ปัจจุบันโลกไฮไฟถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมและความพิถีพิถัน HEGEL H600 ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในสนามแข่งขันของเครื่องเสียงไฮเอนด์ในยุคสตรีมมิ่งครองโลก ด้วยวงจร Amplifier รุ่นเรือธงตัวล่าสุด ผสานกับ Streaming DAC สุดล้ำในเครื่องเดียวจาก HEGEL แห่งนอร์เวย์ ที่มิเพียงแค่จะตอบสนองทุกความต้องการอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ยังพาไปสู่มิติใหม่ของประสบการณ์เสียงดนตรีที่ไม่เคยมีมาก่อน

เตรียมพบกับการบทวิเคราะห์เจาะลึกทุกอณูของเทคโนโลยี จากพลังเสียงที่ HEGEL H600 มอบให้! 

มา มาเปิดตำนานบทใหม่อันสมบูรณ์แบบร่วมกัน… 

สวัสดีครับ ทุกคน
พบกันอีกแล้วกับ audiophile go digital… อรรถคดีว่าด้วยเรื่องของ Digital audio ซึ่งจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้เล่าขานบนสื่อออนไลน์อยู่ตลอดเวลา

และนี่เป็นบทความทดสอบบนเว็บไซต์ www.audiophile-videophile.com

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม

ขอไขข่าวในวงการสื่อดนตรีในตลาดอเมริกาเสียหน่อย

RIAA 2024 Mid-Year Music Industry Revenue Report

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 รายได้จากเพลงเพิ่มขึ้น 4% เป็นมูลค่าประมาณ 8.7 พันล้านดอลลาร์ในระดับการขายปลีก และจำนวนสมาชิกสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้น 3% เป็น 99 ล้านรายในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด (อีกแล้ว) ทั้งสองส่วนนี้เป็นหลักฐานว่า สตรีมมิ่งยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเข้าสู่ทศวรรษที่สามในสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันแฟนเพลงสามารถค้นหาและฟังเพลงได้หลากหลายวิธีกว่าที่เคยมีมา รายงานนี้ยังสะท้อนรายได้จากแหล่งที่มาที่หลากหลายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ (อีกแล้ว) ในขณะที่การสมัครสมาชิกแบบเสียเงินมีส่วนสำคัญถึงสองในสามของมูลค่าเพิ่มในช่วงเวลานี้ ในขณะที่ยอดการจัดส่งแผ่นไวนิลกลับมีอัตราเติบโตเร็วกว่าแพลตฟอร์มเพลงหลักอื่นๆ โดยเพิ่มขึ้น 17% ทีเดียว

สตรีมมิ่งมีส่วนช่วยให้รายได้รวมประมาณ 84% ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ด้วยการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินที่มีจำนวนมากกว่าประเภทอื่นๆ ในหมวดนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 บริการสตรีมมิ่งเติบโตขึ้น 4% เมื่อคิดตามมูลค่าขายปลีก ทำให้มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.3 พันล้านดอลลาร์

เห็นไหมว่า สตรีมมิ่งเป็นเดอแบกที่แท้จริง เรามาถูกทางแล้ว เราเป็นประชากรส่วนใหญ่ของโลก ดังนั้นจงอย่าได้สงสัยเลยว่า ทำไมค่ายเครื่องเสียงมากมายจึงไม่ยอมที่จะตกขบวนรถไฟสายสตรีมมิ่ง และเชื่อว่าสตรีมมิ่งยังจะกินรวบวงการบันเทิงดูหนังฟังเพลงต่อไปไปอีกนาน การที่ื่สื่อแบบจับต้องได้มียอดขายกระเตื้องขึ้นนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่จะหวนกลับมายึดพื้นที่เช่นในอดีตเห็นทีจะยาก… ฟันธง

เอาล่ะพอหอมปากหอมคอ เราเข้าเรื่องกันดีกว่า

ขอนำบทสัมภาษณ์ของ Mr. JOHAN COORG, Hegel Asia Pacific Sales Manager ที่เพิ่งได้คุยกัน มาประกอบบทความนี้

 About HEGEL

เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญขนาดเล็กแห่งดินแดนไวกิ้งสแกนดิเนเวีย มีชื่อเสียงของแอมป์ไฮเอนด์ที่ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคา HEGEL ได้รับการยอมรับในวงการว่ามีชื่อเสียงยิ่งใหญ่กว่าขนาดบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน

HEGELโดดเด่นในตลาดอุปกรณ์เครื่องเสียงไฮเอนด์จากเทคโนโลยีแอมพลิฟายเออร์ SoundEngine อันเป็นเอกสิทธิ์ ทำให้แอมป์ของ HEGEL มีคุณลักษณะพิเศษเป็นแอมป์ที่มีค่า damping factor สูงและ distortion ต่ำมาก

HEGEL’s SoundEngine เป็นเทคโนโลยีแอมป์ที่มีเป้าหมายเพื่อลดความผิดเพี้ยนในขณะที่ยังคงรักษารายละเอียดและคุณภาพของเสียงไว้

เทคโนโลยี SoundEngine ของ HEGEL ใช้วิธีการที่เรียกว่า “Feed-Forward Error Correction” ซึ่งเป็นเทคนิคที่ไม่เพียงแต่แก้ไขความผิดเพี้ยนหลังจากที่เกิดขึ้นแล้ว (เช่นที่เกิดในแอมป์ทั่วไป) แต่ยังพยายามป้องกันไม่ให้ความผิดเพี้ยนเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น

ทำงานโดยการเทียบสัญญาณเสียงขาเข้ากับสัญญาณที่ขยายแล้วแบบเรียลไทม์ และสามารถตรวจจับความผิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นได้โดยตรง จากนั้น SoundEngine จะทำการปรับเปลี่ยนและแก้ไขในขั้นตอนของสัญญาณขาเข้าเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดเพี้ยนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เสียงที่ได้นั้นมีความชัดเจน แม่นยำ และมีรายละเอียดสูงสุดโดยไม่ผิดเพี้ยน

ด้วยวิธีนี้ HEGEL’s SoundEngine จึงช่วยให้แอมพลิฟายเออร์ให้เสียงดีโดยไม่ต้องเสียความฉับไวในการตอบสนองหรือมีความสามารถให้เสียงที่ซับซ้อนได้ดี ทำให้จัดการลำโพงที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยHEGELไม่จำเป็นที่จะเป็นแอมป์ตัวโตเสียด้วยซ้ำ

**Market Differentiation**

“คุณภาพเสียง ประสิทธิภาพ คุณค่า” นั้นชัดเจนในสามคำ คือความแตกต่างของ HEGEL

อันเป็นอัตลักษณ์ของ HEGEL เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพเสียงที่เหนือกว่า โครงสร้างที่แข็งแกร่ง และความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ของ HEGEL ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังมองหาประสบการณ์เครื่องเสียงไฮเอนด์โดยไม่ต้องลงทุนที่สูงมากเกินไป

**Consumer Appeal**

เหตุผลหลักที่ลูกค้าเลือก HEGEL เพราะการได้รับประสิทธิภาพสูงสุดในราคาที่สมเหตุสมผล มั่นใจว่าแม้แต่ลำโพงที่ซับซ้อนที่สุดก็ยังทำงานได้ดีเป็นพิเศษกับแอมป์ของ HEGEL

