การค้นหาเครื่องเสียงพรีเมียมที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านคุณภาพเสียงและความสะดวกสบายในการใช้งาน แม้ว่าแนวสตรีมมิ่งจะมาแรงมาก แต่อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับบางคนที่เพิ่งข้ามขั้วมา

จริงๆ แล้ว อาจต้องถามตัวเองว่า “จำเป็นต้องมี” Music Server อย่าง Innuos ZENmini S Mk3 ในตอนนี้หรือเปล่า? 

บางทีอาจจะจำเป็นนะ โดยเฉพาะนักเล่นรุ่นใหญ่ที่ยังค่อนข้างยึดติดกับสื่อแบบเก่าอยู่ มีคอลเลกชัน CD รวมถึงแผ่นเสียงอยู่เต็มบ้าน จนคิดว่าจะเก็บไว้จนวันสุดท้ายของชีวิตเพราะเล่นอยู่คนเดียว ลูกหลานมันไม่รู้จักคุณค่า อย่างน้อยก็แผ่นดำนั่นแหละที่อาจจะเหลืออยู่เป็นมรดก แต่กับ CD ก็เริ่มน่าเบื่อแล้วเพราะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็น 2 หรือ 3 เท่าตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะมีแผ่นดีๆ มาปล่อยในราคาไม่แพงเต็มตลาด ประมาณว่าสมบัติผลัดกันชม

ใครที่พอมี CD แปะบนฝาผนังบ้านอยู่ คิดว่าการเก็บเพลงดิจิทัลทั้งหมดไว้ในคลังแสงดิจิทัล เข้าถึงได้ผ่านแอปบน สมาร์ทโฟนนั้นฟังดูก็น่าสนใจมาก เพราะอาจเป็นมรดกทางวัฒนธรรมดนตรีที่่ส่งถึงคนรุ่นหลัง หลายคนอาจคิดถึงเรื่องนี้อยู่ก็ได้

ย้อนไปสมัยที่ยังทำงานในบริษัทข้ามชาติเมื่อ 20 ปีก่อน คุ้นเคยคำว่า Server มาอย่างช้านาน เราสามารถ Remote Access เข้ามาดูข้อมูลในโรงงาน รวมถึงโต้ตอบกับเมลที่เข้ามา 24 ชั่วโมงไม่เว้นแม้วันหยุด ถ้าเป็นยุคนี้อยากจะให้ AI มันตอบไปซะเลย… 555

สู่ยุค Music Server และ Multi-Room หลายคนอาจตื่นเต้นกับการสามารถควบคุมการเล่นเพลงทั้งหมดจากทุกห้องหรือทุกมุมของบ้านโดยไม่ต้องเดินไปสลับแผ่น CD หรือแผ่นเสียงทุกครั้งที่เปลี่ยนเพลง ทำให้อยากได้อะไรสักอย่างที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นก่อนที่จะโดดมาเป็น CAT เทพหรือ Streamer ชั้นดี

ในระยะเริ่มต้นต้องยอมรับว่าสมัยนั้นช่างวุ่นวายเหลือเกิน เริ่มจากทำ Music Server จากคอมจนมาจบที่ NAS และต้องใช้ Notebook / MAC เป็นเพลเยอร์ คิดดูซิ DAC ระดับ Super Hi-End ตั้งซ้อนกันเป็นคอนโด ไหนจะทรานสปอร์ต, DAC, Master Clock ดีไม่ดีมี PSU แยกอีก สายพ่วงอีกกี่เส้น เทพขนาดนั้น แต่ต้องใช้คอมที่ทำตัวเป็นเป็ดมาเป็นตัวต้นทางซะงั้น ช่างไม่คู่ควรเอาเสียเลย

บางคนก็อาจมีประสบการณ์ไม่ดีมาก่อนเกี่ยวกับ Music Server ยุคแรกๆ ประมาณว่าคอมที่ใช้ RAM น้อยก็เหมือนคนความจำสั้น เล่นติดๆ ขัดๆ กวนใจชะมัด แถมไฟล์ก็ไม่รู้ว่าริปมาอย่างไร จนทำให้ขาดความเชื่อมั่นกับคำว่า “Music Server” ไปเสียฉิบ

แต่นาทีนี้ปัญหานี้ได้หมดไป ถ้าจะเล่นควรต้องเริ่มจาก Network Music Server / Player ล้ำๆ อย่าง Innuos ZENmini Mk3 นี่แหละ

เพิ่งได้พบกับคุณ Amelia Santos Innuos: Co-Founder & CEO และทีมงาน Innuos ในงาน BAV Hi–End SHOW ที่ผ่านมา ได้ฟังบรรยายถึงกระบวนการผลิต ฟังเพลงจากอุปกรณ์ของ Innuos หลายตัวทั้งในห้อง DECO2000 และ Prestige HiFi ตั้งแต่ Innuos ZENmini Mk3, PULSAR, ZEN NG, ZENith NG ไปจนถึง Innuos Statement NG เสียงดีจริงทุกชิ้น ก็ชัดเจนว่ายิ่งราคาแพงเท่าไหร่ เสียงก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น Innuos PULSAR ถูกส่งมารีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็ค่อนข้างฉุกละหุกนิดนึง เพราะต้องออกให้ทันงาน BAV ครั้งนี้พอมีเวลาละเลียดกับไอ้ตัวเล็กที่พกความพร้อมมาเต็มเปี่ยม

อ้อๆ หมายถึงตัวที่เหมาะที่สุดสำหรับการเริ่มต้นของการเดินทางสายสตรีมของใครหลายคนที่อยากได้อะไรที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ค่าตัวก็ไม่แรงนักเสียด้วย ที่แนะนำก็คือ Innuos ZENmini S Mk 3 นี่เอง… มา ตามมา

สวัสดีครับ ทุกคน
พบกันอีกแล้วกับ audiophile go digital… อรรถคดีว่าด้วยเรื่องของ Digital audio ซึ่งจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้เล่าขานบนสื่อออนไลน์อยู่ตลอดเวลา

และนี่เป็นบทความทดสอบบนเว็บไซต์ www.audiophile-videophile.com

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม

ก่อนจะเข้าเนื้อหา

แหม่.. กำลังอินกับรายการ AGT 2024 ซึ่งริชาร์ด กูดดอลล์ (Richard Goodall) ชายวัยใกล้เกษียณ สว.ร่างใหญ่เดินอุ้ยอ้ายเนื่องจากน้ำหนักตัวที่มากจากเมือง Terre Haute รัฐอินเดียนา สหรัฐอเมริกา เป็นภารโรงในโรงเรียน ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ชนะรายการ *America’s Got Talent* ปี 2024 เส้นทางสู่การเป็นนักร้องของน้านั้นไม่ได้ง่ายเลย ในอดีตเคยออดิชั่นในรายการนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ไปถึงไหน อย่างไรก็ตาม น้ายังคงไม่ยอมแพ้ จนในปีนี้ได้พิสูจน์ว่าความพยายาม ความมุ่งมั่นสามารถทำให้ความฝันเป็นจริงได้

