เรื่องของ ‘สายลำโพง’ ดูจะเป็นตัวเลือกลำดับรองๆ ในการพิจารณาเลือกอัพเกรดซิสเต็มของนักเล่นส่วนใหญ่ เมื่อเทียบกับสายไฟเอซีหรือสายนำสัญญาณ จริงอยู่ที่ทั้งสามส่วนล้วนสัมพันธ์กัน แต่มันมีรายละเอียดปลีกย่อยผลลัพธ์ของการอัพเกรดที่ต่างกัน กรณีสายลำโพงเป็นจุดเชื่อมต่อที่อยู่ใกล้กับลำโพงมากที่สุด การเปลี่ยนสายลำโพงในซิสเต็มจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางเสียงออกมาในปริมาณที่มากกว่า (แสดงบุคลิกของสายนั้นๆ ออกมาได้เด่นชัดกว่า) เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนสายนำสัญญาณหรือสายไฟเอซี ในระดับใกล้เคียงกัน

สายลำโพงรุ่น Gold Mk3 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดที่ คุณหน่อย แห่งสำนัก LIFE AUDIO อาศัยประสบการณ์ปรับจูนออกมาให้เข้าทางกับรสนิยมการฟังเพลงของนักเล่นส่วนใหญ่มากยิ่งขึ้น  รวมถึงยกระดับคุณภาพวัสดุตัวนำให้เหนือกว่าสายลำโพงรุ่น Gold Mk2 เดิม ไปอีกระดับ ถ้าดูจากไลน์อัพสินค้า สายลำโพงซีรี่ส์ Gold ถือว่าเป็นรุ่นรองจาก Essences ซีรี่ส์ เหมาะกับนักเล่นที่ใช้ซิสเต็มระดับกลางถึงสูงที่ต้องการอัพเกรดคุณภาพเสียงให้ออกมาเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุด

“LIFE AUDIO เกิดมาด้วยแนวคิดที่ต้องการช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าที่เล่นแล้วไม่ได้เสียงที่ต้องการ เมื่อใช้สินค้าของเรา ลูกค้าต้องได้คุณภาพเสียงที่ถูกใจจริงๆ มีราคาอยู่ในระดับที่พอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย และสำคัญที่สุดคือ เราเอาความสุขและความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้ง

นี่คือหลักการที่คุณหน่อย LIFE AUDIO ยึดถือเสมอมา รวมถึงบริการหลังการขายสไตล์ใจถึงพึ่งได้ ทั้งการให้คำปรึกษา ทดลองใช้งาน รับแลกซื้อสายเป็นรุ่นใหญ่ขึ้น หรือแม้แต่ custom made  แนวเสียงให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด

รูปลักษณ์และดีไซน์

สายลำโพง LIFE AUDIO ไม่ว่ารุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ มีโครงสร้างสายที่แตกต่างจากสายลำโพงทั่วไป ที่เห็นได้ชัดเจนคือการ “แยก” สายตัวนำซีกบวกและลบออกจากกันคนละเส้น เท่ากับว่าการเชื่อมต่อสายแบบซิงเกิลไวร์มีสายให้มาทั้งหมด 4 เส้น สำหรับขั้วบวก-ลบของลำโพงแต่ละข้าง แทนที่จะเป็น 2 เส้นตามปกติ การแยกสายแบบนี้ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเหนี่ยวนำระหว่างสายตัวนำขั้วบวกและลบ ทำให้ย่านความถี่สูงไม่ loss รวมถึงสามารถหุ้มฉนวนป้องกันคลื่นรบกวนและแดมป์แรงสั่นสะเทือนได้เต็มพิกัดยิ่งขึ้น หากลองดูทางผู้ผลิตสายในต่างประเทศ จะพบดีไซน์ลักษณะนี้ได้กับสายลำโพงบางแบรนด์ ซึ่งเป็นตัวท็อปราคาหลักหลายแสนบาท

เทคนิคที่ผู้ผลิตใช้ในสาย LIFE AUDIO ทุกซีรี่ส์คือ FBE (Frequency Balance Evolution) คัดสรรตัวนำต่างชนิดและต่างขนาดเพื่อสร้างสมดุลเสียงระหว่างย่านทุ้มกลางแหลม โดยในรุ่น Gold Mk3 ได้เพิ่มตัวนำแบบ OCC เข้ามา ในสัดส่วนทองแดง OCC แกนเดี่ยวปริมาณ 45%, ทองแดง OCC แกนฝอยปริมาณ 30%, และทองแดง OFC แกนฝอยเคลือบเงินปริมาณ 25% หุ้มด้วยฉนวนเกรดดีถึง 4 ชั้น ได้แก่ ชั้นในสุด PTFE (Teflon), ชั้นที่สอง ทองแดงถัก, ชั้นที่สาม ผ้าคอตตอนถัก, และชั้นนอกสุดเป็น PE (Polyethylene) หุ้มทับด้วยหนังงูสีดำตลอดความยาวสาย เข้าหัวปลั๊ก banana ดีไซน์ใหม่ (เลือกเป็นแบบ Spade ได้) ส่วนแกนปลั๊กทำจากทองแดง OFC เคลือบแพลตินั่มและโรเดียม ปลอกครอบอะลูมิเนียมกลึงสีดำ มีแหวนพลาสติกสีแดงขาวระบุข้างซ้าย-ขวา ตรงปลอกยิงเลเซอร์สกรีนโลโก้ ชื่อรุ่น และระบุทิศทางการต่อสายเอาไว้ชัดเจน