แว้บแรกจะเห็นว่าลุคของ HEGEL ดูจะอนุรักษนิยมซักนิด ไม่ดึงดูดสายตาเอาเสียเลย อย่างไรก็ตาม ปรัชญาการออกแบบนี้เป็นความตั้งใจหยั่งรากลึกของ Scan Design ยึดในค่านิยมหลักของ HEGEL ซึ่งจะลงทุนกับสิ่งที่อยู่ภายในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบ วงจร รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างแท้จริงเป็นอันดับแรก HEGEL เป็นเครื่องเสียง ดังนั้น คุณภาพเสียงหาใช่ความสวยงามแบบผิวเผิน แม้ว่าตัวเคสของ HEGEL อาจจะเหมือนไม่บ่งบอกรูปลักษณ์ ‘เสียงที่ยอดเยี่ยม’ เพราะเชื่อในการมอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมที่บ่งบอกความเป็นตัวมันเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีรูปลักษณ์ที่ดูหรูแต่อย่างใด

Integration over Stand-Alone Units: **

HEGEL เชื่อว่าตลาดไฮไฟจะยังมีแนวโน้มไปทางดิจิทัลออดิโอที่กินรวบโลกของสื่อดนตรีในวันนี้และอนาคต ล้วนต้องใช้ DAC (Digital-to-Analog Converters) ชั้นดีบน streamer platform ดังนั้น HEGEL จึงยังคงรวม DAC และ Streaming platform ไว้ในอินทิเกรแอมป์ทุกตัวต่อไป

HEGEL H600

HEGELได้เริ่มพัฒนาอินทิเกรตแอมป์รุ่นใหม่ๆ เมื่อสามปีที่แล้ว และคาดว่าจะมีการอัปเดตรุ่นอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้อีก เช่น H400 เป็นต้น

HEGEL H600 เป็นอินทิเกรแอมป์ไฮเอนด์แบบ “ตัวเดียวกินรวบ” รุ่นเรือธงระดับอ้างอิงตัวล่าสุด ที่มีประสิทธิภาพสูง ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม มีความหลากหลายในการใช้งาน ให้คุณภาพเสียงดีเยี่ยม พร้อมกับความง่ายดายในการใช้งาน ทุกสิ่งนี้อยู่ในโครงสร้างที่เรียบง่ายและคุณภาพสูงที่เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่งภายใน

H600 จะเป็นศูนย์กลางสำหรับเสียงดนตรีของคุณ เป็นแหล่งรวมสำหรับแหล่งสัญญาณที่คุณเชื่อมต่อทั้งหมด ด้วยเสียงที่เหมาะสมกับบ้านหรู H600 เป็นแอมป์ที่ทรงพลังและครบครันอย่างแท้จริง

ด้วยกำลังขับที่ 303 วัตต์ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม ค่า Damping Factor ที่ 4000 สามารถขับสัญญาณที่ความต้านทานที่ต่ำถึง 2 โอห์มทีเดียว การออกแบบเป็น Dual Mono ที่ถูกถ่ายทอดจากแอมพลิฟายเออร์ H30A ที่โด่งดัง ทำให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการใช้งานแอมป์ Mono สองตัวในแชสซีส์เดียว แอมป์ทรงพลังตัวนี้สามารถขับลำโพงได้ทุกคู่บนโลกใบนี้

อีกทั้งยังมีภาค Preamplifier ที่ล้ำสมัย พร้อมตัวปรับระดับเสียงที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งถูกนำมาใช้จากปรีแอมป์อ้างอิงรุ่น P30A วงจรอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดได้รับการออกแบบภายใน HEGEL เอง เลือกใช้เฉพาะชิ้นส่วนคุณภาพดีที่สุดเท่านั้น ทำให้สามารถควบคุมกระบวนการขยายได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน เมื่อรวมกับเทคโนโลยี SoundEngine2 correction ผลที่ได้คือสัญญาณเสียงที่ใกล้เคียงกับการบันทึกต้นฉบับมากที่สุด ด้วย soundstage ที่มีมิติในทางกว้างและลึก ควบคุมเสียงเบสที่ยอดเยี่ยม ให้ไดนามิกส์ที่น่าทึ่ง เผยรายละเอียด รวมถึงความซับซ้อนในงานดนตรี สิ่งที่คุณต้องทำคือเชื่อมต่อลำโพงคุณภาพดีที่คุณเลือกเท่านั้นเอง

DAC stage ใหม่เป็นผลมาจากความจำเป็น คุณอาจสงสัยว่าทำไม HEGEL ต้องปรับเปลี่ยน DAC ซึ่งเป็นจุดเด่นของรุ่นเหล่านี้ เหตุผลส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาการผลิตและเทคนิค DAC ของ H590 และ H390 ใช้ชิป 4493 จาก Asahi Kasei Microdevices (AKM) แต่ปัญหาด้านการผลิตจาก COVID-19 และไฟไหม้โรงงาน AKM ในเมือง Nobeoka ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ชิป 4493 ขาดตลาด HEGEL จึงต้องหา DAC Chip ใหม่โดยใช้ชิป ESS Sabre 9038Q2M ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ดีไซน์ของ Sabre DAC D/A Converter stage ใหม่ของ H600 ถูกออกแบบเป็นบิตเพอร์เฟกต์ (bit-perfect) เพื่อความบริสุทธิ์ของเสียงซึ่งจะไม่ทำการ resampling หรือ upsampling แต่อย่างใด HEGEL อ้างว่า DAC ใหม่นี้จะให้รายละเอียดสูงขึ้น การปรับปรุงที่สำคัญจาก DAC ใน H590 และในหลายๆ ด้านก็ยังเหนือกว่า Standalone DAC รุ่น HD30 อีกด้วย  DAC Stage นี้มีแหล่งจ่ายไฟเฉพาะขนาดใหญ่เพื่อให้แน่ใจว่าประสิทธิภาพจะต้องเสถียร ไร้การปนเปื้อน ถูกชีลด์ด้วยแผ่นโลหะอย่างหนาเพื่อไม่ให้มีการรบกวนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ภายในเครื่อง ผลที่ได้คือ D/A Converter ที่ล้ำสมัยด้วยความละเอียดและความลื่นไหลที่น่าทึ่ง

ตัวแชสซีส์ทำจากอะลูมิเนียมเพื่อให้ประสิทธิภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น มีแชสซีส์แผ่นล่างที่แข็งแรง ฝาครอบด้านบนที่มีช่องระบายอากาศที่ถูกเจาะเป็น Slot ในสองชั้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและการไหลเวียนของอากาศ ขาอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ที่มีการออกแบบทำให้มั่นคงและลดการสั่นสะเทือน ขณะที่ขั้วต่อคุณภาพสูงและการจัดตำแหน่งที่เหมาะสมของขั้วต่ออะนาล็อกและดิจิทัล ช่วยลดสัญญาณรบกวนและแยกช่องสัญญาณได้ดีขึ้น ปุ่มควบคุมขนาดใหญ่ติดตั้งระบบสัมผัส ทำให้เครื่องขยายเสียงนี้ใช้งานได้ง่ายและสะดวก อีกทั้งยังให้สัมผัสที่ดีเมื่อปรับตั้งค่าต่างๆ

Easy to Controlled

HEGEL เชื่อว่า คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมไม่ควรมาพร้อมกับความยุ่งยากในการใช้งาน นั่นคือเหตุผลที่ H600 มาพร้อมกับตัวเลือกการสตรีมที่ครอบคลุมในทุกรูปแบบ รองรับการสตรีมแบบ UPnP, Spotify Connect, Airplay, Tidal Connect, Google Cast™ และ Roon Ready และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เอนจินสตรีมมิ่งอันล้ำสมัยนี้จะทำให้มันอัปเดตอยู่เสมอ ด้วยตัวเลือกล่าสุดสำหรับการสตรีมเพลง H600 ยังสามารถปรับแต่งได้เพื่อให้เหมาะกับทุกสภาพแวดล้อม อินพุตดิจิทัลทั้งหมดยกเว้น USB มีฟังก์ชัน Signal Sense ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์ใดๆ ที่เชื่อมต่อกับอินพุตเหล่านี้สามารถเปิดแอมป์และตั้งค่าให้เป็นอินพุตที่ถูกต้องได้ นอกจากนี้ยังสามารถจำกัดระดับเสียงเพื่อให้เหมาะสมกับความชอบ

