ของรักที่สุดสองสิ่งคือ…
ธรรมนูญ ประทีปจินดา
ในวงเสวนาของพวกเรา เมื่อได้พบคนคอเดียวกัน แม้ต่างสายอาชีพกัน แต่ที่ได้มารู้จักกันก็เพราะเครื่องเสียงนี่เองที่เป็นจุดร่วม คุณนาวี บก.บห. บอกว่ายังสนุกอยู่ทุกวัน เช่นเดียวกันกับครั้งนี้ที่พวกเราเดินทางตามคำชวนของคุณเบนซ์อีกครั้ง เพื่อแกะรอยวิถีการเล่นเครื่องเสียงของนักเล่นแถบอีสาน นักเล่นเครื่องเสียงไฮเอ็นด์ในแถบ ตจว. ก็มีไม่น้อย แต่สำหรับบางท่านเป็นวิบากกรรมที่ได้ฟังเรื่องราวแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่า ทำไมยังทนที่จะเล่น ถ้าไม่เพราะใจรัก ก็คงหันไปเล่นอย่างอื่นแล้วคอลัมน์ WE ARE AN AUDIOPHILE ทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับการเล่นเครื่องเสียงว่า… เล่นแล้วได้อะไร แน่นอนว่าแต่ละท่านย่อมผ่านมาไม่เหมือนกัน อาจต้องฟันฝ่าอุปสรรคบ้าง ขณะเดียวกันก็ได้เจอะเจอกับสิ่งดีๆ มากมายเช่นกัน อย่างเช่นครั้งนี้ ผมได้พบนักเล่นเครื่องเสียงที่ต้องขอเอ่ยนามว่า คุณธวัชชัย ดินประเสริฐสัตย์ ประธานกรรมการ บริษัท สยามเหล็กไทย อุตสาหกรรม จำกัด ที่ได้เป็นแขกรับเชิญของคอลัมน์เยี่ยมห้องฟังของเรา ถือเป็นเกียรติที่ได้อนุญาตให้พวกเรามาเยี่ยมชมห้องฟังกันครับ
ตัวตน
ปีนี้ผมอายุหกสิบแปดแล้ว เป็นนักธุรกิจที่ยังไม่ถึงกับว่าต้องวางมือทางธุรกิจ เพราะกําลังขยายงานโดยให้ลูกชายดูแล อยู่ และเพื่อสุขภาพวัยนี้แล้วก็ออกกําลังเล็กๆ น้อยๆ มีฮ็อบบี้ อย่างเดียวที่รัก คือ เล่นเครื่องเสียง ผมมีความชอบและรักในการเล่นเครื่องเสียงมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ตั้งแต่อายุได้สิบหกปีโน่นเลย เล่นมาหมด ตั้งแต่แผ่นคร่ัง, เทปรีล Akai 4 Channel, Teac ต่อมายกให้นายสถานีไป เครื่องเสียงน้ีก็เล่นมาเร่ือยๆ จนมีครอบครัว รูปน้ีเป็นรูปแต่งงานท่ีบัวใหญ่ แอมป์ Kenwood ตัวนี้ซ้ือกับพ่อเส่ียเบนซ์ เป็นของ PX ที่ต้องถ่ายภาพนี้เพราะตลอดส่ีสิบปีมานี้ ผมมีของรักอยู่สองสิ่ง คือ ภรรยาและเครื่องเสียงนี่แหละ พอมีกิจการ ก็มีกําลังท่ีจะขยับมาเป็นเครื่องเสียงไฮเอ็นด์ เม่ือก่อนน้ีก็อ่านหนังสือเครื่องเสียงอยู่ ต่อมาก็ห่างหายไป เพิ่งกลับมาอ่านใหม่ก็อ่านออดิโอไฟล์นี่แหละ คุ้มค่ามาก ยิ่งเมื่อเข้าก๊วนกับคุณเบนซ์และคุณอู๊ดนี่ล่ะ ถ่านไฟเก่าก็คุขึ้นมาทันที สนุกกว่าที่เคย สงสัยว่าอาจต้องขยับอีกครั้ง
“ภรรยา” และ “เครื่องเสียง”
