ Import : Music Library จาก NAS เนื่องจากมีเพลงหลายพันอัลบั้มใช้เวลาพอสมควร หรือ USB drive ก็ไม่ควรมี Folder ซับซ้อน เพื่อให้มัน Indexing ไม่ยากจะทุ่นเวลาลง

ใครที่เก็บไฟล์ไว้ใน ROON CORE/MUSIC SERVER ที่มีอยู่แล้วก็ให้ setting เลือก enable NAD M33 แล้วตั้งค่าเป็น Decode Only หรือ Render Only เพราะ NAD M33 นั้น MQA full decode ปล่อยให้ ROON CORE เป็นบรรณารักษ์ก็พอ แต่ถ้าบังเอิญคุณไม่ได้มีไฟล์อะไรมากมายก็ไม่จำเป็นต้องขวนขวายกับ MUSIC Server แต่อย่างใด

ขั้นตอนต่อไปน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า เช่นตั้งชื่อเครื่องเป็น M33 Home Studio… ยึดเสียเลย… แหม่ขอหน่อย ที่ต้องทำจริงๆ สำหรับเครื่องใหม่ก็คือ Sign In พวก Streaming Services เช่น TIDAL/QOBUZ ที่เหลือก็เป็น TuneIn/Calm Radio/RadioParadise ที่น่าเล่นมาก เพราะเป็น Internet Radio ที่ปล่อยเป็น MQA เสียด้วย เล่นไปซักพัก เราคงต้องมาปรับแต่งละเอียดด้วย DIRAC LIVE เพื่อ calibrated ให้ได้เสียงดีที่สุด ใช้ไมค์ที่ให้มาเสียบผ่าน USB Adapter ตรงท้ายเครื่อง เปิด DIRAC LIVE ขึ้นมา ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ จะวัดค่า…  9 จุดสำหรับนั่งคนเดียว

ปล่อยมันไปจนจบขั้นตอน แล้วจะเข้าสู้ Calibrated แล้วจึงเก็บข้อมูลซึ่งไม่ยาก ข้อควรระวังต้องยึดไมค์ให้แน่น และไม่ควรมีเสียงรบกวนจากภายนอก ค่าที่วัดจะถูกต้องก็จะผ่านไปจนจบในครั้งเดียว ตรงนี้อย่าซีเรียสว่าจะทำเองไม่ได้ ยังไงซะ CONICE เค้าช่วยจัดการให้ได้อยู่แล้ว เลือกที่จะเปิดหรือปิดได้ สุดท้ายลองต่อแบบ 2.2 Low Level กับ REL คู่ต้องปรับแต่งที่ Crossover Frequencies นิดหน่อย เลือกที่จะเปิดหรือปิดได้เช่นกัน

Show Time

ปกติเช่นทุกครั้ง… หลังจาก Hook Up เสร็จก็จะให้รู้ว่าเปิดติด เสียงดัง เล่นได้ เสียก่อนถึงแม้รู้ว่าเป็นเครื่อง Demo ก็ตาม เพราะเกรงจะจอดนานเกิน… มักจะเปิด Internet Radio (Tune In) เปิดเผา Burn In ไว้อย่างน้อย 2 วันเสียก่อนให้มัน Break Through ค่อยกลับมาฟัง ใช้ Tidal Connect มีเพลงจากอัลบั้มที่ต้องฟังทันทีก็คืออัลบั้มดัง The Beatles: Let it Be (Remaster 2021) ในภาพเป็นแทร็ก Get Back (Track 8) มาจากอัลบั้มนี้ถูกบันทึกไว้เมื่อกว่า 50 ปีมาแล้ว ลุงอัดมาให้ 57 แทร็กกันเลยทีเดียว จุดเด่นคือเสียงใสกว่าเวอร์ชั่นเดิมมาก ต้องบอกอีกครั้งว่า TIDAL Connect สะดวกมาก เพราะเราคุ้นเคยกับมันดีอยู่แล้วนั่นเอง อย่างที่บอกว่าเราเล่นได้เลย ยังไม่ได้ทำอะไรกับเครื่องด้วยซ้ำ

เพราะ M33 พกอาวุธมาเยอะ ก็ไล่ฟังจาก Tidal ซึ่งคลี่ MQA ได้สุดติ่งเสียด้วย ส่วนกับ Qobuz มักจะเลือก Hi-Res เป็นหลัก เสียงก็ดีนะ กับ Radio Paradise MQA นี่ถือว่าเป็นวิทยุที่เสียงดีมาก ขออภัยที่เลิกเล่นฟิสิคัลมานานมาก อีกอย่างไม่มีโอกาสเล่นเครื่องเล่นโต๊ะหมุนเลยไม่ทราบว่า Phono stage ดีเพียงไร แต่ก็เชื่อว่าน่าจะดีพอตัวแน่นอน