HEGEL App ช่วยในการใช้งานตั้งค่า เลือกอินพุต และเชื่อมต่อกับ Music Server ภายนอกได้ สะดวกสบาย อีกทั้งยังมีฟังก์ชันควบคุมระยะไกลที่สามารถตั้งค่าให้แอมป์นี้ควบคุมได้ด้วยรีโมตทั่วไป ทำให้ทุกคนในบ้านสามารถเพลิดเพลินกับเสียงทีวีคุณภาพเยี่ยมได้อย่างง่ายดาย อินพุตส่วนใหญ่ยังสามารถตั้งค่าเป็นอินพุตระดับสูง (Pass Through) สำหรับ Home Theater ทำให้ง่ายต่อการรวม H600 เข้ากับเครื่องเสียงรอบทิศทางหรืออุปกรณ์ Multi room เช่นเดียวกับการสตรีมมิ่งจะมีฟีเจอร์เพิ่มเติมในอนาคต อัปเดตเฟิร์มแวร์ได้ฟรีเสมอ ซึ่งถูกติดตั้งให้โดยอัตโนมัติเมื่อมีการปล่อยให้อัปเดต ดังนั้นควรเสียบสาย LAN ไว้เพื่อให้แน่ใจว่า H600 จะอัปเดตอยู่เสมอ

Connectivities

ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมดูเรียบง่ายและแข็งแรง โดยมีฐานรองอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ที่ดูดีตามสไตล์ Scan Design ให้การรองรับที่คาดหวัง ลุคด้านหน้าก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนอะไร แต่แผงด้านหลังมีอินพุตดิจิทัลมากมาย อินพุตมีคุณภาพดีและไม่มีอะไรขาดแคลน ช่องเชื่อมต่อสายลำโพงสร้างขึ้นอย่างดี และมีช่องระบายอากาศแบบสองชั้นที่ดูดี และช่วยระบายความร้อนได้มาก

เพื่อตอบสนองความต้องการจากแหล่งสัญญาณเสียงต่างๆ จึงมาพร้อมกับช่องต่อสัญญาณแบบอะนาล็อกและดิจิทัลที่หลากหลาย มีช่องอินพุต True Balanced XLR สองคู่ และช่องอินพุต RCA สองคู่ สำหรับการเชื่อมต่อแบบดิจิทัล มีพอร์ต LAN สำหรับเน็ตเวิร์ก, อินพุต USB 32/384 (รองรับ DSD256 / DoP), อินพุตออปติคัลสามช่อง, อินพุตโคแอกเชียลหนึ่งช่อง และอินพุต BNC ที่มีค่าความต้านทานที่แท้จริง 75 โอห์ม สำหรับเอาต์พุตแบบอะนาล็อกมีเอาต์พุต RCA ระดับคงที่หนึ่งคู่ และเอาต์พุต RCA ระดับแปรผันอีกหนึ่งคู่ นอกจากนี้ยังมีเอาต์พุตดิจิทัล BNC ที่มีค่าความต้านทานที่แท้จริง 75 โอห์มอีกด้วย

H600 มีความสามารถในการสตรีมที่อัปเดต รองรับ Apple AirPlay 2, Spotify Connect, Tidal Connect และ UPnP/DLNA กำลังรอการรับรอง Roon Ready

HEGEL ยังกล่าวว่าระบบสตรีมมิงใหม่ใน H600 สามารถอัปเกรดได้ในอนาคตเช่น Qobuz Connect

การออกแบบเรียบง่าย หน้าปัดมีปุ่มใหญ่สองปุ่ม สำหรับควบคุมอินพุตและปรับระดับเสียง พร้อมการใช้ปุ่มเดียวกันในการเข้าถึงการตั้งค่าซอฟต์แวร์รวมถึงการปรับแต่ง หน้าจอขาวดำที่อ่านง่ายอยู่ระหว่างปุ่มทั้งสองบอกข้อมูลที่จำเป็น ปุ่มมีความรู้สึกที่ดี สำหรับคนที่ชอบปุ่มดีๆ! ซอฟต์แวร์ก็ใช้งานง่าย รีโมตทำให้ยิ่งง่ายขึ้น

เออ แล้วทำไมมันถึงต้องการการระบายอากาศมากขนาดนั้น? เพราะภายในมีแอมพลิฟายเออร์ Class AB Mosfet แบบ dual-mono ที่สามารถให้กำลังขับ 303 วัตต์ต่อช่องที่ 8 โอห์ม (เพิ่มเป็น 600 วัตต์ต่อช่องที่ 4 โอห์ม และมีความเสถียรถึง 2 โอห์ม) ด้วยค่า damping factor ที่ 4000 ซึ่งหมายความว่าแอมป์ตัวนี้สามารถขับและควบคุมลำโพงได้ทุกคู่อย่างสบาย การออกแบบอ้างอิงจากหลักการที่ใช้ในเครื่องแอมพลิฟายเออร์ H30A ที่เป็นที่ยอมรับของ HEGEL ให้กำลังขับและควบคุมลำโพงดีเยี่ยม ถือเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง และวิศวกรที่ HEGEL สมควรได้รับการชื่นชม

ส่วนปรีแอมป์ใช้เทคโนโลยีการปรับระดับเสียงของปรีแอมป์ P30A ที่เป็นมาตรฐานของ HEGEL โดยแชร์วงจรบางส่วน HEGEL ใช้เทคโนโลยี SoundEngine 2 ที่เป็นเอกสิทธิ์ ซึ่งอธิบายว่าใช้เทคโนโลยีการส่งต่อสัญญาณที่ปรับตัวเองได้เพื่อลด distortion ในความถี่สูงที่เกิดขึ้นในวงจร Class AB เป้าหมายคือเพื่อให้ได้สัญญาณเสียงที่สะอาดขึ้น ไดนามิกส์กว้างมากขึ้นและมีสัญญาณรบกวนน้อยลง แม้ว่าเราไม่สามารถเปิดหรือปิด SoundEngine 2 เพื่อเปรียบเทียบได้ คิดว่าผลลัพธ์ก็แสดงอยู่ในตัวอยู่แล้ว

อีกอย่าง ขอบอกว่า: H600 จะไม่มี Phono Stage ติดตั้งมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีบางสิ่งที่ต้องยอมเสียไปบ้าง แต่ก็เชื่อว่า HEGEL เห็นว่ามันคงไม่จำเป็นหรอก โดยผ่านการตั้งค่าของปรีแอมป์ให้สามารถทำทุกอย่างที่ต้องการจากอินทิเกรตแอมป์ตัวนี้ ถ้าอยากเล่นก็อาจซื้อ Phono Stage แยกชิ้นไปเลย

H600 มาพร้อมฟีเจอร์ HT pass-through บนทุกอินพุต ทำให้สามารถเชื่อมต่อไปยังแอมพลิฟายเออร์ได้โดยตรง ไม่ว่าคุณจะสร้างระบบเดี่ยวหรือขยายด้วยแหล่งและส่วนประกอบหลายๆ อย่างก็ตาม ใช้เวลาในการฟัง H600 ส่วนใหญ่แทบไม่ได้ดูหนัง อะไรทำนองนั้นเลย

ใช้เพาเวอร์ซัพพลายขนาดใหญ่ที่แยกจากส่วนอื่นๆ ของเครื่อง DAC Stage จะรับข้อมูลจาก Streaming Platform ในตัวที่รองรับ Spotify Connect, Tidal Connect, UPnP, Qobuz Connect (รอการอัปเดตในอนาคต), ChromeCast และ Apple AirPlay2 และยังจะสามารถใช้งานร่วมกับ Roon ได้