เซ็ตอัพ

สายลำโพงบรรจุมาในกล่องพร้อมถุงมือหนึ่งคู่ แต่ละเส้นความยาว 2.5 เมตร ขนาดหน้าตัดใหญ่ 8 sq.mm. รองรับการใช้งานกับเพาเวอร์แอมป์วัตต์สูงๆ ร่วมกับลำโพงที่มีโหลดอิมพิแดนซ์ต่ำได้สบาย ทิศทางการเชื่อมต่อให้ดูจากตัวอักษรตรงปลอก banana เอาด้านที่ระบุ “Amp – L” และ “Amp – R” เข้าที่ขั้วต่อสายลำโพงท้ายแอมปลิฟายเออร์ และด้านที่ระบุ “Speaker – L” และ “Speaker – R” เข้าขั้วต่อด้านหลังลำโพง

ตัวปลั๊กบานานาเสียบได้แน่นหนา เมื่อเชื่อมต่อแล้วตัวสายจะลอยเล็กน้อย เนื่องจากการให้ตัวของสาย แต่ยังสามารถดัดโค้งงอได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นควรมีพื้นที่ให้สายลำโพงได้ทิ้งตัวอย่างอิสระสักหน่อย หลังเชื่อมต่อเรียบร้อยใช้เวลาเบิร์นอินสัก 50 ชั่วโมงก็เข้าที่แล้ว โดยนำมาสลับใช้งานระหว่างอินทิเกรตแอมป์ Bryston B60 และเพาเวอร์แอมป์ NAD 216THX รวมถึงลองใช้กับอินทิเกรตแอมป์ NAD D3020 กำลัง 30 วัตต์ ก็ยังช่วยเสริมคุณภาพออกมาได้น่าพึงพอใจ

คุณภาพเสียง

เอกลักษณ์ของสาย LIFE AUDIO ทุกรุ่นที่เคยได้ลองฟังมาคือ ความเคลียร์ ชัดเจน ในทุกย่านความถี่เสียง และมีสมดุลของย่านทุ้มกลางแหลมที่ดี หลังจากลองใช้งานสายลำโพง Gold MK3 ในระบบ อันดับแรกเลย คุณจะแปลกใจกับรายละเอียดที่พรั่งพรูออกมา และเนื้อเสียงทุกย่านความถี่ที่อิ่ม เต็มแน่น ไดนามิกสวิงได้กว้างมากกว่าเดิม เนื่องจากตัวสายลำโพงไม่พยายามทำตัวเป็นคอขวดหรือฟิลเตอร์บางย่านความถี่ ส่งผลให้แอมป์จ่ายกระแสไปยังลำโพงได้เต็มพิกัดยิ่งขึ้น ไม่อั้น ยิ่งใครที่ใช้แอมป์ตัวเล็กขับลำโพงวางขาตั้ง สายลำโพงเส้นนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพเสียงให้สมบูรณ์ขึ้นได้พอสมควรเลยทีเดียว และก็ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าจะต้องขยับตำแหน่งลำโพงใหม่ให้ลงตัวกับพลังเสียงที่มาแบบเต็มร้อยมากขึ้นด้วย

ในความเคลียร์ ชัดเจนของสายลำโพงเส้นนี้ เกิดจากเฟสเสียงที่มีความแม่นยำ ปริมาณของย่านทุ้มกลางแหลมใกล้เคียงกัน ถือว่าได้สมดุลดี มวลของเสียงให้ความทึบเข้ม แต่ไม่ติดหนา โทนเสียงค่อนมาทาง warm เจือความอบอุ่นนุ่มนวลอยู่ประปราย ย่านเสียงกลางแหลมไม่มีอาการคมแข็งหรือกระด้างแม้แต่น้อย ทำให้ฟังได้นานไม่ล้าหู ในขณะเดียวกันก็ยังแสดงรายละเอียดหยุมหยิมที่ครบชัด ควบคุมความกังวานของหางเสียงได้พอเหมาะและเป็นระเบียบ ทอดตัวไปได้จนสุดและไม่ฟุ้ง เวลาฟังอัลบั้มที่บันทึกเสียงดนตรีอะคูสติกส์จะได้ยินฮาร์โมนิกความก้องกังวานของเครื่องดนตรีออกมาได้อย่างไพเราะเป็นธรรมชาติ

