Kaya 25 เป็นลำโพงที่ให้เสียงร้องได้น่าประทับใจมากที่สุดคู่หนึ่งจริงๆ
วุฒิศักดิ์ ชื่นมีเชาว์
“ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทรายต้นไม้ใหญ่ แก้วน้ำจานชาม บันได โคมไฟที่สวยงาม ขอบรั้วและริมทางเดิน ต้นหญ้าอยู่ในสนาม บ้านนี้จะมีความงามได้ถ้ามีเธอ…”
ที่คราวนี้เริ่มต้นด้วยการหยิบยกเนื้อเพลง Home ของ พี่บอย โกสิยพงษ์ ขึ้นมาเริ่มต้นบทความ เนื่องจากในคราวนี้ได้รับลำโพง Vivid Audio Kaya 25 มาทดสอบ ซึ่งคำว่า Kaya ที่เป็นชื่อรุ่นมีความหมายว่า “บ้าน” และเท่าที่ดู ก็พบว่า ทาง Vivid Audio มีความตั้งใจให้ลำโพงในซีรีส์ Kaya มีความเป็นมิตรต่อการเข้าไปอยู่ในบ้านพักอาศัยมากขึ้น เนื่องจากการออกแบบตัวตู้จะพบว่ามีรูปทรงที่หวือหวาน้อยลงกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ในเรื่องของเทคโนโลยีการออกแบบตู้ที่มีส่วนของตู้ที่เป็นคล้ายท่อปลายเรียว ซึ่งช่วยสลายเรโซแนนซ์ภายในตู้ก็ยังคงมีใช้อยู่ เพียงแต่มีการออกแบบให้ปลายเรียวดังกล่าวพับซ่อนอยู่ภายในตู้ เพื่อให้รูปทรงด้านนอกดูสะอาดเกลี้ยงเกลามากขึ้น โดยเมื่อมองจากด้านหน้าลำโพงจะค่อนข้างคล้ายเป็นทรงสี่เหลี่ยมมนๆ ป่องช่วงที่ติดตั้ง Woofer โดยส่วนที่เป็นปริมาตรตู้จะเป็นสันโค้งไปด้านหลัง และมีพอร์ตระบายอากาศด้านหลัง ซึ่งเมื่อตั้งวางในห้องฟังจริงๆ แล้ว ความหนาของตัวตู้ด้านหลังจะหลบสายตาไปอยู่หลังแผงหน้า ทำให้รูปทรงตู้ดูสูงเพรียว ไม่เทอะทะ โดยตัวตู้ด้านล่างจะเรียวเล็กลงมาถึงฐานอะลูมิเนียมรูปทรงคล้ายใบไม้ที่ดูไม่หนาเทอะทะเกะกะ แต่มีน้ำหนักพอตัว สามารถถ่วงฐานให้ลำโพงตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคง ซึ่งโดยความเห็นส่วนตัว ผมพบว่ารูปทรงของ Kaya 25 ดูสวยกว่า V1.5se ที่เคยทดสอบไป เพราะ V1.5se จะดูเหมือนทรงไข่ที่มีการต่อขามาเป็นฐาน และฐานด้านล่างมีความโค้งมนเป็นสีเดียวกับตัวตู้ จึงทำให้ฐานของ V1.5se ดูเทอะทะกว่าเล็กน้อย แต่ใน Kaya 25 ทุกส่วนของตัวตู้จะดูผอมเพรียวสมส่วนกว่า เอาจริงๆ ผมชอบรูปทรงของ Kaya 25 มากกว่า Kaya 45 ด้วยซ้ำเพราะถึงแม้ตู้ที่ได้รับมาจะเป็นสีเทาด้านเหมือนๆ กัน แต่ด้วยรูปทรงของ Kaya 25 ที่ป่องบน เรียวลงมาด้านล่าง และมีฐานสีเงินตัดสีกันเป็นคนละวัสดุ ทำให้ตู้ดูเพรียวบางกว่า ถ้า Kaya 45 มีการออกแบบให้ตู้ส่วนล่างแคบลง แล้วมีฐานรองรับแยกออกมาเป็นอีกส่วนเหมือน Kaya 25 ก็น่าจะช่วยให้ตู้ดูเพรียวขึ้นได้เช่นกัน แต่ในเรื่องความครบเครื่องเรื่องเสียง Kaya 45 ที่เป็นลำโพงสามทาง ตัวตู้ใหญ่กว่า ย่อมได้เปรียบกว่าอย่างแน่นอน