การตั้งค่าและการใช้งานทั้งหมดนี้ทำได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันบน Smart Devices แน่นอนว่าดิจิทัลอินพุตที่ด้านหลังยังสามารถใช้กับแหล่งสัญญาณภายนอกได้ โดยได้ทดสอบด้วย music server พบว่า H600 สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่

หาก HEGEL H600 เป็นแอมพลิฟายเออร์ 303 วัตต์ต่อข้าง คือกำลังหลักหมายถึงหัวใจของระบบ DAC Stage ก็คือสมองของระบบ ซึ่ง HEGEL H600 จะเป็นแอมป์ที่มีฟีเจอร์ครบถ้วน DAC Stage ที่ติดตั้งในตัวใช้ DAC CHIP เป็น ESS 9038Q2M เป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมด ที่รองรับการเล่นเสียงดิจิทัลด้วยอินพุต S/PDIF สองช่อง (RCA และ BNC) อินพุต optical สามช่อง (TosLink) พอร์ต USB และพอร์ต Ethernet อินพุต optical รองรับ PCM สูงสุด 24-bit/96kHz ส่วนอินพุต coaxial และ Ethernet รองรับสูงสุด 24/192 PCM รวมถึง DSD64 (DoP) อินพุต USB รองรับ 32/384 PCM และ DSD256 (DoP) นอกจากนี้ H600 ยังรองรับ MQA 8X (352.8kHz/384kHz) ทุกอินพุตดิจิทัลยกเว้น USB จะมีการตรวจจับสัญญาณ ซึ่งจะเปิด H600 เมื่อพบสัญญาณและสลับไปยังอินพุตที่กำลังใช้งานทันที

สำหรับการเล่นเสียงอะนาล็อก HEGEL H600 มีอินพุต RCA สองชุด อินพุต XLR สองชุด รวมถึงเอาต์พุตอะนาล็อกสองคู่: หนึ่งคู่เป็นแบบคงที่ หนึ่งคู่เป็นแบบปรับได้ ทั้งสองคู่เป็น RCA แต่ผมใช้ Hi Level เพื่อเชื่อมต่อซับวูฟเฟอร์ REL S/5 แบบ 2.2

What’s NEW?

HEGEL อธิบายว่า H600 นั้นเป็นเหมือน H30A ขนาดย่อม แต่เพราะมันมาพร้อมตัวปรับลดระดับเสียงที่เงียบเป็นพิเศษจาก P30A โดยอ้างว่าสิ่งนี้เป็นการปรับปรุงที่ใหญ่ที่สุดของ H600 จากรุ่นก่อน H590 ฝ่ายขายและการตลาดของ Hegel ยอมรับว่ามันเป็นการปรับปรุง แต่ส่วนกำลังขยายที่ใช้วงจรเต็มใน P30A ยังคงดีกว่า บอร์ดขยายแรงดันไฟฟ้าของปรีแอมป์มีทรานซิสเตอร์ใหม่และได้รับการอัปเกรดสำหรับทุกอินพุต และอินพุตอะนาล็อกแบบสมดุลก็ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ส่วนประกอบภายในที่ดีกว่า

ซึ่งภาคเพาเวอร์แอมป์ของ H600 ใช้รูปแบบเดียวกันกับ H30A ซึ่งเป็นเพาเวอร์แอมพลิฟายเออร์อ้างอิงของ HEGEL แต่ความคล้ายคลึงกันนั้นหยุดอยู่ที่ตรงนี้ เทคโนโลยีส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาใช้ใน H600 มาจาก P30A กำลังขับที่ระบุคือ 303Wpc ที่ 8 โอห์ม และเกือบสองเท่าที่ 590 Wpc ที่ 4 โอห์ม ซึ่งสูงกว่ากำลังขับของ H590 เล็กน้อย H600 เป็นการออกแบบแบบ dual-mono มีทรานส์ซิสเตอร์กำลัง 12 ตัวต่อช่อง ซึ่งสามารถรองรับโหลดได้ถึง 2 โอห์ม HEGEL ใช้ SoundEngine2 ซึ่งเป็นวงจรแก้ไขข้อผิดพลาดที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดการบิดเบือนใดๆ ที่เกิดขึ้นในคลาส AB มีความผิดเพี้ยนต่ำกว่า 0.005% ที่ 1kHz ค่า damping factor สูงกว่า 4000 รับประกันว่าเครื่องนี้สามารถควบคุมไดรเวอร์ได้อย่างมั่นคง

HEGEL H600 มีขนาด สูง 6.7 นิ้ว × กว้าง 16.9 นิ้ว × ลึก 17.5 นิ้ว และน้ำหนัก 48.5 ปอนด์ ขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกับ H590 และหน้าตามีสไตล์คล้ายกัน แต่ฝาด้านบนหนากว่าและมีช่องระบายความร้อนที่ถูกกัดใหม่ ปุ่มควบคุมใหญ่ขึ้น การแสดงผล OLED อ่านง่ายจากตำแหน่งฟังของผม และสามารถปิดได้หากต้องการ โดยรวมแล้ว H600 รู้สึกแข็งแรงอย่างที่คาดหวังจากแอมพลิฟายเออร์ที่มีค่าตัวระดับนี้ HEGEL มักมีลักษณะที่เรียบง่าย อาจจะดูเรียบเกินไปสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการของเล่นราคาแพงที่ดูดี แต่ก็ยังชื่นชมสไตล์การออกแบบที่เน้นการใช้งานของ HEGEL ให้ความรู้สึกถึงบริษัทที่เน้นเรื่องเสียงมากกว่าลักษณะภายนอก ก็เพราะมันเป็นเครื่องเสียงนี่นา

รีโมต RC8 ที่ทำจากโลหะทั้งหมดมีคุณภาพทนทานและมีฟังก์ชันการปรับตั้งค่าต่างๆ เช่น การตั้งค่าระดับเสียงสูงสุดที่เปิดเครื่องเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังเกินไปเมื่อเปิดใช้งาน จะใช้งานคู่กับแอปของ HEGEL สามารถตั้งค่าให้เปิด/ปิด H600 เลือกอินพุตและปรับระดับเสียงได้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าการเลือกอินพุตอัตโนมัติและการเปิดเครื่องอัตโนมัติได้ด้วย

HOOK UP

เพื่อทดสอบแอมป์ HEGEL H600 Streaming DAC AMP ที่มี DAC Stage ชั้นดีในตัวนั้นต้องการการติดตั้งและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของวงจรแอมป์รวมถึง DAC ที่ติดตั้งมาภายในเครื่อง ซึ่งแม้ว่าจะทำงานได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว

เพื่อให้สมบูรณ์ในทุกการใช้งาน จะเติมด้วยอุปกรณ์เสริมชิ้นสำคัญ 3 ชิ้น ได้แก่ Innuos ZEN mini MK3 Network Music Server / Player, Rockna WaveLight DAC และ Esoteric N-01 XD SE Network DAC แล้ว

นอกจากจะใช้แอปพลิเคชันของ HEGEL เอง ยังรวมถึงแอปพลิเคชันของ 3rd Party เช่น Roon, MConnect, JPlay และ Tidal Connect เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมในการทดสอบ

with Innuos ZEN mini MK3 Network Music Server / Player

Innuos ZEN mini MK3 เป็น Network Music Server / Player ที่สามารถใช้งานร่วมกับ HEGEL H600 ได้อย่างง่ายดาย ผ่านการเชื่อมต่อ Ethernet โดยอุปกรณ์นี้สามารถจัดการและจัดเก็บเพลงได้ภายในตัวเอง และยังสามารถทำหน้าที่เป็น Server / Player รวมถึงเป็น Roon Core server ในตัวได้อีกด้วย เมื่อติดตั้งเชื่อมต่อกับ H600 ผ่านสาย Coax, Optical ตรงๆ ไปที่ DAC หรือ H600 และเชื่อมผ่านทาง Ethernet ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าการใช้งาน Innuos SENSE และ Roon สามารถทำให้การเล่นเพลงมีความลื่นไหลและได้คุณภาพเสียงที่สูงมาก