เพลงคุ้นหูหลายอัลบั้มถูกเปิดแบบรัวๆ ซึ่งไม่จำกัดว่าต้องเป็นอัลบั้มโอ้ฟายด้วยนะ เชื่อว่าของดี… ฟังอัลบั้มอะไรก็ดีได้ บอกเลยว่าเปิดดังมากด้วยนะ เสียงให้รายละเอียด อิมแพ็คดี สมราคากับเป็นพี่ใหญ่ ยิ่งเติมซับฯ เข้าไปก็ได้อีกอารมณ์เมื่อดูบลูเรย์คอนเสิร์ต

ต้องไม่ลืมที่จะเล่น Apple Music Lossless ซึ่งเสียงดีกว่าเดิมมาก แม้บน AirPlay2 เสียงก็ดีขึ้นเยอะแบบยอมรับได้เลย ถึงตรงนี้แทบจะลืมไปเลยว่าตกลงฟังอะไรอยู่ ไฟล์จาก Music Server หรือ Streaming services อ้อ TIDAL Connect เล่นกับ BluOS controller app หรือผ่าน Roon ก็จะขยายความสามารถของมันให้ไกลกว่าเดิม ซึ่งขอบอกว่าให้เสียงต่างกันนะ แต่ไม่ว่าจะเล่นจากอะไรจะแสดงผลบนจอแสดงผลของ BluOS app ตรงปกเสมอ เลือกเล่นเอาเองซึ่งก็ตามถนัดเลยนะครับ

แอมป์กำลังขับทรงพลัง ยิ่ง MangerZeroBox กิน 4 Ohm ทะลุไปถึง 380 watts กันเลยทีเดียว แม้กำลังขับสูงขึ้นไม่ได้หมายความว่าจะเปิดได้ดังขึ้น แต่จะคุมไดรเวอร์ได้ดีขึ้น ลองทดลองลบ Playlist ออก แล้วลองปรับเกนขยายสูงๆ แม้ว่าห้องของผมจะมีความสงัดระดับต่ำกว่า 30dBA ขณะเปิดแอร์ Low FAN เงี่ยะหูฟังแทบไม่ได้ยินนอยส์เลย แสดงว่า PURIFI ‘Eigentakt’ คือของจริง

Master of Reality…

NAD M33 “ตัวจบ“ของไฮไฟยุคนี้

ออกแบบได้โดนใจ สมศักดิ์ศรี Master of Reality… น่าเกรงขาม เลือกใช้วัสดุทำตัวเครื่องเป็นอะลูมินัม มิเพียงดูดีมีสไตล์เนี้ยบสมคุณค่า แต่ช่วยป้องกันการรบกวนใดๆ จากภายนอกซึ่งส่งผลต่อคุณภาพเสียง อุปกรณ์ภายในคุณภาพสูง เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ครบเครื่องทั้งพละกำลังและฟีเจอร์ ล้ำสมัย รองรับอนาคต ควบคุมโดย BluOS ให้อิสระที่จะเลือกฟังจากแหล่งต้นทางใดๆ ได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส ติดตั้งง่าย มี Dirac Live ช่วยเซ็ตอัพได้ด้วยตัวเอง ให้ความสะดวกสบายเป็นเลิศ ดีทั้งดิจิทัลและอะนาล็อก รองรับการอัพเกรดในอนาคต เล่นได้ยาวๆ

M33 มีกำลังขับของแอมป์ในตัว มีกำลังสำรองมากพอที่จะขับลำโพงใดๆ เพียงมองหาลำโพงในฝันดีๆ ซักคู่ หรือ จะเป็น PSB ตัวท็อปที่เพิ่งเปิดตัว เงินพอก็ไปจับสาย Excalibur ของ King Arthur… เอ้ยของ SUPRA cable มาเล่นไปเลย จะได้ไม่ต้องคาใจ หรืออยากจะเล่นแผ่นฟิสิคัลก็ไปสอยเทิร์นฯ NAD C588 มาจับคู่ หรือเอา CD Transport ตัวเก่ามาเล่นก็ไม่ผิดกติกาอะไร หยุดการแสวงหาตรงนี้กับ NAD M33… มั่นใจเหลือเกินว่าจะชกข้ามรุ่นกับเครื่องแยกชิ้นงบประมาณสูงกว่าได้ เชื่อว่า พี่หลายเปลี่ยนใจได้แน่นอน

เป้าหมายการเล่นไฮไฟ อาจต้องเปลี่ยนไป สตรีมมิ่งเหมาจ่ายกลายเป็นสื่อกระแสหลัก ทุกสัปดาห์มีเพลงใหม่ที่ฟังกันแทบไม่ทัน จนต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว พี่หลายอาจรำพึง… ทุกข์ของสายสตรีมก็เป็นเช่นนี้นี่เอง

NAD M33: Master of Reality All in One Integrated พี่ใหญ่ใน Master Series คือสะพานสู่ความสุนทรีย์ของเสียงดนตรีจากศิลปินคนโปรดของคุณ แนะนำอย่างยิ่งครับ. ADP

“ความเรียบง่ายคือความซับซ้อนสูงสุด” ..Leonado Da vinci

ราคาสุทธิ 179,000 บาท

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท โคไน้ซ์ อีเล็คโทรนิค จำกัด
โทร: 02.276.9644 (อัตโนมัติ)