วิบากกรรมของคนเล่นเครื่องเสียงมือสอง
เมื่อก่อนเราเล่นคนเดียว แม้ว่าอ่านหนังสือก็เถอะ เราไม่มีกลุ่มเล่น คิดเองเออเอง ไม่ได้ไปเห็นไปฟังของคนอื่น ก่อนหน้าน้ีเราก็เล่นเคร่ืองเสียงญ่ีปุ่น ก็มีเพื่อนรุ่นน้อง พูดง่ายๆ เขามีอาชีพจับเคร่ืองเสียงมือสอง เป็นคนจัดหาให้ เราจ่ายเงินอย่างเดียว ก็มากอยู่ เจ็บหนักเมื่อเลื่อนชั้นเป็นไฮเอ็นด์ เป็นอินทิเกรต ก็เร่ิมท่ี Krell 250i เป็นอินทิเกรต เขาก็บอกว่า “เล่นมาขนาดนี้แล้ว น่าจะเล่ือนช้ันไปเล่นเครื่องไฮเอ็นด์ได้แล้ว เล่นแบบแยกปรี-เพาเวอร์” เคร่ืองเสียงไฮเอ็นด์ชุดแรกเป็น Krell รุ่นแรก เม่ือก่อนเล่นกับ B&W 801 Matrix 1 ต่อมาก็ไหล เรียกว่าหลายชุด หมดไปสิบกว่าล้านครับ ก็มี Krell, Mark Levinson, Jadis, Manley, Gyphon ด้วย ลําโพงก็มี Infinity IRS, Goldmund, Wilson Max2, Rockport แหล่งโปรแกรมมี dCS, ซีดีฝรั่งเศส, เทิร์น Clear Audio ตัวเล็กเราก็อยากรู้ว่ามันจะแตกต่างจริงเหรอ จริงๆ แล้วก็แตกต่างจริง ผมเองก็เป็นคนใจร้อน คือถ้าไม่ใช่ก็จะพยายาม ปล่อยออกไม่พยายามเก็บ นี่ขนาดไม่ค่อยเก็บนะครับ แต่ที่มีอยู่ แม้เป็นแบรนด์ใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะดี เป็นเครื่องเสียงมือสองรุ่นเก่ามาก สภาพช้ําๆ ท้ังน้ัน
วิธีการนําเสนอ เขาก็จะปร้ินต์รูปมาให้ดูว่า ตัวน้ีมันดังแค่ไหน ผมก็ต้องควักเงินให้ไปก่อนทุกครั้ง ไปมาตลอดย่ีสิบห้าปีทําแบบนี้มาตลอด เราก็ไม่เคยปรึกษาใคร จริงๆ อย่างเส่ียเบนซ์ เสี่ยชิ เฮียอู๊ด เรารู้จักกันมาเป็นสิบๆ ปี พวกนี้เขาก็เล่นเครื่องเสียง เราต่างคน ต่างเล่น ต่างคนต่างทํามาหากิน ไม่ได้มาคลุกคลีกัน เขาก็ทราบนะว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่เขาไม่กล้าบอก จนในที่สุดเขาทนไม่ไหว เพราะเห็นว่าผมโดนฟันมาตลอดเหมือนกับที่ทํากับอู๊ดเลย คือเทรดของเพิ่มเงิน อยู่เรื่อยๆ ข้อสําคัญไม่ซื่อสัตย์ การเล่นของมือสอง จริงอยู่ที่เราทุนน้อยก็ต้องเล่นของมือสอง แต่ไม่ควรช้ํามาก แล้วถ้ามีปัญหาควรต้องรับผิดชอบบ้าง จริงอยู่ ผมอาจไม่สนใจ รู้ว่าโดนบวก เพราะก็รู้ว่าเขาก็ต้องมีกําไร เป็นอาชีพ ถ้าเราพอใจก็จบ แต่หลังๆ นี่ชักเอาใหญ่ จนใครๆ ว่าทําไมปล่อยให้ทําแบบนี้
หันคบกับก๊วนที่มีความจริงใจ