+Rockna WaveLight DAC

Rockna WaveLight DAC เป็นอีกหนึ่ง R2R DAC ที่ให้เสียงเอกลักษณ์ ใช้ในการทดสอบการทำงานของวงจรขยายแอมป์อันลือลั่นของ HEGEL H600 โดยการเชื่อมต่อผ่านสาย XLR หรือ RCA เพื่อทดสอบว่าเสียงที่ให้พลังขับสูบฉีด มีความบริสุทธิ์ มีรายละเอียดมากน้อยเพียงใด

Another step with Esoteric N-01 XD SE Network DAC

Esoteric N-01 XD SE Network DAC เป็น Network DAC ระดับเอกอุที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการสตรีมมิ่งคุณภาพสูง โดยเชื่อมต่อกับ HEGEL H600 ด้วยอะนาล็อก XLR Balanced

Innuos ZEN mini S With ROCKNA WaveLightDAC & ESOTERIC N-01XD SE

เริ่มฟังเพลงผ่าน Innuos ZEN mini S+ ROCKNA WaveLightDAC และ ESOTERIC N-01XD SE  ทั้งสองถูกเชื่อมต่อกับอินพุต XLR ทั้งสองของ H600 แน่นอนต้องการประเมินและเปรียบเทียบความสามารถของ HEGEL ในฐานะแอมป์ตัวเดียวกินรวบ จากนั้นก็จะเปิดใช้งาน DAC ในตัวของ H600 เพื่อวัดความสามารถของส่วนดิจิทัลของมันด้วย

ด้วยการใช้ Innuos ZEN mini + Rockna WaveLight DAC และ Esoteric N-01 XD SE แยกสำหรับการเปรียบเทียบกับ DAC Stage ในตัวของ H600 จะช่วยให้เห็นความแตกต่างในการถ่ายทอดเสียงระหว่างการใช้ DAC ภายนอกกับภายในตัว H600 นั่นเอง

Applications test

ใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับการทดสอบการทดสอบแอมป์ HEGEL H600 สามารถทำได้ด้วยการใช้งานแอปพลิเคชันของ HEGEL เองเพื่อปรับแต่งเสียงและควบคุมการทำงานสำหรับการสตรีมมิ่งความละเอียดสูง ก็อาจใช้แอปพลิเคชันของ 3rd Party สามารถเลือกใช้งาน Roon สำหรับการจัดการเพลงและการเล่นที่ลื่นไหล คุ้นมือ ส่วน MConnect, JPlay เพื่อความเป็นเลิศในการจัดการเพลงดีพอควร เสียงดี และราคาเยา สำหรับค่าสับตะไคร้เอ้ย… subscribe และ Tidal Connect ก็เป็นของดีที่มากับ TIDAL อยู่แล้ว ไหนจะมี AirPlay, ChromeCast อีกล่ะ

จากการติดตั้งใช้งานอุปกรณ์เสริมและแอปพลิเคชันหลากหลายประเภทกับ HEGEL H600 พบว่าแอมป์นี้มีความสามารถในการตอบสนองที่ดีเยี่ยมทั้งในการใช้งาน DAC Stage ภายในและการเชื่อมต่อกับ DAC ภายนอก เสียงที่ได้มีความละเอียด และมีมิติลึกที่น่าประทับใจ

นอกจากนี้การใช้งานแอปพลิเคชันของ 3rd Party อย่าง Roon, JPlay จนถึง Tidal Connect และ AirPlay หรือ ChromeCast ยิ่งเสริมให้การใช้งาน H600 มีประสิทธิภาพ มีอรรถประโยชน์สูงขึ้นไปอีก แสดงให้เห็นว่า HEGEL H600 เป็นอุปกรณ์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับระบบการฟังเพลงหลากหลายรูปแบบ มีความยืดหยุ่นสูงในการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่แตกต่างกันอย่างดีเยี่ยม

Show Time

ฟังเพลงหลากหลายแนว ยกอย่างเพลงบัลลาดสุดเศร้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนการเดินทางผ่านความฝันที่เต็มไปด้วยความเหงา “Crystal Ball” โดย Carolin No เป็นเพลงที่ชวนให้หลงใหล ซึ่งถ่ายทอดความรู้สึกของการครุ่นคิดและความโหยหา เพลงนี้เปิดตัวในปี 2011 ในอัลบั้ม *Favorite Sin* โดยมีความยาวประมาณ 3 นาที 40 วินาที เพลงนี้เป็นการผสมผสานระหว่างแนวโฟล์กและอินดี้ป๊อป ด้วยทำนองเปียโนที่แผ่วเบาและเสียงร้องอันอ่อนโยนที่ถ่ายทอดภาพของความเปราะบางและความหวัง

Carolin No เป็นดูโอ้จากเยอรมนีที่ประกอบด้วย Carolin และ Andreas Obieglo ซึ่งมักจะสำรวจอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้งในเพลงของพวกเขา “Crystal Ball” ก็ไม่ต่างกัน เพลงนี้เกี่ยวกับการแสวงหาความชัดเจนในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน ชื่อเพลงสื่อถึงความปรารถนาที่จะมองเห็นอนาคต เข้าใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นในขณะที่ปัจจุบันยังเต็มไปด้วยความคลุมเครือและไม่แน่นอน

เนื้อเพลงของ “Crystal Ball” สะท้อนถึงความโหยหาในการเข้าใจเส้นทางชีวิตของตนเอง มันพูดถึงความรู้สึกที่เป็นสากลในการค้นหาคำแนะนำและความชัดเจนเมื่อเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก คริสตัลบอลเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลัง สื่อถึงความหวังในการมองเห็นล่วงหน้า แม้จะรู้ดีว่าสิ่งที่ไม่รู้จะยังคงมีอยู่

แม้ว่า “Crystal Ball” อาจไม่มีการคัฟเวอร์ที่โด่งดังมากนัก แต่ความพิเศษและความเป็นส่วนตัวของเพลงนี้ทำให้มันเป็นเพลงที่โดนใจผู้ที่ได้ฟัง การแสดงต้นฉบับโดย Carolin No ยังคงเป็นเวอร์ชันที่เป็นนิยามของเพลงนี้



หากชอบ “Crystal Ball” คุณอาจอยากลองฟัง “Holocene” โดย Bon Iver ซึ่งทั้งสองเพลงมีคุณสมบัติที่สะท้อนและเต็มไปด้วยบรรยากาศคล้ายคลึงกัน แต่ “Holocene” เพิ่มความซับซ้อนด้วยการจัดเรียงเสียงที่ประณีตและเสียงร้องที่แผ่วเบาและหลอน

ทีนี้จะเล่นเพลงที่ซับซ้อนขึ้นจากเพลงบรรเลงแห่งความลึกลับที่ดังกังวานดั่งเสียงสวดมนต์ในโบสถ์โบราณ ที่ปลุกจิตวิญญาณในส่วนลึกของจิตใจ บทเพลงแห่งบรรยากาศเหนือจินตนาการ การเรียบเรียงเชิงออร์เคสตราเครื่องดนตรี คณะนักร้องประสานเสียง, เครื่องสาย, กลอง, ซินธ์อิเล็กทรอนิกส์

