ธีรวัฒน์
ธีรวัฒน์ โชติสุต

ผมเคยเขียนในเฟซบุ๊กไว้ว่า ลำโพง Unison Research: Max Mini คือลำโพงที่ผมประทับใจ มากที่สุดในงาน BAV HI-END SHOW 2019 ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยส่วนตัว หากผมต้องการ ลำโพงแบบวางขาตั้งสำหรับฟังเพลงในทุก โอกาส Unison Research: Max Mini คือ ลำโพงที่น่าเล่นมากที่สุด 

เป็นเรื่องน่าเสียดายในงาน BAV HI-END SHOW 2019 ลำโพง Unison Research: Max Mini ไม่ได้ถูกชูขึ้นมาให้โดดเด่นด้วยข้อจำกัด เรื่องพื้นที่ก็เลยถูกจับมาวางเรียงเป็นแถวร่วมกับลำโพงคู่อื่นๆ แต่ถึงแม้ว่าการจัดวาง ไม่อำนวยให้ได้ยินคุณภาพของลำโพงออกมาเต็มที่ ทว่า… เมื่อได้ยินเสียงจากลำโพง Unison Research: Max Mini ก็สร้างความประทับใจได้ในทันที ผมรู้สึกประทับใจในความโอ่อ่าของสนามเสียง และเสียงที่เปิดไลฟ์มิวสิกออกมาอย่างมาก ยิ่งมาได้ยินเสียงเพลง Caruso ซึ่ง ร้องโดย Lara Fabian ผมถึงกับร้องว้าว… เลย 

เพราะ ณ ตอนนั้นคิดว่า ถ้าต้องการลำโพงสักคู่ ที่ให้เสียงออกมาน่าฟังแบบไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เปรียบเสมือนว่าต้องการเสียงที่หวาน ออดอ้อน ฉอเลาะ ซึ่งเมื่อได้ยินเสียงแล้วแทบละลายเลย ไม่ได้หวานเลี่ยนอะไร ทำนองนั้น แต่ในความหวาน ยังมีลูกเล่นและเสน่ห์อื่นๆ ให้ ค้นหาได้ตลอดเวลา ไม่ใช่ลำโพงที่ฟังแล้วตื่นเต้นแค่ช่วงแรกๆ แล้วน่าเบื่ออีกไม่กี่เดือนต่อมา Unison Research: Max Mini ตอบโจทย์ข้อนี้ได้ชนิดถูกทุกข้อเลย 

เพราะลำโพง Max Mini จะเป็นลำโพงที่ยามลุกจากเตียงยามเช้า แล้วอยากเดินมาฟังเสียงเพลงก่อนทำอย่างอื่น และเป็นลำโพงที่เมื่อย่างเท้าเข้ามาในบ้านยามเย็น แล้วอยากนั่งลงฟังเพลง ก่อนจะทำอย่างอื่นต่อเช่นกัน เป็นลำโพงที่ช่วยสลัดความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานระหว่างวัน แล้วแว้บมาฟังเพลงสักนิด แต่สุดท้ายก็นั่งจมอยู่ตรงนั้น ไม่อยากไปทำงานต่อเลย 

นี่แหละคือตัวตนของลำโพง Unison Research: Max Mini

ช่วงนี้ ผมได้รับแต่ลำโพงสวยๆ มาทดสอบ ฉบับที่แล้วผมได้รีวิวลำโพง Monitor Audio: Gold 100 ซึ่งเป็นลำโพงวางขาตั้งที่สวยงามมากๆ ทีเดียว ฉบับนี้ ลำโพง Unison Research: Max Mini ก็เป็นลำโพงอีกคู่หนึ่งที่ดูสวยเนี้ยบมากๆ ถึงแม้เป็นลำโพงวางขาตั้ง แต่ขนาดก็ไม่เล็ก ถือว่ามีขนาดใหญ่พอตัวทีเดียว ด้วยสัดส่วนของลำโพงสูง 49.5 ซม. กว้าง 28.5 ซม. ลึก 36 ซม. หนัก 15 กิโลกรัม ใช้วูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว ด้านเสียงสูงเป็น Compression driver ขนาด 1 นิ้ว ไทเทเนียมไดอะแฟรม ความไวลำโพง 93dB จึงเป็นลำโพงที่เหมาะเล่นกับแอมป์หลอดและแอมป์กำลังขับต่ำๆ แต่โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ลำโพง Unison Research: Max Mini เหมาะสมกับแอมป์หลอดจริงๆ