แรกๆ น้องๆ เขาก็ไม่กล้ามาสุงสิงกับผม เพราะเห็นว่าเราเล่นตัวท็อปๆ กว่า ซึ่งจริงๆ แล้วของรุ่นเก่าทั้งนั้น เราต่างมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน เจอหน้ากันก็จะถามว่ามีอะไรใหม่บ้าง ที่ตลกคือไม่เคยได้ไปฟังชุดของซึ่งกันและกันเลย พอดีเมื่อราวสามเดือนที่ผ่านมา ผมพานักธุรกิจจากเวียดนามไปทานข้าวต้มที่ร้านคุณอู๊ด ซึ่งปกติไม่เจอเขาหรอก
แปลกที่จู่ๆ ถึงเวลาที่จะปลุกกระแสผมใหม่ ผมกำลังจะกลับอยู่แล้ว แกทักผม ก็เลยคุยกันยาวจนถึงลานจอดรถ พูดถึงเสี่ยเบนซ์ซึ่งเป็นรุ่นน้อง รุ่นเดียวกับลูกชายผม ผมทราบกิตติศัพท์เขาดี อู๊ดบอกเสี่ยเบนซ์เป็นคนนิสัยดี ใจกว้างมีน้ำใจ เดี๋ยวจะประสานให้ ผมเป็นคนใจร้อน บอกพรุ่งนี้นัดเลย ไปบ้านเฮียอู๊ดก่อน ตอนแรกก็เห็นว่าเป็น Moon ผมไปฟังเสียงครับ เราจะไม่ดูถูกว่าเขาเล่นชุดเล็กกว่าเราหรอก จริงๆ ไม่ได้สนใจเลยว่าเป็นเครื่องอะไร อู๊ดเปิดให้ฟังแล้วเล่าที่มาที่ไป เราก็นึก โอ้… ราคาไม่ถึงล้าน เสียงดีขนาดนี้ ของเรานี่เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก มันยังไม่ใช่ที่เราต้องการ หมดไปเป็นสิบล้านแล้ว ก็เลยสนใจที่จะไปพบเสี่ยเบนซ์ “เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวผมนัดให้” ก็บอกอู๊ดว่าเร็วหน่อยก็ดี แบบว่าใจร้อน ต่อมาอีกสองวันก็ได้ ไปห้องเสี่ยเบนซ์ นี่แค่แตะบันไดบ้าน ยังไม่ทันขึ้นชั้นสองก็รู้แล้วว่าคนนี้ตัวจริง อึ้งเลย แต่ก็ไม่แปลกใจหรอก เพราะทราบฉายาเขาดีว่าเล่นมาขนาดไหนแล้ว อย่าว่าแต่ชุดเครื่องเสียงบ้านเลย ชุด PA เขาก็เล่นเป็นสิบกว่าล้านแล้ว เข้าไปในห้องมีเทิร์นเป็นสิบตัว ปรีโฟโนอีกเพียบ เจ้าเทิร์น Air Force One ตัวนั้นก็หลายอยู่ ทึ่งครับ
เมื่อจุดติด… เครื่องก็เริ่มร้อน
วันนั้นก็ฟังเพลงอยู่ที่บ้านเสี่ยเบนซ์ราวสองชั่วโมง ตอนนั้นประมาณสามทุ่มครึ่งแล้ว เสี่ยเบนซ์ขอตามมาที่บ้านผม เอางั้นเลยนะ ลุยถึงบ้านผมเลย ลุยกันจนถึงตีหนึ่งเลยครับ แกเป็นคนตรงไปตรงมาดี พูดกับผมตรงๆ ว่า “จุดแรกที่เจอ ตำแหน่งวางก็ไม่ถูกแล้ว” พรุ่งนี้เดี๋ยวส่งคนมาจัดการให้ เอาลูกน้องมาสองคน สิ่งแรกที่ทำ ชุดเดิมนี่แหละ เปลี่ยนมุมการวางใหม่ก่อน ยังไม่ทำอะไร แล้วก็แมตชิ่งใหม่ จากนั้นวันต่อไปก็เอาสาย Transparent ที่เตรียมมาเป็นกระเป๋า ลองเปลี่ยนให้ฟัง อันนี้ก็ทึ่งไปแล้วอีกรอบ เปลี่ยนสายนี่ชัดเจนมาก เวทีเสียงกว้างให้รายละเอียดของเสียงดนตรีออกมาชัดมาก ฟังด้วยแผ่นเดิมๆ นี่แหละ ซึ่งลบความเชื่อผิดๆ ที่คนขายคนเดิมให้ความรู้ผมว่า “เครื่องเสียงดีแล้ว สายดีๆ แพงๆ คงช่วยอะไรไม่ได้หรอก” ก็ต้องยอมรับว่า เราเองก็ไม่ได้พิสูจน์ด้วย แต่พอ A-B Test โห… มันคนละขั้วเลย ทีนี้ก็มาคิดว่า ที่เขาออกสายลำโพงมาคู่หนึ่งเป็นล้านสองล้าน เขาจะขายใครเล่า ซึ่งก็งงว่าทำไมเราไปเชื่อเขา ไม่ลองด้วยตนเองให้รู้ซะ
