Bladelius Ask เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่โดดเด่นจากสแกนดิเนเวีย โดยออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัดและราคาย่อมเยากว่าพี่ใหญ่ Oden แอมป์รุ่นเรือธงของค่าย แม้ว่าจะเป็นน้องรองของ Oden แต่ Ask กลับมอบประสบการณ์การฟังที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน ให้เสียงที่ยอดเยี่ยมด้วยเสียงที่มี Timbre อบอุ่น ให้เสียงหนา เบสมีมวลแน่นและทรงพลัง พร้อมรายละเอียดของดนตรีทุกตัวโน้ต

“เมื่อเสียงเพลงไม่ได้มีไว้แค่เพียงได้ฟัง แต่ต้องรู้สึกได้ถึงทุกจังหวะ ทุกท่วงทำนองและอารมณ์เพลง!” 🎶

Bladelius Ask Integrated แอมป์ที่ยกระดับการฟังเพลงของคุณให้เป็นประสบการณ์เหนือระดับ ด้วยดีไซน์เรียบหรู มีสไตล์ ผสานพลังเสียงระดับไฮเอนด์ในทุกมิติ 

Ask พร้อมมอบความสมบูรณ์แบบในทุกตัวโน้ต ให้เสียงดนตรีที่คุณต้องประทับใจ

เพราะนี่ไม่ใช่แค่แอมป์ แต่มันคือหัวใจของเสียง ทุกเพลงที่คุณรัก

ให้เสียงเพลงบอกเล่าเรื่องราว…เพราะความสุขที่แท้จริง เริ่มต้นที่เสียงแรกที่คุณได้ยิน! 💥

สวัสดีปีใหม่ครับ ทุกคน
พบกันอีกแล้วกับ audiophile go digital… อรรถคดีว่าด้วยเรื่องราวในยุค Digital audio ซึ่งจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้เล่าขานบนสื่อออนไลน์อยู่ตลอดเวลา

และนี่เป็นบทความทดสอบบนเว็บไซต์ www.audiophile-videophile.com

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม

เมื่อคุณคริสแห่ง  IAV ผู้นำเข้า แนะนำให้ผมรู้จัก Bladelius Ask Integrated ตัวนี้ในงาน BAV HI-END SHOW ในห้อง Life Audio ขับกับลำโพงฝรั่งเศสชื่อ Diptyque ติดใจเสียงที่ดีจนต้องถามหายกมาฟังในห้องฟัง Home studio มา มาเข้าเรื่องกันเลย

Bladelius Ask ถูกออกแบบให้เหมือน Oden แต่ประหยัดพลังงานกว่า อาจกล่าวได้ว่าเป็นรุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่ามีพี่ใหญ่ Bladelius Oden อย่างหนา กล้ามโตเชียว

หนึ่งในแอมพลิฟายเออร์ที่ดีที่สุดไม่ว่าจะอยู่ในช่วงราคาใดก็ตาม ความสามารถในการขับลำโพงที่มีโหลดโหดๆ และในขณะเดียวกันก็ให้รายละเอียดและควบคุมทุกย่านความถี่ได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม Ask ตัวที่ส่งมายังคงเป็น All in One Streamer DAC amp ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมที่จะอัปเกรดฟังก์ชันเพิ่มเติมเช่น Phono Stage ด้วย

Ask ถูกออกแบบโดยถ่ายทอดจาก Oden อยู่ในสัณฐานที่เล็กลง มันมีตัวเครื่องที่มีความบางกว่า แต่ส่วนอื่นยังคงเข้มเหมือนเดิม ภายนอกดูเรียบง่ายและมีความหรูหราในแบบสแกนดิเนเวีย แม้ว่ามันจะยังคงดูเรียบง่ายของสแกนดีไซน์ ถ้านึกไม่ออก ก็เหมือนการออกแบบแนวของ Ikea ไง แม้จะดูเรียบง่ายแต่ภายใน Ask จะซับซ้อนเชียวนา องค์ประกอบและคุณภาพของวัสดุนั้นถูกประกอบด้วยความประณีตมากๆ ทำให้ไร้ข้อวิจารณ์ใดๆ ต่อแอมพลิฟายเออร์ตัวนี้

Bladelius ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 ในเมือง Alingsås ประเทศสวีเดน โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Bladelius Design Group ผู้ก่อตั้งบริษัทคือ Mr.Mike bladelius หนึ่งในนักออกแบบที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการเครื่องเสียงระดับโลก โดยในบทความนี้ จะรีวิวผลงานล่าสุดของเขา นั่นคือ Ask Integrated Amplifier นั่นเอง

นักออกแบบผู้ทรงอิทธิพลในวงการเครื่องเสียงร่วมสมัยคนนี้ ประวัติไม่ธรรมดาจริงๆ เขาสร้างเครื่องขยายเสียง (Amplifier) ตัวแรกที่สามารถใช้งานได้จริงตั้งแต่วัยละอ่อน อายุเพียง 13 ปี