ในการแข่งขันครั้งนี้ กูดดอลล์ได้รับคำชมเป็นอย่างมากจากเสียงร้องที่ทรงพลังและลีลาการร้องที่ดึงดูดใจ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับนักร้องต้นฉบับอย่าง Steve Perry ร็อกเกอร์รูปหล่อจากวง Journey เป็นอย่างมาก ในรอบออดิชันที่ทำให้ได้รับ Golden Buzzer จาก Heidi Klum น้าแกได้ร้องเพลง “Don’t Stop Believin’” ของวง Journey ด้วยเสียงที่โดดเด่นและเต็มไปด้วยอารมณ์ฉีกจากลุคของ สว.ตุ้ยนุ้ยสิ้นเชิง ทำให้ผู้ชมและกรรมการต่างทึ่งไปกับพรสวรรค์ของน้า

ในการแสดงรอบต่อมา น้ายังเลือกเพลงบัลลาดที่มีความท้าทายอย่าง “How Am I Supposed to Live Without You” ของ Michael Bolton และเพลง “Eye of the Tiger” ของวง Survivor ที่เน้นเสียงที่มีพลังและความหนักแน่นของดนตรี ซึ่งสอดคล้องกับสไตล์การร้องของน้า

กูดดอลล์ยังสร้างความประทับใจในรอบชิงชนะเลิศด้วยการกลับมาร้องเพลงเอก “Faithfully” ของ Journey ซึ่งเป็นเพลงที่เหมาะสมกับน้ำเสียงของเขาอย่างมาก ทำให้เขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงได้อย่างลึกซึ้งและประทับใจผู้ฟังได้อย่างมาก

ในรอบประกาศผลที่น่าตื่นเต้น กูดดอลล์ได้แสดงเพลง “Don’t Stop Believin’” ซึ่งเป็นเพลงที่ใช้ในรอบ audition อีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาได้รับเกียรติอย่างสูงของ วง Idol ในการร่วมแสดงกับ Neal Schon มือกีตาร์และสมาชิกวง Journey การแสดงครั้งนี้เป็นการส่งท้ายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางของเขาในรายการ AGT ทำให้ได้รับรางวัลเงินสด 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการเป็นพาดหัวในโชว์ที่ลาสเวกัส รวมถึงผู้ติดตามทั่วโลก

เสียงของกูดดอลล์มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ Steve Perry นักร้องต้นฉบับของ Journey ซึ่งเขาสามารถนำเสนอบทเพลงในแนวร็อกบาลาดด้วยความเข้มข้นและความนุ่มนวลในคราวเดียวกัน ลีลาการร้องที่มั่นใจและเต็มไปด้วยอารมณ์ทำให้เขาเป็นที่จดจำในฐานะนักร้องที่ไม่เพียงแต่เลียนแบบเสียงต้นฉบับได้ดี แต่ยังสามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เรื่องนี้ก็แค่บอกถึงอย่ามองที่ภาพลักษณ์เพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับเครื่องเสียงก็ต้องฟังเสียงซิ…  มา มาเข้าเรื่องกันเถอะ

Innuos ZEN Series: Music Server / Streamers

อาจพอทราบเรื่องราวเกี่ยวกับ Innuos ไปบ้างแล้วจากบทความ Innuos Story… ZEN Series เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็นสตรีมเมอร์ / มิวสิกเซิร์ฟเวอร์ ที่สามารถเก็บ ริป รวมถึงจัดการเพลงดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละรุ่นใน ZEN Series ทำหน้าที่หลัก 3 ประการ:

– Music Streaming: สตรีมเพลงจากการจัดเก็บภายในหรือจากบริการยอดนิยมอย่าง Tidal และ Qobuz, RadioParadise

– Music Storage and Analysis: จัดเก็บและจัดการไลบรารีเพลงทั้งหมดของคุณ เพื่อเล่นภายในตัวเครื่องเองหรือกับอุปกรณ์อื่นๆ ในบ้าน

– CD Ripper and Management: อ่านและจัดเก็บซีดีอัตโนมัติ พร้อมกับการแท็กข้อมูลเมทาดาต้าและการดึงภาพปก แก้ไขได้โดยง่าย

ซีรีส์นี้เพิ่งจะได้รับการอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ที่เรียก NG (Next Generation) ทำให้มีการแบ่งออกเป็นรุ่นหลักหลายรุ่น แต่จะไฮไลต์เฉพาะรุ่นเริ่มต้นดังนี้:

•  Innuos ZENmini S Mk3

สตรีมเมอร์ / มิวสิกเซิร์ฟเวอร์รุ่นเริ่มต้นใน ZEN Series ‘เก่งเล็ก’ ตัวน้อยเป็นรุ่นเจน 3 อยู่ในสัณฐานแทบจะเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่า ที่มีฟังก์ชันการริปเพลงจาก CD และสามารถเก็บเพลงในหน่วยความจำในตัวได้ รองรับการสตรีมเพลงและเชื่อมต่อกับระบบเสียงได้หลากหลายจากทั้งเอาต์พุตอะนาล็อกและดิจิทัล

Innuos ZENmini S Mk3 ได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้ที่เคยใช้ PC, Mac, หรือแม้แต่ระบบ ROCK on NUC สำหรับการสตรีมมิ่งเพลงและต้องการอัปเกรดเป็นระบบที่มีคุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น ใช้งานง่ายมากขึ้น

จุดเด่นที่สำคัญของ Innuos ZENmini S Mk3 คือ ด้วยฮาร์ดแวร์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการสตรีมมิ่ง ทำให้ระบบนี้มีประสิทธิภาพในการประมวลผลและจัดการไฟล์เพลงได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความเที่ยงตรงในการถ่ายทอดคุณภาพเสียงที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับการใช้ PC หรือ Mac ทั่วไป ซึ่งใช้งานง่ายกว่าระบบ DIY (Do it yourself) โดยเฉพาะผู้ที่เคยใช้ ROCK on NUC ซึ่งเป็นระบบที่ต้องการความรู้ด้านเทคนิค Innuos ZENmini S Mk3 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลดความซับซ้อนในการตั้งค่า เพียงแค่เชื่อมต่อและทำการตั้งค่าผ่านแอปพลิเคชัน Innuos Sense ก็พร้อมใช้