เริ่มขยับ
เดิมมี Krell ปรีแอมป์ เพาเวอร์ เครื่องเล่นซีดี กับลำโพง B&W Matrix ทั้งชุด ซื้อต่อเขามาจากกรุงเทพฯ ก็ได้ทราบมาอีกว่าโดนฟันอีกแล้ว เจ็บใจ ประกาศขายเลยจากเจ็ดแสนเหลือสี่แสน สรุปแล้วเขาเองมาเอากลับไปในราคาสี่แสน โดยแบ่งจ่ายคืนสองงวด แปลว่ากินสองต่อ… เชื่อเลย แต่เราเบื่อแล้ว ไม่อยากเห็นมันอีก ขายไปซะเถอะ
ใจจริง ผมน่ะชอบ McIntosh อยู่ตั้งนานแล้ว ชอบความคลาสสิกของมัน แต่ยังไม่เคยฟังมันได้เสียงดีๆ สักที วันนั้นเข้าไปห้องฟังเสี่ยเบนซ์เห็น McIntosh 7000 อยู่ รู้ว่าเขาไม่ค่อยได้ฟัง เพิ่งรู้จักกันจะละลาบละล้วงซอกแซกมองก็จะกระไรไป ก็ไม่กล้าถาม จนเริ่มคุ้นเคยจึงกล้าถาม เสี่ยแกก็ดี บอกเอามาลองฟังก่อน เราก็เอามาต่อกับ Wilson ก็ดีกว่าแอมป์ทุกตัวที่ผมมี จะเป็นเพราะของมันใหม่ สดกว่านะ ตัวอื่นมันเก่าจนหมดสภาพแล้ว แม้ว่าชื่อชั้นดูดี แต่สภาพมันอาจจะไม่ไหวแล้ว
ส่วน B&W 800D Diamond ผมเองก็สนใจอยู่นานแล้ว แต่ไม่มีแรงจูงใจที่จะซื้อ จนออกรุ่นใหม่เป็น D3 ก็ไม่มีปัญหา เดี๋ยวค่อยหาใหม่ ซึ่งเบนซ์บอก เดี๋ยวเขาหามาให้ โดยเรื่องเงินยังไม่ต้องพูดถึงเลย ได้สีขาวเสียด้วย ทีนี้ก็ได้ซีดีเพลเยอร์ McIntosh มือสองสภาพดีมาอีกตัว สภาพดีมาก เสี่ยเบนซ์ก็หามาให้อารมณ์ที่ได้แกะกล่องลำโพงคู่ใหม่ป้ายแดง แหม… มีความสุขมาก เราเคยเล่นมาก็เยอะ รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นมัน ตั้งแต่คลุมผ้าขาวๆ อยู่ เขาแกะต่อหน้าผม สีขาวเป็นสีพิเศษ มันสวยจริงๆ งานประณีตมาก ต้องชมน้องที่ช่วยก็ทำงานละเอียด เก็บทุกอย่างไว้ให้ผมทุกชิ้น เก็บแม้กระทั่งตัวรองสายรัดกล่อง สายรัดทุกชิ้น ผมเก็บไว้อย่างดี ฟังครั้งแรกก็ชอบเลย
ก่อนหน้านี้มีเครื่องเล่นซีดี Moon อยู่ตัวหนึ่ง เสียงดังไม่เท่ากัน dCS ก็เก่าเกินไป Primare ก็ไม่สมบูรณ์ ประกอบกับมี Gyphon อยู่ชุดหนึ่งกับ Rockport Mira Grand ซึ่งเบนซ์บอกไปกันได้ดี ต้องมีเครื่องเล่นซีดีดีๆ สักตัว จังหวะได้ Esoteric มือสองสภาพดีๆ เบนซ์ก็เลยหามาให้ ซึ่งเข้าเซ็ตกัน เสียงดีมากเลย
เล่นเทิร์น
