ปฤษณ

ทุกวันนี้ แอมป์ Class D พัฒนาในเรื่องคุณภาพเสียงมาไกลมาก ส่วนเรื่องประสิทธิภาพการทำงานนั้นไม่ต้องกังขา เพราะจุดแข็งของแอมป์ Class D ที่มีมาตั้งแต่ต้นก็คือเรื่องนี้

สำหรับ NAD หันมาสนใจพัฒนาแอมป์ Class D อย่างต่อเนื่อง สามารถลบข้อจำกัดในเรื่องคุณภาพเสียงให้หมดไป ทุกวันนี้ แอมป์ของ NAD ได้นำ Hypex UcD Class D amplifier modules มาใช้ โดยมีการ custom เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงในแนวทาง NAD

สำหรับ NAD C 268 เป็นเพาเวอร์แอมป์สเตริโอ มีกำลังขับ 80 วัตต์ ที่อิมพีแดนซ์ 8 และ 4 โอห์ม และสามารถบริดจ์ให้ทำงานเป็นโมโนเพาเวอร์แอมป์ โดยจะได้กำลังเพิ่มขึ้นเป็น 300 วัตต์ ที่อิมพีแดนซ์ 8 โอห์ม ในส่วนของภาคจ่ายไฟเป็นแบบ Switching Power Supply (ไม่ใช้หม้อแปลงไฟ) สามารถจ่ายกระแสได้ต่อเนื่องเกือบถึง 200 วัตต์ และถ้าต้องจ่ายกระแสแบบฉับพลันจะได้มากกว่า 500 วัตต์

NAD C 268 มีอินพุตสำหรับเชื่อมต่อกับปรีแอมป์ทั้ง Balanced และ RCA นอกจากนั้น การออกแบบยังได้คำนึงถึงการนำไปใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพและประโยชน์มากที่สุด จึงมีฟีเจอร์มาให้ใช้งานหลายอย่าง คือ.. 1. ขั้วต่อ Line Out แบบ RCA เพื่อต่อใช้งานกับเพาเวอร์แอมป์อีกตัว, 2. Input Select สวิตช์เลือก Variable กับ Fix เพื่อปรับเกนเอาต์พุตของ C 268 กรณีที่เลือกปรับไว้ที่ Fix ตัว C 268 จะทำงานเหมือนเพาเวอร์แอมป์ปกติทั่วไป แต่ถ้าเลือกปรับไว้ที่ Variable จะสามารถปรับค่าเกนของเอาต์พุตของ C 268 ได้โดยใช้ปุ่ม Input Level โดยจะปรับเกนได้ตั้งแต่ -20dB ถึง 0dB แต่ปุ่ม Input Level นี้ ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นวอลลุ่มเต็มรูปแบบ, Auto Sense Level สวิตช์เลือกปรับความไวของการตอบสนองการทำงานโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่เครื่องอยู่ในโหมด Standby แล้วมีสัญญาณเข้ามาที่อินพุต ไม่ว่า Balanced หรือ RCA เครื่องก็จะทำงานทันที โดยมีให้เลือกปรับไว้ 3 ค่า คือ Low = 0.85 mV, Mid = 1.7 mV, High = 3.7 mV, สวิตช์เลือกปรับ Bridge Mode ถ้าเลือกที่ Off แอมป์จะทำงานในโหมด Stereo ถ้าเลือกที่ On จะทำงานในโหมด Mono ซึ่งถ้าเลือกให้ C 268 ทำงานในโหมดโมโน การต่อสายนำสัญญาณให้ต่อที่ช่อง Left และต่อสายลำโพงที่ขั้วที่กำหนดไว้ว่าสำหรับต่อแบบ Bridge Mode

ดูจากฟีเจอร์การทำงาน รวมถึงการออกแบบหน้าตาของ C 268 บ่งบอกถึงความเป็น NAD อย่างแท้จริง คือให้ความคุ้มค่าสูงสุด ไม่ล้าสมัย และใช้กันไปนานๆ

คุณภาพเสียง

เพื่อให้การทดลองใช้งาน C 268 ได้คุณภาพสูงสุด ทางบริษัท โคโน้ซ์ อีเล็คโทรนิค จำกัด ได้ส่งปรีแอมป์ NAD C 658 ที่เป็นปรีแอมป์มีเอาต์พุตแบบ Balanced และยังเป็น BluOS Streaming DAC อีกด้วย ถือเป็นปรีแอมป์ที่ครบเครื่องมากๆ ครับ

หลังจากเชื่อมต่อด้วยสายนำสัญญาณบาลานซ์ของยี่ห้อ Life Audio รุ่น Gold Mk II ต่อจากนี้ก็คือ การฟังเพลงผ่านชุดเครื่องเสียงของ NAD C 658 + C 268 ซึ่งเรื่องการไม่แม็ตชิ่งก็น่าจะตัดออกไปได้ ส่วนเพลงที่ฟัง ผมเลือกจาก TIDAL connect เป็นเพลงในกลุ่ม MASTER High Resolution ที่พับข้อมูลเพลงด้วย MQA จากนั้นปรีแอมป์ C 658 ก็จะเอามาคลี่ไฟล์ด้วย BluOS app (อ่านบททดสอบปรีแอม์ NAD C 658 ได้ตามลิงก์นี้ครับ https://www.audiophile-videophile.com/audiophile-review/nad-c-658/ )

สำหรับลำโพงที่ใช้ร่วมทดสอบคือ PMC รุ่น Twenty5.22 ซึ่งเป็นลำโพงที่ดีรุ่นหนึ่ง และมีเสียงย่านความถี่ต่ำที่น่าฟังจากที่เป็นระบบ Advanced Transmission Line