Innuos ZENmini S Mk3 รองรับไฟล์เพลง Hi-Res เช่น FLAC, DSD และ MQA เหมาะสมกับผู้ฟังที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ที่ไม่บีบอัดลดรายละเอียดเช่นไฟล์เพลง MP3 ในอดีตกับไฟล์ Hi-Res จากบริการสตรีมมิ่งระดับแถวหน้าในยุคนี้ก็ให้ได้

ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เสถียร Innuos ZENmini S Mk3 มีการอัปเกรดด้วย SSD ขนาดใหญ่ ทำให้การประมวลผลรวดเร็วและเก็บข้อมูลได้ดีขึ้น รวมถึงลดการรบกวนจากภายใน ช่วยให้การสตรีมมิ่งมีความเสถียรและให้เสียงที่ดียิ่งขึ้น

Innuos Sense เป็นอินเทอร์เฟซที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งาน Hi-Fi โดยเฉพาะออกแบบอินเทอร์เฟซให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้นเมื่อเทียบกับการตั้งค่าผ่าน PC, Mac หรือ ROCK ผู้ใช้สามารถเลือกเพลง ปรับการตั้งค่า และสตรีมเพลงจากบริการต่าง ๆ เช่น Tidal, Qobuz ได้อย่างสะดวก

มาพร้อมกับคุณสมบัติและฟีเจอร์เต็มรูปแบบของ innuOS รองรับการเชื่อมต่ออันหลากหลาย เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบมัลติรูม หรือผู้ที่เริ่มต้นใช้มิวสิกเซิร์ฟเวอร์และสตรีมเมอร์ ที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ SSD ทำงานรวดเร็วและเงียบ ด้วย RAM ขนาด 8GB มี Latency ต่ำเพื่อประสิทธิภาพที่รวดเร็วและการตอบสนองที่ฉับไว พร้อมวงจรป้องกันการสูญเสียพลังงานเพื่อปกป้องข้อมูลในคลังแสงจากการที่ไฟฟ้าดับกะทันหัน โดยนำเสนอตัวเลือก SSD มีขนาด 1TB, 2TB และ 4TB เหลือเฟือที่จะเก็บไฟล์อันมีค่าอย่างปลอดภัย

สรุปคุณสมบัติหลัก…

– CD ripper, NAS และสตรีมเมอร์ เพลเยอร์ / เซิร์ฟเว่อร์
– ดีไซน์กะทัดรัดและทำงานเงียบ
– รองรับทั้งเอาต์พุตอะนาล็อกและดิจิตทัล
– สามารถใช้เป็น Roon Core (เลือกตั้งค่าได้)
– ส่วนประกอบถูกออกแบบและผ่านการปรับแต่งเพื่อคุณภาพเสียง
– อัปเกรดได้ด้วยแหล่งจ่ายไฟ LPSU (Linear Power Supply)

จึงเป็นมิวสิคเซิร์ฟเวอร์ ‘เก่งเล็ก’ ที่ทรงพลังของ Innuos แต่มาพร้อมกับฟีเจอร์เต็มรูปแบบของ Sense โดยมีตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลาย

อัปเกรดเพื่อเสริมคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้นผ่าน LPSU ถ้าต้องการ เริดขึ้นไปอีกเมื่อถูกอัปเกรดด้วยตัวช่วย อย่าง LPSU (Linear Power Supply Unit) หรือภาคจ่ายไฟภายนอก Innuos สำหรับ Innuos ZENmini S Mk3 ซึ่งจะช่วยเพิ่มน้ำหนักและฐานเสียงให้แน่นขึ้น เพื่อส่งต่อไปยัง DAC ทำให้ DAC ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยขยายช่องว่างระหว่างตัวโน้ต เวทีเสียง และความประณีตของเสียงดนตรีอย่างฟังได้ชัด

เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบมัลติรูมสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้มิวสิกเซิร์ฟเวอร์และสตรีมเมอร์ที่มั่นคง

Main Features

: A Tiny Black Box

Innuos ZENmini S Mk3 ที่มี CD Ripper ในตัว สามารถใช้เป็น Streamer แบบ Standalone หรือ End Point หรือจะเลือกให้เป็น Roon Core และ Endpoint รวมทั้งสามารถสตรีมจาก Qobuz, Tidal และ TidalConnect ได้อีกด้วย มีพื้นที่เก็บข้อมูล 1TB ซึ่งสามารถเพิ่มได้ถึง 4TB หากต้องการ เมนบอร์ดที่ออกแบบมาใหม่พร้อมพอร์ต Ethernet สองพอร์ต และมีตัวเลือก LPSU เป็นออปชันที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงได้อย่างมาก

: DAC Stage Included

สตรีมเมอร์ตัวนี้ต้องการ DAC อีกตัวมาต่อพ่วงไหม?

อาจตอบว่าไม่จำเป็นเลย เพราะ Innuos ZENmini S Mk3 มี DAC 24-bit/192KHz ในตัวอยู่แล้ว แม้อาจจะไม่ใช่ DAC ระดับเทพ แต่ก็ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันและถือว่าดีพอสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้ดิจิทัลออดิโอ พบว่าคุณภาพเสียงจาก DAC ภายในนั้นก็ดีพอที่จะทำให้การฟังเพลงเป็นเรื่องน่าสนุก ยิ่งทดลองใช้ Innuos ZENmini S Mk3 กับ DAC เทพที่มีราคาแพงกว่าเสียงก็จะกระโดดไปอีก เมื่อต้นทางดีถือเป็นการต่อยอดที่คุ้มค่า

: Convenient Design

หากกำลังมองหาวิธีจัดการแผ่น CD และไฟล์เพลงที่กระจัดกระจายบนคอมพิวเตอร์ หรือวิธีการสตรีมเมอร์และฟังเพลงโปรดของคุณอย่างง่ายดาย Innuos ZENmini S Mk3 เป็นทางออกที่ตอบโจทย์ ด้วยขนาดกะทัดรัด ประหยัดพลังงาน ทำงานเงียบ และรองรับการเชื่อมต่ออันหลากหลาย Innuos ZENmini S Mk3 เป็นมิวสิกเซิร์ฟเวอร์ที่สะดวกและเหมาะกับการใช้งาน Digital Audio ทุกประเภท ตั้งแต่การริป CD และดาวน์โหลดไฟล์เพลง ไปจนถึงบริการสตรีมมิ่ง รวมถึง Music Server และวิทยุออนไลน์