เจาะจงลงมาที่ย่านเสียงกลาง ต้องบอกว่า “มีลีลา” เกินคาดหมาย แสดงความชัดถ้อยชัดคำ น้ำหนักเสียงผ่อนหนักผ่อนเบา และเทคนิคเฉพาะตัวของนักร้องทั้งชายหญิงออกมาได้เข้าถึงอารมณ์ไม่น้อย ซึ่งบอกตรงๆ ว่า ตอนแรกไม่ได้คาดหวังจะได้ยินอะไรแบบนี้ เพราะเรื่องของการถ่ายทอดอารมณ์ดนตรีออกมาได้ดีนั้น มักเป็นคุณสมบัติของสายบางแบรนด์ที่มีค่าตัวสูงกว่านี้ 2-3 เท่า แต่ Gold MK3 ก็มีให้สัมผัสได้เช่นกัน ส่วนย่านทุ้มนั้นอิ่มแน่น ให้จังหวะจะโคนแม่นยำ ควบคุมหางเสียงได้เด็ดขาด แม้ในช่วงทุ้มต่ำๆ ก็ยังให้โฟกัสที่ชัดเจนสะอาด ไม่คลุมเครือ ในระดับที่น่าพอใจ

ในแง่ไดนามิกเรนจ์สามารถรักษาสมดุลเสียงได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ว่าเวลาบิดโวลุ่มดังหรือเบา ให้ภาพรวมลักษณะของไดนามิกคอนทราสต์ที่ค่อนมาทางชัน แสดงทรานเชี้ยนต์ของเสียงออกมาได้โดดเด่น สด ฉับพลัน พวกเครื่องดนตรี percussion มีสปีดและอิมแพ็กต์ที่เร็ว ไม่อืดอาด และไม่ได้เน้นออกมาชัดจนเกินพอดี พวกเครื่องสายที่เน้นความต่อเนื่องอย่างไวโอลินหรือเชลโล่ ก็ยังรักษาไดนามิกคอนทราสต์ที่ค่อนข้างละเอียดเอาไว้ได้ พื้นเสียงมีความสงัด อิมเมจของชิ้นดนตรีและเสียงร้องลอยเด่น เป็นทรวดทรงมีตื้นลึก มีตำแหน่งที่ชัดเจน ฟังแยกแยะเลเยอร์ของดนตรีออกได้ง่าย โดยเฉพาะกับแนวดนตรีน้อยชิ้นจะให้โฟกัสของเสียงที่เด็ดขาดเลยทีเดียว เวทีเสียงใหญ่มีลักษณะออกไปทางทรงกลมที่มีขอบเขตชัดเจน เดินหน้าเข้าหาตำแหน่งนั่งฟังเล็กน้อย อารมณ์คล้ายๆ กับการฟังแบบ near-field ที่ให้เราใกล้ชิดกับเสียงดนตรีมากขึ้น

เทียบกับสายลำโพงรุ่นรองลงไปอย่าง LD-5 MK2 ซึ่งเป็นรุ่นราคาย่อมเยา สายลำโพง Gold MK3 มีความโดดเด่นอย่างชัดเจนทั้งเรื่องของสมดุลเสียงที่ราบเรียบกว่า เกรนเสียงที่ละเอียด  การแยกแยะชิ้นดนตรี บรรยากาศรายล้อมรอบตัวเสียง รวมถึงปลายเสียงที่พลิ้วกังวานมีชีวิตชีวา ในแง่ของการลงทุนถือเป็นสายลำโพงที่อยู่ตรงกลางระหว่างซีรี่ส์เล็กกับซีรี่ส์ใหญ่ของ LIFE AUDIO แต่มีคุณภาพเสียงที่ค่อนไปทางรุ่นใหญ่อยู่หลายส่วน คุณภาพระดับนี้ เล่นกับซิสเต็มระดับ 2-3 แสนบาทได้สบาย วันไหนขยับขยาย ค่อยอัพเกรดไปใช้สายรุ่นใหญ่ขึ้นทีหลัง

สรุป

LIFE AUDIO Gold MK3 เป็นสายลำโพงที่เหมาะสำหรับใครที่อยากขยับจากสายพิมพ์นิยมขึ้นมา แล้วต้องเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนในทุกแง่มุม ช่วยส่งเสริมข้อดีของซิสเต็มโดยไม่เน้นจุดด้อยให้หนักหนาขึ้น และยังมีความเที่ยงตรงเพียงพอที่จะบ่งบอกการเปลี่ยนเปลงเมื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ในซิสเต็มได้ หากมีโอกาสได้ลองเปลี่ยนสายลำโพง Gold MK3 เส้นนี้เข้าไปในซิสเต็มแล้ว คุณอาจเกิดอาการ “ลืมน้ำพริกถ้วยเก่า” ไม่อยากกลับไปหาสายลำโพงเส้นเดิมอีกเลยก็เป็นได้. ADP

ราคา 44,000 บาท/ชุด

ผลิตและจัดจำหน่ายโดย 
Life Audio
โทร. 084-596-6262

สั่งซื้อได้ที่
Life Audio Shop
TEL: 084 596 6262
LINE ID: 098 795 6909