เซ็ตอัพ

Unison Research: Max Mini เป็นลำโพงอีกคู่หนึ่งที่เซ็ตง่ายมาก วางที่ไหนก็ให้เสียงออกมาดี แม้แต่ในซอกของชั้นมุมใดมุมหนึ่งก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเปล่งคุณภาพเสียงออกมาเลย ถือว่าการออกแบบลำโพงคู่นี้สุดยอดมากที่สามารถทำให้ลำโพงทำงานได้อินเฟสกันดีตลอด ไม่ว่าลำโพงจะวางอย่างไรก็ตาม

จากฉบับก่อน ลำโพง Monitor Audio: Gold 100 ผมได้แนะนำว่าควรจะวางบนขาตั้งมวลเบา แต่สำหรับ Unison Research: Max Mini ผมแนะนำว่าวางบนขาตั้งมวลหนักจะให้คุณภาพเสียงออกมาดีกว่าขาตั้งมวลเบาหรือมีน้ำหนักกลางๆ ข้อสังเกตพอวางบนขาตั้งมวลหนัก สเกลเสียง น้ำหนักความต่อเนื่องของเสียง ให้ออกมาดีกว่า

อย่างที่ผมเคยย้ำมาตั้งแต่ฉบับที่ผ่านมาในบททดสอบ Monitor Audio: Gold 100 สำหรับลำโพงวางขาตั้งนั้น ขาตั้งลำโพงมีผลต่อเสียงค่อนข้างมาก การสลับเปลี่ยนลำโพงเพื่อเปรียบเทียบเสียงโดยใช้ขาตั้งเดิมๆ เป็นเรื่องที่ผมต่อต้านอย่างมาก เพราะบางครั้งการใช้ขาตั้งเดิม แต่เปลี่ยนสลับลำโพงไปเรื่อยๆ อาจจะฆ่าลำโพงรุ่นหนึ่ง และกลับไปเสริมลำโพงอีกรุ่นหนึ่งก็ได้ การเทียบเสียงของลำโพงวางขาตั้งควรจะเทียบกันเป็นชุด คือลำโพงรวมกับขาตั้งที่แม็ตช์กับลำโพงนั้นๆ จะให้ผลความแตกต่างของเสียงได้ถูกต้องมากกว่า

ลำโพง Unison Research: Max Mini ความไวค่อนข้างสูงคือ 93dB อิมพีแดนซ์ปกติ 6 โอห์ม ไม่ได้เหมาะกับเล่นแอมป์หลอดอย่างเดียว ยังสามารถเล่นคู่กับแอมป์พวกโซลิดสเตทด้วยเช่นกัน เมื่อดูด้านหลังลำโพงจะมีสวิตช์โยกแบบ Toggle Switch เลือกการทำงานให้เหมาะสมกับแอมป์หลอด (Valve) หรือแอมป์โซลิดสเตท (Solid State) ในการทดสอบครั้งนี้ ผมตั้ง Toggle Switch ไว้ที่ตรงกลางตลอด เทียบกับเมื่อโยกไปยังตำแหน่งหลอด (Valve) แล้ว รู้สึกเสียงมันล่องๆ ลอยๆ น้ำหนักเสียงบางลง เนื้อเสียงก็เข้มน้อยลงเช่นกัน

ถึงแม้ว่า ผมจะสลับนำอินทิเกรตแอมป์ของ Rega Mira3 มาใช้งานร่วมในบ้างครั้ง ผมก็ไม่ได้ดันสวิตช์โยก (Toggle Switch) ลงมาที่ตำแหน่งโซลิดสเตท (Solid State) เช่นกัน ยังคงไว้ที่ตำแหน่งตรงกลางเช่นเดิม 