“Dark Voices” โดย ERA เป็นเพลงที่น่าหลงใหลจากอัลบั้ม *ERA Live Experience* ที่ผสมผสานเสียงสวดมนต์เกรกอเรียน (Gregorian chants) กับการประพันธ์ดนตรีสมัยใหม่และเสียงร้องอันล่องลอย สร้างบรรยากาศที่ลึกลับและไม่เหมือนใคร ERA เป็นที่รู้จักในด้านการผสมผสานดนตรีคลาสสิก ร็อก และอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับธีมโบราณและลึกลับ ทำให้เพลงนี้เป็นการแสดงที่รู้สึกเหมือนการเดินทางทางจิตวิญญาณข้ามกาลเวลา

*ในอัลบั้ม ERA Live Experience* เพลงนี้มีความยาวประมาณ 5 นาที แนวเพลงนิวเอจ นีโอคลาสสิก ป็อปแบบเกรกอเรียให้อารมณ์ลึกลับ



เรื่องราวเบื้องหลังเพลง: ERA ก่อตั้งโดยนักประพันธ์ชาวฝรั่งเศส Eric Lévi และเป็นที่รู้จักในด้านการผสมผสานดนตรีสมัยใหม่เข้ากับองค์ประกอบดนตรีโบราณ แทร็ก “Dark Voices” เป็นตัวอย่างที่ดีของสไตล์ของพวกเขา ที่นำเสนอการเรียบเรียงเสียงประสานที่ทรงพลังและจังหวะร่วมสมัย เพลงนี้มีท่อนร้องสวดที่น่าขนลุกและการประสานเครื่องดนตรีหลายชั้นที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนถูกพาไปยังโลกแห่งความลึกลับโบราณ เพลงนี้เช่นเดียวกับเพลงอื่นๆ ของ ERA มักใช้ในซาวด์แทร็ก เทรเลอร์ และการแสดงละคร เนื่องจากปลุกอารมณ์ดราม่าและความยิ่งใหญ่ แม้ว่าเนื้อเพลงของ “Dark Voices” ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การเล่าเรื่องโดยตรง แต่เน้นไปที่การสร้างความรู้สึกหรือบรรยากาศมากกว่า ทำนองร้องที่คล้ายกับบทสวดมักเป็นภาษาละตินทำให้เกิดธีมเกี่ยวกับจิตวิญญาณ ความขัดแย้งภายใน และการต่อสู้ชั่วนิรันดร์ระหว่างแสงสว่างและความมืด เพลงนี้ดูเหมือนจะสะท้อนถึงความลึกซึ้งของอารมณ์มนุษย์และการแสวงหาความรู้แจ้งอันไร้กาลเวลา

หลังจากเพลงที่เร้าใจ ก็จะลดจังหวะลง H600 ให้เสียงให้มาอยู่ข้างหน้าและตรงกลาง ด้วยความชัดเจนในการออกเสียงที่โดดเด่น เสียงร้องถูกนำเสนออย่างชัดเจนรอบตัว เวทีกว้าง ความสามารถของ HEGEL ในการถ่ายทอดรายละเอียดระดับนี้อย่างเป็นธรรมชาติและชัดเจนถือว่าน่าทึ่ง

วกมาที่วงดนตรีร็อกยุค ’70 บอกเลยว่าขนลุกเมื่อได้ฟังอัลบั้มหนึ่งที่เคยซื้อไว้นานแล้วคือ the Guess Who:Live at the Paramount แต่ก็ไม่ค่อยได้ฟัง ซึ่งเป็นการบันทึกการแสดงสดไว้ตั้งแต่ปี 1972 ไม่ได้ฟังอัลบั้มนี้มานาน จับริปลง Innuos ZEN mini MK3 และทันทีที่ได้ยินจาก H600 ก็รู้สึกประทับใจกับความชัดเจนของเสียงในบันทึกนี้ถือว่าบันทึกดีเลย ให้บรรยากาศร็อกที่สนุก จนรู้สึกอยากเปิดเสียงให้ดังสนั่นลั่นห้อง เพลงเอกอย่าง Share the land,American Woman น้าแกก็อิมโพรไวซ์ได้สุดติ่ง

เพิ่มระดับเสียงดังเท่าที่อยากได้ยิน H600 ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ขยายเสียงกีตาร์ ให้สเกลเสียงและขยายพื้นที่รอบๆ โดยไม่เกิดความกร้าวจนแข็งกระด้าง หรือความเพี้ยนที่เกิดจากแอมพลิฟายเออร์ที่มีกำลังน้อยกว่าถูกใช้เกินขีดจำกัด มีเสียงที่สมจริงอย่างน่าทึ่ง พื้นที่ในฮอลล์ที่ใหญ่ถูกจับไว้ในบันทึกนี้ได้รับการถ่ายทอดโดย H600 อย่างสมจริง ถ่ายทอดอะคูสติกส์ในห้องโฮมสตูดิโอที่มีความสงัดแต่ห้องเล็ก ให้ฟังดูใหญ่แต่ไม่กว้างเกินไป เสียงใหญ่และทรงพลังในช่วงเสียงต่ำ แต่สดใสในช่วงเสียงสูง ดนตรีถูกถ่ายทอดด้วยพลังที่น่าทึ่ง อัดจนเกือบจะทำให้รู้สึกหวั่นว่า “หูจะดับ” ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะฟังเลยในตอนแรก แต่ก็ลงเอยด้วยการฟังชุดซีดีนี้ทั้งหมดจนจบทั้งอัลบั้ม

“อัลบั้มโอ้ฟาย” ที่บันทึกดีๆ “สามัญประจำบ้าน” อย่างไลฟ์สดที่โรงจำนำ H600 ก็ยิ่งทำให้มันฟังได้ละมุนสมบูรณ์แบบ แนวนี้ยิ่งได้ Background ที่สงัดของ H600 ทำให้ได้ยินเสียงของผู้ชมและเสียงกระทบของเครื่องแก้วในผับ (ผับเดียว) ก่อนที่การแสดงกำลังจะเริ่มขึ้น ให้บรรยากาศสมจริงอย่างน่าทึ่ง รู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในสถานที่นั้น สัมผัสได้ถึงความสมจริงมาก ไฟล์ DSD ถ่ายทอดได้หมดจด หรือแม้แต่ MQA CD rip ก็ฟังได้เนียนกริบ DAC Stage ในตัวก็คลี่ได้หมดจดทุกเม็ดถึง DXD 352.4Hz/24 bit แสดงผลบน display ตรงปกเป๊ะ

สตรีมมิ่งนี่ เปิดโอกาสให้เราได้รู้จักแนวเพลงที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนเสมอ แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งชอบ แม้ว่าความสนใจในดนตรีของเราจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่นี่คืออัลบั้มที่มักจะกลับมาฟังเสมอๆ การบันทึกเสียงทำได้ดีมาก และหากใช้เครื่องเสียงที่เหมาะสม จะรู้สึกว่าทุกอย่างเกิดขึ้นตรงหน้า เป็นตัวอย่างที่ดีของสิ่งนี้ ผ่าน H600 เสียงที่ได้ยินเป็นเสียงที่ดีที่สุดที่เคยได้ยิน ทุกอย่างชัดเจนเป็นพิเศษและยังคงเป็นเช่นนั้นเมื่อเพิ่มระดับเสียง แอคูติกกีต้าร์ฟังดูเต็มอิ่มและทรงพลัง หรือจะเป็นเปียโนเสียงคมชัดและชัดเจนทุกตัวโน้ต สะท้อนออกมาจากเส้นสายอย่างน่าประทับใจ เบส อิมแพ็คของเพอร์คัสชัน กระทบหน้ากลองรวมถึงสแนร์ ก็เช่นกัน นักดนตรีถูกวางตำแหน่งชัดเจนบนเวทีเสียงที่กว้างแต่ไม่ลึกนัก สิ่งที่สังเกตได้มากที่สุดกับ H600 คือบรรยากาศรอบๆ เครื่องดนตรี บอกเลยว่าไม่เคยรู้สึกถึงพื้นที่นี้อย่างชัดเจนขนาดนี้มาก่อน