ต่อมาในส่วนของขั้วต่อลำโพงที่ออกแบบให้ติดตั้งอยู่ใต้ฐานด้านหลัง มีประโยชน์ในการซ่อนสายลำโพงให้ดูสวยงาม แต่จะทำให้การต่อสายลำโพงที่ขั้วเป็นหางปลาทำได้ยากหน่อย แต่ทาง Vivid Audio ก็ออกแบบขั้วไบดิงโพสต์ให้เหลือชุดเดียวเป็นซิงเกิลไวร์ เพื่อลดความยุ่งยากในการเชื่อมต่อสาย ซึ่งผมก็มองว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ลำโพงตัวแค่นี้ ใครจะใช้แอมป์สองตัวมาเล่นไบแอมป์กัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องให้ขั้วไบไวร์มาให้เกะกะเปล่าๆ นอกจากนี้ในส่วนของขั้วไบดิ้งโพสต์ก็ให้ตัวขันล็อกมาเป็นแหวนหกเหลี่ยมชุบทองมาอย่างดีแล้ว ช่วยให้ไม่ต้องจับลำโพงตะแคง หรือสอดมือไปใต้ลำโพงให้ยุ่งยาก โดยเราสามารถใช้บล็อกหกเหลี่ยมขันตัวล็อกให้แน่นได้เป็นอย่างดีโดยที่ไม่ต้องไปมุดใต้หลังลำโพงให้ยุ่งยากแต่อย่างใด เสียดายที่ในกล่องไม่ได้แถมประแจมาให้ จริงๆ ถ้าแถมมาให้จะดีมากๆ ส่วนใครที่ใช้ขั้วต่อแบบบานาน่าก็เสียบเข้ารูตรงกลางได้โดยง่ายเช่นกัน
ในส่วนของตัวขับเสียง Kaya 25 ยังคงใช้ Tweeter รุ่น D26 เหมือนที่ใช้ในรุ่นสูงสุดของค่าย แต่ในส่วนของ Woofer มีการเปลี่ยนจากเดิมที่เป็น C125 ใน V1.5se มาเป็น C125D ซึ่งมีการพัฒนาต่อยอดขึ้นมาเพื่อใช้กับ Kaya 25 โดยเฉพาะ ซึ่งมีขนาดเท่าๆ กับ Woofer 6 ½ นิ้ว โดยทั่วไป (เลข 125 ในชื่อ เป็นเฉพาะขนาดกรวยเปล่าๆ ขนาด 125 มม. หรือราวๆ 5 นิ้ว ซึ่งเมื่อวัดรวมขอบยางเซอร์ราวด์เหมือนที่ Woofer ทั่วไปวัดกันจะได้ขนาด 6 ½ นิ้ว) โดยมีการกำหนดจุดตัดความถี่ระหว่างตัวขับเสียงทั้ง 2 ทางไว้ที่ 3kHz โดย Kaya 25 ตอบสนองความถี่ 40 – 25,000Hz มีความไว 85dB อิมพีแดนซ์ 8 Ohm รองรับกำลังขับ 25 – 125 W ซึ่งก็ถือว่าความไวค่อนข้างต่ำและจากที่ได้เคยลองลำโพงจาก Vivid Audio มาหลายรุ่น ผมพบว่า มักจะทำงานได้ดีกับแอมป์ที่มีกำลังขับสูงหน่อย ในคราวนี้จึงใช้ Classe’ Audio CA-M600 ขับ ซึ่งมีกำลังสำรองเผื่อเหลือไว้กว่า 4 เท่า ตลอดการทดสอบ