เทิร์นเล่น VPI, Clear Audio เป็นหลัก ส่วนอีกตัวตั้งโชว์ เพราะไม่สมประกอบ ปกติชอบฟังเพลงไทยสากล ชอบเพลงของสุนทราภรณ์ ลูกทุ่ง แล้วแจ๊สที่มีเปียโน แซ็กโซโฟน ชอบสะสมแผ่นเก่าๆ เฮียจ๋อมเป็นคนช่วยหา แผ่นตรามงกุฎยังมีเลยครับ แผ่นใหม่ก็ซื้อ อ่านจากหนังสือก็พบว่าที่ว่าบางสิ่งบางอย่างมันหมดยุคสมัยไปแล้ว เดี๋ยวนี้มันวนกลับมาใหม่ได้ ในขณะที่มีของใหม่เข้ามาเรื่อยๆ
กลับมาเล่นใหม่ตื่นเต้นกว่าเดิมอย่างไร
กลางวัน ถ้าไม่ออกไปธุระข้างนอกก็จะขึ้นมาฟัง พอผมได้ฟังเพลงก็มีสมาธิขึ้น บางคร้ัง เพลินจนลืมเวลา ต้องเอานาฬิกาไปตั้งไว้ กลัวลืมเวลา น่ังยาวสามส่ีช่ัวโมงเลย ต่างจากเม่ือก่อน เดือนหนึ่งสักคร้ัง เพราะเครื่องมันไม่ดี ไม่สนุก เบ่ือไม่อยากฟัง มันก็แค่นั้น แต่วันนี้ ไม่ใช่ เราสนุกกับมัน วันนี้ได้สายเส้นใหม่มาลอง เราจะฟังอัลบั้มเดิมแล้วเปรียบเทียบเห็น ความแตกต่างอย่างไร เพลงไทย เพลงบรรเลง เพลงลูกทุ่ง สามแผ่นก็เกือบสามชั่วโมงแล้ว เฉล่ียสัปดาห์ละสองวัน แต่ถ้ามีเวลาว่างอย่างสามคืนที่ผ่านมา ฟังทุกคืนเลยครับ จนต้องซ้ือนาฬิกามาคอยเตือนว่าต้องเข้านอนแล้ว
ถือว่าไม่สายที่จะหวนกลับมาเล่นใหม่อีกครั้ง ตอนนี้มีความสุขมาก อนาคตคิดว่าจะไล่ของเก่าออกไป แล้วจะเล่นปรีแอมป์-เพาเวอร์ใหม่ๆ พร้อมลําโพง Eggleston Woks Savoy Sig. ที่เล็งไว้เหมือนของเสี่ยชิ เพื่อนผมเขาก็เล่น ผมชอบนะ
บทเรียนที่ได้รับ
เมื่อเราเล่นคนเดียวอยู่ตรงนั้นเหมือนถูกขังอยู่ในที่แคบๆ พอเราได้ออกไปคบกับคนนั้นคนนี้ แลกเปลี่ยนความรู้กัน ได้มีโอกาสไปฟังของเขาก็รู้ความแตกต่าง และทราบว่าเรื่องแบบน้ี ต้องเปิดโลกทัศน์ด้วยการอ่านหนังสือ และคบหาคนที่ไว้ใจได้จริงๆ โชคดีที่มาเจอคุณอู๊ด และคุณเบนซ์ ถึงได้มีวันนี้ ต้องขอบคุณน้องๆ มาก ที่ทำให้ผมกลับมามีความสุขกับสิ่งที่รักอีกครั้ง
จริงๆ แล้ว เราคบกันมายี่สิบห้าปี ยังกะเป็นพี่เป็นน้องกัน แต่เขาเป็นพ่อค้าที่ไม่มีความจริงใจ ไม่ให้ความรู้กับเราแท้จริง ทํากําไรได้ก็จะทํา โดยไม่คํานึงถึงความรู้สึกของเจ้าของเงิน ฟังแล้วจะอึ้ง… บ้านผมเหมือนที่ฝากของซะงั้น เราต้องอยู่หน้าร้าน เขามาขลุกอยู่เป็นวันๆ พอเขามีออร์เดอร์มาก็จะมาขอเปล่ียนเคร่ืองจากเราไปทุกครั้ง
จริงๆ แล้ว การที่มีเพื่อนเป็นพ่อค้าก็ไม่ผิด ถ้ามีความจริงใจ ตรงไปตรงมาก็จะดี ต้องคิดก่อนว่า ทําไมเจ้าของเดิมเขาถึงขาย หรือว่ามันมีปัญหาอะไร การเล่นเคร่ืองมือสอง ยิ่งเทรดยิ่งเจ็บตัว ของคุณภาพต่ำลง เพราะตอนมาเขาก็กินหัวคิวไปแล้ว เทรดกลับก็ได้เงินไม่ครบ เอาของมาแลกก็โดนอีก พ่อค้าคนกลางได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง
