ธีรวัฒน์

นักเขียน : ธีรวัฒน์ โชติสุต :

 วันหนึ่งผมได้รับข้อความทางไลน์จากนักเล่นสอบถามมาว่า… มีอะไรที่ดีกว่าตัว ProPower 3000 จะแนะนำอีกหรือเปล่า? อยากได้อะไรที่ดูไฮเอนด์มากกว่า Pro­Power ณ ตอนนั้น ผมยังไม่ได้มีอะไรในหัวเลย ก็เลยให้คำตอบไปว่า เดี๋ยวผมลองดูให้นะครับ

 จากคำถามที่ยังไม่ได้ตอบผม ก็ท่องอินเทอร์เน็ตไปเรื่อย นั่งค้นหารูปถ่ายเมื่อครั้งเดินทางไปชมงานเครื่องเสียงที่ฮ่องกง เจอรูปของ StromTank S5000 ที่ได้ถ่ายเอาไว้ ก็เลยยกหูติดต่อทาง คุณวันพัฒน์ แนะนำไปว่า น่าจะลองติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่าย StromTank นะครับ ถ้าดูยอดจาก ProPower ที่จำหน่ายอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว น่าจะขอเป็นตัวแทนได้ง่ายกว่า

 เพราะประสบการณ์ในเรื่องนี้น่าจะทำให้ทางโน้นพิจารณาตัวแทนได้ไม่ยาก

หลังจากนั้นไม่นาน ทาง บริษัท วันพัฒน์ 59 จำกัด ก็ได้แจ้งข่าวกลับมาว่าได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย StromTank อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว จริงๆ ผมได้รับทราบมาว่า ก่อนหน้านี้ก็มีร้านค้าในบ้านเราเคยติดต่อขอเป็นตัวแทนเช่นกัน แต่ทางโน้นปฏิเสธ จึงเกิดเป็นข้อสงสัยว่า

บริษัท วันพัฒน์ 59 ทำอย่างไรจึงได้รับการแต่งตั้งเป็น ตัวแทน แต่จริงๆ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะอะไร

จุดหนึ่งที่ผมสนใจในตัว StromTank ก็คือ… ลักษณะรูปร่างที่ดูแข็งแรงบึกบึน สวยงาม สมเป็นสินค้า ระดับไฮเอนด์แท้จริง ยิ่งเมื่อตามไปหาข้อมูลที่มาที่ไป ของผู้ก่อตั้ งStromTank คื อใคร เป็นใครมาจากไหน ก็ พบว่า… ผู้ก่อตั้ง Stromtank ก็คือ Wolfgang Meletzky ในอดีตบุคคลผู้นี้ก็คือ หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ MBL มาก่อนนั่นเอง และในงาน CES2016 ทาง Mr. Wolf­gang Meletzky ก็ได้เดินทางไปเปิดตัวด้วยตนเอง เช่นกัน ดังนั้น ผมเชื่อว่า ถ้านักเป็นเล่นระดับไฮเอนด์ มาก่อน หากรู้จักเครื่องเสียงยี่ห้อ MBL และรู้จัก Mr. Wolfgang Meletzky ก็คงจะทราบดีว่า สินค้าที่ ผ่านมือความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าผู้ควบคุม การออกแบบมานั้น ไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัย หรือ ตั้งคำถามในเรื่องคุณภาพเสียงกันอีกต่อไป

โดยพื้นฐานในฐานะผมจบมาทางด้านวิศวกรรม ไฟฟ้า และเคยได้รับการอบรมในเรื่องปัญหาคุณภาพ ทางระบบไฟฟ้า ไม่ว่าจากภายในประเทศ หรือได้ เดินทางไปอบรมเรื่องนี้ในต่างประเทศ ทั้งฝรั่งเศสและ อเมริกา แล้วกลับมาทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ระบบ ไฟฟ้าที่สะอาดมากที่สุดก็คือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนแรงดัน ไฟฟ้า AC มาเป็น DC และแปลงกลับไปเป็นแรงดัน ไฟฟ้ากระแสสลับ AC อีกครั้งนี่แหละ ไม่มีอุปกรณ์ เครื่องกรองสัญญาณรบกวนใดๆ ที่จะให้ความสงัดของ เสียงได้เท่าอุปกรณ์พวกนี้อีกแล้ว

และจากที่ผมมีประสบการณ์ในการทดสอบ ตัว ProPower มาก่อน ฟังกันครบทุกรุ่น ตั้งแต่ 1050, 2000 และ 3000 รวมถึงซิสเต็มไฮเอนด์ใหญ่ๆ ที่ใช้ แรงดันไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ล้วนๆ ผมจึงคุ้นเคยเสียงจาก พลังสะอาดจากแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี และหลังจาก ได้มีโอกาสเวียนฟังตามห้องต่างๆ ในซิสเต็มไฮเอนด์ก็เลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะลงมือเขียนบททดสอบ StromTank S5000 และ S2500 อย่างเป็นทางการเสียที่ โดยอ้างอิงจากซิสเต็มไฮเอนด์ที่ได้ลองฟังมาเพื่อจะได้สร้างความเข้าใจใหม่ๆ ที่พบเห็นเสมอในวงการเครื่องเสียงบ้านเราให้หมดข้อสงสัย หรือข้อคลางแคลงใจ และคลายความกังวลต่างๆ ออกทั้งหมด