ต่อมาเมื่อไปเยี่ยมเพื่อนในสหรัฐอเมริกา ไมค์ได้ติดต่อกับ Nelson Pass ซึ่งในขณะนั้นทำงานที่ THRESHOLD หลังจากกลับสวีเดนไม่นาน Nelson Pass ได้โทรกลับมาพร้อมข้อเสนองานให้เขา

ต่อมา Bladelius ได้ย้ายไปที่แคลิฟอร์เนีย สำเร็จการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย และทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกเกี่ยวกับเครื่องขยายเสียง

ในปี 1994 เขาเริ่มทำงานเป็นที่ปรึกษาอิสระให้กับหลายบริษัท และในช่วงปี 1994 – 1995 เขาได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัท CLASSÉ AUDIO และ ULTRA ANALOG ร่วมกับ Werner Barden นักจัดจำหน่ายชาวเยอรมันที่มีชื่อเสียงในวงการ High-End Audio ทั้งคู่ได้พัฒนาต้นแบบของเครื่องเล่นซีดี และก่อตั้งบริษัท ADVANTAGE

จนในปี 1997 Mike Bladelius ตัดสินใจก่อตั้งบริษัทของตัวเอง ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของ Bladelius โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือเครื่องขยายเสียง (Audio Amplifiers) แต่ก็มีอุปกรณ์อื่นๆ เช่น Gondul เครื่องเล่นแบบ multi-format และ Embla เครื่องเล่นไฟล์เสียงที่มาพร้อม CD transport

ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Bladelius หลายตัวได้แก่

• Grendel: Power Amplifier
• Ymer Amplifier

นอกจากนี้ Mike ยังผลิตอุปกรณ์บางรุ่นภายใต้แบรนด์ SAT (Swedish Audio Technology)

ในกระบวนการออกแบบและการฟังเพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ของเขา Mike Bladelius ใช้ดนตรีหลากหลายประเภท แต่ศิลปินคนโปรดของเขาคือ Bruce Springsteen โดยเฉพาะเพลง The Ghost of Tom Joad

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Alexander Bladelius ลูกชายของเขาที่เป็นวิศวกรเช่นกัน ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ AB-Tech ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หนึ่งรุ่นคือ REN (Ethernet isolator) นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการสร้างธุรกิจครอบครัวในอุตสาหกรรมเครื่องเสียง เช่นเดียวกับ Wilson Audio ซึ่งปัจจุบันบริหารโดย Daryl C. Wilson ลูกชายของผู้ก่อตั้ง Dave Wilson หรือ Vitus Audio ที่ก่อตั้งโดย Hans Ole Vitus และตอนนี้ดำเนินการโดยลูกชายของเขา Alexander เช่นกัน ประมาณว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

บอส (Bladelius) ได้ให้กำเนิดแอมพลิฟายเออร์รุ่น Ask ในภาพลักษณ์ของตัวเอง คือทรงพลัง ให้เสียงจริงจังไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่อาจเอื้อมไม่ถึง Odin

เมื่อพูดถึงแบรนด์ Bladelius คงไม่มีใครที่ไม่คุ้นเคยกับปรัชญาการออกแบบระดับตำนานจากสแกนดิเนเวีย ที่เน้น “ความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง” ซึ่งสะท้อนอย่างสมบูรณ์แบบใน Bladelius Ask Integrated เป็นแอมป์ (Integrated Amplifier) ยุคใหม่ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีระดับเรือธง ในรูปแบบที่กะทัดรัดกว่า แต่ไม่ลดทอนคุณภาพแม้แต่น้อย

Odin (หรือ Oden) เป็นตัวละครหลักในตำนานนอร์ส เทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่เทพเจ้าอาศัยอยู่ในแอสการ์ดและมีส่วนร่วมในสงคราม ในขณะเดียวกันเขาได้สร้างมนุษย์ขึ้นมา โดยมนุษย์คนแรกคือ Ask

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมก็เพียงได้ดูหนัง MCU (Marvel Cinematic Universe) เกี่ยวกับลูกชายของ Odin – Thor และ Loki เท่านั้นแหละ

Ask พัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนานอย่าง Mike Bladelius ซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนในด้านคุณภาพเสียงและการใช้งาน ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้พัฒนาแบบสุ่มเสี่ยง แต่เป็นรุ่นย่อส่วนจากอินทิเกรตแอมพลิฟายเออร์รุ่นเรือธงนั่นคือ Oden โดยชื่อของแอมป์ตัวนี้อ้างอิงถึงตำนานนอร์ส ซึ่งกล่าวถึง Ask และ Embla ในฐานะมนุษย์คู่แรกที่สร้างขึ้นโดยเทพเจ้า Oden