: Hi-Fi Engineering

Innuos ZENmini S Mk3 ไม่ได้เพียงถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไปเท่านั้น แต่ยังเน้นประสิทธิภาพดนตรีสูง ด้วยการใช้ไดรฟ์ออปติคอลแบบลอยและไดรฟ์เก็บข้อมูล พร้อมด้วยเมนบอร์ดที่ออกแบบเฉพาะและส่วนประกอบคุณภาพสูง ส่งผลให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าคอมพิวเตอร์และ NAS ทั่วไปอย่างเทียบไม่ติด

Perfect CD Player replacement

Innuos ZENmini S Mk3 มาพร้อมกับ USB หลายช่อง รวมถึง Optical และ Coaxial Digital Outputs รวมถึงภาค DAC (Digital to Analog Converter) 24bit/192kHz ในตัว ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โปรดของคุณ เช่น ชุดไฮไฟดั้งเดิม ซาวด์บาร์ AV Receivers หรือ Active Speaker ได้อย่างง่ายดาย

: Powerful Performer

ใช้ระบบปฏิบัติการเฉพาะของ innuOS “Sense” ที่ถูกปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพและความเรียบง่าย ให้เสียงดีโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์อีกต่อไป ควบคุมคลังเพลงของคุณได้จากแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนที่สะดวกสบาย

: Superbly Solid State

Innuos ZENmini S Mk3 นำข้อเด่นของ SSD มาใช้งาน ทำให้ทำงานเงียบ เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว และเพิ่ม RAM จาก 4GB เป็น 8GB เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ทำหน้าที่มิวสิกเซิร์ฟเวอร์และสตรีมเมอร์ที่มาพร้อมกับ DAC Stage Innuos ZENmini S Mk3 จึงถือเป็นหนึ่งในแหล่งต้นทาง HiFi ที่มีความคุ้มค่าที่สุดในตลาด

: MQA Core Decoding

Innuos ZENmini S Mk3 รองรับการถอดรหัสซอฟต์แวร์ MQA Core ทำให้คุณสามารถเล่นไฟล์และสตรีม MQA ที่ให้คุณภาพเสียงเหมือนต้นฉบับ ซอฟต์แวร์ถอดรหัส MQA Core นี้ให้บริการฟรี รองรับการเล่นไฟล์ MQA สูงสุด 24bit/96kHz สำหรับ DAC ที่ไม่รองรับ MQA และไปได้สูงสุดถึง 24bit/384kHz สำหรับ DAC ที่รองรับ MQA Full Decoder

SENSE app

เมื่อดาวน์โหลด SENSE app ลงใน Smart devices หรือแม้เปิดจากเว็บบราวเซอร์ก็สามารถใช้งานได้ทันที หรือจะเล่น Roon ก็ได้ แต่ถ้าใครที่เจอปัญหาที่ไม่มีบัญชี Roon บอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้

หลังจากตั้งค่าเสร็จ Innuos ZENmini S Mk3 ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการฟังเพลงของเราทันที สร้างเพลย์ลิสต์ดิจิทัลเพื่อความบันเทิง และสำรวจความเป็นไปได้ที่จะเก็บเพลงดิจิทัลทั้งหมดในฮาร์ดไดรฟ์ แล้วผ่อนคลายในห้องฟังเพลงที่เรียบง่ายในห้องฟัง รวมถึงฟังกับ Streamer, Streaming DAC Amp ห้องใดๆ ในบ้านที่มีวงเน็ตเวิร์กเดียวกัน

Innuos ZENmini S Mk3 จึงไม่ถือว่าแพงเมื่อเทียบกับคุณภาพและชื่อเสียงของ Innuos ซึ่งเป็นผู้นำในตลาด Music Server ปัจจุบัน DAC และ Music Server ในยุคนี้สูงปรี๊ด แต่ถ้ายังอยากได้อะไรที่ใช้งานง่ายและเสียงดี Innuos ZENmini Mk3 จะตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี

Made For…

ต่อคำถามว่า Innuos ZENmini S Mk3 ทำเพื่อใคร คำตอบก็คือเราๆ ท่านๆ ผู้ที่เคยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ (PC / Mac) สำหรับการสตรีมเพลง ซึ่งต้องการอัปเกรดเป็นระบบที่ให้เสียงคุณภาพดีขึ้น รวมถึงผู้ที่ใช้ ROCK on NUC แต่ต้องการลดขั้นตอนที่ซับซ้อนในการ set up และ maintenance  รวมถึงผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายแต่ยังคงรักษาคุณภาพเสียงไฮไฟ

Innuos ZENmini S Mk3 จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์การฟังเพลง

Roon ROCK หรือ ROCK (Roon Optimized Core Kit) เป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้เป็น Core ในระบบ Roon เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์เพลงที่มีประสิทธิภาพและเสถียรในบ้านของตนเอง โดย ROCK จะถูกติดตั้งลงบนฮาร์ดแวร์ Intel NUC (Next Unit of Computing) ที่เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก Roon Labs นั่นเอง

การทำงานแบบ Roon Core หากต้องการระบบที่เหนือกว่าด้วยฟีเจอร์จัดการเพลงแบบ metadata-rich ที่โดดเด่น Roon Core สามารถทำงานบน InnuOS ได้เช่นกัน Innuos ZENmini S Mk3 สามารถทำหน้าที่เป็น ROON Core หรือแม้ Roon End Point ซึ่งทำงานร่วมกับ Roon Core ตัวอื่น ทำให้คุณสามารถควบคุมเพลงทั้งหมดผ่านแอป Roon ได้ รวมถึงการค้นหาข้อมูลศิลปิน อัลบั้ม และการจัดการเพลงที่ละเอียดขึ้น ซึ่งทำให้ระบบนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการประสบการณ์การฟังเพลงที่ล้ำลึกและครบวงจรที่คุ้นมือสำหรับ ROON User

InnuOS & Sense App

InnuOS เป็นส่วนสำคัญของระบบ Innuos ปัจจุบันอยู่ในเวอร์ชัน 3.0.4 โดยเฉพาะในรุ่น ZENmini S Mk3 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการ Server / Player ได้อย่างง่ายดายและครบครัน ทั้งการควบคุมสั่งการแก้ไขปรับปรุงปกอัลบั้มของไฟล์เพลงภายในเครื่องได้อย่างง่ายดาย สตรีมเพลงจากบริการออนไลน์ เช่น Tidal, Qobuz, Spotify รวมถึง Internet Radio อย่าง Radio Paradise นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานเป็น Roon Core ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเพลงผ่านแพลตฟอร์ม Roon ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Roon Core แยกต่างหากแต่อย่างใด