ทำควมเข้ใจเรื่องพื้นฐนกันก่อน

ก่อนจะเข้าไปถึงรายละเอียดเรื่องอื่นๆ เรามาทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานกันก่อน

หลักการทำงานของ StromTank แตกต่างจาก ProPower ที่ผมเคยทดสอบก่อนหน้านี้ ProPower ทำงานแบบ On Grid ในลักษณะที่เรียกว่า โหมดไฮบริด ผสมผสานทั้งระบบไฟฟ้าของบ้านและแบตเตอรี่แบ็กอัพ ในการรักษาแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ตลอดที่ 230V แต่สำหรับ Stromtank การทำงานมีสองแบบ คือ แบบ “On Grid” และ “Off Grid”

ในลักษณะการทำงานแบบ On Grid นั้น แรงดันไฟฟ้าขาออกจะเท่ากับแรงดันไฟฟ้าขาเข้าที่ต่อจากเต้ารับไฟฟ้าของบ้านเป็นหลัก แรงดันไฟฟ้าขาเข้าเท่าไหร่ ก็จะออกเท่ากันในขาออก ส่วนแบตเตอรี่จะทำงานในลักษณะแบ็กอัพ โหมดนี้ใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่เช่นกัน โดยเข็มด้านหน้าจะตีกลับไปยังฝั่ง Charge และไฟดิสเพลย์จะโชว์สีฟ้า ส่วนโหมด Off Grid จะตัดการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของบ้านทั้งหมด ไฟดิสเพลย์จะโชว์สีเขียว ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่อย่างเดียว แรงดันไฟฟ้าที่ได้จึงสะอาด และปราศจากการรบกวนทางไฟฟ้าต่างๆ โดยสิ้นเชิง ส่วนการใช้งานจากแบตเตอรี่ ถึงแม้ว่าจากสเป็กกำหนดเอาไว้ 8 ชั่วโมง สำหรับรุ่น S5000 และ 4 ชั่วโมง สำหรับ S2500 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับค่า Power Con­sumption ของแต่ละเครื่องรวมกันเช่นกัน

หลักการคิดง่ายๆ อย่าง S5000 ก็ประมาณ 5000wH เมื่อเอาตัวเลขของ Power Consump­tion มาหารค่า 5000 wH เราก็ได้ระยะเวลาการเล่นที่ใช้แบตเตอรี่ในโหมด Off Grid อย่างคร่าวๆ ได้สมมติเช่น ซิสเต็มเครื่องเสียงของเรามีค่า Power Consumotion รวมกัน 600 วัตต์ ก็จะใช้ระยะเวลาการเล่นจากโหมด Off Grid ได้ประมาณ 5000/600 ก็ได้ 8.33 ชั่วโมง หากเป็นรุ่น S2500 ก็คิดเช่นเดียวกันคือ 2500wH ซิสเต็มเครื่องเสียงไฮเอนด์ดูเหมือนกินพลังไฟฟ้าค่อนข้างเยอะ มีการใช้ไฟค่อนข้างมาก แต่เมื่อผมนำแอมป์มิเตอร์ไปจับกระแสการใช้งานทั้งหมด แอมป์มิเตอร์โชว์ค่ากระแสจริงๆ ตั้งแต่ 3.4 – 5.1 A เท่านั้นเองครับ ค่าที่สวิงของกระแสเกิดจากระดับโวลุ่มที่เปิด และอิมพีแดนซ์ของลำโพงที่เปลี่ยนแปลงตามระดับความถี่เสียง ทำให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าไม่คงที่

ดังนั้น ข้อควรระวังก็คือ สำหรับอินทิเกรตแอมป์และเพาเวอร์แอมป์ ค่า Power Consump­tion ตามที่ระบุ กับความเป็นจริงจะแตกต่างกัน เนื่องจากกระแสที่ใช้ไม่คงที่ แปรเปลี่ยนตามค่าอิมพีแดนซ์ของลำโพงและระดับความดัง บางครั้งดูเหมือนมากเกินเครื่องจะรับได้ แต่เล่นจริงก็เล่นได้เช่นกัน แต่เมื่อเปิดดังมากๆ แบตเตอรี่จะหมดเร็ว

StromTank ควมปลอดภัยของชุดเครื่องเสียงและพลังงนสะอดแท้จริง

นักเล่นที่เคยเข้าฟังการบรรยายของผมในงาน BAV ในช่วงหลายปีหลังๆ ผมมักพูดบ่อยครั้ง และพูดมาตลอด เกี่ยวกับเครื่องกรองไฟสัญญาณรบกวนสำหรับซิสเต็มเครื่องเสียงนั้น ผมมักแนะนำให้ซื้อ ProPower มาตลอด พอมีการเปิดตัว StromTank ผมก็แนะนำStromTank เพิ่มเติมอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับซิสเต็มเครื่องเสียงไฮเอนด์ ส่วนในงบที่น้อยลงมา ผมก็แนะนำเป็น Isolation Transformer มากกว่าอย่างอื่น แต่ในกรณีของ Isolation Transformer ผมมักย้ำเสมอว่า ต้องแน่ใจก่อนว่า แรงดันไฟฟ้าที่บ้านไม่ได้เกิน 230V จริงๆ และต้องวัดค่าแรงดันไฟฟ้าระหว่าง N กับ G ก่อน ว่าเกิน 0.02V หากค่าไม่เกินก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Isolation Transformer ก็ได้ครับ