Bladelius Ask Integrated ได้รับการออกแบบโดยถ่ายทอดเทคโนโลยีหลักจากรุ่นพี่เรือธงอย่าง Oden ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Power Amp Gain Section และ Multi-Stage Linear Ultra Low Noise Regulation ส่งผลให้ Ask ยังคงรักษามาตรฐานเสียงระดับไฮเอนด์ได้อย่างเต็มที่ แม้พละกำลังจะลดลงเล็กน้อย แต่ยังทรงพลังด้วยกำลังขับ 2 x 220 วัตต์ที่ 8 โอห์ม พร้อมรับกระแสพีคมหาศาลที่ ± 68 แอมป์ ซึ่งสามารถควบคุมลำโพงที่ “หิน” ที่สุดในตลาดได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ Ask ยังมีฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้งานเลือกปรับโหมด Class-A หรือ Class A/B ได้ง่ายๆ ผ่านรีโมต ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างอิสระในการเลือกรูปแบบเสียงที่เหมาะกับรสนิยมส่วนตัว นั่นเอง

ปรัชญาการออกแบบที่ข้ามขีดจำกัดของ Bladelius ทำให้ Ask มีการลดขั้นตอนวงจรภายในลงเหลือเพียงสเตจเดียว (Single Voltage Amplifier Stage) เพื่อให้สัญญาณเสียงเดินทางในเส้นทางที่สั้นที่สุด เสริมด้วยการออกแบบวงจร Balanced ที่ไร้การอ้างอิงจาก ground เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

ภายในยังเต็มไปด้วยนวัตกรรม เช่น การใช้ JFET ในส่วนอินพุต และ MOSFET ในส่วนเอาต์พุต คู่ที่จับคู่ด้วยมือในโครงสร้าง Foldback Cascade ทำให้มีประสิทธิภาพ Linear ไม่ว่าเอาต์พุตจะอยู่ในระดับใด รวมถึงการใช้ Current Feedback Technology เพื่อสปีดและเสถียรภาพขั้นสุด นอกจากนี้ ยังมีมีโมดูลเสริมได้ 3 ประเภท ได้แก่

1. File Transport
2. DAC (Digital-to-Analog Converter)
3. MC Phono Preamplifier (Option)

Bladelius Ask มาพร้อม DAC สเปกระดับไฮเอนด์ที่โดดเด่นด้วยค่า Signal-to-Noise Ratio กว่า 134dB ซึ่งเป็นตัวเลขที่พิสูจน์ถึงความสามารถในการถ่ายทอดเสียงที่สะอาดและสมจริง รองรับฟอร์แมตเพลงหลากหลาย ตั้งแต่ DSD1024 ไปจนถึง 32-bit/728kHz พร้อมการเชื่อมต่อสตรีมมิ่งครบถ้วน ทั้ง Tidal Connect, Spotify Connect, Qobuz และ Roon ควบคุมได้ง่ายผ่าน Web-Based App หรือแอป Tidal โดยตรง

ฮาร์ดแวร์ของ DAC ใช้ตัวต้านทานความแม่นยำสูง (0.1% Metal Film) และตัวเก็บประจุแบบ Polypropylene คุณภาพเยี่ยม รวมถึง Clock Oscillator ที่มี Phase Noise ต่ำมาก เพื่อคงความเสถียรของเสียงดิจิทัล

ภายใต้งานวิศวกรรมที่เนี้ยบทุกจุด ตัวเครื่องทำจากอลูมินัม เพื่อลดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าให้น้อยที่สุด และการแยกส่วนพลังงานดิจิทัลกับอะนาล็อกออกจากกันโดยสิ้นเชิง เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนดิจิทัลเข้าสู่ภาคแอมพลิฟายด์อะนาล็อก ช่วยให้ Ask ทำงานได้อย่างเงียบสนิทและเสถียรในระดับที่ออดิโอไฟล์ต้องประทับใจ

แอมพลิฟายเออร์ตัวนี้มาพร้อมอินพุตแบบไลน์ 4 ช่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นอินพุตแบบบาลานซ์ (XLR) นอกจากนี้ยังมี ปรีเอาต์ (Pre-Out) ที่มีระดับสัญญาณปรับได้ และรีคอร์ดเอาต์พุต (Recording Output) ที่ให้สัญญาณคงที่ ทั้งสองแบบใช้ขั้วต่อ RCA

แม้ว่าเครื่องจะมีความสูงไม่มาก แต่มีความลึก และสร้างขึ้นด้วยโครงอะลูมิเนียมที่แข็งแรงพร้อมแผงด้านหน้าที่ทำจากอะคริลิก การเลือกใช้วัสดุที่ไม่เป็นแม่เหล็กช่วยลดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด ส่งผลต่อคุณภาพเสียงโดยตรง

การลดแรงสั่นสะเทือน อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญคือการลดแรงสั่นสะเทือนที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบวงจรในแผง PCB ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หรือการจัดเรียงส่วนประกอบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งหมดนี้สะท้อนปรัชญาการออกแบบที่เน้น “ความคลาสสิกแบบสแกนดิเนเวียน”

อินพุตทั้ง 4 ช่อง ประกอบด้วยอินพุต RCA 3 ช่อง และ XLR 1 ช่อง แม้ว่าอินพุตแบบบาลานซ์จะมีเพียงช่องเดียว แต่ถือเป็นอินพุตหลัก เนื่องจาก ASK ออกแบบในลักษณะ Fully Balanced โดยพื้นสัญญาณ (Signal Ground) แยกออกจากพื้นตัวเครื่อง (Device Ground) อย่างสมบูรณ์ ระบบนี้เรียกว่า Floating Ground ซึ่งช่วยลดการบิดเบือนของสัญญาณ