ในการทดสอบครั้งนี้ ผมอ้างอิงเสียงที่ได้จากการเล่นคู่ กับอินทิเกรตแอมป์หลอด Audiospace Mini Galaxy เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งใช้สายไฟเอซี Supreme Living Power ต่อผ่าน Isolation Transformer Bartolucci ส่วนสาย ลำโพงเป็นสายลำโพง D.I.Y ขนาดหน้าตัด 2.5 sq.mm 

คุณภาพเสียง 

Unison Research: Max Mini เป็นลำโพงที่ให้เสียง มีเสน่ห์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนักเล่นที่เรียกตนเองว่ากลุ่ม ซีเรียสสุดๆ ออดิโอไฟล์จ๋า หรือจะเรียกตัวเองว่ามิวสิกเลิฟเวอร์ หากต้องการลำโพงฟังเพลงจริงๆ ที่ใช้ฟังเพลงทุกวัน ลำโพงคู่นั้นก็คือ Unison Research: Max Mini คู่นี้แหละ 

ทำไมถึงกล้าการันตีอย่างนั้น สิ่งที่จะนำเสนอหลังจากนี้ คือคำตอบทั้งหมด 

เริ่มต้นด้วยเพลง Je t’aime ของ Lara Fabian ผมชอบเสียงของ Lara ที่มีความอิ่มฉ่ำหวาน ออดอ้อน ได้ยิน คราใดก็มีอารมณ์ในการฟังมากยิ่งขึ้น เพลงนี้ผมได้ฟังจาก ลำโพงเล็กวางขาตั้งมาหลายคู่ ทั้ง Totem, Paradigm, Monitor Audio ในบรรดาลำโพงวางขาตั้งทั้งหมด ถ้าต้องการฟังเพลงนี้แล้วให้ความรู้สึกว่าเพราะมากที่สุ ดแล้ว Unison Research: Max Mini ให้ความไพเราะของเสียง ออกมามากที่สุด แต่เมื่อเหลือบมองคะแนนในด้านอื่นๆ ของ Unison Research: Max Mini ไปเทียบกับทั้ง Totem, Paradigm และ Monitor Audio ก็จะมีบางอย่างที่รู้สึกว่า Unison Research: Max Mini ไม่ได้กินลำโพงที่ว่ามา แต่ ถ้าจะวัดกันเรื่องว่า เมื่อฟังแล้วไพเราะมากๆ นั้น Unison Research: Max Mini คือเบอร์ 1 

อย่างแรกที่ชอบอย่างมากคือ ความรู้สึกเหมือนไลฟ์ มิวสิก แต่เป็นไลฟ์มิวสิกที่ไม่ได้รู้สึกอึดอัด หรือเป็นเสียงสด หยาบ แต่ในความหมายเหมือนยกวงมาทั้งวงมาเล่นกัน ในห้องฟังเพลงเลย แต่ละเสียงที่ออกมาตอบสนองได้

อย่างฉับไว ลำโพงบางคู่เหมือนว่าไดนามิกส์ถูกกดเล็กน้อย แต่สำหรับ Unison Research: Max Mini ไดนามิกส์ของ เสียงปลดปล่อยไดนามิกส์เรนจ์ของเสียงออกมาได้ อย่างเต็ มที่ มากกว่า 

เริ่มต้นเพลงด้วยเสียงเปียโนและกีตาร์ เปิดตัวออกมา ได้อย่างชัดเจนมาก ไดนามิกส์เล็กๆ น้อยๆ ของเสียงเปียโน ที่ออกมา Unison Research: Max Mini ให้ออกมาได้ดีมาก ทีเดียว หัวโน้ตกีตาร์ก็ให้ความเป็นตัวตนที่ดี ว่ากันเรื่อง ไดนามิกส์ตอนต้นเพลงของลำโพงวางขาตั้งบางคู่ เหมือนกดไดนามิกส์ของเสียงลง เพราะรู้สึกว่าพละกำลังของเสียงน้อย กว่า Unison Research: Max Mini เพราะฟังแล้ว Unison Research: Max Mini ปลดปล่อยออกมาได้มากกว่า 