ชัดเจนว่า H600 สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย สามารถเปิดได้ระดับความดังมากโดยไม่เกิดการคลิป (clipping) ทำให้สามารถเปิดเสียงดังได้ตามที่ต้องการ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเล่นเสียงเบาได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะมีเวทีเสียงที่เล็กลง แต่ก็ยังคงเปิดเผยรายละเอียดได้อย่างน่าทึ่ง จึงใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้อย่างเต็มที่ และเริ่มขยายเวลาการฟังเพลงของคุณให้นานขึ้นโดยไม่รู้ตัว เริ่มโดยเล่นเพลงเบาๆ ลากยาวจนถึงดึกดื่น จริงๆ แล้วในห้องโฮมสตูดิโอของผมนั้นสามารถเปิดได้ดังเท่าที่อยากจะเปิด โดยไม่ไปรบกวนใครเลยก็ตาม ยกเว้นว่าลูกสาวแม่ยายจะมาเคาะประตูเตือนว่า

“ไหนๆ โม้กับหมอไงว่าไม่เคยนอนดึก” ฮา

กำลังขับที่เหลือๆ บางท่านอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีแอมพลิฟายเออร์กำลังขับ 300 วัตต์++ ต่อข้างหรอก หรือเพราะอาจไม่เคยใช้กำลังขับขนาดนั้น แต่ความสามารถในการถ่ายทอดและแสดงออกของ H600 ทำให้คิดว่า “กำลังขับที่มากกว่าดีกว่า” ถึงแอมป์จะใหญ่  แต่ว่าเสียงก็จะไม่หนา หนักหรือเต็มเปี่ยม ล้นเกินไปสำหรับห้อง Home Studio เล็กที่เอาอยู่ แต่ทว่าการมีพลังสำรองในการควบคุมลำโพงได้ดีเยี่ยม ผลลัพธ์คือการที่กำลังขับรวมกับค่า damping factor ที่สูง ทำให้มีความยิ่งใหญ่แต่อ่อนโยน ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่เงียบสงัดหรือช่วงพีคที่มีไดนามิกสูงๆ H600 สามารถควบคุมวูฟเฟอร์ของลำโพง Manger ZeroBox ของผมได้อย่างหมดจด ให้ไดนามิกส์เกินกว่าที่คาดหวังจากราคาในระดับนี้  โอ้ว… ค่า damping factor สูงขนาดนี้มันเป็นแบบนี้นี่เอง ไม่สามารถมองข้ามได้เลย

What’s a Differences?

ฟีเจอร์หลักของ HEGEL H600 คือแอมป์ที่มี Streaming DAC ในตัว ก็ต้องเล่นซิ

แม้จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลายตัว แต่ก็ได้ใช้เวลาในการทดลองใช้มันมากพอควร ถือว่ามากพอจนบางครั้งเริ่มคุ้นชิน… แค่นี้ก็พอ
DAC Stage ของ HEGEL ให้เสียงโปร่ง สะอาด ให้รายละเอียดระยิบระยับที่ฟังได้ชัดเจนดีมากแต่ก็มีเนื้อ อันเป็นคาแรกเตอร์ของ ESS DAC Chip เรียกว่าดีพอเลยล่ะถ้าไม่เทียบกันจริงๆ กับตัวอื่น ไม่ใช่เพราะเสียงมันฟังดูใกล้กับ N-01 XD SE หรือ WaveLight DAC หรอกนะ ที่แน่ๆ ก็มีรายละเอียดเหนือกว่า DAC Stage ที่ติดตั้งมากับ Innuos ZEN Mini MK3 ซึ่งฟังได้ชัด แต่ก็เข้าใจได้ มันก็ตามราคาค่าตัวนั่นแหละ

จะเด่นตรงเสียงต่ำสุดของเปียโนมีน้ำหนักมากขึ้น ทำให้เครื่องดนตรีนี้มีตัวตนที่ทรงพลังมากขึ้น และเสียงบาริโทนที่เข้มข้น  มีรายละเอียดดี แต่เมื่อเล่นหลายตัว สลับระหว่างพวกมันบางครั้งสับสนอยู่เหมือนกัน พบว่า DAC ของ HEGEL มอบความชัดเจนที่ดีมาก แม้ไม่เคยฟังกับ DAC AKM ใน H590 แต่ก็เคยฟังจากตัวอื่นมาก็พอรู้แนว ประทับใจกับ DAC จาก Sabre ใน H600  ความต่างเหล่านี้กับไฮไลต์มันอยู่ที่แอมป์ในตัวของ H600 นี้ได้ขับให้ฟังได้ชัดถึงความต่างในแต่ละสเตปเมื่อขยับตัวต้นทาง ซึ่งหมายถึง DAC ที่ไล่สเตปขึ้นไป อีกทั้งแอปที่เล่นด้วยก็ส่งผลที่จะได้ยินถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน

เทียบกับแอมป์เจ้าถิ่นตัวที่เป็นเจ้าของพื้นที่มานานหลายปี ก็มีกำลังขับ 300 วัตต์ ที่ 8 โอห์มเช่นกัน ซึ่งเทียบเท่ากับ H600 ในเรื่องของพลัง ซึ่งก็ไม่เป็นรองเลย นอกจากนี้มันยังไม่มีความสามารถในการสตรีมของ HEGEL แต่เมื่อรวม DAC ภายในที่เป็นตัวเลือกราคาของมันใกล้เคียงกับของ H600 แน่นอนว่าแนวเสียงต่างกัน สงัดและโปร่งเป็นที่น่ายกย่อง เสียงกลางน่าประทับใจที่ HEGEL ยังมีการนำเสนอได้สบายๆ อย่างไร้ความพยายามที่ความถี่สูง ประมาณว่าปลายแหลมพลิ้วยังเปิดได้ดังแบบไม่ต้องเค้น ซึ่งส่วนใหญ่เสียงอาจจะกลายเป็นกร้าน แข็ง ไม่สบายหู ประมาณว่าล้าหู โดยเฉพาะหลังจากฟังเป็นเวลานาน น่าแปลกที่สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นเลยกับ HEGEL

ใครก็ตามอาศัยอยู่บนคอนโดหรือแม้แต่ผมเอง ก็ฟังในห้องเล็กที่มีความสงัดดีพอ เรื่องนี้อาจจะไม่เป็นปัญหาใหญ่โตอะไรเลยเพราะไม่จำเป็นต้องเปิดแบบอัดๆ ก็ฟังได้สะใจ เปิดเบาก็เสียงมาครบทุกย่าน แต่ในห้องฟังขนาดใหญ่การมีพลังสำรองมากพอ จะเป็นประโยชน์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้  และเมื่อต้องใช้พลัง แอมป์ไฮเอนด์อย่าง H600 ก็ไม่มีความเพี้ยนให้ได้ยินอย่างแน่นอน

HEGEL H600 ให้พลังที่จะขับลำโพงโหดๆ เปิดดังๆ ได้ง่ายดายอันเป็นสิ่งที่คาดหวังได้ สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือรายละเอียดที่เหนือกว่า Background noise ต่ำที่ให้ความสงัด จึงทำให้มีความสามารถในการแยกเสียง ดนตรีมีตัวตน ให้รายละเอียดออกมาได้ดีในทุกย่านความถี่แม้เปิดในระดับเสียงต่ำๆ หากคุณมีห้องฟังขนาดใหญ่หรือลำโพงที่มีประสิทธิภาพต่ำ (หรือทั้งสองอย่าง) บางทีอาจต้องการพลังขับสูงๆ และในกรณีนี้ H600 จะมีความได้เปรียบมาก