อีกเรื่องเป็นเร่ืองเชิงบวก การที่เราจะเล่นเครื่องเสียงมือสองก็ไม่ผิด แต่ควรต้องรู้ประวัติ ไม่ควรเก่าเกินห้าปี เพราะจะได้ไม่ล้ําสมัย แต่ถ้ามีเงินเล่นก็เก็บไว้ หรือจะเทรดไปก็ดี การที่มีเพื่อนรุ่นน้อง เราได้แนวคิดของเขา เมื่อลองเปลี่ยนอุปกรณ์ได้สัมผัสความเปลี่ยนแปลงจริงๆ อย่างเช่น การได้ลองสายเพื่อแม็ตช่ิงกับชุดของเรา
ห้องฟัง
ในห้องน้ีมีชุดเคร่ืองเสียงสามชุดไว้ฟังเพลง อีกหน่ึงชุดเป็นชุดดูหนังดูคอนเสิร์ต ที่มันเป็นแบบนี้เพราะเป็นส่วนของช้ันลอย เพดานเลยเตี้ยไปหน่อย เดิมอยู่ห้องด้านล่างที่เก็บแผ่นตรงน้ัน ก็คิดว่าเล่นเท่าท่ีมีนี่แหละ และก็เบ่ือๆ อยู่ด้วย อํายุก็มากแล้ว เราก็เล่นของเราคนเดียว ลูกเมียก็ไม่ได้เล่น คิดว่าคงไม่คิดจะซื้ออะไรใหม่หรอก ก็คงเล่นไปเท่าท่ีมีน่ีแหละ แต่พอมาเจอก๊วนนี้เข้า สงสัยต้องหาห้องฟังใหม่อีกแล้วม้ัง
คำแนะนำ
เล่นเครื่องเสียงต้องมีก๊วน ต้องเดินงานแสดงเครื่องเสียง ได้พบปะพูดคุยกับคนคอเดียวกัน เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง อย่างงานแสดงเครื่องเสียงกลางปี BAV HI-END SHOW ที่โรงแรม แลนด์มาร์ค ต้องไม่พลาดแน่ ถ้าน้องใหม่ที่จะมาเล่น เราต้องศึกษา อ่านหนังสือเครื่องเสียง อ่านบทวิจารณ์ก็เพื่ออ้างอิง ปรึกษาผู้รู้ให้ละเอียด ก่อนที่ตัดสินใจ แล้วก็ต้องฟังด้วยหูตัวเอง ต้องเชื่อหูเราก่อน อย่าไปเช่ือคารมของใคร ไปฟังซะให้พอใจ แล้วค่อยตัดสินใจ ตราบใดที่ยังไม่ซ้ือ แต่เมื่อซ้ือแล้วเกิดไม่ใช่ก็อาจเจ็บตัวได้ จําไว้ว่าเราเล่นเครื่องเสียงต้องฟังด้วยหูตนเอง อย่าได้เชื่อ ลมปาก อาจเก็บไว้เป็นข้อมูลก็พอ
ประสบการณ์ในการเล่นเคร่ืองเสียงของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน และไม่มีสูตรสําเร็จ ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ความรื่นรมย์และชื่นใจจากเสียงเพลงที่ได้ฟัง ล้วนเป็นปลายทางของนักเล่นเคร่ืองเสียงทุกคน และก็เช่นเดียวกับท่านเจ้าของห้องฟังที่เรําได้รับเกียรติให้ไปเยี่ยมเยือนคร้ังน้ี ที่ทุกวันนี้มีความสุขกับการฟังเพลง และมีความสุขกับกํารมีกัลยาณมิตรที่เสียงเพลงนําพามา อีกท้ังเป็นความสุขท่ีอยากแบ่งปันให้กับผู้อ่านทุกท่าน ก็เพราะ… “WE ARE AN AUDIOPHILE”. ADP
นิตยสาร AUDIOPHILE VIDEOPHILE ฉบับที่ 229
No Comments