หลายคนที่ชอบฟังลำโพงฮอร์น อย่างแรกนั้นไม่ใช่เรื่อง สเกลของเสียงเพียงอย่างเดียว แต่เพราะการปลดปล่อย ไดนามิกส์ของเสียงที่เปิดปลดปล่อยออมาได้มากกว่า ฟังแล้ว เป็นไลฟ์มิวสิกมากกว่า จึงทำให้รู้สึกประทับใจในเสียงของ ลำโพงฮอร์น และที่สำคัญ Unison Research: Max Mini ก็ให้ออกมาได้อย่างนั้นเช่นกัน 

ยิ่งเสียงของ Lara Fabian เมื่อฟังผ่าน Unison Research: Max Mini ผมรู้สึกว่าเสียงร้องของ Lara จะหวานออดอ้อนดีมากๆ ผมชอบในเสียงของ Lara เขาร้อง เพลงมีเรนจ์เสียง มีการเอื้อน มีการหลบเสียง มีลูกแอดลิบ โทนเสียงพลิ้ว ไม่ได้มีร่องเสียงคีย์เดียวกันตลอด ฟังแล้วรู้สึก เพราะมากๆ ยิ่งช่วงกลางๆ ที่โหนเสียงสูงขึ้นไป พละกำลัง ที่ดันเสียงดนตรีที่โหมกระแทกขึ้นมาตามไปด้วยนั้น ยังคงรายละเอียดและไดนามิกส์ของเสียงได้ดีมาก 

ในบรรดาลำโพงวางขาตั้งที่ผมฟังมาและได้ทดสอบ ลงในนิตยสาร Audiophile แล้วนั้น ผมรู้สึก Unison Research: Max Mini ให้สเกลเสียงที่ใหญ่มากกว่า มีสเกล เสียงที่ใหญ่มากจนแทบไม่รู้สึกว่าเสียงร้องออกมาจากลำโพงเลย แทบรู้สึกว่าเสียงนั้นต้องออกมาจากลำโพงตั้งพื้นคู่ใหญ่กว่านี้มากๆ สเกลเสียงร้องให้ออกมาเต็มห้องเลย 

ลองมาสลับฟังเพลงไทยกันบ้าง แผ่นซีดีชุด “ความรัก ปากกา กีต้าร์โปร่ง” เมื่อเปรียบเทียบเสียงที่เคยได้ยิน จากลำโพง Totem: Model One Signature กับลำโพง Unison Research: Max Mini ทั้งสองคู่มีความแตกต่างกัน อย่างแรกก็คือ เนื้อเสียง อย่างเช่นเสียงกีตาร์ ลำโพง Model One Signature ให้มวลเสียงของกีตาร์ ข้น เข้มกว่า รวมถึง เนื้อเสียงร้องที่รู้สึกว่ามีเนื้อเสียงที่ข้นกว่าเช่นกัน เวทีเสียงก็ จะทอดยาวไปทางด้านหลังมากกว่าด้านหน้า ทำให้รู้สึก เหมือนลำโพงหายจมไปในสนามเสียงที่เกิดขึ้นตรงหน้า 

เสียงจาก Unison Research: Max Mini แตกต่าง จาก Totem: Model One Signature อย่างไร? 

อย่างแรก… เนื้อเสียงนั้น จริงอยู่ที่ Unison Research: Max Mini ให้ความเข้มข้นของเสียงกีตาร์น้อยกว่า Totem: Model One Signature แต่สิ่งที่ Unison Research: Max Mini ทดแทนมาก็คือ ไดนามิกส์ของเสียงกีตาร์ที่รู้สึกว่าพุ่ง มากกว่า พูดให้เข้าใจง่ายๆ อีกแบบหนึ่งก็คือ เปิดมากกว่า นั้นเอง สเกลเสียงใหญ่กว่า เสียงกีตาร์ขยับมาด้านหน้า มากกว่า อันนี้เนื่องจากว่า เวทีเสียงของ Unison Research จะสาดสนามเสียงมาข้างหน้ามากกว่าวางลึกลงไปทาง ด้านหลัง ในความล่องหนของ Unison Research: Max Mini จึงรู้สึกเสมือนว่า เสียงออกมาจากผนังด้านข้างและด้านหลังของห้อง เสียงไม่ได้ถูกขับออกมาจากลำโพงเลยแม้แต่น้อย