พูดถึงความดีงามของ InnuOS & Sense App: Sense มีการออกแบบอินเทอร์เฟซที่เน้นความสะดวกต่อผู้ใช้งาน ทำให้สามารถเลือกเพลง ค้นหาข้อมูล และจัดการเพลย์ลิสต์ได้อย่างราบรื่น จัดการสั่งการโดยไม่ต้องพึ่งพาความซับซ้อนจากซอฟต์แวร์อื่นๆ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบเหนือ Roon Core บนแพลตฟอร์มอื่น ในแง่การใช้งานแบบพื้นฐานสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการการตั้งค่าที่ซับซ้อนเกินไป

ไม่ว่าคุณจะใช้การสตรีมเพลงจากบริการออนไลน์หรือเล่นไฟล์เพลงในเครื่อง InnuOS Sense ก็สามารถจัดการกับไฟล์เพลง Hi-Res ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับไฟล์ความละเอียดสูง เช่น PCM (FLAC), DSD และ MQA

InnuOS Sense รองรับการเล่นในแบบ Multi-Room ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการสตรีมเพลงไปยังอุปกรณ์ที่ต่างกันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้บ้านของคุณกลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรีจากทุกห้องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความยุ่งยากในการเซ็ตอัปแต่อย่างใด

with Innuos ZENmini Mk 3

ด้วยเพราะความสามารถรอบด้านของไอ้ตัวเล็กทรงพลัง Innuos ZENmini Mk3 จึงสวมบทบาทได้หลายหน้าที่ในการทดสอบนี้

เบาะๆ ก็ต่ออะนาล็อกฟังกับลำโพง Active บนโต๊ะทำงาน ฟังไปริปไป จากนั้นจึงค่อยยกลงไปต่อเข้าระบบในห้อง Home Studio ที่เล็กจิ๋วแบบส่วนตั๊วส่วนตัว ห้องฟังของพี่ที่น้อยคนนักจะได้มานั่งฟัง ไม่ใช่อะไรหรอกก็เพราะทั้งรกและแคบ มีที่นั่งจำกัดเพียงที่เดียว

เมื่อมี CD Ripper มาให้ ทำให้ต้องหวนกลับมาเริ่มต้นด้วยการริป CD ลงในไลบรารีของ Innuos อีกครั้งและเริ่มสร้างเพลย์ลิสต์เจ๋ง ๆ ต้องไม่ลืมที่จะตั้งค่า Tidal และ Qobuz แชร์การเล่นไปกับวิถี UPnP ให้เพลเยอร์ตัวอื่น ๆ ที่รองรับอย่างบรรดา All in One Streaming DAC Amp ทุกตัวนี่แหละ นี่ยังรวมถึง Roon ซึ่ง Innuos ZENmini Mk3 ทำได้ทั้งเป็น Roon Core และ Roon EndPoint เสียเอง ซึ่ง SENSE app ก็ช่วยนำทางทุกขั้นตอนได้ไม่ยาก

Innuos ZENmini Mk3 สามารถเล่นเพลงแบบ Multi-room ได้ทุกที่แม้ในห้องนอน แถมยังโชว์ความสามารถให้ผู้มาเยือนผู้ที่เพิ่งสัมผัสครั้งแรกเลือกแทร็กลิสท์แบบชิลๆ ฟังได้อย่างมีความสุข ซึ่งเชื่อว่าใครที่ได้เล่นต้องเริ่มเหลือบมองชั้นวาง CD Rack บนผนังซึ่งจะกลายเป็นส่วนเกินที่รังแต่ก่อปัญหาเก็บฝุ่นชวนปวดหัวหนึบกับเสียงบ่นของลูกสาวแม่ยายในอนาคตอย่างที่เคยขนหนีน้องน้ำเมื่อปี’54 และคงคิดในใจว่า

“วันของพวกแกหมดลงแล้ว”

ก็ผมนี่แหละที่ขนลงลังแล้วไม่เอาขึ้นมาฟังอีกเลย สุดท้ายก็ฝากให้คนที่ยังรักฟิสิคัลให้ไปเป็น “สมบัติผลัดกันชม” หลายปีมาแล้ว เหลืออยู่บ้างนิดหน่อยพอประมาณเท่านั้น

เห็นไหมว่ายุคนี้เราอาจจะยังสามารถหวนกลับไปใช้วิธีเดิมๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นอะนาล็อกกับแผ่นเสียงหรือเทป แต่กับดิจิทัลออดิโอกับ CD นั้นเริ่มเปลี่ยนไป แต่ทุกวันนี้การสตรีมไฟล์ Hi–Res คือหัวใจสำคัญในดิจิทัลออดิโอ แม้กระทั่งสตรีมมิ่งยังมีเพลง Hi–Res ให้ฟังในวิถีใหม่ ได้รื่นรมย์กับมัน Innuos ZENmini S Mk3 ที่รันด้วย Roon ในฐานะสตรีมเมอร์ / เซิร์ฟเวอร์ รวมถึงซีดีริปเปอร์ / สตรีมเมอร์ / เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งครอบคลุมการใช้งานครบถ้วน

ที่เรามีตรงนี้ก็คืออุปกรณ์เสียงเล็กๆ ที่ทรงพลัง มันถูกผสานการสตรีมเมอร์เข้ากับ CD ริปเปอร์ ทำให้คุณสามารถริปและเก็บ CD ของคุณ คลังแสงส่วนตัวในกล่องเล็กๆ นี้ยังมาพร้อมกับ DAC Stage ในตัว (แต่ก็สามารถขยายประสิทธิภาพด้วย DAC คุณภาพสูงภายนอกได้) ทั้งหมดนี้ในราคาไม่แรงเลย

หลังจากใช้งาน Innuos ZENmini S Mk3 เดี่ยว ๆ บนโต๊ะทำงานมาซักระยะ Innuos ZENmini S Mk3 มีช่อง USB สี่ช่องและ Opt หนึ่งช่อง COAX หนึ่งช่อง Digital Output นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อกับ DAC ภายนอกโดยตรงถ้าต้องการ ส่วน Analog Output สามารถใช้ช่อง RCA และใช้ DAC ภายใน  Innuos ZENmini Mk3 ได้ ซึ่งลองแล้วและมันฟังดีทีเดียว แต่ถ้าคุณต่อเข้ากับ DAC เทพที่มีคุณภาพสูงขึ้นโดยใช้การเชื่อมต่อผ่านทั้ง USB, COAX และ OPT จาก Khunpol เช่น ROCKNA WaveLight DAC (WLD) เสียงก็จะดีขึ้นอย่างฟังได้ชัด ยิ่งต่อกับ Esoteric N-01XD SE ที่ใส่ Master Clock G01XD ก็ดีขึ้นมากเป็นทวีคูณอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ส่วนใหญ่จะใช้ฟังก์ชัน Music Server และ Roon Core สำหรับ Streaming DAC Amp และ Esoteric N-01XD SE: Network DAC โดยใช้แอปของมันเองด้วย