HEGEL H600 มีความเฉพาะตัวคือให้เสียงเป็นธรรมชาติ โปร่ง และให้รายละเอียดดีมาก มีอิมแพ็คดี โดยมีมิติเสียงกว้าง ลึก สูง โอบล้อมเสมือนสามมิติ ให้บรรยากาศดนตรีเต็มเพดาน และผนังโดยรอบทั่วห้อง เป็นสิ่ง “พึงประสงค์” ที่มันมอบให้นั้นย่อมดีเยี่ยมและน่าพึงพอใจที่สมควรได้รับมิใช่รึ

 Wrap Up: The All In One Solution High End

HEGEL ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตแอมพลิฟายเออร์และอินทิเกรตแอมป์แบบตัวเดียวกินรวบ สามารถจัดการกับลำโพงที่ขับยากที่สุดได้ การถ่ายทอดรายละเอียดและความซับซ้อนของความถี่ต่ำทำให้ประทับใจมาก เสียงกลางและเบสสูงเพิ่มความละเอียดและความประณีต

แอมป์เครื่องนี้ให้เสียงสะอาดมาก ซึ่งก็ไม่ได้เน้นรายละเอียดจนเกินไป แต่คำว่าสะอาดสื่อให้ถึงการรวมกันทางดนตรีระหว่าง ตัวต้นทาง แอมป์ ลำโพง และยิ่งในห้องฟังที่สงัดด้วยแล้ว ทุกอย่างได้ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว มันคือที่สุด ในค่าตัวเท่านี้ ดีกว่านี้มี แต่อาจต้องจ่ายมากกว่านี้แน่นอน

ต้องไม่ลืมว่า ต่อให้ลงทุนไปเท่าไร ชุดเครื่องเสียงดีเพียงใด แต่ถ้าห้องไม่ช่วย จะฟังมันออกง่ายๆ เหรอ ต้องมโนเท่านั้น น่าสนใจในวิธีที่อุปกรณ์อื่นๆ ที่ทำหลายฟังก์ชันให้ได้คุณภาพดีเท่าในระดับราคานี้ บางทีอาจไม่สามารถให้ประสิทธิภาพได้เท่า จะเป็นเพราะ SoundEngine2 หรือ P30A และ DAC Stage ใหม่เป็นเพียงการออกแบบที่ดีครอบคลุมคุณสมบัติโดยรวม? บอกเลยว่าชอบมันมาก!

HEGEL H600 เป็น Integrated Streaming DAC/Amp ที่ยอดเยี่ยมมาก อย่างการที่ใช้ DAC อย่าง Rockna WaveLight DAC หรือ N-01XD SE Network DAC เป็นตัวอ้างอิงที่ต้องบอกว่า ‘สุดจริง’ ทำให้รู้ถึงประสิทธิภาพ พลังเสียงของ Amp Stage อย่างเฉพาะเจาะจงในฐานะอินทิเกรแอมป์เรือธงจากถิ่นไวกิ้งและก็พบว่าสามารถบอกถึง DAC Stage ในตัวของ H600 นั้น “ดีพอ เรียกว่าดีเลยล่ะ” มีแอที่ครอบคลุมการใช้งานในยุคสตรีมมิ่งครองโลก ถ้าไม่ต้องการไปไกลกว่านี้ ก็ไม่จำเป็นต้องขนขวายหา Streamer Player ใดๆ มาต่อพ่วงอีกให้รกและเกินงบ เก็บเงินไว้สอยลำโพงคู่ใจซักคู่ จะดีกว่า

วงจร Audio Engine2 มี Damping Ratio ที่สูงมากให้กำลังขับเหลือเฟือ ขับได้โดยปราศจากความเครียด บริสุทธิ์ในทุกย่านความถี่ และที่น่าประทับใจคือ HEGEL ยังรวม DAC คุณภาพสูงที่สามารถเทียบได้กับ DAC ภายนอกที่มีราคาหลายแสน นี่เป็นอินทิเกรตแอมป์และ DAC ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยได้ยิน แม้ว่า HEGEL H600 จะมีราคาหลายแสน แต่คิดว่ามันจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่านี้หรือมากกว่าในการหาอินทิเกรตแอมป์และ Streaming DAC (ไม่ว่าจะเป็นตัวเดียวหรือสองตัว) ที่สามารถทำงานได้ดีกว่านี้ ให้ตุยซิ HEGEL H600 ได้ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นเลยนา

HEGEL H600 นำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเทคโนโลยี Sound Engine ที่มีลิขสิทธิ์เฉพาะ ค่า Damping Factor ที่สูง ปรีแอมป์จาก P30A และ DAC Stage ใหม่ด้วย ESS 9038Q2M ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้คุณภาพเสียงที่ได้มีรายละเอียดและสมจริงมากยิ่งขึ้น ทำให้การฟังเพลงเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ไร้ที่ติ ความแม่นยำในการควบคุมลำโพง ค่า Damping Factor สูงช่วยในการควบคุมการเคลื่อนที่ของกรวยลำโพงอย่างแม่นยำ ลดการสั่นสะเทือนที่ไม่ต้องการ ทำให้เสียงมีอิสระและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ด้วยการควบคุมลำโพงได้ดี เสียงเบสจึงมีความแน่นกระชับและมีน้ำหนัก ไม่พร่ามัว ทำให้ประสบการณ์การฟังเพลงได้อารมณ์ ช่วยให้เกิดมิติของเสียงที่กว้าง ลึกและมีมิติที่สมจริง เสมือนว่าเราอยู่ในสถานที่จริงของการแสดงในคอนเสิร์ตฮอลล์

HEGEL H600 Flagship Streaming DAC Amp จากดินแดนไวกิ้งเป็นอุปกรณ์เครื่องเสียง “ตัวเดียวกินรวบ” ที่ตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงอย่างแท้จริง ด้วยคุณภาพเสียงกับฟีเจอร์ที่ให้มาอย่างเหนือชั้น ออกแบบเรียบง่ายรูปลักษณ์แม้ไม่หวือหวา แต่งดงามด้วยเสียงดนตรีอันมีรายละเอียดเป็นธรรมชาติ ชวนให้หลงใหล ฟังได้นาน ได้รับประสบการณ์การฟังที่สมบูรณ์แบบ คุ้มค่าแก่การลงทุนที่สุด

ด้วยประสิทธิภาพกับความยืดหยุ่นอันน่าทึ่ง พกความสามารถที่ครอบคลุมเช่นเดียวกับ Swiss Army Knife  ในรูปแบบอินทิเกรแอมป์ตัวเดียวกินรวบ รุ่นสูงสุดของ HEGEL

ถ้าคุณกำลังมองหา Streaming DAC AMP ตัวจบ ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการในการฟังเพลงของคุณ HEGEL H600 ตัวนี้คือคำตอบสุดท้าย ลองสัมผัสเสียง ฟีเจอร์ที่สมบูรณ์แบบได้ด้วยตัวคุณเอง!. ADP

HEGEL: H600 ราคา 450,000 บาท

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
Discovery HiFi
L1 ห้อง 201,203
CDC ถนนประดิษฐมนูธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา)
โทร.085-517-8292

ผู้เขียน: ธรรมนูญ ประทีปจินดา
Audiophile/Videophile Reviewer
อดีตที่ปรึกษาฝ่ายวิศวกรรมสนับสนุนการผลิตโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ
ผู้เฝ้าติดตามความเป็นไปของดิจิทัลออดิโอ ตาไม่กะพริบ