เพลงที่เลือกมาฟังกับซิสเต็มนี้ ส่วนใหญ่ผมเลือกอัลบั้มที่ผมชอบ ไม่ได้เน้นว่าบันทึกเสียงดีที่สุด แต่เพลงเหล่านี้ให้ Vibe และความไพเราะ เพียงพอที่จะตัดสินอุปกรณ์ได้ เพราะถ้าเสียงดี แต่ขาดบรรยากาศและความไพเราะของดนตรี เราก็ไม่นับว่าเป็นเครื่องเสียงที่ดี

NAD C 268 เป็นเพาเวอร์แอมป์ที่ดีมาก และถ้าดูที่ราคาจำหน่ายแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามาก โดยเฉพาะมีอินพุต Balanced นี่ถือว่าเกินราคาค่าตัวเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อฟังแล้ว ผมว่าต่อแบบ Balanced ได้ความสงัด สัญญาณรบกวนต่ำกว่า ทำให้ความเป็นสามมิติของตัวเสียงและเวทีเสียงชัดเจนขึ้น

NAD C 268 เป็นเพาเวอร์แอมป์ที่ให้ลักษณะของเสียงอยู่ในโทนกลางๆ ผมว่าแทบไม่มีสีสันเลย ไม่หวาน ซึ่งถือว่าดี เพราะทำให้ฟังเพลงได้หลากหลาย ไม่ติดอยู่กับสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง

อัลบั้ม River: The Joni Letters ของศิลปินแจ๊สระดับแถวหน้า Herbie Hancock ไฟล์ MASTER MQA จาก TIDAL connect แค่อัลบั้มเดียวก็สรุปได้ว่า C 268 เป็นเพาเวอร์แอมป์ที่ดีมาก (ยืนยันเป็นครั้งที่ 2) เพราะว่าความหลากหลายของการเรียบเรียงดนตรี และการถ่ายทอดของนักร้องรับเชิญ ทั้ง Norah Jones, Tina Turner,  Corinne Bailey Rae, Luciana Souza,  Leonard Cohen รวมถึง Joni Mitchell เอง ทำให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดเสียงดนตรีและเสียงร้องที่ราบเรียบ สงบ และตอบสนองได้เป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ ที่มาสะกิดให้อารมณ์ในการฟังสะดุดไปแม้แต่น้อย เหตุผลที่ยกเรื่องนี้มาพูดก็เพราะว่า พอเรามีชั่วโมงในการฟังมาพอสมควร ถ้ามีอะไรแปลกปลอมหรือทำให้รู้สึกว่าดนตรีไม่ไหล แล้วส่งผลให้อารมณ์ติดๆ ขัดๆ นั่นก็หมายถึงว่าต้องมีสิ่งผิดปกติ แล้วจากนั้นการฟังก็จะหยุดลงเพื่อค้นหาความผิดปกติ แต่จากที่ใช้เวลาฟัง NAD C 268 มานานหลายวัน ยืนยันว่าไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ ที่ทำให้ต้องเสียเวลาในการหยุดฟังเพลง

ไหนๆ ก็ฟังงาน Cover ของ Joni Mitchell แล้ว ก็เลยตัดสินใจฟังงานออริจินัลของ Joni Mitchell จากอัลบั้ม Mingus ที่เป็น TIDAL MASTER MQA เหมือนกัน แล้วก็เหมือนเดิมครับ C 268 ยังทำหน้าที่ได้เสมอต้นเสมอปลาย รักษาคุณภาพในการขับเสียงเพลงได้ดีเช่นเดิม ความกลมกลืนของเสียงตั้งแต่ความถี่ต่ำไล่ขึ้นไปมีความน่าฟัง ผมว่าเป็นเสียงที่มีลักษณะบางอย่างที่ชวนให้อยากฟังนานๆ จนจบอัลบั้ม เพราะปกติแล้ว ส่วนมากจะสแกนฟัง ไม่เคยฟังจนจบอัลบั้มสักที แต่มี NAD C 268 กับปรีแอมป์ NAD C658 นี่แหละครับ ที่สามารถหยุดพฤติกรรม skip แทร็กได้

ถามว่า แล้ว NAD C 268 เสียงเป็นยังไง? คงระบุไม่ได้ครับ แต่บอกได้แค่ว่าเป็นเสียงที่ไพเราะ แต่ไม่หวาน แต่ไปได้ดีกับดนตรีทุกแนว และสามารถนั่งฟังได้นานๆ โดยไม่เบื่อ

สรุป

NAD C 268 เป็นเพาเวอร์แอมป์ที่ดีมาก (ยืนยันเป็นครั้งที่ 3) ถ้าคุณเป็นแฟน NAD ก็ไม่ต้องคิดมาก ซื้อได้เลยครับ แต่ถ้าคุณยังไม่ได้เป็นแฟน NAD แนะนำว่าให้ซื้อเลยครับ พ่วงกับซื้อปรีแอมป์รุ่น C 658 อีกตัวหนึ่ง แล้วต่อไปก็ไม่ต้องซื้ออะไรอีกแล้ว ยกเว้นว่าฟังนานๆ ไป อยากได้ที่ดีกว่านี้ก็ขยับไป MASTER series ของ NAD เลยครับ ถูกใจแน่นอน. ADP    

ราคา 29,900 บาท

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
บริษัท โคไน้ซ์ อีเล็คโทรนิค จำกัด
โทร. 0-2276-9644