หลังจากที่เปิดรันอินไปได้ราว 100 ชม. ก็ค่อยมาเริ่มเซ็ตแบบจริงจัง สิ่งที่สะดุดหูตั้งแต่แรกๆ คือ เสียงร้องที่มีความอิ่มหนาน่าฟัง เหมือนกรวยกระดาษชั้นดีสมัยก่อน แต่ต่างกับกรวยกระดาษตรงที่มีรายละเอียดของการร้องให้ได้ฟังอย่างครบถ้วน ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างถึงที่สุด แค่กับแทร็กสั้นๆ อย่าง How does a Moment Last Forever ที่ร้องโดย Kevin Kline จากหนังเรื่อง Beauty And The Beast ซึ่งก็ไม่ได้มีเทคนิคการร้องอะไร แต่ Kaya 25 สามารถนำเสนอถึงความรู้สึกที่ตัวละครถ่ายทอดความระลึกถึงภรรยาที่จากไปได้อย่างน่าประทับใจมาก เมื่อมาแนวนี้จึงลองต่อด้วย Til I Hear You Sing เพลงเอกจากละครเวที Love Never Dies ซึ่งเป็นเพลงที่ต้องถ่ายทอดความรู้สึกคิดถึงออกมาอย่างสุดหัวใจ พบว่าในส่วนของเสียงร้อง Kaya 25 ก็ยังทำได้ดี มีความน่าฟัง แต่ก็แสดงข้อจำกัดของลำโพงเล็กที่เมื่อดนตรีโหมดังขึ้นมาก็ไม่สามารถสร้างพลังงานความถี่ต่ำมาเสริมความยิ่งใหญ่ของวงดนตรีได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของลำโพงสองทางตั้งพื้น จะไปเอาวงใหญ่โตเท่าของจริงมาจากไหน แค่ที่ยังรักษาโทนเสียงร้องให้นิ่ง และยังมีโทนอบอุ่น อิ่มหนา ไม่เจี๊ยวจ๊าว โหวกเหวก ก็น่าประทับใจมากแล้วสำหรับลำโพงตัวแค่นี้ และเมื่อเปลี่ยนมาเป็นเพลงที่มีชื่อตามเรื่อง เสียงร้องหญิงมีการควบคุมได้ดีมากขึ้นไปอีก แม้กระทั่งโน้ตตัวสูงๆ ที่มีโอกาสจัดจ้านบาดหูได้ง่าย Kaya 25 ก็สามารถแสดงความสามารถในการถ่ายทอดย่านเสียงร้องออกมาได้อย่างน่าประทับใจมาก และในเพลงที่ดนตรีไม่ได้หนักหน่วงเท่า Til I Hear You Sing ข้อจำกัดของลำโพงเล็กก็แทบไม่เป็นประเด็น ถ้าไม่เคยฟังเพลงนี้ผ่านลำโพงตั้งพื้นตัวใหญ่ๆ อยู่เป็นประจำคงไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไปบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อพอจะได้แนวว่า Kaya 25 น่าจะเหมาะกับเพลงที่เน้นเสียงร้อง ดนตรีไม่หนักหน่วงมากนัก ก็ถึงเวลาต่อด้วยแผ่น B5 Now 15 ซึ่ง Kaya 25 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เสียงร้องและเปียโนมีความเป็นธรรมชาติ มีรายละเอียดน่าฟังมาก แม้กระทั่งเสียงกระเดื่องกลองที่เป็นซาวด์ที่ไม่ได้เน้นความถี่ต่ำลงลึกมากมาย แต่จะให้ความรู้สึกเป็นเสียงกระเดื่องใบใหญ่ๆ ตามสไตล์เพลงป๊อปๆ ก็พบว่า Kaya25 สามารถให้เสียงกระเดื่องได้ใหญ่เหมาะสมกับแนวเพลงได้ดี