ในเรื่องแรงดันไฟฟ้าทุกวันนี้ บางพื้นที่ในกรุงเทพฯ แรงดันไฟฟ้าปกติประมาณ 240V ไม่ใช่ 230V ในหลายพื้นที่ๆ อาทิ แถวศรีนครินทร์ พระราม 9 หรือย่านสีลม ที่ผมได้ไปตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าของห้องอาหารก็เจอ 240V เช่นกันทำให้ตู้เย็นได้ความเสียหายค่อนข้างบ่อย ส่วนของเครื่องเสียง ผลที่ตามมาก็คือ เครื่องเสียงยุคเก่าๆ ที่มักออกแบบมาให้ใช้ 220V เมื่อเจอแรงดันไฟฟ้า 230V – 240V ก็จะเสื่อมเร็วขึ้น นั่นคือเหตุผลที่ใครสนใจซื้อแอมป์หลอดในตำนาน แนะนำให้ดูหลังว่า เครื่องระบุแรงดันไฟฟ้าเท่าไหร่ 220V หรือเปล่า หากใช่… ก็ให้วัดหลอดทุกหลอดก่อนจะซื้อ และค่าประจุไฟฟ้าของตัวคาปาซิเตอร์ เพราะการเล่นที่แรงดันไฟฟ้าเกินมานานๆ เราอาจไม่ได้ซื้อของในตำนาน แต่กำลังซื้อของเสื่อมสภาพจากอุปกรณ์ดังในอดีต บางครั้งบางแห่งก็บอกว่า ผลการวัดและทดสอบมาแล้วว่าปกติ แต่เรนจ์อ้างอิงที่จะบอกว่าปกติหรือไม่ปกตินั้น อ้างอิงจากไหน จากโรงงานผู้ผลิตหลอด หรือค่าสเปกทั่วไป

เหตุผลที่ผมบอกว่า StromTank คือความปลอดภัยของชุดเครื่องเสียงพลังงานสะอาด และเหมาะกับซิสเต็มเครื่องเสียงนั้น มีหลายเหตุผลด้วยกัน

เหตุผลแรกก็คือ ปัญหาการรบกวนทางระบบ ไฟฟ้าต่างๆ การรบกวนทางระบบกราวด์และปัญหา เรื่องคุณภาพทางไฟฟ้าที่เราเรียกว่า Power Quality นั้น หลักการของ StromTank ในโหมด Off Grid สามารถ ขจัดปัญหาทุกอย่างได้ 100% ในขณะที่เครื่องกรองไฟ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ไม่สามารถแก้ไขและขจัดปัญหา ในเรื่องนี้ได้เลย

Isolation Transformer หลักการคือ แยกกราวด์ ออกจากระบบแก้ไขการรบกวนทางระบบกราวด์ และป้องกันการรบกวนทางไฟฟ้าที่ไหลผ่าน L กับ N ได้บางส่วน เมื่อเจอปัญหาดีซีปนมากับระบบไฟฟ้าอาจ จะทำให้ตัวหม้อแปลงสั่น และตัว Isolation Trans­former ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพทาง ไฟฟ้า จึงส่งผลให้หม้อแปลงสั่นได้ เช่น จุดหนึ่งที่ ทดสอบว่า Isolation Transformer ดีหรือไม่ดี แยกปัญหาทางกราวด์ได้ดีขนาดไหน ก็ให้วัดแรงดัน ขาออกจากตัว Isolation Transformer ระหว่าง N กับ G ให้ค่าต่ำกว่า 0.02V หรือเปล่า แต่อย่าลืมว่า Isolation Transformer ไม่ได้รักษาเสถียรภาพแรงดัน ทางไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าขาเข้ามีค่าเท่าไหร่ แรงดันไฟฟ้า ขาออกก็ให้ค่าออกมาเท่าๆ กัน

เครื่องกรองสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า จุด ประสงค์ก็เพื่อกรองสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าที่แฝงเข้า มาทางระบบไฟฟ้าต่างๆ หากไม่มีวงจรดีซีบล็อกกิ้งก็จะ ทำให้เกิดการสั่นในตัวได้เช่นกัน และไม่สามารถรักษา เสถียรภาพทางแรงดันไฟฟ้าได้ ซึ่งก็ยังส่งผลต่อ ชุดเครื่องเสียงในกรณีที่บ้างพื้นที่ที่มีแรงดันไฟฟ้าเกิน กว่า 230V หากซิสเต็มเครื่องเสียงออกแบบมาใช้งานที่ แรงดัน 220V ก็ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง หากเป็นพวก แอมป์หลอดก็เสื่อมเร็วขึ้น