เสียงร้อง อันนี้ชัดเจนว่าเสียงร้องจาก Unison Research: Max Mini ให้เสียงที่ใหญ่กว่า สเกลเสียงร้องจะใหญ่กว่า Totem: Model One Signature ชัดเจน ใสและมีรายละเอียดของเสียงร้องมากกว่า เสียงฟังแล้วผ่อนคลายมากกว่ากันค่อนข้างมาก เพื่อให้เข้าใจและตามได้ทัน ลองฟังเสียงจาก https://youtu.be/ELnMiHU3nqQ กันก่อน

โดยส่วนตัว ผมชอบในน้ำเสียงของ Totem: Model One Signature และเสียงจาก Unison Research: Max Mini แต่เมื่อฟังเพลงเพลงไทยชุด “ความรัก ปากกา กีต้าร์โปร่ง” ลำโพงแต่ละคู่จะให้เสียงที่แตกต่างกันออกไป แต่ Unison Research: Max Mini ให้เสน่ห์เสียงร้องที่เมื่อไหร่ได้ยินก็จะหลงใหลในน้ำเสียงนั้นทันที เสียงร้องถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกออกมาได้อย่างน่าฟังมากกว่า ให้ความรู้สึกของไลฟ์มิวสิกมากกว่า แต่ในแง่ความสมจริงสมจังในน้ำเสียงนั้น Totem: Model One Signature ให้ออกมาสมจริงกว่า แต่ถ้าจะเลือกลำโพงสักคู่ที่ใช้ฟังเพลงแล้ว ผมมองว่า Unison Research: Max Mini จะเป็นลำโพงขวัญใจนักฟังเพลงที่หลงใหลในเสียงเพลงมากกว่า โดยไม่สนใจในนิยามของออดิโอไฟล์ที่มักพูดถึงกัน 

ลำโพง Unison Research: Max Mini จึงอยู่ในทุกกลุ่มของนักเล่น ไม่ว่าจะเป็นนักเล่นที่หลงใหลในเสียงของลำโพงวินเทจหรือนักเล่นที่หลงใหลในเสียงของลำโพงปัจจุบันที่ต้องการความเป็นไลฟ์มิวสิกมากขึ้น ฟังเพลงได้หลากหลายขึ้น ไม่ได้เจาะจงแต่เพลงร้อง แจ๊ส หรืออะไรนุ่มๆ ผ่อนคลายฟังได้เรื่อยๆ เท่านั้น 

ผมนึกถึงประโยคหนึ่งของ มร. บาร์โตโลมีโอ ในงานเครื่องเสียง เขาบอกว่า ลำโพง Unison Research: Max Mini คือความภูมิใจของเขาที่สามารถออกแบบลำโพงเสมือนว่าเสียงไม่ได้ออกมาจากลำโพงเลย ความรู้สึกเสมือนว่าห้องฟังเพลงคือลำโพงที่ให้เสียงออกมา เสียงจะไม่ได้รู้สึกเหมือนดังออกมาจากลำโพงเลยแม้แต่น้อย

ก่อนที่ มร. บาร์โตโลมีโอ จะคุยเรื่องนี้ ผมได้เปิดเพลงจากแผ่นซีดี Music for Organ, Brass and Timpani ซึ่งซิสเต็ม ณ ตอนนั้น คือแอมป์หลอดของ Unison Research และลำโพง Opera พอย้ายมาฟังอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นลำโพง Unison Research: Max Mini ขับผ่านแอมป์ Unison Research ซึ่งเป็นแอมป์โซลิดสเตทในซีรีส์ Unico ไดนามิกส์ของเสียงฟังแล้วไม่เครียดเลย มร. บาร์โตโลมีโอ แอบมากระซิบผมว่า นี่แหละ คือไม้เด็ดของลำโพง Unison Research: Max Mini เรื่องนี้จริงครับ