เอาต์พุตของแอมพลิฟายเออร์นี้ยังเป็นแบบฟูลบาลานซ์ที่ให้เสียงเต็มพิกัด นอกจากนี้ ยังใช้ Low Feedback ตามที่ระบุในเอกสารอ้างอิง ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพเสียงได้ดียิ่งขึ้น

หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่สุดของ Ask คือระบบจ่ายไฟ โดยใช้ Toroidal Transformer ที่ทรงพลังและมีขดลวดรองแยกส่วนหลากหลาย แต่ละส่วนมีวงจรควบคุมแรงดันไฟฟ้าเฉพาะตัว

สำหรับส่วนดิจิทัลและอะนาล็อก (ในกรณีติดตั้งบอร์ดเสริมอย่าง DAC และ File Transport) ระบบจ่ายไฟยังถูกแยกจากกันด้วยวิธี Galvanic Isolation พร้อมด้วยตัวเก็บประจุหลากหลายชนิดที่เลือกมาเพื่อคุณภาพเสียงโดยเฉพาะ

ส่วนที่สำคัญที่สุดของ Ask คือวงจรแอมพลิฟายเออร์ ซึ่งกำหนดลักษณะเสียงทั้งของ DAC และ File Player โมดูลภายใน เสียงดนตรีถูกนำเสนอด้วยความสมดุลของไดนามิกส์ เสียงเบสที่เด่นช่วยเพิ่มน้ำหนักและพลังให้กับการนำเสนอ โดยไม่ทำให้ช้าลง เสียงที่ได้มีความอบอุ่น หนาแน่น และมีความละเอียดในตัว เหมาะสำหรับการฟังเพลงต่อเนื่องยาวนานในทุกแนวเพลง และสามารถจับคู่กับลำโพงส่วนใหญ่ในตลาดได้เป็นอย่างดี

Ask จึงไม่ใช่แค่แอมพลิฟายเออร์ทั่วไป แต่เป็นเครื่องเสียงระดับพรีเมียมที่สะท้อนถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้ผลิตในทุกแง่มุม มาดูกันแบบ In Deep ว่าอีตาไมค์ แก สุดโต่งแค่ไหน

ตัวเครื่องของ Ask มีความกะทัดรัด ออกแบบในทรงต่ำ แบนแต่ลึก โครงสร้างทำจากอะลูมิเนียมแข็งแรง

จุดเด่นได้แก่:

• ตะแกรงระบายอากาศอะลูมิเนียมมีสไตล์บนแผงด้านบนเพื่อจัดการกับความร้อน
• แผ่นล่าง ฮีตซิงก์ และหม้อแปลงถูกยึดอย่างมั่นคงเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
• ติดตั้งขารองยาง 4 จุด ซึ่งสามารถอัปเกรดเพื่อการลดแรงสั่นสะเทือนได้ดียิ่งขึ้น

แผงด้านหน้ามีดีไซน์เรียบง่าย ประกอบด้วยอะคริลิกสีดำและแผงข้างอะลูมิเนียม

มีองค์ประกอบดังนี้:

• ปุ่มกด 2 ปุ่มและปุ่มปรับระดับเสียง (Volume Knob) สีเงิน
• หน้าจอแสดงผลสำหรับการเลือกอินพุต ระดับเสียง และข้อมูลจากโมดูล Streamer

แผงด้านหลังออกแบบให้สอดคล้องกับโมดูลภายใน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน: • ส่วนอะนาล็อก: ประกอบด้วย RCA Input, Balanced XLR Input และ Preamp RCA Output ลำโพงเชื่อมต่อผ่านWBT NextGen Connectors

• ส่วนดิจิทัล: รองรับ Toslink, RCA และ AES/EBU Inputs สำหรับโมดูล DAC
• ส่วน Streamer: ประกอบด้วย USB-A, USB-B และ Ethernet Ports

ระบบจ่ายไฟ (Power Supply) ของ Ask ใช้หม้อแปลง Toroidal Transformer ขนาด 2 kW ที่ออกแบบโดย Noratel พร้อมคุณสมบัติดังนี้:

• ขดลวดรองหลายชุดสำหรับ Power Amplifiers, Preamp และ Digital Sections
• เคลือบด้วยเรซินเพื่อป้องกันการสั่นสะเทือน พร้อมวงจร Bridge Rectifier คุณภาพสูงที่มีการสวิตช์เร็ว

หม้อแปลงถูกแยกออกจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้วยฮีตซิงก์ เพื่อสร้าง “โซนสัญญาณสกปรก” และ “โซนสะอาด” สำหรับการป้องกันการรบกวนของสัญญาณ

Ask ใช้แผงวงจรแบบโมดูล (Modular PCBs) เชื่อมต่อด้วย Multi-Pin Connectors จุดเด่นได้แก่:

• MOSFETs แบบ Push-Pull Configuration ใน Power Amplifier เพื่อประสิทธิภาพสูง
• Preamp Circuit แบบ Fully Balanced ใช้ JFET ในแต่ละแชนแนลและมีเส้นทางสัญญาณสั้นกว่ารุ่น Oden
• รีเลย์คุณภาพสูงที่มีขั้วสัมผัสเคลือบทองเพื่อการถ่ายโอนสัญญาณที่ดีที่สุด

วงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในแอมพลิฟายเออร์รุ่นนี้มีพื้นฐานมาจาก Oden โดยหลายส่วนถูกนำมาใช้งานในรูปแบบที่เรียบง่ายขึ้น Ask ดูเหมือนจะเป็นแอมพลิฟายเออร์รุ่นรองของ Oden ซึ่งเป็นระบบ Dual Mono แบบเต็มรูปแบบ ในรุ่น Ask ทั้งสองช่องสัญญาณใช้ทรานส์ฟอร์เมอร์ร่วมกัน และส่วนเอาต์พุตถูกติดตั้งบนบอร์ดเดียว ความสนใจที่สำคัญคือ Toroid Noratel ขนาดใหญ่ (2 kVA) และตัวเก็บประจุ Kemet ขนาด 10,000 µF จำนวนหกตัว นอกจากนี้ แอมพลิฟายเออร์รุ่นนี้ยังใช้วงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

Ask มาพร้อมกับรีโมตอินพุตแบบพื้นฐานเพื่อคนทั่วไป อินพุตและระดับเสียงสามารถดูได้จากจอ LCD ด้านหน้า แม้จะเรียบง่ายแต่สะท้อนความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบที่ผสานฟังก์ชันและความสวยงามอย่างลงตัว ควบคุมระดับความดังทำงานด้วยระบบตัวต้านทานแบบ Balanced อย่างแท้จริง จึงทำให้การใช้งานผ่านพอร์ต XLR นั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด

แต่ก็เสียดายนิดนึงที่มีเพียงช่องทางเข้าคู่เดียว ในรูปแบบนี้ รุ่น Ask มีช่องเสียบ Line RCA จำนวน 3 ช่อง และมีช่อง Pre-Out เพื่อเชื่อมต่อกับแอมพลิฟายเออร์รุ่นอื่นที่ Bladelius กำลังพัฒนาอยู่ ซึ่งก็คือ Ask Power II ที่จะเป็นแอมพลิฟายเออร์กำลังสูง รุ่นนี้ยังไม่เปิดตัว แต่คาดว่าจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ Bladelius ยังมีแผนที่จะพัฒนาแอมพลิฟายเออร์รุ่นอื่นๆ ในกลุ่ม Ask เช่น Pre-amplifier และอุปกรณ์ในกลุ่ม “Player” ซึ่งคาดว่าจะเป็นสตรีมเมอร์และอาจจะเป็นเครื่องเล่นซีดีด้วย สวิตช์เปิด-ปิดหลักของเครื่องจะถูกติดตั้งอยู่ที่ด้านหลัง

DAC และ File Transport ถูกแยกออกบน PCB ของตัวเอง โดยมีจุดเด่น คือ

• โมดูล File Transport ใช้ Raspberry Pi Microcomputer เป็นตัวจัดการ ควบคุมการเล่นเพลงสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชัน Volumio บนสมาร์ทโฟน

• มีภาคจ่ายไฟแยกเฉพาะสำหรับแต่ละส่วน พร้อม Capacitors และ Voltage Regulators

โมดูล DAC และสตรีมเมอร์นี้ถูกติดตั้งในโครงอะลูมิเนียมเพื่อป้องกันการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า อีกทั้งยังแยกสัญญาณดิจิทัลออกจากวงจรอะนาล็อกเพื่อป้องกันการกวนกันทางไฟฟ้า สตรีมเมอร์นี้รองรับไฟล์เสียงหลายรูปแบบรวมถึง DSD1024 รองรับไฟล์ได้ถึง 32 บิต/768 kHz นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงบริการ Streaming services และทำงานร่วมกับ Roon อีกทั้งยังรองรับการส่งไฟล์จากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตผ่าน AirPlay และ Bluetooth

โดย Ask เครื่องที่ส่งมาติดตั้งโมดูล DAC & File Transport ตัวเครื่องจะกลายเป็นแอมพลิฟายเออร์แบบ Streaming DAC Amplifier ช่วยให้ผู้ใช้เล่นไฟล์เสียงผ่านเครือข่ายและบริการสตรีมมิ่งต่างๆ เช่น Tidal, Qobuz และ Spotify รวมถึงรองรับ Roon Ready และ TIDAL Connect

Bladelius Ask ยังให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้ ด้วยการควบคุมผ่านแอปพลิเคชันของ 3rd Party หรือใช้บริการ Connect จาก Tidal และ Spotify โดยตรง ฟังก์ชัน DAC ทำงานบนระบบ XMOS 216 ที่ผู้ใช้สามารถเลือกคุณสมบัติการฟิลเตอร์ดิจิทัลที่ต้องการได้ด้วย