เครื่องกรองสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าไม่ได้ ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพทางไฟฟ้าปั ญหาเรื่ องนี้ยั งคงส่ งผลไปยังเครื่องเสียงปลายทางอยู่ดี ทุกวันนี้เครื่องกรองสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าบางยี่ห้อ เสริมการป้องกันอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติมไปด้วย เช่น การป้องกันกระแสดีซีเพิ่มเข้าไป หรือฟังก์ชั่นอื่นๆ อีก แต่เรื่องความสงัดของเสียงไม่ได้มาจากการกรอง สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าอย่างเดียว ยังขึ้นกับว่าแรงดัน ไฟฟ้าระหว่าง N กับ G มีค่าต่ำกว่า 0.02V หรือไม่ หากไม่ได้ ถือว่าความสงัดของเสียงนั้นยังไม่ได้ ที่ผมเคย เจอก็คือ ก่อนวัดค่าใช้งาน แรงดันไฟฟ้าระหว่าง N กับ G มีค่า 0.019V แต่เมื่อเปิดเครื่องเสียงนั่งฟังเพลง วัดค่าระหว่าง N กับ G จากเต้ารับไฟฟ้าบนเครื่องกรอง สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า ปรากฏว่าค่าแรงดันระหว่าง N กับ G พบว่ามีค่าสูงขึ้น 0.59V ขณะเดียวกันเมื่อสลับ เปลี่ยนไปใช้เต้ารับไฟฟ้าของบ้านตรงๆ ก่อนใช้งานวัด แรงดันไฟฟ้าระหว่าง 0.021V เมื่อใช้งานเปิดเครื่องเสียง ทั้งหมด วัดค่าแรงดันไฟฟ้าระหว่าง N กับ G ได้ 0.024V เพิ่มขึ้น แต่ในเรื่องความสงัดของเสียง ในกรณีนี้ต่อจาก เต้ารับไฟฟ้าของบ้านให้เสียงสงัดมากกว่า

การเดินระบบไฟฟ้าใหม่ โดยเฉพาะสำหรับซิสเต็ม เครื่องเสียงนั้นช่วยในเรื่องทางเดินของกระแสไฟฟ้า เดินได้ดีมากขึ้น เนื่องจากไม่ได้พ่วงกับระบบของบ้าน แต่การเดินระบบไฟฟ้าใหม่ไม่ได้แก้ไขเรื่องสัญญาณ รบกวนทางไฟฟ้า การเดินกราวด์ใหม่ทุกบ้านที่ผมได้มี โอกาสเข้าไปตรวจสอบ มักลงทุนในเรื่องกราวด์เยอะ ผมไม่เถียงครับ ระบบกราวด์ที่ดีย่อมให้ผลลัพธ์ที่ออกมา ดีกว่า แต่ความหมายของระบบกราวด์ที่ดี ไม่ใช่การ วัดค่าความต้านทานของดินแล้วได้ค่าออกมาเทียบ เท่ากับกว่า 0 หรือต่ำกว่า 2 โอห์ม แล้วจบแค่นั้น ควรจะวัดแรงดันไฟฟ้าของเต้ารับไฟฟ้าในห้องดูหนัง ฟังเพลง เมื่อวัดแรงดันไฟฟ้าระหว่าง N กับ G ว่าได้ ต ่ำกว่า 0.02V หรือเปล่า และเมื่อเปิดซิสเต็มเครื่องเสียง ฟังเพลงก็ลองวัดอีกครั้งว่ายังรักษาได้ต่ำกว่า 0.02V เช่นเดิมหรือไม่ หรือมีค่ามากกว่านั้น

จะเห็นว่าอุปกรณ์ต่างๆ หรือวิธีต่างๆ ไม่สามารถ แก้ไขเรื่องคุณภาพทางไฟฟ้าได้เลย แต่สำหรับ Strom­Tank S5000/S2500 สามารถแก้ไขทุกอย่างได้ และยัง สามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพทางไฟฟ้าได้ดีอีกด้วย

นักเล่นหลายท่านมักต่อต้านการใช้พลังงานจาก แบตเตอรี่อย่าง StromTank ด้วยเหตุผลว่า บรรยากาศ และความน่าฟังหายไป สู้ฟังแบบเดิมๆ ไม่ได้ ทำให้ การฟังเพลงน่าฟังมากกว่า

มว่เป็นอย่งนั้นจริงๆ เหรอ?

อย่างแรกก่อนเลย ไฟเลี้ยงวงจรในอุปกรณ์ เครื่องเสียงก็เป็นแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่แรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ แต่ทำไม? พลังพอสะอาด กลับต่อต้าน เพราะคิดว่ามันสะอาดเกินไปอย่างนั้นเหรอเพราะท้ายที่สุดแล้ว แรงดันไฟฟ้าปลายทางคือแรงดันไฟกระแสตรง และ StromTank ก็คืออุปกรณ์ที่ทำให้การแปลงแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงที่ใช้เลี้ยงวงจรนั้นถูกต้องสมบูรณ์มากที่สุด

เพราะระบบไฟเปรียบเสมือนหัวใจของซิสเต็ม เราไม่ลงทุนที่หัวใจที่ระบบไฟฟ้าที่ดี แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเสียงจะดีกว่า

ปัญหาเรื่องคุณภาพทางไฟฟ้า ผมเชื่อว่า ในวงการเครื่องเสียงยังไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องนี้ หรือแม้แต่ผู้รับเหมาที่รับเหมาเดินติดตั้งระบบไฟฟ้าสำหรับซิสเต็มเครื่องเสียงก็ตาม แต่จริงๆ แล้วผลกระทบมีอยู่มากมาย เรื่องคุณภาพทางไฟฟ้าคือเหตุผลหลักที่ตั้งแต่มี ProPower เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ผมเลยแนะนำแต่ ProPower ทุกครั้ง เมื่อมีนักเล่นมาถามเรื่องเครื่องกรองไฟฟ้า ผมไม่ได้ตอบเพราะเชียร์สินค้า แต่ตอบในสถานะวิศวกรไฟฟ้าที่เคยได้รับการอบรมและศึกษาเรื่องปัญหาคุณภาพทางไฟฟ้ามาก่อน