หลังจากนั้นพอดีได้ยินข่าวการเสียชีวิตของนักร้องนำก็ทำให้ต้องหยิบผลงานชุด The Fat Of The Land ของ The Prodigy มาฟัง ซึ่งจริงๆ ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังมากมาย เพราะคิดว่าอาจจะหนักเกินไป แต่ก็ยังพบว่าซาวด์กลองอิเล็กทรอนิกส์แบบนี้ Kaya 25 ก็ยังไม่หวั่น สามารถให้เบสได้สะอาดหนักแน่นสมแนวเพลง แสดงว่าถ้าเพลงไม่ได้เป็นพวกซิมโฟนีวงใหญ่ๆ เวทีกว้างๆ ที่ต้องการฐานความถี่ต่ำมากๆ มาเสริมการฉีกตัวของรูปวงให้มีความยิ่งใหญ่อลังการ หรือเพลงร็อกดุดันมากๆ ก็ไม่เกินเลยความสามารถของ Kaya 25 แต่อย่างใด
ว่าแล้วก็หยิบ Pat Coil: Just Ahead มาเปิด หลังจากที่ไปตามหาแผ่น NOS มาได้ เอามาทดแทนแผ่นเก่าที่ฟังอยู่เดิมที่มีบางแทร็กเริ่มเกิดอาการสะดุด ก็พบว่า Kaya 25 ให้เสียงย่านกลางขึ้นไปถึงสูงได้อย่างสดใสตามแนวเพลงได้น่าฟังดีมาก คือรู้สึกถึงความสดใสมีชีวิตชีวา แต่ไม่มีอาการเสียงบาง พุ่งสาด สดจัดออกมาให้เห็นเลย ดนตรีมีไดนามิกดังเบาต่อเนื่องลื่นไหล โดยเฉพาะ 2 แทร็กสุดท้ายที่ผมชอบฟังต่อกันมากๆ Kaya 25 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ จากความสดใสใน Show Me มาต่อด้วยความหวานที่อบอุ่นใน For Woody เรียกได้ว่าฟินดีจริงๆ
ในส่วนของเสียงแหลม ดูจะเน้นการปรับจูนให้กลมกลืนกับเสียงกลางเป็นหลัก ฟังบางเพลงอาจรู้สึกเหมือนแหลมน้อย โรลออฟเร็วนิดๆ แต่เมื่อฟังเพลงที่มีการบันทึกเสียงเปียโนได้ดี มีหางเสียงกังวานทอดตัวได้ยาวอย่าง Fairy Tales ของ Radka Toneff ก็พบว่า เสียงเปียโนมีความครบถ้วน ทั้งแรงดีดของหัวโน้ตที่ค้อนเคาะลงบนสาย และ sustain หรือหางเสียงที่กังวานลากยาวของเปียโน ก็พบว่ามีมาให้ครบ ไม่ได้มีส่วนไหนขาดตกบกพร่องไป ดังนั้น ในเพลงที่อาจรู้สึกว่าเสียงแหลมโรลออฟเร็วไปนิด อาจเป็นที่เพลงมันบันทึกมาแบบนั้น Kaya 25 ก็แค่เสนอรายละเอียดเสียงแหลมอย่างตรงไปตรงมา แผ่นไหนมีก็มีออกมาให้ได้ยิน แผ่นไหนอัดมาน้อยก็ออกมาน้อยตาม เป็นลำโพงที่ไม่ได้พยายามปรุงแต่งเสียงแหลมให้สดใสกรุ๊งกริ๊งเกินจริงเหมือนนั่งอยู่หน้าเวทีตลอดเวลา เป็นลำโพงที่เน้นความกลมกล่อมผ่อนคลาย ฟังเน้นสื่อสารอารมณ์ดนตรีเป็นหลัก เด่นย่านเสียงกลางที่อิ่มหนาต่อเนื่องน่าฟังเป็นพิเศษ เบสพอมีให้ตามมาตรฐานลำโพงเล็ก ไม่ได้เน้นเบสใหญ่เกินตัวเป็นอึ่งอ่างพองลม เพราะจะเป็นการสร้างเสียงรบกวนมากลบเสียงกลางเปล่าๆ