ได้เวลาลองแล้ว ทีมงาน IAV จัดการ Unbox ออกจากลังขีปนาวุธ ก็จัดการติดตั้งชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์สำหรับทดสอบประสิทธิภาพทั้งตัวแอมป์โดดๆ รวมถึงทดลอง Streaming DAC ภายในที่การติดตั้งมา ในครั้งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ โดยเริ่มจากการใช้

Bladelius Ask เป็นตัวกลางสำคัญในการเชื่อมต่อกับลำโพงเจ้าถิ่นในห้องฟัง Home Studio

วงจร Streaming DAC Integrated ภายในเพื่อสร้างเสียงที่กลมกล่อมและสมจริงที่สุด เสริมด้วย CAT Pachanko Labs Constellation Mini ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคู่หูที่ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ในส่วนของการควบคุมและปรับแต่งเสียงให้สุดจะไม่ใช้ Roon แต่เลือกที่จะใช้โปรแกรม Audirvana Studio ที่กำลังมาแรง แถมราคาเป็นมิตรเสียด้วย จับกับ Rockna WaveLight DAC เพื่อทดสอบและวิเคราะห์คุณภาพเสียงในระดับลึกของแอมป์อย่างเดียวเป็นสิ่งแรก พร้อมทั้งใช้แอป JPlay และ Tidal Connect กับวงจร Streaming DAC ภายในอีกชั้นนั่นเอง

เพื่อควบคุมปรับจูนการทำงานของระบบให้สมบูรณ์แบบ สามารถกดปุ่มที่หน้าเครื่องมีจอดิสเพลย์ ในออปชันสำหรับ DAC / Phono / BIAS ต้องกดผ่านรีโมตคอนโทรลที่ต้องให้ความสำคัญกับปุ่มที่ชื่อ DISP EDIT นอกจากนี้ยังมีการตั้งค่าการสตรีมผ่านแอป Volumio ซึ่งรองรับการใช้งานร่วมกับไฟล์โมดูลที่หลากหลาย เพื่อให้แน่ใจว่าทุกองค์ประกอบในระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการติดตั้งนี้ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ระบบเสียงที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการทดสอบและใช้งานในหลากหลายรูปแบบนั่นเอง

อย่าได้แปลกใจถ้าเมื่อเปิดสวิตช์หลังเครื่องแล้วต้องใช้เวลาชั่วอึดใจใหญ่ๆ ไฟชาร์จประจุเข้าเลี้ยงวงจรเครื่องจึงเปิดติด ดิสเพลย์แสดงผลให้เห็นว่าพร้อมแล้ว

สตรีมเพลงโดยใช้ Tidal เป็นหลักกับหลายวิธีการข้างต้น เมื่อฟังอัลบั้ม The Road East: Live in Japan ของ Jackson Browne ผ่านแอมป์ Bladelius Ask Integrated Streaming DAC Amp จะยิ่งเผยให้เห็นความละเอียดอ่อนและไดนามิกส์ที่ซ่อนอยู่ในบันทึกการแสดงสดนี้

ด้วยคุณภาพเสียงของ Bladelius Ask ที่เน้นความเที่ยงตรงและสมจริง คุณจะได้รับประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มและสมบูรณ์ในทุกมิติ:

• เสียงร้องของ Jackson Browne มีความเด่นชัดในทุกถ้อยคำ สื่ออารมณ์ได้เต็มที่ เสียงกีตาร์โปร่งและเปียโนในเพลงอย่าง In the Shape of a Heart” มีความใสสะอาด เสียงชัดเหมือนนั่งอยู่ในห้องแสดงสด

• Ask ช่วยแยกชิ้นดนตรี เช่น เสียงกลอง เบส และเสียงแบ็กอัปวง ให้มีตำแหน่งที่ชัดเจนใน soundstage

• การถ่ายทอดเสียงสดในเพลง Doctor My Eyes” และ The Load-Out/Stay” ทำให้รู้สึกถึงพลังของวงดนตรี เสียงกลองมีน้ำหนักและอิมแพ็คโดยไม่ล้น ขณะที่เสียงเบสมีมวลแน่นฟังสนุก

• การควบคุมไดนามิกส์เสียงใน Bladelius Ask ทำให้ช่วงเบาและหนักของเพลงมีมิติที่ชัดเจน

• คุณจะรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่แถวหน้าในคอนเสิร์ต เสียงดนตรีกระจายกว้างออกไปพร้อมมิติเชิงลึก

• เสียงปรบมือและการตอบรับจากผู้ชมในอัลบั้มเพิ่มบรรยากาศสมจริงเมื่อฟังผ่านแอมป์ตัวนี้

• แอมป์ Bladelius Ask ให้โทนเสียงที่อบอุ่นและสมจริง เหมาะอย่างยิ่งกับแนวเพลงโฟล์ค-ร็อกของ Jackson Browne เสียงกีตาร์โปร่งมีประกายที่พอเหมาะ เสียงร้องฟังสบายและไม่แหลมจนเกินไป