จากแนวเพลงคลาสสิกที่ผมชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น Tchaikovsky, Dvorak หรืองานเพลงที่ Howard Hanson เป็นคอนดักเตอร์ เมื่อนำมาเปิดใหม่อีกครั้ง ทำให้รู้สึกหลงใหลในลำโพง Unison Research: Max Mini มากยิ่งขึ้น

ไดนามิกส์ของเสียงที่ออกมาไม่มีการถูกกดจากการออกแบบลำโพงเพื่อลดความเค้นของเสียงลง และชดเชยให้ลำโพงตอบสนองได้อย่างดีสม่ำเสมอในทุกย่านความถี่ เสมือนการใส่วงจรป้อนกลับ (Feedback Control) ให้กราฟการตอบสนองความถี่เสียงออกมาสวยงาม แต่ Unison Research: Max Mini เหมือนจะออกแบบในทำนอง วัดกันไปเลยดีกว่าไหม ไม่กลัว ฉันเจ๋งง่ะ ใครจะทำไม ไม่ต้องกดไดนามิกส์ของเสียง เปิดหน้าตักมาสู้กันเลย

พอมาฟังเพลงแนวนี้ เลยรู้สึกว่าเรนจ์เสียงกว้างมาก ไดนามิกส์เรนจ์ของเสียงก็ออกมาได้อย่างเต็มที่ สเกลเสียงที่ใหญ่แผ่ออกมาได้อย่างกว้างขวาง เสียงโอ่อ่า ฟังดูแล้วยิ่งใหญ่อลังการมากเลยทีเดียว แต่ในการเปิดหน้าตักวัดกันแบบนี้จะรู้สึกว่า รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของย่านความถี่เสียงกลางต่ำนั้น ลำโพงวางขาตั้งอื่นจะให้ออกมาดีกว่าเล็กน้อย แต่ฟังแล้วเครียดกว่า

ถึงแม้ว่า Unison Research: Max Mini ให้รายละเอียดของย่านความถี่เสียงกลางต่ำไม่ได้โดดเด่นเหมือนลำโพงวางขาตั้งบางคู่ แต่สิ่งที่ Unison Research: Max Mini ชดเชยคือ เป็นลำโพงที่ฟังแล้วไม่รู้สึกเครียดแต่อย่างไร แม้ว่าจะอัดเสียงดังขึ้น เสียงก็ไม่เพี้ยน 

ในแง่ของพละกำลังเสียงเบสของลำโพง Unison Research: Max Mini เป็นอะไรที่น่าทึ่งไม่น้อยเช่นกัน 

มาดูกันที่ขนาดของกรวยมิดเรนจ์/เบสยูนิตของ Unison Research: Max Mini กันก่อน ซึ่งใช้ขนาด 8 นิ้ว ดูแล้วเรื่อง สเกลเสียงของเสียงต่ำไม่น่าจะใช่ปัญหาของ Unison Research: Max Mini เพราะการตอบสนองนั้นทำได้ดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ Unison Research: Max Mini ไม่ใช่ลำโพงที่ให้เสียงเบสตูมตาม เข้มข้น แน่นปึ๊ก แต่เป็นเบสที่สะอาด ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วฉับไว ตอบสนอง ลงได้ลึกกว่า เสียงไม่เพี้ยน และเป็นเบสที่สะอาด นี่คือ คุณภาพของเสียงเบสของ Unison Research: Max Mini 

