ปฤษณ

Life Audio เป็นสายที่ใช้ในชุดเครื่องเสียงที่ออกแบบและผลิตโดยทีมงานของคนไทย สินค้าของ Life Audio มีมาตรฐานในระดับสากล และมีระดับราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงระดับไฮเอ็นด์ให้เลือกใช้ตามงบประมาณ จุดเด่นของ Life Audio นอกจากคุณภาพของสินค้าแล้วก็คือ การบริการที่ดีเยี่ยม เรียกว่าไม่มีขาดตกบกพร่องเลยทีเดียว

ผมมีโอกาสได้ทดลองใช้งานสายนำสัญญาณบาลานซ์และสายไฟเอซีจาก Life Audio ในซีรี่ส์ Gold MK II อยู่นานพอสมควร หลังจากได้ฟังจนพอประเมินคุณสมบัติในเรื่องของแนวเสียงแล้ว จึงขอนำมาบอกเล่าเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับท่านที่สนใจสายสองรุ่นนี้ครับ

สายนำสัญญาณบาลานซ์ (XLR) Life Audio รุ่น Gold MK II ใช้ตัวนำทั้งหมด 3 ขนาด (0.5 sq.mm ,  0.4 sq.mm , 0.3 sq.mm) จากตัวนำ 3 ชนิด คือ ทองแดง OCC, ทองแดง OFC เคลือบเงิน, ทองแดง OFC เคลือบทอง 24K โดยเลือกใช้ตัวนำทั้งที่เป็นตัวนำแกนเดี่ยว และ ตัวนำแกนฝอย โดยมีส่วนผสมของตัวนำที่เป็นทองแดง OCC แกนเดี่ยว 20% , ทองแดง OCC แกนฝอย 25% , ทองแดง OFC แกนฝอยเคลือบเงิน 25% และ ทองแดง OFC เคลือบทอง 24K 30% มีการหุ้มฉนวนถึง 4 ชั้น หัวต่อเป็นทองแดงเคลือบทอง 24K ความยาวมาตรฐาน 1 เมตร

สำหรับสายไฟเอซี Life Audio รุ่น Gold MK II ใช้ตัวนำทั้งหมด 5 ขนาด โดยแบ่งเป็นทองแดง OFC แกนเดี่ยว 2 ขนาด (30% + 30%), ทองแดง OCC แกนเดี่ยว 1 ขนาด (15%), ทองแดง OCC แกนฝอย 1 ขนาด (15%), ทองแดง OFC เคลือบเงินแกนฝอย 1 ขนาด (10%) หน้าตัดขนาดของตัวนำรวม L= 8 sq.mm , N = 8 sq.mm , G = 4 sq.mm โดยใช้ฉนวนทั้งหมด 4 ชั้น หัวเป็นทองแดงเคลือบ Rhodium ความยาวมาตรฐาน 2 เมตร ราคา 15,000 บาท

ถ้าดูจากการเลือกใช้ตัวนำต่างชนิดกัน ต่างขนาดกัน และเลือกใช้ปริมาณของตัวนำที่มีเปอร์เซ็นต์ต่างกัน จะเห็นว่าสายทั้งสองรุ่นของ Life Audio มีการออกแบบที่ซับซ้อนพอสมควรทีเดียว ทั้งนี้เพราะการเลือกใช้ตัวนำดังกล่าวข้างต้นจะส่งผลต่อการทำงานและมีผลต่อคุณภาพเสียงด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นสาย Life Audio ทั้งสองรุ่น เมื่อดูจากภายนอกจะเห็นว่ามีการผลิตที่ได้มาตรฐาน วัสดุหุ้มสายภายนอก รวมถึงหัวต่อมีคุณภาพสูง เวลาเสียบใช้งานมีความแน่น ไม่คลอน สร้างความรู้สึกมั่นใจที่มีต่อตัวสินค้าได้เป็นอย่างดี