เพลงที่โดดเด่นเมื่อฟังกับ Bladelius ASK

“The Pretender”

รายละเอียดเสียงเปียโนและอารมณ์ที่หนักแน่นของเพลงนี้ทำให้ Bladelius Ask แสดงศักยภาพได้เต็มที่

“Take It Easy”

เสียงกีตาร์และจังหวะที่ผ่อนคลายจะทำให้คุณเพลิดเพลินในทุกโน้ต

“For a Dancer”

เสียงร้องและเนื้อหาอันลึกซึ้งถูกถ่ายทอดอย่างหมดจด ด้วยโทนเสียงที่อบอุ่นและสะอาด

อัลบั้ม: Jackson Browne The Road East: Live in Japan ผ่านแอมป์ Bladelius Ask คือประสบการณ์ที่ดึงคุณเข้าสู่บรรยากาศคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นอย่างแท้จริง แอมป์ช่วยดึงศักยภาพของอัลบั้มออกมาในทุกมิติ เสียงที่โปร่งใสและสมจริงจะทำให้คุณเพลิดเพลินกับทุกเพลงในอัลบั้มนี้ และรู้สึกเหมือนอยู่ในค่ำคืนแห่งความทรงจำร่วมกับ Jackson Browne และผู้ชมในญี่ปุ่น

อีกอัลบั้มที่ฟังจนหลอนคืออัลบั้ม Al Stewart & The Empty Pockets Live เพิ่งรีลีสเอง ผ่าน Bladelius Ask Integrated Streaming DAC Amp จะมอบประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมและสมจริง ด้วยคุณสมบัติและการออกแบบที่พิถีพิถันของ Bladelius Ask ทำให้การถ่ายทอดเสียงดนตรีมีความละเอียดอ่อนและเต็มไปด้วยอารมณ์

• เสียงร้องของ Al Stewart ถูกถ่ายทอดอย่างชัดเจน ขณะที่การบรรเลงของ The Empty Pockets มีความสมดุล ทำให้สัมผัสถึงความละเอียดของแต่ละเครื่องดนตรีได้อย่างชัดเจน

• ด้วยกำลังขับ 220 วัตต์ที่ 8 โอห์ม Bladelius Ask สามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงของไดนามิกส์ในเพลงได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเสียงเบาหรือเสียงดัง ทำให้การฟังเพลงมีความต่อเนื่อง

• Soundstage และ Imaging: การออกแบบวงจรที่สมดุลของ Bladelius Ask ช่วยสร้างมิติที่กว้างและลึก ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนอยู่ในฮอลล์แสดงสด สามารถระบุตำแหน่งของเครื่องดนตรีและเสียงร้องได้อย่างแม่นยำ

• โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติ: Bladelius Ask ให้โทนเสียงที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เหมาะสมกับแนวเพลงโฟล์คร็อกของ Al Stewart และ Jackson Browne ทำให้การฟังเพลงเป็นไปอย่างรื่นรมย์และไม่เหนื่อยหู

การฟังอัลบั้ม Al Stewart & The Empty Pockets Live ผ่านแอมป์ Bladelius Ask Integrated Streaming DAC Amp จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์เสียงที่สมจริงและเต็มไปด้วยรายละเอียด ด้วยคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของแอมป์นี้ จะช่วยยกระดับการฟังเพลงของคุณให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น

Ask มีลักษณะเสียง (Sound Signature) ชัดเจน เน้นเสียงที่มี Timbre เป็นหัวใจหลัก เสียงอบอุ่น หนาแน่น และสมดุล เสียงของ Ask คล้ายคลึงกับแอมพลิฟายเออร์หลอดคุณภาพสูง โดยเฉพาะในประเภทที่ใช้หลอด EL34 หรือ KT88 ที่โดดเด่นในด้าน:

ให้รายละเอียดสูง: สามารถแยกแยะตำแหน่งและรายละเอียดของเสียงได้อย่างชัดเจน

ไดนามิกส์: เสียงเบสเพิ่มน้ำหนักโดยไม่ทำให้เสียงเฉื่อยลง

โทนัลบาลานซ์สมดุล: เสียงกลาง แหลม: มีเนื้อ คมชัดแต่ไม่รุกเร้า ทำให้ฟังเพลงได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกล้า

ฟังถึงประสิทธิภาพของ DAC

DAC ใน Ask ออกแบบมาเพื่อเสริมคุณภาพเสียงของแอมพลิฟายเออร์โดยตรง เสียงที่ได้มีความอบอุ่นและให้เสียงหนา และแน่นมากขึ้น

• เสียงกลาง – ต่ำเข้มข้น เสียงสูงคมชัดแต่ยังคงความนุ่มนวล

• สัมผัสได้ถึงคุณภาพเสียงแบบแผ่นเสียง (Vinyl) โดยไม่สูญเสียความแม่นยำของระบบดิจิทัล