ถ้าจะเปรียบเทียบกับ V1.5se เท่าที่พอจะจำความรู้สึกได้บ้างคือ V1.5se จะมีการจูนให้เสียงกลางฟังดูสะอาดเกลี้ยงเกลากว่าเล็กน้อย เข้าใจว่าเพราะมีปริมาณเสียงกลางต่ำน้อยกว่าเล็กน้อย แต่จะมีการจูนให้มีปริมาณเบสเยอะกว่าเล็กน้อย เพื่อให้ฟังเพลงได้หลากหลายกว่า ตื่นตาตื่นใจกว่า ส่วน Kaya 25 จะเป็นลำโพงที่ตั้งต้นด้วยเสียงกลางที่มีฐานกลางต่ำที่อิ่มเอมกว่า โดยยอมลดปริมาณเสียงเบสที่จูนเพิ่มไว้ออกไป เน้นที่เสียงเบสที่มีความสะอาด มีคุณภาพมาก่อนปริมาณ เลยทำให้อาจมีข้อจำกัดด้านแนวเพลงบ้าง แต่ถ้ามองว่า Kaya 25 เป็นลำโพงที่ออกแบบมาให้ใช้ในห้องขนาดเล็ก เข้าใจว่าน่าจะเหมาะกับห้องราวๆ 20 ตร.ม. ก็น่าจะมีปริมาณเบสเพิ่มขึ้นมามากกว่าที่ฟังในห้องขนาด 35 ตร.ม. อยู่พอควร ก็น่าจะฟังเพลงได้หลากหลายขึ้น เรียกได้ว่า Kaya 25 ให้ความรู้สึกเป็น “บ้าน” ที่มีความอบอุ่น ผ่อนคลายสมชื่อรุ่นมากกว่า
ท้ายนี้เลยของลองหยิบเพลง Home ที่ร้องโดย พี่ธีร์ ไชยเดช มาฟังเป็นการส่งท้ายรีวิวส์ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ทั้งเสียงกีตาร์ เสียงเปียโน มีสำเนียงของความอบอุ่น อ่อนโยน ยิ่งโดยเฉพาะเสียงร้องที่มีความอบอุ่น แต่ก็ไม่ได้เน้นให้เสียงใหญ่เกินจริงไปมากมาย จะเป็นการนำเสนอเสียงกลางต่ำอย่างพอดีๆ ไม่มากไปจนกลบรายละเอียดการร้อง และไม่น้อยไปจนเสียงเรียวบาง เรียกว่า Kaya 25 เป็นลำโพงที่ให้เสียงร้องได้น่าประทับใจมากที่สุดคู่หนึ่งจริงๆ ส่วนย่านอื่นถึงแม้จะมีข้อจำกัดของลำโพงเล็กบ้าง แต่โดยรวมก็ยังเป็นลำโพงที่น่าสนใจมาก ถ้าได้ลองเอาไปเล่นในห้องที่มีขนาดเหมาะสมกับตัวลำโพงมากกว่านี้ น่าจะได้ความหมายของคำว่า “บ้าน” ที่ทั้งสวยงาม และแสนอบอุ่น ผ่อนคลาย อยู่แล้วมีความสุขจริงๆ ใครมีแผนจะหาลำโพงตั้งพื้นในงบนี้ไปใช้งานในห้องราว 20 ตารางเมตร นี่เป็นลำโพงที่คุณต้องไปฟังให้ได้ แล้วคุณอาจจะพบกับ “บ้าน” ที่คุณกำลังตามหาอยู่. ADP
ราคาพิเศษ 328,000 บาท
จัดจำหน่ายโดย
HIGH END GALLERY – THE NINE พระราม 9 โทร. 0-2056-7934, 086-252-2429
HIFI STUDIO – CDC SHOPPING CENTER
โทร. 087-070-1685
นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 266
No Comments