Sense Set up

หลักๆ ที่จะเซ็ตอัป ให้เข้าไปที่ System >> Audio Mode จะทำได้หลายฟังก์ชัน

Innuos Standalone

ใช้แอป Sense เพื่อจัดการไลบรารีเพลงของคุณและเล่นเพลงของคุณ

Innuos Endpoint

ใช้ระบบนี้เป็นสตรีมเมอร์เท่านั้น โดยเชื่อมต่อกับระบบหลักของ Innuos นอกจากนี้ยังเข้ากันได้กับเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ที่ใช้พื้นฐานจาก Logitech Media Server

Roon Core

ใช้ระบบนี้เป็น Roon Core โดยใช้แอป Roon แทน Sense เพื่อจัดการไลบรารีเพลงและเล่นเพลง

Roon Bridge

ใช้ระบบนี้เป็นจุดเชื่อมต่อ Roon EndPoint โดยเชื่อมต่อกับระบบ Roon Core ตัวอื่นบนเน็ตเวอร์ค

Roon กับ Innuos Player (การทดลอง)

ใช้ระบบนี้เป็น Roon Core แต่เล่นเพลงผ่าน Innuos Music Player แทนการใช้ Roon สำหรับการเล่นเพลง นี่เป็นการตั้งค่าขั้นสูงและควรใช้โดยผู้ใช้งานที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น อ่านบทความนี้เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

HQ Player

ใช้ระบบนี้เป็นจุดเชื่อมต่อ HQPlayer NAA โดยเชื่อมต่อกับ HQPlayer Server ที่มีอยู่

SHOW TIME

เป็นเรื่องปกติที่จะฟังเพลงหลากหลาย โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นการแข่งขัน TIDAL Playlist Cup 10 ของกลุ่ม TIDAL Thailand ไม่น่าเชื่อว่าเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่นมาหลายปีแล้วนะ แน่นอนที่ว่าระดับสุดยอดฝีมือทั้งสิ้น มีเพลย์ลิสต์ให้ฟังจนฟังไม่ทัน ใครเล่น Streamer ไม่ง่ายที่จะได้ฟังเพราะบางครั้งจะไม่ตรงปก วิธีง่ายสุดที่จะฟังก็ใช้ TidalConnect เลย เพราะ Innuos ZENmini S Mk3 ก็รองรับนะ

ทีนี้มาฟังเพลงอื่นๆ กัน ยังติดลมจาก AGT ต้องฟังนี้อัลบั้ม Journey: Greatest Hits (2024 Remaster)**ที่มาแบบ 24/192 บนสตรีมมิ่งเซอร์วิส

อัลบั้ม *Greatest Hits* ของ Journey ฉบับปี 2024 นี้นำเสนอเพลงฮิตที่ทุกคนรู้จักและรักกันดีตั้งแต่ช่วงยุค 70s และ 80s เช่น “Don’t Stop Believin’,” “Separate Ways (Worlds Apart),” และ “Faithfully” โดยรวมเป็นเซ็ตลิสต์ที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับแฟนเพลงรุ่นเก่าหรือคนฟังใหม่ที่อยากทำความรู้จักกับวงนี้ เพลงแต่ละเพลงถูกจัดเรียงมาอย่างลงตัว โดยให้ความรู้สึกไหลลื่นไปกับการเปลี่ยนโทนและอารมณ์ ตั้งแต่เพลงเร็วที่เร่งจังหวะจนถึงเพลงช้าหนักแน่นที่เต็มไปด้วยอารมณ์

ด้วยความสามารถของ ZENmini ช่วยให้ซิสเต็มถ่ายทอดดนตรีในอัลบั้มนี้สะท้อนเอกลักษณ์ของ Journey ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเสียงกีตาร์ของ Neal Schon ที่เปล่งประกายและให้ความรู้สึกดิบอย่างมีพลังในทุกแทร็ก เสียงคีย์บอร์ดของ Jonathan Cain ยังคงเป็นเส้นใยที่เชื่อมโยงทุกเพลงด้วยความสวยงามและความล้ำสมัยที่ขาดไม่ได้สำหรับเพลงยุค 80s เสียงกลองของ Steve Smith มีความแม่นยำและหนักแน่น เสียงเบสของ Ross Valory เพิ่มความลึกให้กับเพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนเสียงร้องของ Steve Perry ยังคงทรงพลังและเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน

การรีมาสเตอร์ครั้งนี้ทำให้เสียงดนตรีในอัลบั้มนี้มีความสดใหม่ ให้รายละเอียดชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม เสียงร้องที่เป็น Iconic ของ Steve Perry ถูกยกให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และสามารถได้ยินการแสดงอารมณ์ในเสียงร้องได้ชัดเจนกว่าในฉบับดั้งเดิม การจัดการเสียงกลางและเสียงสูงในเพลงมีการขัดเกลาที่ละเอียดขึ้น เสียงคีย์บอร์ดที่เคยอาจจะจมในมิกซ์เก่าๆ ถูกปรับให้มีความชัดเจน เปล่งประกายอย่างสมดุล เสียงเบสที่เคยเบาลงในบางแทร็กได้รับการเพิ่มความหนักแน่น ทำให้แต่ละเพลงมีความลึกและพลังมากขึ้นทำให้แฟนๆ Journey ได้สัมผัสกับคุณภาพเสียงที่เหนือกว่าเดิม ในขณะที่ยังคงเอกลักษณ์และอารมณ์ของเพลงคลาสสิกร็อกที่ทุกคนรัก

การรีมาสเตอร์อัลบั้ม *Journey: Greatest Hits* ในปี 2024 ทำให้เพลงเด่นเหล่านี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เสียงร้องอันทรงพลังและเป็นเอกลักษณ์ของ *Steve Perry* ยังคงโดดเด่น เช่นเดียวกับดนตรีที่เรียบเรียงอย่างพิถีพิถันและสร้างบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ได้รับการฟื้นฟูให้กลับมามีความสดใสและชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทุกเสียงดนตรีและการขับร้องยังคงเต็มไปด้วยอารมณ์ และพลังที่จะสามารถดึงดูดใจผู้ฟังได้ไม่ต่างจากยุคแรกที่เพลงเหล่านี้ได้รีลีสออกมา น้าริชาร์ด กูดดอลล์ทำให้ต้องย้อนฟังกันหลายรอบจนหลอนทีเดียว