คุณลักษณะของเสียงจาก Bladelius Ask มีแนวคิดในการออกแบบรุ่น Ask เป็นการผสมผสานคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของแอมพลิฟายเออร์คลาส A ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก กับความสามารถของมันทำให้ผมเองติดหนึบตรงนี้เลย ไม่ยอมเล่น AB เลยให้ตายซิ

Ask สามารถสร้างความประทับใจได้อย่างดีเยี่ยม มีศักยภาพในการขับที่มีพลังเสียงที่น่าทึ่ง แต่ผู้ฟังก็จะสัมผัสได้ถึงพลังของมันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเมื่อฟังเพลงที่ต้องการความละเอียดสูง หรือการขับเสียงในระดับที่ต้องการพลังงานมาก Ask ไม่มีปัญหาในการสร้างเสียงที่มีเนื้อแน่น และสามารถรักษาความอิสระในการขับเสียงได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยรายละเอียด

ให้เสียงเบสที่นุ่มลึกและแน่นยังคงเป็นจุดเด่นของแอมพลิฟายเออร์รุ่นนี้ Ask ดูจะมีการแสดงพลังเบสแสดงออกอย่างเต็มที่ ขณะที่เสียงกลางช่วงบนจะอ่อนนุ่มและอบอุ่นให้ความรู้สึกโรแมนติกและมีเสน่ห์สำหรับการฟังเพลงแนวซิมโฟนีหรือเพลงคลาสสิก ส่วนการฟังเครื่องดนตรีอย่างเชลโล ไวโอลิน หรือเครื่องเป่าลมไม้ก็ให้ความรู้สึกนุ่มนวลมากกว่า ลองถ้าฟังดนตรีแนวซิมโฟนีได้ จะไม่มีข้อจำกัดที่จะฟังแนวใดเลย

ส่วนที่สำคัญที่สุดของ Ask คือ แอมพลิฟายเออร์ ซึ่งกำหนดลักษณะเสียงทั้งของ DAC และ File Player โมดูล เสียงดนตรีถูกนำเสนอด้วยความสมดุลทางไดนามิกส์ เบสที่เด่นช่วยเพิ่มน้ำหนักและพลังให้กับการนำเสนอ โดยไม่ทำให้ช้าหรือเฉื่อยลงแต่อย่างใด เสียงนุ่มนวลอบอุ่น หนาแน่น และมีความละเอียดในตัวเอง เหมาะสำหรับการฟังเพลงต่อเนื่องยาวนานในทุกแนวเพลง และสามารถจับคู่กับลำโพงส่วนใหญ่ในตลาดได้เป็นอย่างดี

Bladelius Ask เป็นแอมพลิฟายเออร์ที่รวมเอาพลังและความละเมียดละไมเข้าด้วยกัน สามารถตอบสนองผู้ฟังในวงกว้างได้ดี ถูกออกแบบมาเพื่อการฟังเพลงอย่างยาวนานโดยไม่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกล้า หากคุณกำลังมองหาแอมพลิฟายเออร์ที่ให้ทั้งพลังและความผ่อนคลาย แอมป์ Ask Integrated นี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี อีกทั้ง DAC และโมดูลสตรีมเมอร์ที่เสริมมาก็เป็นฟังก์ชันเสริมที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่ากับการลงทุนทีเดียว

ความสมบูรณ์แบบในตำนาน ที่ชื่อ Ask ซึ่งมาจาก “มนุษย์คนแรกในตำนานนอร์ส” เป็นการตั้งชื่อที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของการนำเอานวัตกรรมแอมป์ระดับตำนานจาก Oden มาสู่ระดับที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

Bladelius ASK Integrated ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องเสียง แต่คือ ผลงานศิลปะทางวิศวกรรม ที่ผสานเทคโนโลยี การออกแบบ และเสียงดนตรีเข้าด้วยกันในแบบที่ยากจะหาใครเปรียบ

หากคุณมองหาแอมป์ที่ให้เสียงสมจริงดั่งต้นฉบับ พร้อมฟีเจอร์ล้ำยุค Ask คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม

“เสียงดีที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เบสลึกหรือแหลมใส
แต่มันคือทุกมิติที่หลอมรวมเป็นประสบการณ์การฟัง ที่สัมผัสได้ถึงอารมณ์!”

Bladelius Ask Integrated Amplifier สายเลือดแอมป์ไวกิ้งที่ไม่ธรรมดา
คือคำตอบของคนรักเสียงเพลงจากไฮไฟชั้นดี ที่กำลังมองหาความลงตัว
ทั้งรูปลักษณ์ พลังเสียงที่กลมกล่อม มิติที่ชัดเจน และรายละเอียดที่ตราตรึงใจ
ไม่ได้แค่ขยายเสียง แต่จะขยายความรู้สึกของคุณไปพร้อมกัน
เพราะความสมบูรณ์แบบ ก็ต้องมาเพื่อคนที่คู่ควร!

Bladelius Ask Integrated พร้อม streaming & DAC modules ราคา 500,000 บาท

Bladelius Ask Integrated พร้อม streaming & DAC + phono modules ราคา 540,000 บาท

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
Inventive AV
โทร.0-2238-4078-9

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