ทดลองใช้งาน

สำหรับซิสเต็มที่ใช้ทดลองใช้สายทั้งสองรุ่น ผมใช้สายไฟเอซี Life Audio รุ่น Gold MK II กับเพาเวอร์แอมป์ NAD รุ่น C 268 และในช่วงหลังก็ย้ายมาใช้กับปรีแอมป์ NAD C 658 ด้วย ส่วนสายนำสัญญาณบาลานซ์ Life Audio รุ่น Gold MK II ต่อจากปรีแอมป์ NAD รุ่น C 658 มาเข้าที่เพาเวอร์แอมป์ NAD C 268 โดยเล่นจากไฟล์เพลงที่สตรีมจาก Tidal ที่เป็นไฟล์มาสเตอร์ MQA ซึ่ง NAD C 658 เป็นปรีแอมป์ BluOS Streaming DAC ที่รองรับ Tidal connect สามารถเล่นไฟล์ Master MQA ได้ครับ

คุณภาพเสียง

สิ่งที่ได้ยินชัดเจนเมื่อใช้งานสายไฟเอซี Life Audio Gold MK II ก็คือ สัญญาณรบกวนในระบบเครื่องเสียงต่ำลง ทำให้ได้ยินรายละเอียดของเสียงต่างๆ มากขึ้น นอกจากนั้น ในเรื่องไดนามิกของเสียงก็ดีกว่าเดิม ส่งผลให้แต่ละเสียงมีการขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ควรเป็น เพลงเร็วหรือเพลงช้าก็มีจังหวะที่ฟังแล้วลงตัว

ความต่างเมื่อใช้งานสายไฟเอซี Life Audio ระหว่างเพาเวอร์แอมป์กับปรีแอมป์ คือ… ใช้กับปรีแอมป์จะได้พลังอัดฉีดของเสียงที่สะดุดหูขึ้นมาทันที ส่วนตอนที่ใช้กับเพาเวอร์แอมป์จะเห็นผลในเรื่องของสัญญาณรบกวนที่ลดลงและเนื้อเสียงที่อิ่มขึ้น โดยรวม การใช้สายไฟเอซี Life Audio ในระบบเครื่องเสียงจะส่งผลดีขึ้นแน่นอน

สำหรับสายนำสัญญาณบาลานซ์ Life Audio ผมต่อจากปรีแอมป์ NAD C658 มาเข้าที่เพาเวอร์แอมป์ NAD C 268 โดยไม่มีการเปรียบเทียบกับสายรุ่นอื่นๆ แต่จับการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพเสียงจากเพลงที่ฟังจนคุ้นเคย พบว่า เนื้อเสียงที่อิ่มเอิบเป็นจุดเด่นของสายรุ่นนี้ เสียงร้องมีมวลมากกว่าเดิม เสียงย่านความถี่ต่ำมีพลังและหนักแน่น ขณะที่โฟกัสของเสียงมีความชัด และอิมเมจของเสียงมีความนิ่งกว่าเดิมอย่างรู้สึกได้

สายทั้งสองรุ่นของ Life Audio เป็นสายที่ใส่เข้าไปในซิสเต็มแล้วสามารถฟังออกได้ชัดถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น การนำไปใช้งานกับซิสเต็มในระดับกลางค่อนไปทางสูงจะให้ความคุ้มค่ามาก ถ้าใครต้องการสายนำสัญญาณบาลานซ์และสายไฟเอซีที่มีคุณภาพสูงในราคาจับต้องได้ แนะนำให้ติดต่อทางผู้จำหน่าย Life Audio รุ่น Gold MK II นำไปทดลองกับซิสเต็มของท่านเพื่อจะได้ฟังเสียงจริงๆ ว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้ครับ. ADP

สายนำสัญญาณบาลานซ์ รุ่น Gold MK II ราคา 15,000 บาท

สายไฟเอซี รุ่น Gold MK II ราคา 15,000 บาท

ผลิตและจัดจำหน่ายโดย Life Audio

โทร. 084-596-6262