สะใจกับเพลงร็อกเปลี่ยนเป็นเพลงหลงเสียงนางบ้าง อย่างแทร็ก “Bridge Over Troubled Water” ของ Eva Cassidy จากอัลบั้ม Live at Blues Alley (1996) นำเสนอบทเพลงที่เป็นมากกว่าการขับร้อง ด้วยการแสดงสดที่บลูส์ อัลเลย์ คาเฟ่ในวอชิงตัน ดี.ซี. Cassidy แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันน่าทึ่งในการเปลี่ยนบทเพลงคลาสสิกให้กลายเป็นผลงานที่สัมผัสถึงอารมณ์อย่างลึกซึ้งและสื่อสารกับผู้ฟังแบบใกล้ชิด ราวกับว่าเธอกำลังพูดคุยกับทุกคนเป็นการส่วนตัว

Live at Blues Alley ถือเป็นหนึ่งในการแสดงครั้งสำคัญของ Eva Cassidy และแม้ว่าเธอจะไม่ได้ใช้วงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ในการแสดง แต่ด้วยเสียงร้องอันทรงพลังและการตีความอย่างละเอียดอ่อนทำให้ทุกคำร้องใน “Bridge Over Troubled Water” เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ระดับมาสเตอร์พีช

การตีความที่นุ่มนวลและซาบซึ้ง เปลี่ยนบทเพลงที่คุ้นเคยให้กลายเป็นสิ่งใหม่ที่สวยงาม

เวอร์ชันของ Eva Cassidy ในเพลง “Bridge Over Troubled Water” (5:33 นาที) เป็นการถ่ายทอดที่งดงามและสร้างสรรค์ใหม่จากต้นฉบับอันโด่งดังของ Simon & Garfunkel เพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม Songbird (1998) ซึ่งออกหลังจากเธอเสียชีวิต เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า Cassidy สามารถนำเพลงใดๆ มาสร้างอารมณ์ลึกซึ้งผ่านเสียงร้องที่โดดเด่นและทรงพลังได้ แม้ต้นฉบับจะเป็นบทเพลงที่เปี่ยมด้วยพลังและความอบอุ่นอยู่แล้ว แต่ Cassidy กลับยกระดับเพลงนี้ให้กลายเป็นการสื่อสารที่เป็นส่วนตัวและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เพลง “Bridge Over Troubled Water” แต่งโดย Paul Simon และขับร้องโดย Simon & Garfunkel เปิดตัวในปี 1970 ในอัลบั้มชื่อเดียวกัน Paul Simon เผยว่าเพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนจากดนตรี gospel โดยเฉพาะเพลง “Oh Mary Don’t You Weep” ของวง Swan Silvertones และภาพ “สะพาน” ในเพลงสื่อถึงความสงบและความเข้มแข็ง Eva Cassidy ที่มีความสามารถในการผสมผสานดนตรีแจ๊ส โฟล์ก และบลูส์ ได้ค้นพบวิธีใหม่ในการถ่ายทอดความอบอุ่นและความสงบผ่านเสียงร้องเพียงอย่างเดียว โดยละทิ้งการเรียบเรียงอันใหญ่โตและเน้นที่ความเรียบง่ายทางจิตวิญญาณ

เนื้อเพลงของ “Bridge Over Troubled Water” พูดถึงการสนับสนุนอย่างไม่หวั่นไหวในยามที่มีความยากลำบาก เป็นการแสดงออกถึงความพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและมอบพลังใจให้เมื่ออีกฝ่ายรู้สึกสูญเสียหรืออ่อนแอ การร้องของ Cassidy ที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังเน้นถึงความเห็นอกเห็นใจและความลึกซึ้ง ทำให้คำร้องเหล่านี้สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความสงบที่ลึกซึ้งขึ้น Paul Simon เคยกล่าวถึงเพลงต้นฉบับว่า “ผมไม่รู้ว่ามันมาจากไหน มันแค่เกิดขึ้นทันที” ในเวอร์ชันของ Eva Cassidy นั้น แฟน ๆ ต่างชื่นชมในความลึกซึ้งทางอารมณ์ที่เธอเพิ่มเข้ามา และเธอสามารถนำเพลงที่คุ้นเคยแล้วมาทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่เคลื่อนไหวและล้ำค่า

ซึ่งเหมาะกับคนไทยในยามนี้ที่เจอภัยธรรมชาติทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ก็ลุ้นอยู่ว่าน้องน้ำจากเหนือจะไหลมาถล่มจนให้กลายเป็นผู้ประสบภัยอีกหรือไม่ นี่เดือดร้อนให้ลูกสาวแม่ยายเตรียมตัวเก็บของขึ้นที่สูง… เอาเถอะสู้เขานะ.. ทาเคชิ

SOUND

DAC ในตัวให้เสียงอบอุ่นฟังสบาย แต่ก็มีความเป็นดนตรีสูงดีแล้วเมื่อเล่นกับไฮไฟชุดเล็กๆ และถ้าไม่เปรียบเทียบกับอะไรที่ใหญ่กว่าก็ถือว่าก็คงพอใจกับมันได้ตลอดไป แต่เมื่อฟังไปนานๆ อาจรู้สึกว่าเสียงมันธรรมดาเกินไปเมื่อคุณได้ยินแหล่งเสียงอื่นที่คุณภาพสูงกว่ามาเปรียบเทียบ ก็ถึงเวลาที่ต้องอัปเลเวลกับ External DAC เทพแล้วล่ะ

ให้เสียงที่มี Airy มีรายละเอียดดีมาก และขยายเวทีเสียงได้ดีขึ้นไปอีก การจัดวางเสียงมีความแม่นยำมากขึ้นเป็นเสียงที่ “ออดิโอไฟล์” ชอบ  มีช่องว่างระหว่างตัวโน้ต เบสนุ่ม คงไม่ต้องเทียบกับ WLD หรือ N-01XD SE ที่มีราคาสูงกว่าหรอก แต่แน่นอนว่าแม้เป็นหมูเด้งตัวน้อยแต่พลังล้นเหลือ ก็สวมวิญญาณเซิร์ฟเวอร์ที่จะพาให้พี่ใหญ่รอบข้างอย่าง WLD  รวมถึง N-01XD SE รวมถึง Streaming DAC Amp อย่าง H600 และ ASK ได้อานิสงส์ดีงามไปด้วย เพราะต้นทางดี ย่อมส่งผลไปถึงปลายทางเช่นกัน

ต่อคำถามที่ว่าเสียงดีอย่างไรเมื่อใช้ Innuos ZENmini S Mk3 เป็น Roon Core?