ปัญหาเรื่องคุณภาพทางไฟฟ้าส่งผลลัพธ์แก่เสียงหลายอย่างมากทีเดียว อย่างแรกก็คือ การรบกวนทางระบบกราวด์ การเดินระบบไฟฟ้าใหม่ไม่ได้ช่วยเรื่องปัญหาคุณภาพทางไฟฟ้าเลย เพราะเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นและมาทางระบบสายส่งของระบบไฟฟ้าอยู่แล้ว ทุกบ้านมีปัญหาเรื่องนี้หมดจะมากจะน้อยก็ขึ้นกับแต่ละบ้านว่าจะส่งปัญหาเรื่องนี้ย้อนปนไปกับสายส่งทางไฟฟ้ามากขนาดไหน และอุปกรณ์ภายในบ้านจะสร้างเพิ่มเข้ามาอีกหรือเปล่า ระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟสก็เจอแบบหนึ่ง ระบบไฟฟ้า 3 เฟสก็เจออีกแบบหนึ่ง

ปัญหาเรื่องคุณภาพทางไฟฟ้า เมื่อเกิดขึ้นก็จะทำให้คาปาซิเตอร์ในภาคจ่ายไฟเสื่อมเร็วขึ้น อายุการใช้งานสั้นลง อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดการผิดเพี้ยนของรูปคลื่นแรงดัน ส่งผลให้ในภาคจ่ายไฟของเครื่องเสียง เมื่อแปลงเป็นแรงดันไฟกระแสตรง จะได้แรงดันดีซีที่ต่ำกว่าที่ได้ออกแบบเอาไว้ ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผลในเรื่องของ Skin Effect ทำให้กระแสไหลไม่เต็มตัวนำทองแดงในสายไฟที่ใช้งาน เรี่ยวแรงพละกำลังจากแอมป์จึงทำงานได้อย่างไม่เต็มที่

เซ็ตอัพและคุณภพเสียง

อย่างที่เกริ่นไปครับ สำหรับ StromTank ผมจะพูดถึงเสียงและการติดตั้งซิสเต็มใหญ่ๆ ที่ได้ใช้งาน StromTank S5000 ถึง 2 ซิสเต็ม และ StromTank S2500 ทั้งที่ลองเข้าไปฟังในโชว์รูม บริษัท วันพัฒน์ 59 จำกัด และในงาน BAV HI-END SHOW 2018 ที่ผ่านมา และการได้ยกไปลองกับซิสเต็มไฮเอนด์อีก 1 ห้องด้วยเช่นกัน ทุกแบบที่ได้ใช้งานนั้นเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ใช้สายไฟก้องกิจกรเสียบต่อที่ StromTank ทั้งหมด จะแตกต่างกันตรงที่บางซิสเต็มใช้สายไฟก้องกิจกรทั้งซิสเต็ม และบางซิสเต็มใช้งานบางส่วน และที่โชว์ในงาน BAV HI-END SHOW 2018 ที่ผ่านมาก็ใช้สายไฟก้องกิจกรทั้งหมด ซึ่งคุณภาพเสียงก็จะพูดถึงในโหมด Off Grid อย่างเดียวเท่านั้น

ในซิสเต็มแรกนั้น ก่อนหน้านี้ระบบไฟฟ้ามีปัญหา จึงมีการว่าจ้างไปตรวจสอบระบบไฟฟ้าเบื้องต้นก่อน เพื่อจะนำข้อมูลไปคุยกับการไฟฟ้านครหลวง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขระบบไฟฟ้า โดยทิ้งเครื่องมือวัดเป็นระยะเวลา 1 เดือน จึงพบปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งแรงดันไฟฟ้าอยู่แถว 240V เป็นส่วนใหญ่ ถึงต่ำลงมาก็ไม่มาก และแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ สิ่งที่พบนอกเหนือจากนั้นก็คือ ปัญหาคุณภาพทางระบบไฟฟ้าทั้ง THD V, THD I ที่มีค่าสูงกว่ามาตรฐาน จึงแนะนำว่า StromTank S5000 นี่แหละ เหมาะสมมากที่สุดแล้ว

ซิสเต็มแรกนี้ใช้เครื่องเสียงของ Burmester ทั้งเครื่องเล่นซีดี ปรีแอมป์ และเพาเวอร์แอมป์ ลำโพงใช้ของ Gauder Akustik: Berlina RC-11 ส่วนสายไฟเอซีได้เปลี่ยนมาใช้สายไฟเอซีก้องกิจกรทั้งหมด ซิสเต็มนี้ ก่อนหน้านี้มีเครื่องกรองสัญญาณรบกวนจากประเทศอังกฤษต่อใช้งานอยู่