ถ้าจะให้นึกภาพออก ลำโพงวางขาตั้งบางคู่ให้เสียงเบส ต้นแน่นปั๊ก มวลเสียงข้นออกมาเลย แต่ก็ลงไม่ลึกถึง เบสกลางลงไป เปิดดังมากเสียงก็ฟังดูเหมือนไปต่อไม่ไหว เกิดความผิดเพี้ยนของเสียงออกมาเลย แต่เสียงเบสของ Unison Research: Max Mini จะให้ความถูกต้องของเสียง ออกมาทุกระดับความดัง ไม่มีเสียงที่ผิดเพี้ยนเลย ฟังเสียง กลอง เสียงเบส อาจจะไม่รู้สึกแน่นปั๊ก แต่ก็ยังให้ความหนัก แน่นของเสียงกลองได้อยู่ แต่ Unison Research: Max Mini ให้เบสลงได้ลึกมากกว่า เปรียบเทียบเสียงจากลำโพงวางขาตั้ง อย่าง Monitor Audio: Gold 100 พลังของเสียงเบสเหมือน ลำโพงมีซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่พ่วงมาเชื่อมต่อเล่นด้วย เสียงของ Unison Research: Max Mini ถึงจะให้ออกมา หนักแน่นน้อยกว่า แต่เสียงใหญ่กว่าและเป็นธรรมชาติ มากกว่า ไม่ได้เหมือนเสียงสังเคราะห์หรือปรุงแต่งออกมา 

Unison Research: Max Mini ไม่ได้จำกัดตัวเองกับ เพลงบางแนวเพลง แต่สามารถเล่นได้กับทุกแนวเพลง ด้วยความที่ลำโพงให้เสียงออกมาไลฟ์มิวสิกมากๆ ใครชอบ เสียงแซ็กโซโฟนที่ให้สเกลเสียงใหญ่เสมือนจริง หรือเสียงทรัมเป็ต ผมบอกได้เลยครับ ไม่มีลำโพงวางขาตั้งคู่ใดที่ผม เคยฟังมาจะให้เสียงสด เปิด สเกลเสียงใหญ่ เหมือนนักดนตรี มาเป่าตรงหน้าได้เหมือนลำโพง Unison Research: Max Mini เลย ฟังเพลงจากเครื่องเป่าจาก Chet Baker, John Coltrane และ Eric Dolphy นี่ขนลุกเลย 

ลำโพงสำหรับนักฟังเพลง ประจำปี 2019 

อย่างที่บอกไว้ตอนต้น ใครต้องการหาลำโพงสักคู่ที่ใช้ สำหรับฟังเพลงจริงๆ ฟังเพลงได้ทุกวัน ตื่นมาก็ฟัง กลับจากทำงานมาก็ฟังเพลง พักผ่อนกลางวันก็ฟังเพลง ลำโพงที่ให้ ความรู้สึกว่าอยากฟังเพลงมากขึ้นบ่อยขึ้น ลำโพงคู่ที่ว่านั้น ก็คือ Unison Research: Max Mini นี่แหละครับ 

ลำโพงในระดับต่ำกว่าแสนหรือแสนต้นๆ นิดหน่อย แข่งกันดุมาก แต่ในแง่ของลำโพงที่ฟังแล้วไพเราะ ผมยังไม่เห็นมีลำโพงคู่ไหนให้ความไพเราะในยามฟังเพลงได้อย่าง Unison Research: Max Mini ได้เลย อีกทั้ง Unison Research: Max Mini ไม่ได้จำกัดแนวเพลงในการฟัง สามารถเล่นได้ทุกแนวเพลง เพลงแนวร็อกอย่างวง Queen ก็เปิดดัง อัดได้สบายเลย ยิ่งเปิดดัง ยิ่งฟังมันส์ 

เลยอยากแนะนำว่า หากต้องการลำโพงที่เล่นได้ ทุกแนวเพลง ฟังอะไรก็เพราะ ขับง่าย วางง่าย ไม่ยุ่งยาก จุกจิก ชั่วโมงนี้ผมจิ้มตัวเลือกไปที่ Unison Research: Max Mini คู่นี้คู่เดียวเลยครับผม. ADP

ราคาช่วงแนะนำ 99,000 บาท 
(จากราคาปกติ 142,000 บาท) 
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท วันพัฒน์ 59 จำกัด 
โทร. 0-2175-2933, 093-692-2464 

นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 268