การใช้ ZENmini S Mk3 เป็น Roon Core มีข้อได้เปรียบในด้านการจัดการ Hardware / Software ที่ส่งผลต่อเสียงที่มีคุณภาพสูงกว่าการใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป เนื่องจาก ZENmini ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานกับเสียงโดยเฉพาะในทุกขั้นตอนการผลิต ตรวจสอบอย่างพิถีพิถัน ZENmini S Mk3 มีการออกแบบที่เน้นการลดการรบกวนจากสัญญาณดิจิทัล ช่วยให้เสียงที่ถูกถ่ายทอดออกมามีความใสสะอาดและคมชัด ซึ่งแตกต่างจากการใช้ PC, Mac หรือ NUC ซึ่งมีการรบกวนจากส่วนอื่นๆ ของระบบ

Innuos ZENmini S Mk3 ถูกออกแบบให้ทำงานเฉพาะด้าน โดย Run บน LINUX ที่ถูก Custom มาโดยเน้นที่เสียง ทำงานประสานกับ innuOS มีการปรับจูนให้การเล่นไฟล์เพลงมีความลื่นไหลสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานในฐานะ Roon Core ทำให้เล่นเพลงจะมีความเที่ยงตรง แม่นยำ และมีการจัดการ buffer อย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้เสียงดีเหนือกว่า NUC หรือ PC โดยสิ้นเชิงแบบไม่ต้องสืบ

The Miniature Marvel

แม้ว่า “เก่งเล็ก” Innuos ZENmini S Mk3 ที่รวบความสามารถไว้ครบ ในยุคเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสตรีมมิ่งครองโลก ที่มาพร้อมกับ DAC ในตัว ทำให้สามารถเริ่มฟังเพลงได้ทันทีเมื่อต่อเข้ากับชุดไฮไฟ ยิ่งต่อยอดการใช้ DAC เทพภายนอกที่มีคุณภาพสูงกว่าร่วมกับ Innuos ZENmini S Mk3 จะช่วยให้ได้ยินรายละเอียดเสียงที่ลึกและคมชัดกว่าแน่นอน ถือว่าเป็นกองหนุนที่ดีมากสำหรับปลายทางของความแตกต่างระหว่าง Network Music Server / Player หรือ Streamer เมื่อขยับรุ่นสูงขึ้น ก็เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ External DAC  ที่มีคุณภาพสูงขึ้น เช่น DAC เทพค่าตัวสูง ซึ่งมีการประมวลผลที่ละเอียดกว่า ทำให้คุณภาพเสียงที่ได้มีความดีเยี่ยมกว่าการใช้ DAC ในตัวเครื่องเองอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งก็ตามราคาล่ะ โดยที่ Innuos ZENmini S Mk3 ก็ทำหน้าที่ของมันได้สมบูรณ์แบบมากอยู่แล้ว

ถึงแม้ Innuos ZENmini S Mk3 นั้นมี DAC ในตัวมันก็อาจดีพอ ซึ่งถ้าไม่มีหรือไม่ใช้ DAC เทพภายนอก มันก็จะเป็นอุปกรณ์ฟรอนต์เอนด์แบบ All-in-one ที่คุณสามารถเริ่มต้นด้วยสตรีมเมอร์ เซิร์ฟเวอร์ที่จะใช้งานได้อเนกประสงค์กับยุคนี้ แต่ก็ยังอัปเกรดมันได้เมื่อเริ่มเดินทางไปยังสถานีต่อไปในโลกของออดิโอไฟล์

การที่มี CD Ripper ติดมาก็เพราะรู้ว่า user ทั่วไปอย่างผมคนหนึ่งที่อาจมี CD หลงลืมแปะฝาผนัง นัยว่าเป็นรูมจูนหรือเดคเคอเรตภายในที่รกเก็บฝุ่นไปฉิบ จับมาริปให้หมดก่อนที่มันจะเสื่อมสภาพไป

ด้วย Innuos ZENmini S Mk3 ที่จะทำตัวเป็นแม่ข่ายไม่ต้องถึงกับเป็น “บอส” หรอก แล้วแชร์มันไปทุกห้องในบ้านเสียเลย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วยังมีโอกาสย้อนกลับมาฟังอัลบั้มที่ตกสำรวจเหล่านั้นมากกว่าด้วย

Innuos ZENmini S Mk3 เป็นอุปกรณ์ Music Server / Player / CD Ripper ที่ครบจบในตัวเดียว ถือว่าเป็น the Miniature Marvel ที่สามารถพัฒนาและปรับแต่งต่อยอดได้ตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของ แน่นอนการอัปเกรด Innuos ZENmini Mk3 กับ LSPU จะให้เสียงมีไดนามิกส์ที่ละมุน มีมนต์ขลังขึ้น ซึ่งก็ไม่ควรมองข้ามถ้างบถึง

เชื่อว่าถ้าเป็นนักเล่นตัวจริงซึ่งมีระบบเสียงมิดเอนด์ ต้องการความเป็นที่สุดในระดับงบประมาณที่ไม่สูงนัก นี่อาจจะคุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ

Innuos ZENmini S Mk3 กับ LSPU อาจเป็นคำตอบสุดท้ายที่ตามหาก็ได้ แนะนำให้แวะมาคุยกับทอมมี่ เจ้าสำนัก Prestige Hi Fi ซิ จะมีตัวเลือกที่เหมาะสม คุ้มค่ากับคุณได้ ขออย่างเดียวปรึกษาแล้วก็อุดหนุนด้วยล่ะ… อิ อิ. ADP

ZENmini S Mk3, 1TB SSD, black      ราคา 93,000 บาท
ZENmini S Mk3, 2TB SSD, black      ราคา 102,000 บาท
ZENmini S Mk3, 4TB SSD, black      ราคา 116,000 บาท
ZEN Mk3, 4TB HDD, black or silver ราคา 153,000 บาท
LPSU, black                                ราคา 37,000 บาท

สอบถามรายละเอียดและโปรโมชันได้ที่
Prestige Hifi
Tel: 063-638-4498
Line Official Account: TMY168-2
Facebook: Prestige Hifi

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