หลังจากที่ได้ติดตั้ง StromTank S5000 เข้าไปใช้งานกับทั้งซิสเต็ม ความประทับใจแรกก็คือ รายละเอียดของเสียงที่ได้ยินออกมาค่อนข้างเยอะมากในทุกชิ้นดนตรี ถามว่าก่อนหน้าไม่มีเหรอ ก็มี แต่ไม่ได้ชัดเจนเป็นตัวเป็นตนแบบนี้ ซิสเต็มนี้ ผมได้ลองเข้ามาฟังก่อน 1 ครั้ง ก่อนที่จะส่งติดตั้ง StromTank S5000 เพื่อเปรียบเทียบเสียงก่อนและหลังติดตั้ง StromTank S5000 เพื่อจะจับความแตกต่างของเสียง ว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ผมเลยกล้าบอกว่า ซิสเต็มไฮเอนด์นี้ ก่อนและหลังติดตั้งใช้งาน StromTank S5000 เสียงแตกต่างกันจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว

ก่อนหน้านี้ เสียงติดบาง แห้ง ขาดน้ำหนักและประกายเสียง บางครั้งฟังแล้วเครียดๆ และอึดอัดสักหน่อย สิ่งเหล่านี้ผมก็ได้บอกกับเจ้าของซิสเต็มตรงๆ แบบนี้เช่นกัน ในความรู้สึกของผม ซิสเต็มระดับนี้ควรมีอะไรมากกว่านี้ ซึ่งผลจากการวัดคุณภาพทางไฟฟ้าของบ้านนี้ ผมจึงทราบปัญหาที่มาที่ไปที่ส่งผลต่อคุณภาพเสียงอยู่บ้าง

รายละเอียดของเสียงนั้นมาทุกระดับความดังเลย ไม่ใช่เปิดเบาแล้วไม่ได้ยิน เปิดดังแล้วได้ยินมากยิ่งขึ้น ผมเองก็พูดเสมอว่า การทดสอบว่าเครื่องกรองสัญญาณ รบกวนมีผลต่อเสียงในทางที่ดีหรือไม่ ให้ดูเรื่อง รายละเอียดของเสียงในทุกย่านความถี่เสียงเพิ่มขึ้น หรือเปล่า เปิดดังเปิดเบาได้ยินครบเหมือนเดิม หรือเปล่า ความสงัดของเสียง ความโปร่งกังวานและ ประกายเสียงสดใสขึ้นหรือเปล่า และน้ำหนักของเสียง เป็นอย่างไร เรื่องพวกนี้คือดัชนี้ที่ใช้ชี้วัดคุณภาพ ของเครื่องกรองไฟทั้งหมด

ในแง่ของความสงัดของเสียง เท่าที่ทดสอบและ ฟังมาตลอดหลายปีนี้ StromTank ให้ความสงัดของ เสียงที่ดีมากๆ เสียงเงียบ ปราศจากการรบกวนต่างๆ โดยสิ้นเชิง เสียงสะอาดขึ้นอย่างที่รู้สึกได้ชัดเจน มีนักเล่นบ้างท่านเคยติ และบอกผมว่า เสียงสะอาด เกินไป จึงออกจะขัดแย้งกับความนึกคิดของผม

อย่างแรกก็คือ ความสะอาดของเสียง แทบไม่มี โอกาสเลยที่เสียงสะอาดเกินซอฟต์แวร์ที่บันทึกเสียงมา ถ้าเสียงบันทึกมาไม่ใช่ มันก็ไม่สามารถแต่งเติมให้ แตกต่างจากซอฟต์แวร์ได้ อย่างที่สองก็คือ ในห้อง บันทึกเสียงหลายๆ ห้องมีการซับเสียงค่อนข้างมาก เพื่อลดการสะท้อนของห้องบันทึกเสียง และไมค์ที่จ่อ แบบ Direct Sound มากกว่า ส่วนใหญ่มุมเสียงใน การรับเสียงของไมค์ในสตูดิโอไม่ได้เป็นไมค์รอบทิศทาง แน่ๆ การที่เสียงสะอาดขึ้น ชัดขึ้น ได้ยินแอมเบี้ยนต์จาก เสียงดนตรีมากขึ้น นั่นก็คือสิ่งที่ถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอ หรือเป็นเพราะที่ผ่านมา เราไม่เคยได้ยินความสงัดของ เสียงแบบนี้มาก่อน ชอบเสียงที่มี Noise Floor เยอะๆ เลยบอกว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้องและควรจะเป็นหรือเปล่า

หากเป็นแผ่นบางแผ่น อย่างเช่น แผ่นซีดีของ Tuxedo Cowboy – Woman Of The Heart สังกัด ค่าย Audioquest เมื่อก่อนความสะอาดของเสียง ก็ไม่ได้สะอาดเหมือนแผ่นก่อนหน้านี้ สัญญาณรบกวน ต่างๆ พวก Noise Floor ยังได้ยินอยู่ เพราะแผ่นนี้ บันทึกเสียงโดยใช้ไมโครโฟนแค่ 2 ตัววางด้านหน้า และ บันทึกเสียงสดๆ ไม่มีการ Edit เสียงซ้ำแต่อย่างไรStromTank ทำให้ได้ยินเสียงเสมือนว่ากำลังนั่งฟัง ในสตูดิโอบันทึกเสียงจริงๆ เสียงร้องมีรายละเอียดและ ฉ่ำมากยิ่งขึ้นอย่างน่าแปลกใจทีเดียว อย่าลืมว่า ไมโครโฟนจะบันทึกเสียงทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา แต่ความ สะอาดของระบบไฟฟ้าก็เป็นตัวทำให้ได้ยินในทุกเสียง ที่ไมค์จับมาในการเล่นครับ บางครั้งสัญญาณเสียงที่เข้า มาอยู่ต่ำกว่าสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า เมื่อสัญญาณ รบกวนทางไฟฟ้าต่างๆ หายไป รายละเอียดของเสียง ต่างๆ จึงผุดขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจมากทีเดียว

เมื่อเปลี่ยนไปฟังเพลงแนวแจ๊สบ้าง แอมเบี้ยนต์ ของพวกเครื่องเป่า หลังจากใช้งานตัว StromTank ให้แอมเบี้ยนต์ของเครื่องเป่าออกมาดีกว่าเดิมมากๆ Texture เนื้อเสียงต่างๆ ก็ดีขึ้นมาอย่างชัดเจน ทำให้ รู้สึกถึงตัวตนของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดได้ชัดเจน ปลายเสียงก้องใสกังวาน ไม่ทึบทึม และไม่รู้สึกอึดอัดแต่ อย่างไร ความต่อเนื่องของเสี ยงได้ยินยิ่ งขึ้น รอยต่อของ เสียงให้ความต่อเนื่องของแต่ละโน้ตดีขึ้นอย่างมาก ฮาร์มอนิกของเสียงทอดตัวยาวขึ้น ไม่ได้ห้วนหรือหุบเร็ว ขึ้นแต่อย่างไร

ความแตกต่างที่ได้ยินอย่างชัดเจนระหว่างก่อนใช้ กับหลังใช้งาน StromTank ก็คือ จังหวะหยุดของแต่ละ โน้ตชัดเจน สังเกตจากเสียงเบส เสียงกลอง เสียงกีต้าร์ เสียงเชลโล เสียงดับเบิลเบส มีจังหวะของโน้ต ชัดเจนมากๆ ไม่ได้ฟังติดกันเป็นพืดจนจับจังหวะหยุด และรายละเอียดของเสียงได้ไม่ชัดเจนเลย

เวทีเสียง อิมเมจ และโฟกัสนั้น จับต้องได้มาก ยิ่งขึ้น ยิ่งพละกำลังของความถี่ต่ำเนื้อเสียงแรงปะทะดี ขึ้นมามากๆ จนผมกล้าพูดได้เลย ถึงจะเปลี่ยนเพาเวอร์ แอมป์ใหม่ที่กำลังขับสูงขึ้น คุณภาพดีขึ้น แต่คุณภาพ เสียงก็ไม่สามารถให้ได้อย่าง StromTank ได้ เพราะ StromTank จัดการเรื่องคุณภาพไฟฟ้าเพื่อให้ เสียงที่สมกับเป็นซิสเต็มไฮเอนด์อย่างแท้จริง ไม่ได้เป็น ซิสเต็มแค่ชื่อและราคา แต่คุณภาพเสียงจริงๆ ยังไม่ใช่

มาถึงซิสเต็มที่สอง ณ ห้องนี้ใช้ปรีแอมป์และ เพาเวอร์แอมป์ของ Aavik Acoustic, ซอร์สต้นทางของ Esoteric ทั้งชุด แยก DAC และ Clock ออกมาต่างหาก สลับเล่นกับเครื่องเล่นซีดีของ Luxman ลำโพง Raidho ตั้งพื้นตัวท็อป ซิสเต็มในห้องนี้ก็เช่นกันคือ ผมจะฟังก่อนใช้งานและหลังใช้งานเสมอ เพื่อเปรียบเทียบและจับถึงความแตกต่าง

สภาพเดิมของห้องนี้มีอุปกรณ์เสริมหลายอย่าง ทั้งเครื่องกรองไฟ ระบบกราวด์เทียม และเปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้าติดตั้งตู้เมนไฟใหม่สำหรับซิสเต็มเครื่องเสียงโดยเฉพาะ ลองวัดค่าแรงดันไฟฟ้าระหว่าง N กับ G ผมวัดค่าได้ 0.019V แต่เมื่อเปิดฟังเพลง วัดค่าแรงดันไฟฟ้าระหว่าง N กับ G ใหม่อีกครั้ง วัดได้ 0.54V ก็เลยต้องเอาอุปกรณ์เสริมออกไปทั้งหมด

ความจริงอย่างหนึ่งที่อยากจะบอกนักเล่นทั้งหลาย ระบบไฟฟ้าบ้านเราคือระบบ TN-C-S นั้น เหมาะกับการฟังเพลงมากที่สุด และฟังเพลงได้เพราะกว่าระบบอื่นๆ ทั้งหมด เพราะเราอ้างอิง N กับ G ทำให้สามารถเล่นเรื่องเฟสอ้างอิงทางไฟฟ้าและเฟสอ้างอิงของสัญญาณได้ดีกว่า หากทำระบบกราวด์ดีๆ การใช้กราวด์เทียมเพิ่มเข้ามาในบางห้องบางซิสเต็มกลับเพิ่มแรงดันระหว่าง N กับ G ให้มากยิ่งขึ้นก็เป็นก็ได้ คือให้ผลเสียมากกว่าผลดี ควรวัดแรงดันไฟฟ้าระหว่าง N กับ G เสียก่อน

เมื่อรื้อทุกอย่างออก คงเหลือแต่เครื่องกรองไฟของ Aavik Acoustic ไว้เช่นเดิม มาใช้ระบบไฟฟ้าผ่านตัว StromTank และเปลี่ยนสายไฟเอซีก้องกิจกรลงเสริมในซิสเต็มบางส่วน เสียงก็แตกต่างจากเดิมอย่างรู้สึกได้เช่นกัน

อย่างแรกคือ… รายละเอียด ไดนามิกเรนจ์ของเสียงดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ เมื่อระบบไฟฟ้าดีขึ้น เสียงทุกอย่างดีขึ้นอย่างมาก สิ่งที่ทำต่อเนื่องกันไปก่อนที่จะประเมินคุณภาพเสียงก็คือ ขยับตำแหน่งที่ตั้งลำโพงใหม่ เรื่องนี้ผมก็ย้ำเสมอ ทุกครั้งที่เปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้า เปลี่ยนสายไฟเอซี ตำแหน่งลำโพงต้องมีการขยับหาตำแหน่งใหม่ เพราะลำโพงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่ง การเปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้าใหม่ แต่ไม่ยอมขยับหาตำแหน่งลำโพงใหม่ เหมือนการขุดหลุมฝังอุปกรณ์ดีๆ ทิ้ง ทิ้งโอกาสสัมผัสคุณภาพเสียงที่แท้จริงที่ควรได้ยินไป

หลังจากเปลี่ยนแปลงขยับลำโพงใหม่แล้ว StromTank ให้ในเรื่องความฉ่ำของเสียง ไดนามิก รายละเอียดของเสียง ดีขึ้นอย่างมาก เสียงโปร่ง โล่งขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ได้รู้สึกอึดอัด หรือรู้สึกว่าเสียงแห้งและให้เนื้อเสียงที่บางเลย เวทีเสียงขยายออกไปได้มากยิ่งขึ้น ทั้งด้านกว้างและด้านลึก เสียงร้องให้รายละเอียดของเสียงเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ยิ่งเปิดเพลงคลาสสิก การแยกแยะเสียงต่างๆ ก็ให้ออกมาจะแจ้งมากยิ่งขึ้น ไม่ได้รู้สึกตำแหน่งที่มั่วหรือรวนๆ แต่อย่างไร ก่อนหน้านี้เวลาที่ดนตรีโหมขึ้นมารู้สึกถึงเสียงที่ยังรวนๆ จับรายละเอียดต่างๆ ได้ไม่ชัด แต่พอใช้ StromTank สามารถเข้าถึงอรรถรสในเสียงดนตรีได้มากยิ่งขึ้น มีความสมจริงสมจังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรี่ยวแรง พละกำลัง และแรงปะทะ ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกับเปลี่ยนซิสเต็มใหม่

StromTank คืออุปกรณ์ที่ซิสเต็มไฮเอนด์ทุกห้องควรมี

หลายซิสเต็มที่ได้สัมผัสมา ผมกล้าบอกได้เลยว่า StromTank ช่วยให้เข้าถึงคุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์จากซิสเต็มไฮเอนด์อย่างแท้จริง ไม่งั้นความเป็นไฮเอนด์ก็ยังติดอยู่แค่ชื่อและราคา แต่คุณภาพที่แท้จริงนั้นยังไม่ได้ยังไม่ถึง

เท่าที่เจอ ซิสเต็มไฮเอนด์หลายห้อง นักเล่นหลายท่านมักมองว่าไม่จำเป็น เพราะลงทุนเรื่องภาคจ่ายไฟไปเยอะ แต่นั่นหมายถึงความรู้สึกมากกว่าความเป็นจริง เพราะทุกห้องไม่เคยวัดค่าแรงดันไฟฟ้าระหว่าง N กับ G และไม่เคยวัดเรื่องคุณภาพทางไฟฟ้าเลย บางห้องเช่นกัน ถึงแม้ว่าจัดการทุกอย่างดีแล้ว แต่เมื่อได้นำตัว StromTank ไปใช้ ความสงัด รายละเอียด เนื้อเสียง น้ำหนักนั้น สู้ใช้งานผ่าน StromTank ไม่ได้เลย

การเปิดใจและยอมรับในเรื่องราคา น่าจะเป็นอีกใหญ่เรื่องหนึ่งของ StromTank ในงบประมาณ 758,000 บาท สำหรับรุ่นเล็ก S2500 และรุ่นใหญ่ราคา 1,250,000 บาท สำหรับรุ่น S5000 หลายคนอาจมองว่าไปซื้อเพาเวอร์แอมป์ดีกว่ามั้ง แต่อย่าลืมนะครับ ไม่มีเพาเวอร์แอมป์ในระดับราคาไหนจะให้เสียงได้เหมือนใช้ StromTank เพราะระบบไฟเปรียบเสมือนหัวใจของซิสเต็ม ทำนองหัวใจไม่ดี ร่างกายก็ไม่ดี เราไม่ลงทุนที่หัวใจที่ระบบไฟฟ้าที่ดี แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเสียงจะดีกว่า และบางครั้งในซิสเต็มไฮเอนด์ ลองเอาราคาเครื่องกรองไฟและราคาสายไฟเอซีทุกเส้นมารวมกัน เผลอๆ ราคาแพงกว่า StromTank S2500 หรือ S5000 เสียอีกนะครับ. ADP

นิตยสารAudiophile Videophile ฉบับที่ 255